ตอนที่ 301 คือนางผู้หยิ่งผยอง (4) / ตอนที่ 302 พวกเขาช่างดุร้ายเหลือเกิน (1)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 301 คือนางผู้หยิ่งผยอง (4)

หมาป่าสีขาวด่าจนพอใจแล้ว ความโมโหก็ถูกระบายไปพอสมควรแล้ว มันจึงกระโจนเข้าไปกัดคอผู้มีฌานระดับหลิงอู่คนนั้นจนขาด

ส่วนผู้มีฌานระดับหลิงอู่ตรงหน้าเฟิงหรูชิงล้มลงบนกองเลือด ไร้ลมหายใจ

เสิ่นเยว่ตะลึง

พวกทูตทั้งหลายตกใจจนเป็นลม

ทุกคนต่างคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้

แคว้นหลงอ้าวไม่นับรวมฮ่องเต้ มีฌานระดับหลิงอู่รวมหกคน

ชั่วพริบตาเดียว กลับตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง?

ตอนนี้ เสิ่นเยว่เริ่มตัวสั่น สีหน้าดูกระวนกระวาย

เขารู้สึกพลาด พลาดที่หาเรื่องแคว้นหลิวอวิ๋นโดยไม่ดูจังหวะจะโคน และยิ่งรู้สึกพลาด…ที่ทำร้ายเฟิงเทียนอวี้!

เมื่อเห็นเฟิงหรูชิงเดินเข้ามาใกล้ เขาถอยหลังแบบไม่รู้ตัว “เจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นถึงองค์ชายของแคว้นหลงอ้าว ถ้าเจ้าฆ่าข้า แคว้นหลงอ้าวไม่มีทางไว้ชีวิตพวกเจ้าแน่นอน!”

เฟิงหรูชิงหัวเราะในลำคอ

“แคว้นหลงอ้าวไม่ไว้ชีวิตพวกข้าอย่างนั้นหรือ พูดอย่างกับถ้าข้าไม่ฆ่าเจ้า แคว้นหลงอ้าวจะปล่อยพวกเราไปอย่างนั้น”

เสิ่นเยว่รีบพยักหน้า “ถูกต้อง ขอเพียงเจ้าไว้ชีวิตข้า แคว้นหลงอ้าวจะปล่อยพวกเจ้าไป”

เอื้อ!

เฟิงหรูชิงชักกระบี่ขององครักษ์ออกมา กระบี่ฟันควับ อกของเสิ่นเยว่ถูกฟันเป็นแผล เลือดไหลนองไม่หยุด

“เจ้าโง่หรือคิดว่าข้าโง่กันแน่” เฟิงหรูชิงเอานิ้วสัมผัสสันกระบี่ที่เย็นเฉียบ ใบหน้าของนางมีรังสีอำมหิตที่ยังไม่จางหายไป “ท่านพี่ เมื่อครู่เขาทำร้ายท่านอย่างไร ข้าจะทำคืนให้ เอาให้เกือบตายแต่ไม่พิการก็พอ ข้าอยากให้เขารู้ว่าแคว้นหลงอ้าวจะล่มสลายเพราะข้าได้อย่างไร!”

ฉวยโอกาสตอนที่นางไม่อยู่ มาทำร้ายคนของนาง!

ถ้าไม่มีคำสั่งจากฮ่องเต้ของแคว้นหลงอ้าว มีหรือที่เสิ่นเยว่จะกล้าโอหังขนาดนี้

แถมยังพาผู้มีฌานระดับหลิงอู่มาด้วยสามคน?

แสดงให้เห็นว่าพวกเขามาเพราะต้องการยึดแคว้นหลิวอวิ๋น!

ดังนั้น แค่ฆ่าตาแก่สามคนนี้จะมีประโยชน์อะไร สิ่งที่นางต้องการคือแคว้นหลงอ้าวสูญหายไปจากโลก!

ระหว่างที่เฟิงหรูชิงกำลังพูด นางยื่นนิ้วไปชี้ที่หน้าอกเสิ่นเยว่

พลังวิเศษพุ่งออกจากปลายนิ้วของนางมุ่งตรงไปยังจุดตานเถียนของเขา เมื่อถูกพลังวิเศษโจมตี จุดตานเถียนของเขาแตกกระจาย เขาปวดจนกระอักเลือดออกมา ใบหน้าซีดขาว

“เจ้าไม่กลัวคนของจวนเฟิงอวิ๋นจริงหรือ” เขากัดฟันพูด

เฟิงหรูชิงยังย้ำคำเดิม “พูดอย่างกับถ้าข้าไว้ชีวิตเจ้า แล้วเจ้าจะไม่ให้คนของจวนเฟิงอวิ๋นมาหาเรื่องข้าอย่างนั้นล่ะ”

ในเมื่อคนของจวนเฟิงอวิ๋นจะมาหาเรื่องนาง นางลงมือให้มันแล้วๆ ไปเลยจะดีกว่า เริ่มจากจัดการเสิ่นเยว่ แล้วปราบแคว้นหลงอ้าวให้สิ้นซาก ที่เหลือค่อยว่ากันอีกที

“เฟิงหรูชิง เจ้าเหมือนแม่เจ้าไม่มีผิด ผู้หญิงชั่ว!”

