บทที่ 150 ความร่วมมือซึ่งกันและกัน

ไหปีศาจ

บทที่ 150 ความร่วมมือซึ่งกันและกัน

ณ ห้องโถงของศาลาไป่หยู่

คนแปลกหน้า 7 คน ได้เดินเข้ามาในศาลาไป่หยู่

พวกเขาอ้างว่าเป็นสมาชิกของพรรคหวงชา เจ้าหน้าที่ของศาลาไป่หยู่จึงไม่กล้าที่จะละเลยพวกเขา และรีบขอให้พวกเขานั่งลงเพื่อเสิร์ฟชาร้อน ๆ ให้

คนเหล่านี้เต็มไปด้วยลมหายใจอันรุนแรง ซึ่งคนปกติคงจะไม่สังเกตเห็นและคิดว่าพวกเขาเป็นคนธรรมดา

พวกเขากำลังนั่งรอ

โดยไม่ได้มีความรีบร้อนใด ๆ

แต่ทันทีที่ลั่วอู๋จะเดินออกมา ใบหน้าของพวกเขาก็เริ่มหม่นลง ดั่งท้องฟ้าที่ครึ้มไปด้วยเมฆฝน

ลั่วอู๋รีบออกมาหาทั้ง 7 คนอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของแต่ละคนนั้นเหนือกว่าลั่วอู๋มาก ซึ่งพลังวิญญาณของคนที่ดูเหมือนหัวหน้านั้นแข็งแกร่งอย่างมาก

เขาอายุประมาณ 30 ปี ดูสูงส่งและสง่างาม เขาดูเป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นคงมาก เขาพกมีดทะเลทรายเอาไว้ที่เอว สวมแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายกระดูกสีขาวไว้ที่นิ้วมือ

“เจ้าคือลั่วอู๋เจ้าของร้านศาลาไป่หยู่ใช่หรือไม่?” ชายที่มีแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายกระดูกส่งเสียงดังที่มีความเย็นชา เป็นน้ำเสียงที่ขุ่นมัวและน่าอึดอัด

ลั่วอู๋ยกคิ้วขึ้นอย่างลังเล “ข้าคือลั่วอู๋ เจ้าต้องการอะไร?”

“เจ้าช่างกล้ามาก ที่ฆ่าคนในพรรคหวงชาของข้า เจ้าไม่หนีงั้นหรือ? เจ้าคิดว่าตระกูลลั่วของเจ้าจะปกป้องเจ้าได้หรือไงกัน?” ชายคนนั้นกล่าว อุณหภูมิของศาลาไป่หยู่ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

เหล่าทีมคมมีดกำลังยืนรอพวกเขาอยู่

แต่ก็ยังไม่กล้ารับหน้า

หลิวหูตื่นตระหนกและฝ่ามือของเขาเริ่มมีเหงื่อไหลออกมา

ลั่วอู๋พูดอย่างกล้าหาญ “เจ้าจะมาลองดีอย่างงั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่า เจ้าเป็นที่รู้จักมากในแวดวงผู้อาวุโสของพรรคหวงชานอกเมืองไมมู่ แม้ว่าข้าจะฆ่าเจ้า มันก็สมเหตุสมผล ตระกูลลั่วจะไม่ต่อกรกับพรรคหวงชาเพื่อเห็นแก่ลูกชายที่พวกเขาได้ทอดทิ้งไปแล้ว” ดวงตาของชายคนนั้นมีแต่ความเย็นชา

ลั่วอู๋รู้ดีมันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว

แต่เขาไม่ได้ตกใจอะไร “ดูเหมือนว่าเจ้าจะมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้กับข้า แต่ถ้าเจ้าเข้ามาเพื่อฆ่าข้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาเตือนข้าหรอก”

6 คนที่เหลืออยู่ยังคงเงียบสงัด

มีเพียงชายที่มีแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายกระดูกเท่านั้นที่หัวเราะออกมา “แน่นอนว่าไม่ ข้าแค่อยากจะคุยกับเจ้าเท่านั้นเอง”

“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรกัน” ลั่วอู๋ถามอย่างตรงไปตรงมา

จากนั้น เขาได้พูดว่า “ถ้าเจ้ามอบหินวิญญาณให้เรา 3,000,000 ชิ้น เจ้าก็จะไม่มีปัญหา”

“3 ล้านงั้นหรือ?”

ลั่วอู๋ไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะคิดแผนนี้ขึ้นมา

“ใช่แล้ว ตราบใดที่เจ้านำหินวิญญาณมาให้เรา 3,000,000 ชิ้น พรรคหวงชาก็จะไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้าอีกต่อไป” ชายคนนั้นกล่าว

ลั่วอู๋สงสัย จากนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“ถ้าข้ามอบธุรกิจของศาลาไป่หยู่ให้ท่าน พรรคหวงชาของท่านก็จะไม่สร้างปัญหาให้กับข้างั้นเหรอ?” ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัย

ชายคนนั้นพยักหน้า “แน่นอน ตอนนี้พวกเราพรรคหวงชาไม่ต้องการขยายสาขาเพิ่มเติม นอกจากนี้ ข้าไม่คิดว่าจะขโมยธุรกิจทั้งหมดของเจ้าไปได้”

ดูเหมือนว่าจะเป็นข้อเสนอที่ดี

แม้ว่าจะต้องใช้หินวิญญาณถึง 3,000,000 ชิ้น แต่ตอนนี้ศาลาไป่หยู่ก็สามารถมอบมันให้กับพวกเขาได้สบาย ๆ

เป็นการเสียหินวิญญาณเพียง 3,000,000 ชิ้นเพื่อแลกกับโอกาสการพัฒนาอย่างมั่นคง และปลอดภัย อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับการต่อสู้ภายในของพรรคหวงชา

แต่ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็ปฏิเสธ “ขอโทษด้วย ข้าจะไม่มอบหินวิญญาณ 3,000,000 ชิ้นให้แก่เจ้า”

ทั้งหกคนเปลี่ยนสีหน้าทันที

ชายคนนั้นดูหม่นหมอง “เจ้าไม่ควรจะปฏิเสธนะ ที่พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเจ้า ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะทำอะไรเจ้าไม่ได้นะ”

“ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเจ้าเป็นฝ่ายที่กำลังกระวนกระวายมากกว่านะ เจ้ากังวลว่าข้าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจ้างั้นหรือ? ถ้าเกิดว่าใช่ เจ้าจะพาคนของเจ้าออกไปใช่ไหม?” ลั่วอู๋ยิ้ม

ชายคนนั้นเบะปากเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้มากเกินไปหน่อยนะ ทำไมเจ้าถึงไปร่วมมือกับคงฉินและพวกของเขากันล่ะ?”

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” ลั่วอู๋ประหลาดใจ

ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างไม่พอใจ บนศีรษะของเขามีเส้นผมเพียงเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่ลั่วอู๋

“อะไรกัน? เจ้าไม่ได้อยู่ฝ่ายคงฉินแล้วงั้นหรือ? ดี ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นคนแรก และจากนั้นก็ฆ่าทุกคนของศาลาไป่หยู่ เพราะอาจจะสร้างปัญหาให้กับเราในภายหลังได้ ”

“ขอรับท่าน”

“รับทราบขอรับ”

ทันใดนั้น ผู้ชาย 6 คนที่เหลืออยู่ก็ลุกขึ้น และพ่นลมหายใจของเขาออกมา

ลั่วอู๋ตกใจ

มีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับกลาง 5 คน และอีก 2 คนเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงงั้นหรือ?

ไม่ได้การ นี่มันแย่มาก

ดูเหมือนว่ากองกำลังอันน่ากลัวจะถูกส่งมาที่นี่ซะแล้ว แย่ล่ะสิ

“เจ้ากำลังทำอะไร?” แม้จะเผชิญกับพลังระดับนี้ หลิวหูก็เดินเข้าไปข้างหน้าและยืนอยู่ตรงหน้าของลั่วอู๋ บนศีรษะของเขามีงูทมิฬปีกกระดูก พร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ

ชายคนนั้นมองไปที่หลิวหู “ดูเหมือนว่าลูกน้องของเจ้าจะซื่อสัตย์กับเจ้ามาก”

