ตอนที่ 112 ความฝันเป็นภรรยาท่านประธานของหวังหยวนหยวน

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

หวังหยวนหยวนก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีเด่อะไร!

ก่อนที่เย่เฉินจะบอกว่าตนเองเป็นประธานบริษัท หล่อนรังเกียจและดูถูกเขามากกว่าหวังเจียเหยาเสียอีก!

บอกเขาว่าแอบรักเขามาสามปีเป็นยิ่งกว่าคำโกหกเสียอีก!

ถ้าเย่เฉินเป็นคนจนจริงๆ อย่างน้อยหวังเจียเหยาอาจจะยังยอมให้หล่อนเป็นตัวสำรอง แต่หวงหยวนหยวนไม่แม้แต่จะเหลือบแลเขา!

ตอนนี้เย่เฉินเองก็ตัดสินใจแน่วแน่ ในเมื่อเจ้าตัวคิดว่าเราสองคนควรคบหากัน แถมยังตั้งใจแต่งตัวมาพบฉันขนาดนี้เพื่อจะขอความรักจากฉัน งั้นฉันจะทำให้สมหวังแล้วกัน!

การทรยศของภรรยาทำให้เย่เฉินเสียสติไป

ในวินาทีนี้เขาเพียงแต่อยากจะแก้แค้นหวังเจียเหยา แก้แค้นคนตระกูลหวังให้สาสมเท่านั้น!

ทว่าสิบนาทีต่อมาเย่เฉินก็ผลักหวังหยวนหยวนออก

เขาไม่ยอมปล่อยให้ความโง่เง่านี้ดำเนินต่อไป และไม่ปล่อยตัวปล่อยใจกับหวังหยวนหยวนจนกู่ไม่กลับ

เย่เฉินนั่งลงบนพื้นแล้วตบหน้าผากตนเอง แล้วมีเสียงดังขึ้นในใจเขาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง

“เป็นอะไรไปคะ?” หวังหยวนหยวนถามเสียงแผ่ว

เย่เฉินกล่าว “ผมไม่สามารถทำเรื่องที่ทรยศต่อการแต่งงานของผมได้”

หวังหยวนหยวนกล่าว “แต่หวังเจียเหยาทำไปแล้วนะคะ”

เย่เฉินส่ายหน้าพลางกล่าว “ผมหย่าได้แต่ผมจะทำเรื่องแบบเดียวกันกับที่หล่อนทำไม่ได้ ถ้าผมทำแบบนี้ล่ะก็จะต่างอะไรกับพี่สาวคุณกัน? ก็จะกลายเป็นคนที่ทรยศต่อการแต่งงานเหมือนๆ กัน”

เย่เฉินรู้ว่าในชีวิตจริงมีคู่สามีภรรยามากมาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่หลังจากรู้ว่าสามีตนเองมีน้อยแล้ว ก็เกิดอยากล้างแค้นขึ้นมา นั่นก็คือหาคนอื่นเหมือนกัน

แต่ว่านี่ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง

หล่อนเลือกจะหย่าได้แต่ไม่สามารถทำเรื่องผิดพลาดแบบเดียวกันได้

การอบรมที่เขาได้รับมาตลอดยี่สิบกว่าปี ไม่ปล่อยให้เย่เฉินต้องทำเรื่องที่ผิดต่อหลักศีลธรรมแบบนี้!

หวังหยวนหยวนผิดหวังอย่างมากหล่อนติดกระดุมชุดกี่เพ้าใหม่อีกครั้ง แล้วจัดชุดกี่เพ้าที่เละเทะ ยับยู่ยี่ถึงขนาดที่เปรอะเปื้อนเล็กน้อยนั้นใหม่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็ค้อมตัวลงหน้าเย่เฉินคว้ามือเขาแล้วกล่าว

“พี่เย่เฉิน ฉันจะรอพี่หย่ากับหล่อน พอหย่ากันแล้วพวกเราก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย!”

เย่เฉินระบายยิ้ม เขาย่อมต้องหย่ากับหวังเจียเหยาอยู่แล้ว การสมรสครั้งนี้เขาหย่าแน่!

ทว่าตามแผนที่เขาวางไว้ เขาจะให้หวังเจียเหยาเป็นฝ่ายขอหย่าเอง

ตอนนั้นเย่เฉินจะถูกเตะ ออกจากตระกูลกลายเป็นคนธรรมดาทั่วๆ ไป

เย่เฉินกล่าวพลางยิ้ม “เกรงว่าตอนนั้นเธอก็อาจจะไม่อยากคบกับฉัน”

หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ฉันชอบพี่มาตั้งสามปี ถ้าพี่หย่ากับหวังเจียเหยา ฉันจะแย่งพี่มาทันที!”