เอื้อ!

แววตาของเฟิงหรูชิงดูไม่สบอารมณ์ นางกระทืบอกของเสิ่นเยว่ เสียงของนางดูร้ายกาจทำให้คนหวาดกลัว

“คำพูดเมื่อครู่ เจ้าลองพูดอีกทีซิ?”

เสิ่นเยว่เงียบกริบ

ผู้หญิงคนนี้ร้ายยิ่งกว่าน่าหลานเยียน อย่างน้อยน่าหลานเยียนจะฆ่าก็รีบฆ่า ไม่ใช้วิธีค่อยๆ ทรมานศัตรูแบบนี้!

เฟิงหรูชิงถีบเสิ่นเยว่ เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร นางจึงยกเท้าออกจากตัวเขา

“ท่านพี่ ข้ายกเขาให้ท่าน อย่าเอาถึงตายล่ะ ข้าจะให้เขาเห็นว่าข้าทำแคว้นหลงอ้าวให้ล่มสลายได้อย่างไร!”

น่าหลานจิ้งมองเฟิงหรูชิงแบบอึ้งๆ

เขามีความรู้สึกที่ยากเกินอธิบาย คิดไม่ถึงว่านางจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ไวเพียงนี้

เสิ่นเยว่ที่ทำตัวโอหังเมื่อสักครู่ บัดนี้กลายเป็นนักโทษของพวกเขาเสียแล้ว

“ชิง…เอ๋อร์…”

เสียงที่อ่อนระทวยดังมาจากด้านหลัง

เมื่อเฟิงหรูชิงได้ยินเสียงนั้น นางไม่สนใจใครอีกแล้ว นางรีบหันหลังแล้วเดินเข้าไปหาเฟิงเทียนอวี้ นางกุมมือเขาแน่น “เสด็จพ่อ หม่อมฉันอยู่นี่เพคะ”

เฟิงเทียนอวี้มองดูหญิงสาวตาไม่กะพริบ ในขณะที่ภาพกำลังเลือนราง เขาเห็นใบหน้างดงามที่มีรอยยิ้มเหมือนเมื่อครั้งสิบหกปีก่อน

ตอนที่ 302 พวกเขาช่างดุร้ายเหลือเกิน (1)

“เจ้าช่างเหมือน…แม่เจ้าจริงๆ…แค่กๆ !”

เฟิงเทียนอวี้พูดได้ไม่กี่คำก็ไอ มุมปากของเขามีเลือดไหลม่านตาเบิกกว้างสีหน้าท่าทางคล้ายกับเปลวเทียนที่ริบหรี่

“เสด็จพ่อ!”

สีหน้าของเฟิงหรูชิงเปลี่ยนไปทันที

เดิมอาการของฮ่องเต้ยังพอประคับประคองได้ครึ่งปี แต่วันนี้เขาใช้พลังวิเศษจึงทำให้พิษแผ่ซ่านไปทั่วร่างเกินกว่าจะควบคุม

ดูท่าเขาคงอยู่ได้อีกแค่เดือนเดียว!

“ท่านลุง ท่านพาเสด็จพ่อไปพักก่อน” เฟิงหรูชิงค่อยๆ ยืนขึ้น แววตาของนางมีประกายเด็ดเดี่ยว “เรื่องที่เหลือ ข้าจะเป็นคนจัดการเอง”

ในที่สุดน่าหลานฉางเฉียนก็เปิดปากถามในสิ่งที่ก่อนหน้านี้พูดไม่ออก

“ฝ่าบาท จะมีทางรอดหรือไม่”

อาการบาดเจ็บฟื้นฟูไม่ยาก แต่การขับพิษออกจากร่างกายนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“เสด็จพ่อต้องไม่เป็นอะไร!” แววตาของเฟิงหรูชิงดูเศร้า

ไม่ว่าอย่างไร…ภายในเวลาหนึ่งเดือน นางจะทำให้เสด็จพ่อหายเป็นปลิดทิ้งให้ได้

เนื่องจากหมาป่าสีขาวเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว เฟิงหรูชิงขี่หลังมันมา จึงมาถึงวังหลวงก่อนคนอื่นๆ

