เล่มที่ 5 บทที่ 146 นางจิ้งจอกต้องมีอะไรแอบแฝงแน่

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวจินจ้องมองด้วยอารมณ์โทสะ “เซียววั่ง หากข้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้กล่าวเช่นนี้ ไม่กี่วันก่อนเจ้ายังบอกกับข้าว่าภรรยาเซียวยวี่มีดีแค่หน้าตา ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง! ”

เซียววั่งรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย คลำศีรษะพร้อมกล่าว “คือเรื่องนั้น อดีตคืออดีต ตอนนี้คือตอนนี้ คือ… มันจะเหมือนกันได้อย่างไร! ก่อนหน้านี้ข้ามีอคติต่อภรรยาเซียวยวี่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วไม่ใช่หรือ? ข้ารู้สึกว่าภรรยาเซียวยวี่ดีมากทีเดียว”

ระหว่างที่เขากล่าว ยังขยับปากทำเสียงแจ๊บๆ อยู่เลย

ช่วงเช้ากินน้ำแกงปลาหนึ่งชาม หมูตุ๋นน้ำแดงหนึ่งชาม กินจนไม่เหลือน้ำแม้แต่หยดเดียว ยังบอกว่าภรรยาเซียวยวี่ทำอาหารไม่เป็นอีก?

ถุยถุยถุย!

อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ช่วยคนอื่นสร้างบ้าน ย่อมได้รับค่าแรง ครอบครัวทั่วไป จะเลี้ยงอาหารเริ่มงานมื้อแรก และอาหารเสร็จงานในมื้อสุดท้าย มีเพียงสองมื้อเท่านั้น

นี่เพิ่งกินอาหารเริ่มงานไป เขาก็คิดเรื่องกินอาหารเสร็จงานแล้ว!

เซียวจินโมโหจนแทบกระอักเลือด “เจ้า…”

เซียวหย่งหัวเราะพร้อมกล่าว “ได้ยินหรือยัง เขาไม่ได้รู้สึกว่าภรรยาเซียวยวี่ไม่ดี กลับเป็นเจ้า ทั้งที่เป็นชายชาตรี มาพูดจายุแยงให้คนอื่นแตกคอ เจ้ายังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่? “

เซียวจิน “ข้าไม่เป็นบุรุษตรงไหนกัน? เซียวยวี่แต่งกับสตรีเช่นนั้นเป็นความโชคร้ายของเขา! “

เซี่ยยวี่หลัวกำลังต้มน้ำอยู่ในห้องครัวเพื่อชงชาให้ทุกคน ใบอ่อนเก๋ากี้ที่นางเก็บกลับมาครั้งก่อน นำออกมาส่วนหนึ่งชงน้ำร้อนให้ทุกคนดื่มได้พอดี นางย่อมไม่รู้ว่าข้างนอกมีคนกำลังนินทาว่าร้ายนาง

เซียวจิ้งยี่ออกจากห้องมาพอดี จึงได้ยินวาจาของเซียวจินที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง

เซียวจิ้งยี่รู้ว่าเซียวจินไม่พอใจเซี่ยยวี่หลัวเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องเถียนเอ๋อภรรยาของเขาในครั้งก่อน มีความเกี่ยวข้องกับเซี่ยยวี่หลัวไม่มากก็น้อย เพียงแต่…

“ภรรยาเซียวยวี่เป็นคนอย่างไร ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า กลับไปดูแลภรรยาของเจ้าให้ดีก็พอแล้ว! ” เซียวจิ้งยี่กล่าวด้วยท่าทีเคร่งขรึม “อย่าเที่ยวหาเรื่องโดยใช่เหตุไปทั่ว หากมีคราวหน้าอีก ข้าจะไม่ปล่อยไปแน่! ”

จู่ๆ เซียวจินก็ได้ยินเสียงของหัวหน้าหมู่บ้านดังขึ้นด้านหลังตัวเอง ตกใจจนไม่กล้ากล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว เขาไม่กล้าล่วงเกินหัวหน้าหมู่บ้าน ได้แต่ถลึงตามองเซียวหย่งและคนอื่นๆ ที่พยายามกลั้นหัวเราะอยู่ ก่อนจะเดินจากไปด้วยอารมณ์โมโห

เขาถามไม่ได้ความอะไร กลับโดนหัวหน้าหมู่บ้านว่ากล่าวตักเตือน กลับไปแล้วจึงก่นด่าเถียนเอ๋อ