“หืม” ลั่วอู๋ตะคอก

“ถอยก่อน” ชายคนนั้นโบกมือช้า ๆ ทั้ง 6 คนนั้น ได้นั่งลงและมองไปที่ลั่วอู๋อีกครั้ง “มาคุยกันดีกว่า”

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิวหูก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก และเดินถอยกลับไป

“เจ้าต้องการพูดคุยเรื่องอะไรกัน?” ลั่วอู๋ถามเบา ๆ

“พวกเรามาร่วมมือกันไหม?” ชายคนนั้นกล่าว “ทั้งหมดที่คงฉินมี ข้าก็มีเหมือนกัน และความแข็งแกร่งของเรานั้นสูงยิ่งกว่าคงฉินอีก สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย”

ลั่วอู๋มีรอยยิ้มเจื่อน ๆ “เจ้าสามารถให้ทุกอย่างที่ข้าต้องการงั้นหรือ? ลูหยางพิง มอบอำนาจให้เจ้ามากขนาดนั้นเลยงั้นหรือ?”

“เจ้าไม่ต้องกังวลไป ท่านลูมอบอิสระระดับสูงสุดให้แก่ข้า ตราบใดที่เจ้าเต็มใจที่จะร่วมมือกับเรา ข้าจะไม่ทำสัญญาเรียกร้องอะไรกับเจ้าเลย” ชายคนนั้นกล่าวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง

เวลานั้นมีเพียงลั่วอู๋ที่เงียบ

“ว่าไง! เจ้าลังเลกับเงื่อนไขดี ๆ เช่นนี้งั้นหรือ เจ้าจะบอกว่าเชื่อใจข้าไม่ได้งั้นเหรอ” ชายคนนั้นพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบห้าว

“ข้าขอโทษด้วย ข้าไม่สนใจที่จะทำงานร่วมกับเจ้าเลย” ลั่วอู๋กล่าว

“อะไรกัน!” ชายคนนั้นโกรธมากจนหยิบขวานออกมา

ชายผู้มีแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายกระดูกขมวดคิ้ว และสะบัดมือช้า ๆ ชายคนนั้นแทบจะควบคุมอารมณ์ของเขาเอาไว้ไม่อยู่

“ทำไมกัน?” ชายคนนั้นถามด้วยความสงสัย “ข้าไม่เชื่อว่าสิ่งที่คงฉินได้ทำสัญญากับเจ้าไว้ ข้าไม่สามารถให้เจ้าได้ในจำนวนที่ทัดเทียมกัน โดยเฉพาะเจ้าที่รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร การเป็นมิตรกับผู้นำลู น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ข้าไม่อยากเป็นคนทรยศ เพราะข้าได้ร่วมมือกับศาลาไป่เปาไปแล้ว” ลั่วอู๋พูดเบา ๆ

ชายคนนั้นเปลี่ยนสีหน้าอย่างกะทันหัน มุมปากของเขาเริ่มยกสูงขึ้น และหัวเราะออกมาเรื่อย ๆ อย่างมีความสุขและสบายใจ

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆ

“น่าสนใจ น่าสนใจชะมัด! เจ้าของร้านลั่วเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ ข้าพอใจอย่างมาก” ชายคนนั้นพยักหน้า

ชายที่ 6 คนที่อยู่ด้านหลังของเขาไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธใด ๆออกมา

ชายคนนั้นที่ดูเหมือนกำลังอยู่ในความโกรธ ไม่ได้หยิบขวานคู่ของเขาขึ้นมาเพื่อโจมตี แต่กลับยกมันให้ลั่วอู๋ได้ดูแทน

ลั่วอู๋พูดออกมาเบา ๆ “ผู้นำของเมืองคูกูก็เป็นคนที่น่าสนใจเช่นกัน ท่านมาที่ศาลาไป่หยู่ของข้าเพื่อทำให้ข้ามีความสุข”

ลั่วอู๋คาดเดาตัวตนที่แท้จริงของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาได้แล้ว

มันไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากคงฉิน เจ้าเมืองคูกูของพรรคหวงชา

ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังเป็นเจ้าของร้านที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังของศาลาไป่เปา เป็นผู้มีอิทธิพลใน พรรคหวงชา และกำลังชิงตำแหน่งในฐานะผู้นำทีมกับลูหยางพิง อีกด้วย