บทที่ 127 ขัดเกลา[รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 127 ขัดเกลา[รีไรท์]

ท่าทีของอ๋าวฮวงแสดงต่อฉู่ชวิ๋นนั้นเป็นการดูถูกในระดับหนึ่ง เขายังคงยืดอกด้วยความมั่นใจ

“พันธนาการแห่งท้องฟ้า? ข้าถูกตรึงมาเป็นหมื่นปีแล้วแต่ยังไม่ตาย ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวทั้งนั้นแหละ”

ฉู่ชวิ๋นยังคงเงียบต่อไป

แม้ว่าอ๋าวฮวงจะชื่นชมโลกในยุคโบราณและโลกในยุคโลกาภิวัตน์จนเขาคิดว่าตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรมาก แต่จักรพรรดิสูงสุดแห่งตระกูลเจ้ามังกรต้องมาถูกกักบริเวณแบบนี้ ใครจะปกปิดความเศร้าในใจได้หมดกัน?

“ก็แค่เบื่อเกินกว่าที่จะทำอะไร ก็แค่นั้น!” อ๋าวฮวงโบกมือเบา ๆ

เลือดของมังกรฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ มุ่งตรงมายังฉู่ชวิ๋น

ฮึบ!

ฉู่ชวิ๋นไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปแล้ว เขามองไปยังเลือดเหล่านั้นตรงๆ

ตู้ม!

ร่างของฉู่ชวิ๋นทั้งร่างเหมือนจะระเบิดออก เสื้อคลุมของเขากลายเป็นขี้เถ้าสลายหายไป ร่างกายทั้งร่างเปล่งแสงออกมา เลือดของมังกรหยดเล็ก ๆ ซึมเข้าไปยังแขนขาของเขา ซึมเข้าไปในกระดูกและกระดูกที่ชโลมไปด้วยเลือดนั้นก็เปล่งประกายราวหยกสีขาว เลือดไหลเวียนไปยังทุกอวัยวะของร่างกาย

อะไรกัน!?

ฉู่ชวิ๋นนั่งลงและคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่เมื่อเขาอ้าปากออกควันสีดำก็พุ่งออกมาจากปากของเขา นั้นน่าจะเป็นสิ่งตกค้างจากการต่อสู้กับผู้เฒ่าราชาปีศาจ ตอนนี้เลือดของมังกรได้ชำระล้างความโสมมออกจากร่างของเขาแล้ว

เลือดของบรรพบุรุษมังกรยังคงอยู่ในร่างของฉู่ชวิ๋นแต่มันก็เล็กน้อย ในที่สุดแสงในร่างกายก็มาบรรจบกันกระดูก ตับและม้าม และเปล่งประกาย เลือดของบรรพบุรุษมังกรบินไปที่หัวใจของเขาและวิ่งวนรอบ ๆ หัวใจ

ตึก! ตึก!

นี่คือเสียงของหัวใจที่เต้นราวกับกลอง ตอนนี้หัวใจของฉู่ชวิ๋นชุ่มไปด้วยเลือดของบรรพบุรุษมังกรที่มีพลังอย่างมาก

หลังจากนั้นเลือดของมังกรบรรพบุรุษที่ลดขนาดลงครึ่งหนึ่งก็แตกสลายออกจากกันโดยหลั่งออกมาจากทุกขุมขนของร่างกายของฉู่ชวิ๋น

ทันใดนั้นร่างกายของฉู่ชวิ๋นก็เปื้อนไปด้วยเลือดเหมือนคนเลือด เขาอาบเลือดมังกรและทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยแสงสีทองเปล่งประกายออกมาเป็นหมื่น ๆ ดวงเหมือนดวงอาทิตย์ดวงเล็ก

อ๋าวฮวงพยักหน้าอย่างลับ ๆ และยอมรับว่าการชำระล้างด้วยเลือดมังกรนี้หากไอ้หนุ่มรวมเป็นหนึ่งกับเลือดมังกรได้จะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน

“ถ้าไปได้สวยแบบนี้ ถือว่าเป็นลางดีมาก ๆ เลยนะ” อ๋าวฮวงกระซิบ เหยียดนิ้วออกมาและเคาะที่คิ้วของฉู่ชวิ๋น ทำให้เกิดระลอกคลื่นสั่นไหวและมีอักษรพาดผ่าน

ร่างกายของฉู่ชวิ๋นสั่นเบา ๆ และนกฟีนิกซ์ที่มีความยาว 10 ฟุต สยายปีกแล้วกู่ร้องออกมา ดวงตาสีดำแดงของมันเหมือนกับไฟที่กำลังแผดเผาทุกสิ่ง

-เคล็ดวิชาฟีนิกซ์นิรันดร-

ตัวอักษรขนาดใหญ่เหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นและฉู่ชวิ๋นก็ตื่นเต้นมาก นี่เป็นเคล็ดวิชาลับของตระกูลฟีนิกซ์และจะไม่มีวันส่งต่อให้ใคร เขาไม่ได้คาดหวังว่าอ๋าวฮวงจะมอบมันให้กับตัวเองแบบนี้

ในหัวของฉู่ชวิ๋น นกฟีนิกซ์หรือวิหคเพลิงเริ่มวิวัฒนาการเป็นนกฟีนิกซ์นิรันดร์ ดังนั้นฉู่ชวิ๋นจึงกลั้นหายใจและตั้งอกตั้งใจศึกษามัน

….

….

กว่า 1 เดือน ในที่สุดเขาก็รู้แจ้งถึงพลัง

ในวันนี้ดวงตาของเขาก็เปิดกว้าง มีเปลวเพลิงลุกโชติอยู่ในแววตาของเขา เขายกมือขึ้นฟาดไปที่อ๋าวฮวง

นกฟีนิกซ์ยาว 10 เมตรก็ปรากฏขึ้นมากลางอากาศพร้อมกับเสียงร้องที่ดังแสบแก้วหู เพลิงสีทองของมันพุ่งเข้าใส่อ๋าวฮวงทันที อากาศรอบ ๆ เกิดการระเบิดอย่างแรง ต้นไม้แถวนั้นกลายเป็นขี้เถ้าในทันใด

อ๋าวฮวงไม่แม้แต่จะเหล่มอง เงยหน้าขึ้นและดื่มไวน์ จากนั้นก็สะบัดมือเบา ๆ ทำให้เปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาสลายไปทันที

ฉูชวิ๋นกระโดดขึ้น กระดูกทั้งร่างของเขาระเบิดออกพร้อมกับชี้ไปที่อ๋าวฮวง “ตาแก่กล้าสู้กับคนระดับเดียวกันไหมล่ะ?”

“ไอ้หนุ่มปากหาเสี้ยน ทำไมจะไม่กล้าฮะ?” อ๋าวฮวงหัวเราะและเหลือบมองฉู่ชวิ๋น “ก่อนที่จะสู้กันจริง ๆ เอ็งควรใส่เสื้อผ้าก่อนไหม?”

ฉู่ชวิ๋นมองลงไปพร้อมกับใบหน้าของเขาแดงระเรื่อ ชุดของเขาพังยับเยินตั้งแต่แรกแล้ว ครั้งนี้เขารู้สึกขายหน้ามากที่ต้องหาชุดมาเปลี่ยนตลอดหลังการฝึก

“เข้ามาสิ นี่แหละระดับเดียวกันที่เอ็งต้องการ!” อ๋าวฮวงไม่สนใจความขายหน้าอะไรกับเรื่องเล็กน้อยขนาดนั้น ก่อนที่จะกวักมือแกล้งเรียกอีกฝ่าย

ฉู่ชวิ๋นพูดอะไรไม่ออก เขาจ้องหน้ากลับไปยังชายวัยกลางคน ไอ้มังกรเฒ่านี่ตั้งใจแน่ ๆ มันอยากจะอัดเขาให้น่วมจริง ๆ สินะ

“เอ็งจะสู้กับข้าด้วยสภาพแบบนั้นเหรอ? ช่าง…..สง่าผ่าเผยซะจริง ฮ่าฮ่าฮ่า” อ๋าวฮวงพูดจาเหน็บแนมโดยที่เน้นไปยังสองคำหลัง

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกหดหู่ วิทยายุทธ์ของเขามันต่ำเกินไป แค่เนรมิตเสื้อผ้าขึ้นมาซักชุดก็ไม่ได้