ส่วนคนของทัพเลือดเหล็กตามมาถึงในภายหลัง

ในชั่ววินาทีที่ทัพเลือดเหล็กปรากฏตัว แววตาของทุกคนดูตกใจไม่เชื่อสายตาของตัวเอง

เสิ่นเยว่องค์ชายสองของแคว้นหลงอ้าวตกตะลึงยิ่งกว่าใครๆ

เขารู้สึกได้ว่า ทหารทุกคนของทัพเลือดเหล็กมีกำลังความสามารถมากกว่าเขา

แถมยังมีทหารสองนายที่บรรลุฌานระดับหลิงอู่แล้ว

“ถังจือ” เฟิงหรูชิงน้ำเสียงเข้ม “เจ้าพาทัพเลือดเหล็กไปจับตัวฮ่องเต้ของแคว้นหลงอ้าวมาให้ข้า! ใครขวางทางฆ่ามันให้หมด!”

“เจ้าค่ะ นายหญิง”

ถังจือพูดด้วยความนอบน้อม

ครั้งนี้แคว้นหลงอ้าวทำให้นายท่านโมโหอย่างถึงที่สุด ดังนั้นจุดจบของพวกเขาคือบ้านเมืองล่มสลาย

“อีกอย่าง ให้พวกเจ้าจับมาแค่พวกเชื้อพระวงศ์ ห้ามทำอะไรพวกชาวบ้าน เว้นเสียแต่พวกเขาลงมือก่อน”

นางไม่ใช่ฆาตกรโหดเหี้ยมอำมหิตที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า

และไม่ใช่คนที่เห็นชีวิตของผู้อื่นเป็นผักปลา

คนที่นางจะฆ่ามีเพียงคนที่รุกรานแคว้นหลิวอวิ๋น ไม่ใช่เพราะการต่อสู้กันนิดหน่อย ก็จะเข่นฆ่าคนของแคว้นหลงอ้าวให้หมดสิ้น

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ” แววตาของถังจือดูน่ากลัว

สิบกว่าปีก่อน นางเคยติดตามฮองเฮาบุกเข้าแคว้นหลงอ้าวมา บัดนี้แคว้นหลงอ้าวจะต้องล่มสลายด้วยฝีมือขององค์หญิง

เสิ่นเยว่มองดูเฟิงหรูชิงแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง “เจ้าคิดว่าลำพังกำลังความสามารถของเจ้า จะรับมือกับแคว้นหลงอ้าวของพวกข้าได้หรือ”

นังคนนี้ เอาความมั่นใจมากจากไหนกัน

“บอกให้มันหุบปากเดี๋ยวนี้!” เฟิงหรูชิงน้ำเสียงแข็งกร้าว

น่าหลานจิ้งถอดรองเท้าออก แล้วยัดเข้าไปในปากเสิ่นเยว่

เสิ่นเยว่ทำได้เพียงส่งเสียงอีๆ อาๆ พูดออกมาเป็นภาษาไม่ได้อีกแล้ว

เฟิงหรูชิงวางฝ่าเท้าลงบนอกของเขา รอยยิ้มของนางดูชั่วร้าย “รอไม่นานหรอก อีกเดี๋ยว ข้าจะให้ฮ่องเต้ของเจ้ามาอยู่เป็นเพื่อน”

เมื่อพูดจบ นางจึงยกเท้าออก

“เจ้าหมาป่า พวกเรากลับกันเถอะ”

หน้าทางเข้าจวนองค์หญิง

ฉินเฉินหยุดเดินแล้วหันหลังไปมองเสี่ยวหลัวลี่ที่อยู่ข้างๆ ท่าทางราวกับขอทาน สีหน้าของเขาดูไร้อารมณ์ “ข้ารับปากชิงชิงว่าจะส่งพวกเจ้ามาที่นี่ พวกเจ้ากลับบ้านไปเถอะ”

ถังอิ่นเอานิ้วจับชายเสื้ออาการเคอะเขิน สายตาของนางจับจ้องไปที่ประตูจวนองค์หญิง นางอยากขออยู่ต่อหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นชาของชายหนุ่ม ก็ไม่กล้าพูดจาให้มากความ

น้องชายขององค์หญิงดุชะมัด ไม่อ่อนโยนเหมือนองค์หญิงเลยสักนิด

“เอ่อ…” ถังอิ่นกัดริมฝีปาก “บ้านที่ข้าเคยพักก่อนหน้านี้เป็นบ้านเช่าน่ะ ครบตามสัญญาแล้ว ข้าไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน”