“จริงเหรอ?”

ฉินหงเหยียนดีใจจนเสียอาการอย่างเห็นได้ชัด

เรื่องที่หวังเจียเหยาเอาแต่ใช้สถานะภรรยาท่านประธานมาข่มหล่อนนั้น หล่อนรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับตนเองมาโดยตลอด

ฉินหงเหยียนเป็นคนเก่าแก่ของบริษัท หล่อนทำงานที่บริษัทแห่งนี้ก่อนที่เย่เฉินจะเข้ามาที่บริษัทเสียอีก หญิงสาวทุ่มเททำเพื่อบริษัทมากมาย

หวังเจียเหยาล่ะเคยทำอะไรบ้าง?

มีสิทธิ์อะไรมาใช้ห้องทำงานที่ดีขนาดนั้น?

จู่ๆ ฉินหงเหยียนก็เกิดสงสัย “คุณเย่ คุณกับหวังเจียเยา…. ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันใช่ไหมคะ?”

เรื่องไม่ดีในครอบครัวเขาย่อมไม่สามารถบอกฉินหงเหยียนได้

“พวกเรารักกันดี หล่อนเพิ่งตั้งท้อง พวกเรารักกันมากแต่ตอนนี้ผมพบว่าผมชักจะตามใจหล่อนมากเกินไปจนปล่อยปละละเลยพวกคุณไป ทำแบบนี้ไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีเลย”

ฉินหงเหยียนไม่สงสัยอะไรอีก หล่อนยิ้มแล้วกล่าว “คุณเย่รักภรรยาขนาดนี้ถือเป็นต้นแบบของผู้ชายที่ดีจริงๆ พนักงานอย่างเราๆ ไม่กล้าจะหึงหวงท่านประธานหรอกค่ะ”

เย่เฉินอดชะงักมองเรือนร่างที่งดงามของฉินหงเหยียนหลายวินาทีไม่ได้

เมื่อครู่ที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหวังหยวนหยวน ยังส่งผลให้ตอนนี้อารมณ์เย่เฉินยังคงคุกรุ่นอยู่เมื่อเห็นผู้หญิงสวยๆ ก็อดทนไม่ไหว

ฉินหงเหยียนเองก็เป็นผู้หญิงที่สวยในบรรดาผู้หญิงด้วยกัน เย่เฉินจะไม่คิดอะไรกับหล่อนก็เป็นไปไม่ได้

พูดกันตามตรงถึงแม้ว่าฉินหงเหยียนจะเป็นผู้หญิงที่สวยสุดยอดที่อยู่ข้างกายเย่เฉิน แต่เย่เฉินก็ไม่ได้ดีกับหล่อนเท่าไหร่

ตั้งแต่ฉินหงเหยียนรู้ว่าเย่เฉินเป็นท่านประธานแล้วก็เป็นเฝ่ายเข้าหาเขา

แต่เย่เฉินเย็นชากับหล่อนอย่างยิ่ง เขาปฏิบัติต่อหล่อนเหมือนหญิงสาวเป็นลูกน้องทั่วไป

ตอนนี้เย่เฉินเสียใจภายหลังแล้วจริงๆ ต่อให้เลือกฉินหงเหยียนในตอนแรกก็น่าจะดีกว่าเลือกหวังเจียเหยา!

อย่างน้อยๆ ฉินหงเหยียนก็เป็นคนปากตรงกับใจ ไม่เหมือนหวังเจียเหยาที่ภายนอกดูใสซื่อบริสุทธิ์ แต่เบื้องหลังกลับเจ้าชู้หว่านสเน่ห์ผู้ชายไปทั่ว!

เย่เฉินกล่าวว่า “หงเหยียนเที่ยงนี้ว่างไหม? ผมจะเลี้ยงข้าวคุณ”

พอฉินหงเหยียนได้ยินก็ดีใจอย่างมาก “ได้สิคะ ฉันอยากกินบะหมี่กุ๊กไก่ร้านนอกเมืองพอดี”

……

พอถึงตอนเที่ยงเย่เฉินและหวังเจียเหยาก็เดินไปที่ลานจอดรถใต้ดินด้วยกันด้วยกัน แล้วขึ้นรถมายบัคให้คนขับรถไปส่งพวกเขาที่เมืองหยินไท่ก่อน

ในที่นั่งด้านหลังเย่เฉินรินแชมเปญแก้วหนึ่งให้ฉินหงเหยียนแล้วส่งให้หล่อน

“ไปซื้อของที่หยินไท่ก่อนแล้วค่อยไปกินข้าวได้ไหม?”

