ตอนที่ 753 ไป๋อวี๋เชยมาก!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“ฉันไม่ใช่เด็กนะคะ คุณจำเป็นต้องมาเป็นห่วงเรื่องนี้ด้วยเหรอ” ถังหนิงตบเบาๆ ที่หลังมือของโม่ถิงและยิ้ม “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ทุกอย่างจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบ”

 

 

“หลังจากถูกบดบังมานาน… ถึงเวลาที่ถังหนิงของผมจะเฉิดฉายแล้วนะครับ” โม่ถิงพูดราวกับตัวเองเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของถังหนิง “ถึงงานวันพรุ่งนี้จะไม่ได้สำคัญอะไร แต่ก็จะเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าสาธารณะของคุณหลังจากคลอดลูก แถมยังเป็นโอกาสเหมาะที่จะพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างด้วย…”

 

 

เป็นโอกาสเหมาะที่จะพิสูจน์ว่าไป๋อวี๋โง่เง่า

 

 

“ฉันเข้าใจค่ะ” ถังหนิงพยักหน้า

 

 

“อีกอย่าง คุณจะต้องไปวัดตัวในอีกสองวันข้างหน้า ตอนนี้ในหัวผมมีแต่ภาพว่าคุณในชุดย้อนยุคออกจะมาเป็นแบบไหน” โม่ถิงกล่าวพลางมองเงาสะท้อนของถังหนิงในกระจก “คุณจะต้องดูสมบูรณ์แบบแน่นอนครับ”

 

 

ในความเป็นจริง ถังหนิงเองก็กำลังจินตนาการว่าโม่ถิงจะดูดีแค่ไหนเมื่ออยู่ในชุดองค์จักรพรรดิ ทุกคนจะต้องทึ่งอย่างแน่นอน

 

 

โม่ถิงมองตาของถังหนิงผ่านเงาสะท้อนในกระจก หัวใจของทั้งสองเชื่อมโยงกัน ดังนั้นทั้งคู่จึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่โม่ถิงไม่ปล่อยให้อีกรู้ว่าเขารู้ เขาเพียงแค่จูบลงบนหลังคอหญิงสาวและก้าวถอยออกมา เขากลัวว่าหากเขายังยืนอยู่ตรงนั้นต่อ เขาและถังหนิงจะตกอยู่ในความปรารถนาและฉากรักจะเริ่มขึ้น

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน หลังไป๋อวี๋ก็ได้ดูโฆษณาของถังหนิง เธอนอนไม่หลับทั้งคือน จึงลุกจากเตียงมาโทรหาเพื่อนในวงการหลายคนของเธอ

 

 

“ถ้าได้จู่โจมแล้วละก็ ถังหนิงจะไม่มีวันแสดงความปรานีต่อศัตรูเลย…”

 

 

“ไป๋อวี๋ เธอไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับถังหนิงได้ยังไง ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ นะ แถมยังส่งศัตรูสองคนเข้าคุกมาแล้วด้วย”

 

 

“ถังหนิงมีโม่ถิงคอยหนุนหลัง เธอจะแข่งกับผู้หญิงคนนั้นไปทำไมกัน”

 

 

ไป๋อวี๋ต้องการได้ยินมุมมองที่แตกต่างออกไป แต่ทุกคนกลับหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับถังหนิง ทันทีที่เธอพูดถึงชื่อถังหนิง อีกคนกลับมีแต่จะจบบทสนทนาทันที

 

 

“ไป๋อวี๋ เธอควรจะทุ่มสุดตัวกับบทในเรื่อง ‘ชายาหนิง’ แล้วเลิกแข่งกับถังหนิงได้แล้ว ถังหนิงดูอ่อนแอแค่ภายนอกเท่านั้นนะ”

 

 

ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่พูดแบบนี้ก่อนที่พาดหัวข่าวจะออกมาว่าเธอถูกถังหนิงบดขยี้และเขี่ยจนตกกระป๋องล่ะ

 

 

พอถังหนิงกลับคืนวงการแล้วถึงค่อยมาพูดเกลี้ยกล่อมเธอแบบนี้

 

 

แต่ไป๋อวี๋มองว่ามันเป็นเพียงการปะทะกันครั้งแรกระหว่างเธอกับถังหนิงเท่านั้น เธอไม่อาจปล่อยให้ตัวเองถูกปั่นหัวได้ เพราะถึงอย่างไรเธอก็อยู่ในฮอลลีวูดมานานหลายปี จะมีคนที่เธอที่ไม่อาจต่อกรด้วยอยู่จริงหรือ

 

 