อ๋าวฮวงหยุดรังแกอีกฝ่ายแล้วโยนชุดใหม่เอี่ยมให้เปลี่ยน

ฉู่ชวิ๋นรีบรับชุดนั้นมาแล้วสวมทันที นี่คือผ้าสีขาวและสูทเคลือบสีซึ่งขาวราวกับหยก เหมือนกับชุดของผู้นำตระกูลมังกรทองอย่างไรอย่างนั้น เข็มขัดและกำไล ข้อมือหยก บวกกับหน้าตาของฉู่ชวิ๋นแล้วเหมือนกับดาราไม่มีผิด

“ให้ตายเถอะ มันหล่อกว่าฉันด้วยซ้ำ” อ๋าวฮวงบ่นด้วยความอิจฉา

ฉู่ชวิ๋นยิ้มและตั้งท่าพร้อมทันที เงาของวิหคเพลิงก็โผล่ขึ้นมาแล้วเข้าไปขย้ำอ๋าวฮวงอีกครั้ง

“เก่งมาก หัดเล่นตุกติกกับคนที่ช่วยชีวิตด้วย?” อ๋าวฮวงมีพลังมังกรเป็นฐานของเคล็ดวิชาอยู่แล้ว เขาจึงใช้ท่าต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับฉู่ชวิ๋น โดยการยกมือขึ้นและฟาดลมปราณออกไป ปรากฏเป็นลมปราณที่เหมือนราวมังกรโจมตีไปที่วิหคเพลิง

ตู้ม!

อากาศรอบ ๆ ระเบิดอย่างแรงจนควันกลายเป็นเห็ดสีทองติดไฟแล้วสลายหายไปอย่างน่าเวทนา

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะออกมาและพลังมังกรในตัวเขาก็ตอบรับเสียงเรียก ตอนนี้ร่างมังกรของเขาสมบูรณ์แล้ว เขาปล่อยหมัดใส่ตาแก่อ๋าวฮวง หมัดของร่างมังกรนั้นต่อยใส่อ๋าวฮวงแบบไม่ยั้ง

ผมของอ๋าวฮวงปลิวไปตาแรงลม เขาหัวเราะกับหมัดที่ปล่อยออกมาอย่างมั่วซั่วของฉู่ชวิ๋น

ตู้ม!

ตอนนี้ร่างของทั้งสองเข้าไปตะลุมบอนกันอย่างรุนแรงบนท้องฟ้า พลังของหมัดที่ผสมด้วยความโกรธของแต่ละคนทำให้ต้นไม้ที่อยู่ข้างทางโค่นไปหลายต้น ทั้งหินและหญ้าแตกกระจายไปทั่วทุกทิศ เหมือนกับพวกเขาเป็นพายุที่พัดเข้าไปทำลายทุกสิ่ง

“เอานี่ไป! สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรในแบบของฉัน!” ฉู่ชวิ๋นตะโกนออกมาและซัดฝ่ามือออกไปอย่างต่อเนื่องและเงาของฝ่ามือก็ฉีกอากาศ

อ๋าวฮวงถลึงตา สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ท่าอะไรกัน? ไม่มีวิชาแบบนี้สักหน่อย อีกอย่างหมัดมั่ว ๆ ของฉู่ชวิ๋นไม่ถูกจัดว่าเป็นวิชาฝ่ามือด้วยซ้ำ ไอ้หนุ่มนี่ตั้งใจยั่วโมโหเขาชัด ๆ อีกอย่างมันฝึกวิชามังกรจะมาปราบมังกรทำบ้าอะไร!

ตู้ม!

ตอนนี้ลานกว้างบนหุบเขาแทบจะกลายเป็นซากหลังสงครามอยู่แล้ว

“ดูนี่ หมัดมังกรทลายภูผา!”

ฉู่ชวิ๋นตะโกนออกมาขณะที่ซัดกับอีกฝ่ายบนยอดหุบเขา ลมปราณที่เป็นกำปั้นก็ถูกปล่อยออกมาพุ่งเข้าใส่อ๋าวฮวง

จมูกของอ๋าวฮวงเปลี่ยนไปเหมือนกับจมูกของสัตว์ป่า ก่อนที่จะปล่อยหมัดที่มีความเร็วต่างจากเดิมออกไป

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะลั่น ก่อนที่จะใช้ท่าธรรมดา ๆ สวนกลับไป ราวกับว่าเขากำลังเต้นรำอยู่กลางอากาศ

“รับนี่ไป หมัดมังกร 36 กระบวนท่า!”