เย่เฉินไม่ได้เถียงกับหล่อนเรื่องนี้จึงกล่าวถาม “หยวนหยวน เรื่องของเจียเหยาเธอได้บอกใครบ้างไหม? ทำไมไม่บอกฉัน?”

หวังหยวนหยวนก็ตอบตามตรง “ฉันไม่ได้บอกใครเลย พี่ชายฉัน พ่อฉันและคุณย่าฉันยังไม่บอกเลย เดิมทีอยากจะหาเวลามาบอกพี่ก่อน แต่เพราะช่วงนี้บริษัทพี่มีปัญหา ฉันเห็นพี่ไม่มีเวลาก็เลยว่าจะรอให้พี่ว่างแล้วค่อยบอกพี่”

“อ้อ” เย่เฉินผงกศีรษะ “เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกใครแล้วกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามให้หวังเจียเหยารู้ว่าฉันจับได้แล้ว”

“ได้ค่ะ” หวังเจียเหยารับคำอย่างว่าง่าย “สบายใจเถอะค่ะ ฉันไม่บอกใครหรอกค่ะ”

เย่เฉินผงกศีรษะแล้วกล่าว “เธอไปก่อนเถอะ มีอะไรเดี๋ยวฉันจะเรียกเอง ส่วนเรื่องเมื่อครู่ขอโทษด้วยนะ…”

บนใบหน้าหวังหยวนหยวนเต็มไปด้วยความสุข “ขอโทษอะไร ฉันดีใจมากเลยนะคะ เมื่อกี้เป็นจูบแรกของฉันเลยนะคะ!”

สามปีมานี้เย่เฉินอยู่บ้านตระกูลหวัง รู้ว่าหวังจื้อเฉียงเข้มงวดอย่างมาก เขาไม่อนุญาตให้บุตรสาวคบหากับผู้ชายสักคน

คำพูดของหล่อนเชื่อถือได้

แต่พูดไปแล้วก็น่าเจ็บใจ เขาไม่ได้ครอบครองจูบแรกของหวังเจียเหยา แต่กลับเป็นจูบแรกของน้องสาวของหล่อน

หวังหยวนหยวนเดินออกจากห้องทำงานด้วยท่าทีลำพองใจ ส่วนสภาพของเย่เฉินก็ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นแล้ว

บางทีเพราะเรื่องที่เกิดในสิบกว่านาทีก่อนเมื่อกี้ ทำให้เย่เฉินรู้สึกผิดกับหวังเจียเหยา

หลังจากที่หวังหยวนหยวนออกมาจากห้องทำงานเย่เฉินแล้ว หล่อนก็ไปเติมเครื่องสำอางในห้องน้ำ เพราะลิปสติกที่หล่อนเติมมาก่อนนี้ถูกเขาจูบจนหายไปหมดแล้ว

แต่ตอนที่ทาลิปสติกในห้องน้ำหล่อนก็พบกับฉินหงเหยียน

“พี่หงเหยียน”

หวังหยวนหยวนเห็นฉินหงเหยียนก็ดีใจอย่างยิ่ง เพราะฉินหงเหยียนเป็นลูกน้องที่เย่เฉินไว้ใจที่สุด แถมยังเคยตบหวังเจียเหยาเข้าฉาดใหญ่

ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร

ฉินหงเหยียนมองหวังหยวนหยวน แล้วสงสัยเล็กน้อยว่าชุดที่หวังหยวนหยวนใส่ทำไมถึงสกปรกแบบนี้?

ดูไปแล้วหล่อนก็เหมือนไปฟัดกับใครในโคลนมา

ในความทรงจำของหล่อน หวังหยวนหยวนถือเป็นเด็กผู้หญิงที่รักสะอาดอย่างมาก เสื้อผ้าสกปรกแบบนี้หล่อนเองยังไม่กล้าใส่ไปข้างนอกด้วยซ้ำ

ทว่าเรื่องแบบนี้เด็กผู้หญิงเองก็ถือทิฐิ หล่อนเองก็เกรงใจจนไม่กล้าจะถาม

“อ้อ คุณหนูหวังนี่เอง”

ฉินหงเหยียนตอบกลับ

หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “พี่หงเหยียนทำไมถึงได้ถึงได้เกรงใจกันแบบนี้ล่ะคะ เรียกฉันหยวนหยวนก็พอค่ะ จริงสิแล้วทำไมย้ายห้องทำงานไปแล้วล่ะคะ?”

