เถ้าแก่อ้วนก็เดินไปข้างๆ อย่างทำอะไรไม่ได้ คำพูดของคุณหนูฮ่วนเย่ว์ เขาไม่อาจจะขัดได้ เพราะว่าคุณหนูฮ่วนเย่ว์เป็นถึง…..เฮ้อ พูดไม่ได้ พูดไม่ได้

ฮ่วนเย่ว์จ้องลู่ฝานตาเขม็ง “หน็อยแน่ ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมตอนนั้นนายปัดป้องเปลวไฟดำได้ คิดไม่ถึงว่านายจะเป็นพวกเดียวกับสัตว์อสูรตัวนี้ ไอ้หนู รีบเอาของเมื่อวันนั้นออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันไม่ยอมจบกันไปง่ายๆ แน่”

ลู่ฝานกัดฟันพูดว่า “ข้อดีทั้งหลาย คนมีวาสนาย่อมได้มาครอง เกรงว่าจะให้ไปไม่ได้”

มีดเพลิงไฟในมือของฮ่วนเย่ว์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มขึ้น พูดว่า “ดูเหมือนว่านายจะยังไม่เคยลิ้มลองฝีมือของฉันสินะ”

พูดจบ ฮ่วนเย่ว์ก็บุกเข้าไปหาลู่ฝานอีกครั้ง ร่างกายเคลื่อนไหวเร็วดั่งเงา ในพริบตา ลู่ฝานก็เห็นฮ่วนเย่ว์สองคนอยู่ตรงหน้า

ลู่ฝานก็รีบกวัดแกว่งกระบี่หนักในมืออย่างรวดเร็วและไม่หยุดหย่อน กระบวนท่ากระบี่หนักก็บังเกิดขึ้นในมือของเขา

เสียงดังเพล๊งๆ ลู่ฝานปัดป้องการโจมตีของฮ่วนเย่ว์หลายกระบวนท่า กายทองไฟอาบก็ปรากฏออกมา เปลวไฟพลุ่งพล่าน เจ้าดำพ่นเปลวไฟดำออกมาไม่หยุด เพื่อที่จะโจมตีให้ฮ่วนเย่ว์ถอยออกไป

เถ้าแก่อ้วนก็ส่งเสียงออกมาว่า “คุณหนูฮ่วนเย่ว์ ให้ช่วยไหมครับ?”

ฮ่วนเย่ว์ก็ใช้พลังปราณทำลายเปลวไฟดำบนตัวอย่างสะบักสะบอม กัดฟันพูดว่า “ไม่ต้อง!”

ลู่ฝานมือกำกระบี่หนัก เหมือนได้เจอศัตรูตัวฉกาจ ถึงแม้จะมีเจ้าดำช่วยเหลือ เขาก็ยังรู้สึกว่ารับมือได้ยาก เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ครั้งนี้รู้สึกว่าฮ่วนเย่ว์คนนี้เก่งกาจขึ้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นวิชากาย หรือพลังปราณ ล้วนสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว

ฮ่วนเย่ว์พลิกมือเอามีดเพลิงไฟออกมาอีก เอาอาวุธมาไว้ระดับหน้าอก แล้วพลังปราณที่รุนแรงดั่งสายฟ้าก็บังเกิดขึ้น

มังกรไฟสาดแสงออกมา!

แสงสีแดงเกิดขึ้นตรงหน้าของลู่ฝาน

ลู่ฝานมีเวลาแค่ยกกระบี่หนักในมือตั้งขึ้น วินาทีต่อมา มีดเพลิงไฟก็ฟันมายังตัวกระบี่ของเขา

ง่ามมือก็ฉีกออกทันที กายทองไฟอาบของลู่ฝานบวกกับผิวหนังเผ่ามังกรก็ไม่อาจปัดป้องการโจมตีอันรุนแรงของฝั่งตรงข้ามได้

แต่ว่าก็ไม่ใช่คนที่จะรังแกได้ง่ายๆ มือซ้ายกำหมัด ต่อยไปยังแสงสีแดงนั่น

หมัดถล่มเขาทำลายล้าง!