คิดได้ดังนี้ ไป๋อวี๋ก็กลับไปยังห้องนอนของเธอ เมื่อเห็นสามีของตัวเองกำลังนั่งพิงหัวเตียงรอเธออยู่ ไป๋อวี๋จึงถอนหายใจออกมา อย่างน้อยก็ยังมีคนให้พึ่งพาได้ นั่นคือสามีที่อยู่ในโอวาทของเธอ…

 

 

 

 

นี่เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าสาธารณะของถังหนิงนับตั้งแต่คลอดลูก ดังนั้นความสามารถในการดึงดูดความสนใจของสื่อของถังหนิงจึงไม่อาจดูถูกได้ เพราะไป๋อวี๋ทำให้สื่อคิดว่าเธอโดดเด่นกว่าถังหนิงในหลายแง่มุม รวมถึงเรื่องรูปร่างและอีคิว และดูเหมือนถังหนิงจะไม่อาจโต้แย้งอะไรได้แม้แต่คำเดียว กระนั้นถังหนิงกลับพลันปรากฏตัวในฐานะพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ชื่อดัง ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมากลายเป็นการตบหน้าตัวเองของไป๋อวี๋

 

 

แต่แม้ถังหนิงจะแสดงความสามารถและรูปร่างของเธอออกมาได้อย่างง่ายดายผ่านคลิปโฆษณายาวสามสิบวินาทีนั้น แล้วเรื่องอีคิวล่ะ

 

 

ระหว่างช่วงเวลาที่ถังหนิงถูกไป๋อวี๋บดบัง สื่อไม่มีทางรู้ได้เลยว่าถังหนิงรู้สึกอย่างไรเพราะพวกเขาไม่มีโอกาสได้เจอเธอ ดังนั้นตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสนั้นแล้ว พวกเขาจะต้องถามความรู้สึกและความคิดของถังหนิงอย่างแน่นอน

 

 

ว่าแต่ความคิดอะไรกันล่ะ

 

 

ถังหนิงไม่เคยต้องคิดอะไร เธอเพียงแค่ลงมือทำเลยเท่านั้น

 

 

เวลาหนึ่งทุ่มตรง

 

 

ผู้มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นมากมายมาร่วมงานแถลงข่าวสำหรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์เครื่องสำอางหรูชื่อดัง แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของถังหนิงทำให้เธอถูกจัดให้เข้าร่วมงานเป็นคนสุดท้าย

 

 

สื่อต่างๆ ยืนรออยู่ที่สองข้างของพรมแดงที่คลาคล่ำไปด้วยดารา เป็นเวลานานมากแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็นถังหนิง ดังนั้นทุกคนจึงสงสัยมากว่าเธอจะมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับที่ปรากฏในโฆษณาหรือไม่

 

 

ช่วงเวลาบนพรมแดงยาวนานหนึ่งชั่วโมง แม้สื่อจะรู้ว่าถังหนิงจะมาถึงงานเป็นคนสุดท้าย แต่ความคาดหวังของทุกคนก็มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างพากันมองไปที่หน้าทางเข้าด้วยความกระวนกระวายเป็นระยะ

 

 

“คืนนี้ร้านขายยาจะต้องคนเยอะแน่ๆ ผมเห็นว่าทุกคนชะเง้อกันจนคอเคล็ดไปหมดแล้ว! ฮ่าๆๆ ผมบอกได้เลยว่าทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของถังหนิงในคืนนี้” พิธีกรของงานกล่าวหยอกล้อด้วยรอยยิ้ม ใครกันที่บอกว่าถังหนิงล้าสมัย พิธีกรคิดเช่นนั้น ดูความระดับความคาดหวังของทุกคนก็เห็นได้ชัดว่าถังหนิงยังคงเป็นถังหนิงอยู่วันยังค่ำ

 

 

“เอาละครับ เวลาบนพรมแดงของเราเหลืออีกไม่มากแล้ว ผมมั่นใจว่าทุกคนคงใกล้หมดความอดทนเต็มที ดังนั้นต่อจากนี้ ได้โปรดให้การต้อนรับถังหนิงของเราด้วยครับ!”

 

 

ทันทีที่พิธีกรเอ่ยถึงถังหนิง…

 

 

…ทั้งสองฟากฝั่งพรมแดงก็ต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น…

 

 

เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงกดชัตเตอร์กล้องดังระงมไปทั่ว…

 

 

ชั่ววินาทีต่อมา ถังหนิงก็ปรากฏตัวบนพรมแดงในชุดราตรียาวสง่าสีฟ้าครามราวสายน้ำไหล การแต่งหน้าอ่อนๆ พร้อมกับทรงผมลอนยาวประบ่าทำให้เธอดูนุ่มนวลและอ่อนโยนมาก ที่สำคัญที่สุด แววตาของเธอดูมีสดใสและมีชีวิตชีวา ก่อนหน้านี้ตอนที่ไป๋อวี๋เดินผ่านหน้ากล้องด้วยตัวเธอเอง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยนเทียบผู้หญิงทั้งสอง แต่บัดนี้ เพียงแค่มองถังหนิงครั้งเดียว ทุกคนต่างคิดเหมือนกันว่า ไป๋อวี๋เชยมาก!