ฉินหงเหยียนตอบเสียงเย็น “ก็ฝีมือพี่สาวคุณน่ะสิ ห้องทำงานเดิมของฉันตอนนี้กลายเป็นห้องทำงานของพี่สาวคุณหวังเจียเหยาไปแล้ว”

หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “พี่เขาก็จริงๆ เลย หล่อนเองก็ไม่ได้มาทำงานที่บริษัทบ่อยๆ เสียหน่อยแล้วจะแย่งห้องทำงานของพี่เจียเหยาทำไม? ไม่เป็นไรนะคะ พี่หงเหยียน พี่ไม่ต้องกังวลไป อีกเดี๋ยวฉันจะไปบอกเย่เฉินให้เขาคืนห้องทำงานเดิมให้พี่นะ”

ฉินหงเหยียนประหลาดใจอย่างมาก มือที่เดิมจะผลักประตูห้องน้ำก็ชะงักนิ่งไป

น้ำเสียงของหวังหยวนหยวนฟังไปแล้วเหมือนเป็นอะไรกับเย่เฉินอย่างนั้น

เย่เฉินจะเชื่อฟังในทุกอย่างที่หล่อนพูดเหรอ?

หวังหยวนหยวนตอนนี้ลำพองใจอย่างมาก เพราะจูบเมื่อครู่ของเย่เฉิน หนำซ้ำยังมีเรื่องที่หวังเจียเหยาทรยศเขาอีก

รอให้สองคนนั้นหย่ากันก่อนเถอะ หวังหยวนหยวนก็จะเป็นภรรยาของเขา เป็นภรรยาของประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป!

อย่างนั้นแล้วหวังหยวนหยวนย่อมต้องมีสิทธิ์จัดแจงว่าใครจะให้ห้องทำงานไหนบ้าง

ในขณะที่ฉินหงเหยียนกำลังงุนงงอยู่นั้นเอง หวังหยวนหยวนก็จัดแจงทาลิปสติกใหม่อีกครั้ง

จากนั้นก็ตบบ่าฉินหงเหยียนเบาๆ ทำท่าเหมือนผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อเด็ก เหมือนหัวหน้าปฏิบัติต่อลูกน้องแล้วกล่าว

“พี่หงเหยียนตั้งใจทำงานกับเย่เฉินทำให้บริษัทเติบโตนะคะ เย่เฉินเขาย่อมให้รางวัลอย่างงามอยู่แล้ว ”

พูดจบหวังหยวนหยวนก็เดินจากไป

“หวังหยวนหยวนไม่สบายหรือเปล่านะ?”

ฉินหงเหยียนงุนงง หลังจากล้างมือเป่ามือแล้วก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของเย่เฉิน

ทว่าหล่อนก็นึกถึงเมื่อครู่ที่เย่เฉินระเบิดอารมณ์ใส่โจวหรงหรงว่าไม่ให้ใครรบกวนเขา หล่อนก็ชะงักไปแล้วส่งวีแชทหาเขาก่อน

“คุณเย่คะ ฉันจะพบคุณที่ห้องทำงานได้ไหมคะ?”

เย่เฉินดูข้อความแล้วก็ลุกขึ้นจากพื้น

เขาในตอนนี้ไม่หัวเสียเหมือนตอนเพิ่งมาแล้ว เขาเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูแล้วกล่าว

“หงเหยียนเข้ามาสิมา”

หลังจากฉินหงเหยียนเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วหล่อนก็รีบร้อนกล่าวกับเย่เฉิน

“ไม่รู้ว่าหวังหยวนหยวนคนนั้นไม่สบายหรือเปล่า เมื่อครู่บอกว่าจะยกห้องทำงานของภรรยาคุณให้ฉัน ฉันอยากจะอธิบายกับคุณเย่สักหน่อยว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันร้องขอนะคะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ไม่พอใจอะไรในห้องทำงานเลย”

เย่เฉินนั่งลงเก้าอี้แล้วกล่าว “อ้อ คุณย้ายกลับมาที่ห้องทำงานเดิมสิ ห้องนั้นกว้าง ตำแหน่งก็ดี น่าจะส่งผลดีในการทำงานของคุณแล้วภรรยาของคุณล่ะ…”

ฉินหงเหยียนกลัวว่าหวังเจียเหยารู้แล้วจะไม่พอใจ

เย่เฉินกล่าวว่า “ผมจะบอกหล่อนเอง หงเหยียนคุณจำเอาไว้นะว่า คุณเป็นรองผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้ สิ่งที่คุณทุ่มเททำเพื่อบริษัทนี้มากกว่าหล่อนเยอะ ผมเป็นคนที่แยกเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานอย่างชัดเจน เพื่อเลี่ยงไม่ให้หล่อนใช้ผมหรือหุ้นมาข่มคุณ ผมตัดสินใจว่าจะให้หุ้นคุณอีก 2% เพื่อให้คุณถือหุ้นเยอะเป็นลำดับที่สอง!”