ฉินหงเหยียนที่เป็นลูกน้องไหนเลยกล้าจะคัดค้าน แต่ไหนแต่ไรมาจะกินได้ก็ต่อเมื่อเจ้านายกินเท่านั้น

ฉินหงเหยียนรับแชมเปญจากอีกฝ่าย “ได้สิคะแน่นอน แต่ว่าคุณเย่…”

“เรียกชื่อผมก็พอ”

เย่เฉินเองก็รินแชมเปญให้ตนเองแก้วหนึ่ง

“เย่เฉินวันนี้มีเรื่องดีอะไรถึงต้องดื่มแชมเปญฉลองเหรอคะ?”

ฉินหงเหยียนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม แชมเปญที่ถูกเตรียมบนรถหล่อนก็เป็นคนเตรียมให้เขา

เย่เฉินดื่มแชมเปญเพื่อฉลองให้ตนเองที่ในที่สุดก็ตาสว่างมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหญิงสาว สุดท้ายก็ปล่อยมือจากความสัมพันธ์นี้ไปได้เสียที

ทว่าเย่เฉินกลับกล่าวว่า “ฉลองที่บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปของเรารอดจากการโดนปั่นหุ้นไง”

ฉินหงเหยียนชนแก้วกับเขา “ตลาดหุ้นวันจันทร์ หุ้นของพวกเราจะต้องขึ้นอีกค่ะ!”

เย่เฉินไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ตอบรับ สิ่งที่ฉินหงเหยียนไม่รู้ก็คือทันทีที่ตลาดหุ้นเปิดในวันจันทร์หุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปจะร่วงหนัก !

พอถึงตอนนั้นเย่เฉินจะถูกขับออกจากตระกูล และจะไม่เป็นท่านประธานผู้บริหารของหัวเซิ่งกรุ๊ปอีกต่อไป!

ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนร่วมงานของเย่เฉินและฉินหงเหยียน จะเหลือแค่วันเสาร์และอาทิตย์แล้ว!

ดังนั้นเย่เฉินถึงได้อยากเลี้ยงข้าวฉินหงเหยียน และซื้อให้ของอีกฝ่ายเล็กน้อยเพื่อขอบคุณในความช่วยเหลือของหล่อน

เมื่อมาถึงหยินไท่ เย่เฉินรู้ว่าฉินหงเหยียนชอบกระเป๋าชาแนลจึงเดินตรงไปที่บูทีคชาแนล

พนักงานในบูทีคก็มองออกทันทีว่าเย่เฉินคือประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

บวกกับที่ฉินหงเหยียนที่อยู่ข้างกายเขานั้นสวยสง่าแค่มองก็รู้ว่าหล่อนเป็นคนมีเงิน จึงทักทายอย่างเป็นมิตร

เย่เฉินถูกใจกระเป๋าสีแดง เขาหยิบแล้วส่งให้ฉินหงเหยียนดูพลางถาม “หงเหยียนคุณชอบกระเป๋าใบนี้ไหม?”

ฉินหงเหยียนผงกศีรษะ “ชอบมากทีเดียวค่ะ แต่หวังเจียเหยาน่าจะชอบสีอ่อนหน่อยนะคะ”

เย่เฉินส่งกระเป๋าให้พนักงาน “ห่อใบนี้ให้หน่อยครับ”

ฉินหงเหยียนประหลาดใจ

กระเป๋ามูลค่าหกแสน หลังจากเย่เฉินรูดบัตรจ่ายเงินแล้วก็ส่งกระเป๋าให้ฉินหงเหยียน “ใบนี้ให้คุณ”

ฉินหงเหยียนตกใจจนเอามืออุดปาก “เย่เฉิน…”

คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะซื้อกระเป๋าชาแนลมูลค่าหกแสนให้หล่อน!

เย่เฉินตบไหล่บางของอีกฝ่ายแล้วกล่าว “เอาไปเถอะ ช่วงนี้บริษัทเจอเรื่องมามาก คุณยุ่งทุกวันได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง คุณลำบากแล้ว นี่คือรางวัลของคุณ”

เย่เฉินจ่ายเงินแล้ว แต่นี่กระเป๋าผู้หญิงที่เหมาะกับสุภาพสตรีไม่ใช่แบบที่หวังเจียเหยาชอบ

ดังนั้นฉินหงเหยียนจึงไม่บอกปัดอีก หล่อนรับกระเป๋ามาแล้วกล่าว “ขอบคุณนะคะคุณเย่!”