 

 

“พระเจ้า ถังหนิงมาแล้ว!”

 

 

“ถังหนิง มองทางนี้หน่อยครับ…”

 

 

“ถังหนิง”

 

 

สื่อต่างพากันเบียดเข้าไปบนพรมแดงราวกับเสียสติ จนทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาผลักพวกเขากลับไปเข้าที่

 

 

ขณะเดียวกัน ถังหนิงยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลาขณะเดินขึ้นไปหาพิธีกร หลังจากโค้งคำนับทุกคน เธอหันกลับไปมองพิธีกรคนนั้น เธอรู้ดีว่าพิธีกรเองก็มีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ

 

 

“ถังหนิงครับ หลังจากการเฝ้ารอการปรากฏตัวของคุณมาแสนนาน ในที่สุดคุณก็มาอยู่ที่นี่แล้ว!”

 

 

“ทุกคนเหนื่อยกันมากนะคะ” ถังหนิงตอบได้อย่างเหมาะสมพลางถือไมโครโฟนไว้ในมือ

 

 

“คุณเองก็ทำงานหนักมากเช่นกันนะครับ โฆษณาของคุณได้ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ แม้แต่ลูกสาวของผมยังดูซ้ำไปซ้ำมาเป็นสิบรอบอยู่ที่บ้านเลยครับ ผมประหลาดใจจริง อีกอย่างผมคิดว่าคุณรักษารูปร่างได้ดูดีมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก ความลับของคุณคืออะไรงั้นเหรอครับ” พิธีกรเอ่ยถามอย่างสู่รู้

 

 

“อันที่จริงทั้งหมดมาจากการควบคุมอาหารแบบสมเหตุสมผลค่ะ” ถังหนิงตอบด้วยคำตอบเรียบง่าย

 

 

“ถังหนิง คุณช่วยตอบคำถามของเราอีกสักสองสามข้อได้ไหมครับ” บรรดานักข่าวจากสองข้างของพรมแดงเริ่มรู้สึกร้อนรน ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นเธอแล้ว และเธอไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง แต่…

 

 

… พวกเขาจะกลับบ้านมือเปล่าไม่ได้

 

 

“ขอโทษด้วยนะครับ งานกำลังจะเริ่มแล้วและถังหนิงของเราจำเป็นต้องเข้าไปด้านใน” พิธีกรรีบช่วยพูดตัดบท

 

 

แต่ขณะนั้นเอง ถังหนิงยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือของเธอแล้วกล่าวกับบรรดานักข่าว “ฉันรู้ว่าพวกคุณต้องการสัมภาษณ์นะคะ หลังจากงานจบแล้วฉันยังพอมีเวลานิดหน่อย แต่ตอนนี้งานกำลังจะเริ่มแล้วจริงๆ ฉันขอโทษนะคะทุกคน”

 

 

“พวกเรารอได้คะ!”

 

 

ถังหนิงยิ้มก่อนเข้าไปในงานภายใต้การคุ้มครองของทีมรักษาความปลอดภัย

 

 

หากไป๋อวี๋อยู่ในจุดเดียวกับถังหนิง เธอคงปรากฏตัวต่อหน้าสื่อด้วยสีหน้าใสซื่อราวกับเธอถูกบังคับให้สัมภาษณ์ทั้งที่ไม่เต็มใจ ทำให้บรรดานักข่าวต้องรู้สึกเห็นใจเธอ

 

 

กระนั้นก็ตาม บรรดาแฟนคลับของไป๋อวี๋ออกมาอ้างว่าถังหนิงกำลังแสดงละคร

 

 

[ยัยนี่เคยทำตัวดีอย่างมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ ไม่ใช่ว่ามันกำลังพยายามแข่งกับไป๋อวี๋ของเราเรื่องอีคิวหรอกนะ]

 

 

[ปลอมมาก ปลอมสุดๆ! มาดูสิว่าจะแสดงละครไปได้อีกนานแค่ไหน เห็นกันอยู่แล้วว่ายัยนั่นควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีแล้วยังจะมาเสแสร้งแสดงละครอีก หน้าไม่อายที่สุด!]

 

 

[ฉันอดใจรอดูว่ามันจะพูดกับสื่อว่ายังไงหลังจากโดนสัมภาษณ์ไม่ไหวแล้ว…]