แต่เขาไม่ได้ต่อยเหมือนปากพูด เขาดึงต้นไม้ต้นใหญ่กว่า 10 เมตรขึ้นมา แล้วฟาดไปยังอ๋าวฮวง

“ข้าโกรธแล้วนะ!” จมูกของอ๋าวฮวงเต็มไปด้วยควันสีขาว มองไปยังฉู่ชวิ๋นด้วยความโกรธ อ๋าวฮวงไม่อยากใช้ลมหายใจมังกรเพราะมันสามารถทำลายหุบเขาทั้งลูกได้สบาย ๆ และมันยังจะทำลายภูมิประเทศไปไกลกว่า 1000 ไมล์อีกด้วย

ตู้ม!

เพียงหมัดเดียวของอ๋าวฮวง ต้นไม้ทั้งต้นก็กลายเป็นผงในพริบตา

“ยอมแพ้ซะ!”

ฉู่ชวิ๋นพุ่งเข้ามาด้วยระยะกว่า 20 เมตรพร้อมกำปั้น

“มาได้ดี!” อ๋าวฮวงซัดหมัดอีกข้างกลับไปพอดี

ปัง! ตู้ม!

หมัดทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ พลังงานสีทองอำพันกระจายออกไปอย่างรุนแรงและน่ากลัว หินแถวนั้นแตกกระจายในทันที หุบเขาเองก็สั่นเหมือนเจ้าเข้า อากาศรอบ ๆ เกิดการบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

“ไอ้หนุ่ม เอ็งเล่นขี้โกงนี่หว่า…!”

อ๋าวฮวงกระเด็นออกไปเหมือนกับว่าวที่สายขาด ร่างของเขากระแทกกับหุบเขาอีกลูกหนึ่งทันทีเป็นหลุมลงไปในชั้นหิน

หลังจากที่รู้ตัวว่าใช้แขนข้างเดิมไม่ได้แล้ว ฉู่ชวิ๋นก็มองไปบนท้องฟ้า และพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “ชีวิตมันช่างโดดเดี่ยวเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางหิมะ เป็นอมตะแบบนี้คงจะเหงามากสินะ…”

ตู้ม!

หุบเขาที่ห่างออกไปก็เกิดการระเบิดขึ้น ร่างของอ๋าวฮวงหายไปจากหลุมนั้นแล้ว ปากของเขากระตุกทันทีที่ได้ยินคำพูดของฉู่ชวิ๋น

“แกมันหน้าไม่อาย!” อ๋าวฮวงโกรธมากที่ถูกพูดจาทำร้ายจิตใจแบบนี้ วันแรก ๆ เขายังปกปิดได้ แต่วันหลัง ๆ ที่เขาต้องมาเป็นอาจารย์ของฉู่ชวิ๋นแล้วก็ถือว่ารับไม่ได้อย่างมากที่ถูกพูดแบบนี้ใส่

ฉู่ชวิ๋นพยายามหาเหตุผลเข้าสู้ “สิ่งที่เสียไปแล้วย่อมเอากลับมาไม่ได้ อย่าหาข้อแก้ตัว ฉันก็เคยเกือบที่จะเป็นอมตะมาก่อนเหมือนกัน…ไม่สิ ได้เป็นแล้วด้วยสักแป๊บอะนะ…”

ก่อนที่จะได้พูดจบ เขาก็รู้ตัวว่าตัวเองขยับไปไหนมาไหนไม่ได้แล้ว

อ๋าวฮวงยื่นมือออกมาพร้อมกับ ‘แทง’ สีขาวเงินในอากาศทำให้เกิดเสียงฟ้าร้องจากอากาศที่เบาบาง ซึ่งนี่เป็นเทคนิคลับ

สายฟ้าคำราม สะบัดไปมาเหมือนงูฟ้าและตกลงมาจากกลางอากาศ

เปรี้ยง!