เถียนเอ๋อโดนด่า รู้สึกมึนงง “เจ้ากินดินระเบิดมาหรืออย่างไร ข้าไปทำอะไรให้เจ้า ด่าข้าทำไม! ”

เซียวจินชี้จมูกเถียนเอ๋อพร้อมกล่าว “เป็นเพราะเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะโดนหัวหน้าหมู่บ้านด่าหรือ? ”

เถียนเอ๋อมึนงงหนักกว่าเดิม “เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? ”

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า? หากไม่ใช่เพราะเซี่ยยวี่หลัวนั่นทำไม่ดีต่อเจ้า ข้าจะไปหาเรื่องนางทำไม ใครจะรู้ว่าวันนี้หัวหน้าหมู่บ้านก็อยู่ ด่านางไม่สำเร็จ กลับโดนหัวหน้าหมู่บ้านต่อว่า! ” เซียวจินกล่าวอย่างไม่พอใจ

เถียนเอ๋อ “เหตุใดวันนี้หัวหน้าหมู่บ้านถึงอยู่ที่บ้านเซี่ยยวี่หลัวได้? ”

เซียวจิน “บ้านเซียวยวี่จะปลูกเรือนหลังคากระเบื้องสองห้อง พวกเซียวหย่งล้วนกำลังช่วยสร้าง! ”

“ปลูกเรือนหลังคากระเบื้อง? ” เถียนเอ๋อได้ฟังก็ตกใจจนแทบกระโดดขึ้น “เรือนหลังคากระเบื้องหนึ่งห้องต้องใช้เงินสามถึงสี่ตำลึง เซี่ยยวี่หลัวมีความสามารถอะไร สร้างทีเดียวสองห้อง เช่นนั้นต้องใช้เงินเจ็ดถึงแปดตำลึงไม่ใช่หรือ? นางเอาเงินมาจากไหน? ”

เซียวจินกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้า ข้าจะไปถามใคร! ”

เถียนเอ๋อ “บ้านเซียวยวี่ยากจนเพียงใดใครบ้างไม่รู้ บิดามารดาเขาล้มป่วย ต่อให้มีเงินก็ใช้หมดไปนานแล้ว ขายบ้านไป ไม่ติดหนี้สินภายนอก แต่ภายในบ้านก็แทบไม่เหลือแม้แต่อีแปะเดียว ตอนนี้เซียวยวี่ออกไปสอบ เซี่ยยวี่หลัวเอาเงินปลูกเรือนหลังคากระเบื้องสองห้องตั้งมากมายมาจากไหนกัน? ”

เซียวจินไม่ได้สนใจนาง “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้าไม่ใช่คนให้เงินเสียหน่อย! ”

กล่าวจบก็กำลังจะออกบ้าน เถียนเอ๋อดึงเขาไว้ “เจ้าไม่แปลกใจหรือ ว่าเซี่ยยวี่หลัวเอาเงินจากที่ไหนมาปลูกเรือน? ”

จู่ๆ เซียวจินก็นึกถึงคำเตือนที่เซียวจิ้งยี่เอ่ยเตือนเขาก่อนจะกลับมา “เจ้าคิดอะไรอีก? เจ้าอย่าวุ่นวาย ถึงเวลาหากหัวหน้าหมู่บ้านกล่าวโทษ อย่าโทษที่ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้! ”

เถียนเอ๋อ “ข้าจะคิดอะไร หากเซี่ยยวี่หลัวมีปัญญาปลูกเรือนจริง นางจะปลูกเรือนเป็นร้อยหลังข้าก็ไม่รู้สึกแปลกใจ! แต่ทั้งที่บ้านนางยากจนแทบตาย จะเอาเงินจากที่ไหนมาปลูกเรือน? เซียวจิน เจ้าไม่รู้สึกประหลาดใจงั้นหรือ? ”

เซียวจินขมวดคิ้ว ไม่ได้กล่าวอะไร

เถียนเอ๋อกล่าวต่อ “เจ้าเคยคิดหรือไม่ หากเซี่ยยวี่หลัวทำอะไรที่ผิดต่อหมู่บ้านสกุลเซียวของเราขึ้นมา เจ้าว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเราหรือไม่? หากนางทำอะไรที่น่าอับอายจริง ต่อไปคนหมู่บ้านสกุลเซียวของเราเดินออกไป จะยังมีหน้ามีตาอีกหรือ? ”

คราวนี้ในที่สุดเซียวจินก็เข้าใจแล้ว “เจ้าหมายความว่า เซี่ยยวี่หลัวคบชู้? ”

เถียนเอ๋อ “นางจิ้งจอกนั่นถนัดการล่อลวงบุรุษเป็นที่สุด เซียวยวี่ไม่อยู่บ้าน เจ้าว่าทำไมนางถึงมีชีวิตดีนัก? เจ้าดูของที่นางกินเสื้อที่นางใส่ แล้วเจ้าลองดูสองพี่น้องเซียวจื่อเซวียน ระยะนี้มีน้ำมีนวล รูปร่างหน้าตาราวกับเทพเซียนตัวน้อยในภาพวาดก็มิปาน เซี่ยยวี่หลัวเอาเงินจากที่ไหนมาให้เด็กสองคนได้กินดีขนาดนั้น? ”

เซียวจินไม่กล่าวอะไรอีก เห็นได้ชัดว่าหวั่นไหวกับวาจาของเถียนเอ๋อ

“แล้วหากเป็นเงินของนางเองเล่า? หัวหน้าหมู่บ้าน…” จะอธิบายได้อย่างไร!

หากเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริงอีก หัวหน้าหมู่บ้านไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่!

เถียนเอ๋อหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “แล้วหากเป็นเรื่องจริงเล่า? “

เซียวจิน “…”

“หากเป็นเรื่องจริง พวกเราจับตัวคนไร้ยางอายให้หมู่บ้านสกุลเซียวได้ เจ้าว่าหัวหน้าหมู่บ้านยังจะพูดอะไรได้อีก? เขาจะไม่ขอบคุณพวกเราเชียวหรือ? “

เถียนเอ๋อกล่าว “หมู่บ้านสกุลเซียวของเรา ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนล้วนใช้ชีวิตอย่างสัตย์ซื่อและรู้หน้าที่ของตนเอง ไม่เคยเกิดเรื่องไม่ดีงาม ลูกสาวบ้านไหนบ้างไม่อยากแต่งเข้าหมู่บ้านสกุลเซียวของเรา? สตรีจากหมู่บ้านสกุลเซียวของเราก็มีแต่คนหมายปอง แต่หากเซี่ยยวี่หลัวทำให้ชื่อเสียงของหมู่บ้านสกุลเซียวต้องเสื่อมเสีย…”

เซียวจิน “หัวหน้าหมู่บ้านต้องถลกหนังของนางแน่! “

สองสามีภรรยาหันสบตากัน ต่างก็เห็นพ้องต้องกันแล้ว

นางจิ้งจอกเซี่ยยวี่หลัวต้องมีอะไรแอบแฝงแน่!

เซี่ยยวี่หลัวไม่รู้ว่าเถียนเอ๋อคิดร้ายต่อนางอีกแล้ว เวลานี้นางกำลังพูดคุยเรื่องการทำอาหารกับกวั่นซื่ออย่างใจเย็น!

หลังจากกวั่นซื่อพูดคุยกับเซี่ยยวี่หลัวในช่วงเช้า ก็รู้สึกชอบเซี่ยยวี่หลัวมากนัก ตอนนี้จับมือเซี่ยยวี่หลัว ยิ้มพร้อมกล่าว “เซียวยวี่ช่างโชคดีเสียจริง ได้แต่งกับภรรยาอย่างเจ้า ใช่แล้ว คนเรียนหนังสือชอบความสะอาดและความเงียบสงบ เจ้าทำห้องให้เขาได้อ่านตำราโดยเฉพาะ ถือเป็นความคิดที่ดี”

ใบหน้าเซี่ยยวี่หลัวร้อนผ่าวเล็กน้อย ภรรยาที่ดีงั้นหรือ? นางไม่ใช่ภรรยาที่ดีเลย ไม่ได้ทำหน้าที่ภรรยาเลยแม้แต่น้อย

ทว่า นางไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า เพียงกล่าวด้วยท่าทางเหนียมอายเล็กน้อย “ท่านป้ากวั่น ข้าเพียงเห็นว่าบ้านนี้แคบเกินไป มีคนเยอะแต่มีห้องน้อย ถึงเวลาหากมีห้องให้เซียวยวี่ได้อ่านตำราโดยเฉพาะ ก็น่าจะเงียบสงบขึ้นมากเจ้าค่ะ”

แววตาที่กวั่นซื่อมองเซี่ยยวี่หลัวแฝงเร้นด้วยความอ่อนโยนและเมตตาเอ็นดู