“ไปกันเถอะ ไปกินข้าวกัน!”

เย่เฉินและฉินหงเหยียนออกจากเมืองด้วยกัน หัวร่อต่อกระซิกกันจนถึงสี่โมงเย็นถึงจะกลับไปที่บริษัท

หลายชั่วโมงที่ผ่านมานี้ฉินหงเหยียนรู้สึกไปเองราวกับว่าตนเองเป็นแฟนของเขา เพราะเย่เฉินไม่เคยดีกับหล่อนแบบนี้มาก่อน

เย่เฉินเองก็คิดได้แล้ว

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เขาประคบประหงมหวังเจียเหยาอย่างมาก ไม่ว่าอะไรก็ซื้อให้หล่อน อะไรก็ยอมหล่อนไปเสียหมด

ผลคือ?

สิ่งที่ได้มาคือการทรยศหักหลัง!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เย่เฉินมอบความรักพวกนี้แบ่งปันให้คนรอบกายที่คู่ควรน่าจะดีกว่า!

ในตอนที่เย่เฉินและฉินหงเหยียนไปกินข้าวด้วยกันที่นอกเมือง หวังเจียเหยากำลังสนทนากับซ่งหงเย่อยู่

หวังเจียเหยากล่าว “เธอติดต่อหลิ่วอวี่เจ๋อได้ไหม? เหมือนเขาจะออกไปจากอวิ๋นโจวแล้วเลย”

ซ่งหงเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่เขาไปแล้ว กลับเทียนไห่ไปแล้วน่ะ ฉันว่าเพราะสู้สามีเธอไม่ได้ ถึงได้แอบชิ่งหนีไป เจียเหยาดีใจด้วยนะตระกูลเย่ร้ายกาจจริงๆ”

หวังเจียเหยาเองก็ดีใจมาก “เป็นอย่างนี้เองเหรอ? ฉันก็ว่า! ตระกูลที่ยิ่งใหญ่แบบตระกูลหลิ่วหาเรื่องบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป ถ้าเป็นคนอื่นบริษัทคงเจ๊งไปนานแล้ว แต่เย่เฉินกลับมีความสามารถที่จะประคับประคองไม่ให้บริษัทล้ม ทรัพย์สินของตระกูลเย่เยอะเกินประมาณจริงๆ โชคดีที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเขา!”

พอย้อนคิดถึงหลายวันที่ผ่านมาในช่วงนี้ หวังเจียเหยาตัวติดหลิ่วอวี่เจ๋ออยู่ตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็น แถมยังมีหลายชั่วโมงที่พวกเขาอยู่ากันตามลำพัง

หลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบหวังเจียเหยาอย่างบ้าคลั่ง จนหวังเจียเหยาเกือบโอนอ่อนไปกับเขาแล้วทำเรื่องที่ผิดต่อสามีตนเอง

ซ่งหงเย่กล่าวว่า “อยากให้ไปถึงวันจันทร์เร็วๆ ดูว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะโดนเย่เฉินเล่นงานจนเละเทะยังไง!”

ก่อนหน้านี้ซ่งหงเย่ถูกหลิ่วอวี่เจ๋อคุกคาม ทำให้หล่อนเกลียดชังเขาเหลือเกิน!

เมื่อเห็นตระกูลหลิ่วโดนตระกูลเย่เล่นงาน โดยตระกูลเย่เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดทำให้หล่อนรู้สึกสะใจอย่างมาก

และเวลาก็ผ่านไป แล้ววันจันทร์ก็มาถึงอย่างรวดเร็ว

วันจันทร์ตลาดหุ้นเปิด สงครามระหว่างเย่เฉินและหลิ่วอวี่เจ๋อก็เปิดฉากอีกครั้ง!

คนในวงการกล่าวกันว่าวันนี้ตอนเช้าราคาหุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปจะเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะของทั้งสองฝ่าย!

วิลล่าเขตเฝยชุ่ย จากเทียนไห่

หลิ่วอวี่เจ๋อกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ สูบบุหรี่อย่างร้อนใจ ส่วนฟางเชานั่งข้างๆ เขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเหมือนกัน

“อวี่เจ๋อจะปิดคำสั่งซื้อขายไม่ได้นะ! ต้องสู้กับเย่เฉินต่อ! นายไม่อยากนอนกับหวังเจียเหยาเหรอ? ฉันแนะนำให้นายไปฟังคลิปเสียงอีกรอบ!”

ฟางเชากล่าวอย่างโกรธจัด