สายฟ้าฟาดเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นที่ถูกตรึงร่างเอาไว้ทันที ทำให้ผมของเขาชี้ฟูขึ้นพร้อมกับกลิ่นไหม้ แต่ฉู่ชวิ๋นที่ได้รับเลือดของมังกร ผมของเขาก็งอกขึ้นอย่างบ้าคลั่งในเวลานี้ ผมของเขายาวเท่าเอวและผมสีดำของเขาเงางามราวกับผ้าไหม เช่นเดียวกับที่มันตั้งขึ้นเหมือนสายล่อฟ้าในเวลานี้

อ๊ากก!

ฉู่ชวิ๋นร้องออกมา พลังของอ๋าวฮวงนั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าอ๋าวฮวงจะลดพลังของตัวเองลงมาแล้วก็ตาม แต่ด้วยพลังของเขาในตอนแรกถ้าไม่ได้เลือดมังกรก็คงเหมือนคนธรรมดาที่ถูกทรมานด้วยการช็อตไฟฟ้าไปแล้ว

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

สายฟ้ายังคงฟาดลงมาไม่หยุด ฉู่ชวิ๋นร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“นี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย ไหนบอกว่าจะสู้ด้วยขั้นเดียวกันไง” ฉู่ชวิ๋นครางออกมา

“นี่ถือเป็นการกลั่นแกล้งครั้งใหญ่ไง!” อ๋าวฮวงที่อยู่เหนือกว่าก็ทำการ ‘รังแก’ ฉู่ชวิ๋นกลับบ้าง

“¥%*/….” ฉู่ชวิ๋นบ่นกับตัวเองแบบไม่เป็นภาษาในใจ

“ไอ้หนุ่ม อย่ามาแอบด่าฉันในใจ แกมันอ่อนแอเองเข้าใจไหม?” อ๋าวฮวงนอนลง หยิบเหยือกไวน์ออกมาวางบนพื้นหญ้าดื่มอย่างมีรสนิยม และยื่นมือออกไปในเวลาเดียวกันเพื่อเดาะนิ้วมือ

ฉู่ชวิ๋นขนลุกทันที สายฟ้ายังไม่หยุดฟาดฟันลงมาหาเขา

“อ๊าก!!!” ฉู่ชวิ๋นกรีดร้องออกมา แม้ว่ามันจะทำให้เขาตายไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่เจ็บ ความเจ็บปวดนั้นเริ่มกัดกินวิญญาณของเขา

“อย่ารบกวนสิ ข้าจะหลับ ไม่งั้นจะโดนหนักกว่าเดิมสองเท่า!” อ๋าวฮวงอุดหู ก่อนที่จะนอนและไม่นานนักเสียงกรนก็ดังขึ้น

“อ๋าวฮวงแกมัน! @ ¥% !!!” แน่นอนว่าเป็นใครก็ต้องสบถออกมาอยู่แล้ว

อ๋าวฮวงถูกพันธนาการแห่งท้องฟ้ารั้งเอาไว้ พื้นฐานพลังก็ลงลดสู่ขั้นลมปราณก่อกำเนิด โลกเล็ก ๆ แห่งนี้เองก็อ่อนแอลงเช่นกัน ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน ฉู่ชวิ๋นไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน

การลงโทษยังคงดำเนินต่อไป ฉู่ชวิ๋นไม่สามารถเป็นหลบหนีไปได้ ทำได้แค่ทนต่อไปเท่านั้น

จนกระทั่งอ๋าวฮวงละเมอปัดขวดไวน์ตก เขาจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมา

“หลับสบายจริง ๆ เลยแฮะตรงนี้” เขาบิดขี้เกียจแล้วทำท่าเหมือนจะลงไปนอนต่อ

“ไอ้! @ ¥% !!!” ฉู่ชวิ๋นสบถขึ้นมาอีกครั้ง

“สะดวกคุยหน่อยไหมล่ะ?” อ๋าวฮวงเป้ปากพูดกับฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า สถานการณ์ตอนนี้มันอยู่เหนือกว่าที่จะปฏิเสธแล้ว

“ไงล่ะ แกยังเหงาอยู่อีกไหม เป็นอมตะแล้วมันเหงามากไหม?” อ๋าวฮวงถาม

ฉู่ชวิ๋นส่ายหน้า มังกรทองตนนี้แกร่งเกินกว่าที่จะต่อกรได้จริง ๆ เอาไว้วันหลังถ้าเขามีพลังมากพอเขาจะกลับมาแก้แค้น

อ๋าวฮวงสะบัดมือและสายฟ้าก็หายไป ฉู่ชวิ๋นที่เป็นอิสระแล้วยังคงนอนอยู่กับพื้นรอร่างกายฟื้นฟูกลับมา

ฮือ?

ฉู่ชวิ๋นแปลกใจที่ลมปราณของเขาหมุนเวียน เสียงวิหคเพลิงและมังกรกู่ร้องไปทั่ว ในช่วงกลางของขั้นสร้างรากฐานลมปราณถูกรวมเข้าด้วยกัน แม้แต่ลมปราณก็ยังมั่นคงและบริสุทธิ์ ทั้งร่างกาย อวัยวะภายในและเส้นชีพจร ทุกอย่างเปลี่ยนไป

“ขอบคุณมาก!” ฉู่ชวิ๋นมองไปยังอ๋าวฮวงอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าชายคนนี้ใช้วิธีใดถึงฟื้นลมปราณให้เขาได้ทันทีแบบนี้

เผ่ามังกรนั้นเป็นเผ่าที่ลึกลับและโบราณ ปริศนามากมายยังคงถูกปิดเอาไว้ เขาเองก็กลัวว่าต่อให้เขาบรรลุจุดสูงสุดแล้วก็ยังแข็งแกร่งให้เหมือนเผ่ามังกรที่แท้จริงแบบนี้ไม่ได้หรือแม้แต่จะเป็นจักรพรรดิเซียนการที่จะได้เลือดมังกรมาก็ยากเช่นกัน

ความจริงแล้วที่ฉู่ชวิ๋นกลายเป็นจักรพรรดิเซียนนั่นเป็นเพราะโชคช่วย ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาตัดอารมณ์ความรู้สึกทั้ง 7 ออก เบิกเนตรทั้ง 6 และฝึกตนจนแข็งแกร่งขนาดนั้นใน 3,000 ปีได้ยังไง เขาก็แค่ย้อนเวลากลับมายังโลกเดิม หลังจากที่ได้เป็นจักรพรรดิเซียนแล้ว วิธีการฝึกตนแบบนี้ไม่เป็นที่พึงปรารถนาจริง ๆ หากไม่ใช่เพราะเทพธิดาจิงหงปรากฏตัวและปลุกความรู้สึกของเขา เขาคงจะถูกควบคุมโดยความหลงใหลและปีศาจ จากนั้นคงกลายเป็นหุ่นเชิด

“นายควรกลับไปได้แล้ว” อ๋าวฮวงกล่าวขึ้นมา

ฉู่ชวิ๋นสงสัย อ๋าวฮวงควรจะมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องบอกเขา ทำไมถึงรีบบอกลากันขนาดนี้?

“เอ็งฝึกมาไม่พอ การที่รู้มากไปถือว่าไม่ดี ตอนนี้ไปฝึกตนให้แข็งแกร่งก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับมาหาข้าเมื่อแข็งแกร่งกว่านี้แล้ว”

ฉู่ชวิ๋นพูดอะไรไม่ออก ปากของเขากระตุก ความสามารถของเขามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ถูกดูหมิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“อะไรกัน? เอ็งอยู่ที่แห่งนี้มาเกือบ 3 เดือนแล้วนะ ทุกคนที่อยู่ข้างนอกนั้นคงคิดว่าเอ็งตายกันไปหมดแล้ว ผู้หญิงของเอ็งก็เหมือนจะกำลังมีปัญหาอยู่ด้วยนะ…ไป ๆ”

3 เดือน!? ฉู่ชวิ๋นแปลกใจ เขาไม่คิดว่ามันจะนานขนาดนั้น ดวงตาของเขาเริ่มเยือกเย็นอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นข้างนอกแล้วบ้าง?

ฉู่ชวิ๋นรีบกลับไปทันทีและอ๋าวฮวงก็มอบยาให้กับเขา 2-3 อย่าง สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับการทำยาทลายพลัง ก่อนที่จะพาเขากลับไปสู่โลกแห่งความจริง!