บทที่ 151 ความสนใจจากคุณชายฉิน

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 151 ความสนใจจากคุณชายฉิน

คุณชายฉินรับเครื่องปรุงมา แตะนิดหน่อยและดม

เถ้าแก่เฉียนจึงอธิบาย “ถึงกลิ่นของมันจะไม่น่าดม แต่ถ้าใส่ลงไปในน้ำมัน กลิ่นจะดีขึ้นมาเลยเชียวล่ะขอรับ”

“รู้ไหมว่าผงพวกนี้มีส่วนผสมอะไรบ้าง?” คุณชายฉินถาม

เถ้าแก่เฉียนลำบากใจขึ้นมา “เรื่องนั้น…..”

คุณชายฉินเงยหน้า “ข้าไม่ได้ถามว่าในนี้มีอะไรบ้าง แต่ถามว่าท่านรู้หรือไม่ ท่านแค่ตอบข้ามาว่ารู้หรือไม่รู้ก็พอ”

“แม่นางเถาฮวาไม่ได้บอกข้าว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง บอกตามตรงข้าเองก็อยากรู้เช่นกันว่าในผงเครื่องเทศนี้มีส่วนผสมอะไรบ้าง แต่แม่นางเถาฮวารับปากข้าเพียงว่าจะส่งเครื่องเทศในปริมาณพอดีใช้มาให้ข้าทุกเดือนขอรับ” เถ้าแก่เฉียนกล่าว

คุณชายฉินคลี่ยิ้ม “น่าสนุก”

จากนั้นคุณชายฉินกล่าวขึ้น “เจอนางอีกเมื่อไหร่ให้บอกข้าด้วย ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง”

พูดแล้วคุณชายฉินก็หยิบห่อเครื่องเทศนั้นและเดินออกไป

เถ้าแก่เฉียนมองอย่างเสียดาย ห่อนั้นเป็นห่อใหญ่เชียวล่ะ ถึงแม้สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เงินมากมายอะไร แต่ถ้าใช้เครื่องเทศหมดและแม่นางเถาฮวายังไม่ส่งของใหม่มา

ถ้าอย่างนั้น……

เขาจะใช้อะไรปรุงอาหาร ที่ตอนนี้อาหารในอิ๋งเค่อจวีขายดิบขายดีกว่าเมื่อก่อนมากก็เพราะเครื่องเทศนี่

แต่เถ้าแก่เฉียนก็ไม่กล้าพูดอะไร นั่นคือคุณชายฉินนะ หากทำให้คุณชายฉินไม่พอใจมันจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยกับการแค่เสียลูกค้าหลักไปหรอก เขาไม่หวังเงินจากคุณชายฉินได้ แต่จะมีเรื่องกับคุณชายฉินไม่ได้เด็ดขาด

คุณชายฉินเดินมาถึงหน้าประตูและโบกมือ

เด็กติดตามชุดเขียวเข้าใจความหมายคุณชายฉินทันที จึงควักตั๋วเงิน 50 ตำลึงเงินยื่นให้

เถ้าแก่เฉียนรับมาดูแล้วจิตใจเบิกบานขึ้นมาทันใด ว่าแล้วว่าคุณชายฉินไม่เอาเปรียบเขาหรอก นี่อย่างไร ให้มา 50 ตำลึงเงิน เพียงพอต่อความสูญเสียของเขาแล้ว

เถ้าแก่เฉียนอารมณ์ดีขึ้นมา “ขอบคุณคุณชายฉินมากขอรับ”

“อย่าลืมเรื่องที่ข้าฝากท่านนะ” คุณชายฉินเหมือนไม่ได้รับรู้ถึงความตื่นเต้นของเถ้าแก่เฉียน พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เถ้าแก่เฉียนลังเลนิดหน่อยก่อนจะเอ่ย “คุณชายฉิน มีประโยคหนึ่งข้าไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่…..”

“พูดมาสิ” คุณชายฉินหันกลับมา

เถ้าแก่เฉียนกล่าว “คุณชายโปรดอภัยข้าที่เสียมารยาทด้วย แต่ไม่ทราบว่าหากคุณชายเจอแม่นางเถาฮวาจะ……”

“จะทำร้ายนางงั้นเหรอ?” คุณชายฉินมองสิ่งที่เถ้าแก่เฉียนอยากพูดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

เถ้าแก่เฉียนเอ่ยเสียงต่ำ “แม่นางเถาฮวาเป็นคนไม่เลว ตอนนั้นที่ล่วงเกินคุณชายฉินก็ไม่ได้ตั้งใจ”

คุณชายฉินหัวเราะเบา ๆ “ถ้าข้าถือสาล่ะก็ นางจะสุขสบายดีอยู่ได้อย่างไรกัน?”

เถ้าแก่เฉียนได้ฟังแล้วโล่งอก รู้สึกวางใจลง ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกผิดต่อแม่นางเถาฮวาจริง ๆ

ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ในเมื่อคุณชายฉินพูดแบบนี้ก็แสดงว่าคุณชายฉินแค่มีความสนใจต่อเครื่องเทศเท่านั้น ไม่ได้อยากทำร้ายแม่นางเถาฮวา

อย่างไรคนระดับคุณชายฉินไม่จำเป็นต้องพูดโกหกเพราะแม่นางน้อยคนหนึ่ง

ต่อให้คุณชายฉินพูดตรง ๆ ว่าจะทำร้ายแม่นางเถาฮวา ใครจะห้ามได้?

คุณชายฉินหันหลังเดินออกไป ตอนลงชั้นล่างเขาก็นึกถึงจางซิ่วเอ๋อ ก่อนรอยยิ้มมีเลศนัยจะผุดบนหน้า

ต่อให้เป็นเด็กติดตามชุดเขียวที่อยู่กับคุณชายฉินมานาน พอเห็นรอยยิ้มแบบนี้บนใบหน้าคุณชายฉินก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

แต่เด็กติดตามชุดเขียวไม่กล้าปากมาก เขารู้ว่าที่ตัวเองพูดเมื่อครู่คงทำให้คุณชายไม่พอใจแล้ว เวลานี้จึงพยายามไร้ตัวตนให้มากที่สุด

เมื่อมาถึงบ้านเงียบสงบและประณีตที่ไม่ถือว่าใหญ่มากในตัวเมือง คุณชายฉินจึงเดินเข้าไป

นี่เป็นเพียงหนึ่งในกิจการมากมายของคุณชายฉินเท่านั้น

คุณชายฉินกำชับ “จงนำสิ่งนี้ไปให้แม่ครัว เย็นนี้ปรุงอาหารตามวิธีที่เถ้าแก่เฉียนบอก”

ตอนนี้คุณชายฉินเกิดความคิดบางอย่างกับผงเครื่องเทศ แต่เขาไม่ได้โง่ขนาดที่ไม่ได้พิสูจน์เองเสียก่อน

ถ้าอาหารมันไม่ได้อร่อยเพราะผงเครื่องเทศล่ะ?

ถึงจะรู้ว่าเถ้าแก่เฉียนไม่กล้าหลอกเขา แต่คุณชายฉินเป็นคนรอบคอบ ทำอะไรไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

เด็กติดตามชุดเขียวพยักหน้า “ขอรับ”

จางซิ่วเอ๋อที่ซื้อลูกอมเสร็จแล้วกำลังคุยเรื่องวิธีทำกระดานซักผ้ากับโจวเหวินจะรู้ได้อย่างไรว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ จะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้

โจวเหวินมองจางซิ่วเอ๋อด้วยความฉงน “ซิ่วเอ๋อ กระดานไม้ที่เจ้าพูดถึงเอามาซักผ้าได้จริงเหรอ?”

จางซิ่วเอ๋อพูดยิ้ม ๆ “ใช่แล้ว ท่านน้าทำมาชิ้นหนึ่งตามแบบที่ข้าบอก ท่านก็จะรู้เองว่าเอามาซักผ้าได้ไหม”

โจวเหวินพยักหน้า “ได้ กระดานซักผ้าที่เจ้าพูดถึงทำง่ายมาก สองสามวันข้าก็ทำเสร็จ เจ้ามาคราวหน้าแวะเอากลับไปได้เลย”

ในร้านของพวกเขาไม่เคยขาดไม้ และสิ่งที่จางซิ่วเอ๋อจะทำก็ใช้เพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ หากตนบอกอาจารย์แล้วใช้เวลาว่างในการทำก็ไม่ใช่เรื่องยาก

จางซิ่วเอ๋อไม่ได้คุยเรื่องเงินกับโจวเหวิน ของแค่นี้ถ้านางบอกว่าจะให้เงิน โจวเหวินอาจจะไม่พอใจก็ได้

ในเมื่อเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน จางซิ่วเอ๋อจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดถึงเงินทุกเรื่อง

แน่นอนว่าเรื่องใหญ่ต้องคำนวณให้ชัด แต่เรื่องเล็กแบบนี้หากคำนวณชัดเกินไปอาจจะทำลายความสัมพันธ์ได้

จากนิสัยโจวเหวินแล้ว คงไม่อยากได้เงินจากเด็ก ๆ อย่างพวกนางหรอก

บวกกับจางซิ่วเอ๋อคิดไว้แล้วว่าอีกหน่อยกระดานซักผ้านี่ทำออกมาแล้วคงทำให้โจวเหวินสามารถทำออกมามากขึ้นได้ ถึงเวลานั้นน่าจะขายได้เงินจำนวนหนึ่ง เท่ากับนางเอาวิธีหาเงินไปให้โจวเหวินเลยนะ

คราวหน้าที่นางมา ถึงไม่ให้เงินก็เอาของขวัญตอบแทนมาให้ได้

จางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนที่เอาเปรียบคนอื่น นางรู้จักการถนอมน้ำใจดี

“พี่ ทำไมข้าไม่เคยได้ยินพี่พูดเรื่องกระดานซักผ้าเลยล่ะ?” จางชุนเถาถามอย่างใคร่รู้

จางซิ่วเอ๋อบอกยิ้ม ๆ “วันนั้นที่ข้าช่วยแม่ซักผ้าและคิดได้น่ะ ใช้ดีหรือไม่ข้ายังไม่แน่ใจ”

จางชุนเถากล่าวยิ้ม ๆ “พี่ฉลาดที่สุดแล้ว สิ่งที่พี่คิดค้นต้องใช้ดีอย่างแน่นอน!”

ไม่ต้องพูดถึงจางชุนเถาที่กำลังเอื้อนเอ่ยคำที่แสดงความนับถือ เอาแค่จางซานหยา เวลานี้ก็มองจางซิ่วเอ๋อด้วยตาเป็นประกาย

จางซิ่วเอ๋อยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงความยกย่องจากน้องสาวทั้งสอง

โจวเหวินออกจากร้านนานไม่ได้ ตอนนี้ได้เวลากลับแล้ว

จางซิ่วเอ๋อยิ้มและเอ่ย “พวกเราไปรอจ้าวเอ้อร์หลางที่ร้านช่างไม้เถอะ แล้วหาซื้อของกลับบ้านกัน”

เวลาแบบนี้จางชุนเถาและจางซานหยาเชื่อฟังจางซิ่วเอ๋ออยู่แล้ว พวกนางจึงเดินกลับพร้อมโจวเหวิน และรอพบจ้าวเอ้อร์หลางที่นี่ตามที่นัดไว้

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ท่าทางคุณชายนี่จะสนใจซิ่วเอ๋ออยู่น้า เหมือนได้เจอคู่มือที่สมน้ำสมเนื้ออย่างไรอย่างนั้น

ไหหม่า(海馬)