เสียงดังสนั่น กำปั้นต่อยโดนฮ่วนเย่ว์เข้าอย่างจัง

ในตอนนี้มีดพกอีกด้ามของฮ่วนเย่ว์ก็ปักเข้าไปที่หัวไหล่ของลู่ฝานเหมือนกัน

กำปั้นที่มีเปลวไฟ ฮ่วนเย่ว์ถูกต่อยกระเด็นออกไปเกือบ10เมตร กระแทกเข้ากับโต๊ะเก้าอี้หลายตัว

ลู่ฝานมองดูหัวไหล่ที่บาดเจ็บของตนเอง ก็ตกใจจนเหงื่อแตก การโจมตีของฝั่งตรงข้ามมันรุนแรงเกินไป

ฮ่วนเย่ว์หงายท้องกระโดดสะพานโค้งขึ้น หมัดของลู่ฝานไม่ทำอันตรายต่อเธอได้ แต่ว่าเธอก็มีสีหน้าตกใจไปเหมือนกัน

ครั้งก่อนตอนที่สู้กัน เขาไม่มีพลังแม้แต่จะสู้กลับ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะสามารถต่อยเธอกระเด็นได้ เธอเป็นถึงลูกศิษย์ของเซียนบู๊แดนหยินหยางเชียวนะ

ฮ่วนเย่ว์ยังตกใจอยู่ เถ้าแก่อ้วนที่อยู่ข้างๆ ก็โมโหขึ้นมา

“กล้าทำร้ายคุณหนูฮ่วนเย่ว์ ไปตายเสียเถอะ”

เถ้าแก่อ้วนก้าวเข้าไปอย่างเร็ว พลังปราณอันน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เหมือนกับมีดเล่มหนึ่งฟันลงไปทางฝั่งลู่ฝาน

ปราณชี่ของนักบู๊แดนปราณนอกปลดปล่อยออกมาด้านนอก ตอนนี้ลู่ฝานก็ถือว่าได้เรียนรู้แล้ว พลังปราณอันน่ากลัวโจมตีเขากระเด็น ที่หน้าอกเกิดเป็นบาดแผล

เจ้าดำที่อยู่กลางอากาศก็พ่นเปลวไฟดำออกมา ก็ถูกเถ้าแก่อ้วนใช้มือปัดป้องไว้ พลังปราณอันแข็งแกร่ง รวมกันเป็นลูกกลมๆ และทำลายเปลวไฟดำจนสลายไป แล้วก็ใช้มือเปล่าตบเจ้าดำกระเด็นลอยไป

จริงๆ แล้วเถ้าแก่อ้วนได้ออมมือให้กับเจ้าดำแล้ว พลังของฝ่ามือที่ใช้ไป พอเหมาะที่จะทำให้เจ้าดำสลบไปได้พอดี

น่าเสียดาย เจ้าดำอดทนได้ดีกว่าที่เขาคิดไว้ ถูกตบจนร่วงลงพื้น ก็รีบคลานลุกขึ้นมา จากนั้นก็วิ่งมาตรงหน้าของลู่ฝาน แล้วก็แยกเขี้ยวใส่เถ้าแก่อ้วน

ฮ่วนเย่ว์ก็ตะโกนออกมา “แกทำอะไร บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องการให้แกเข้ามาช่วย”

เถ้าแก่อ้วนก็หันมาพูดกับฮ่วนเย่ว์ว่า “คุณหนูฮ่วนเย่ว์ ผมไม่อาจจะเห็นคุณบาดเจ็บได้ ให้ผมมาจัดการเองก็แล้วกัน”

ในตอนนี้ ลู่ฝานก็ค่อยๆ ลุกขึ้นได้แล้ว ไม่ได้มองแผลที่หน้าอกเลย ส่งเสียงฮึดสู้ แล้วก็โยนกระบี่หนักพุ่งออกไป

เถ้าแก่อ้วนเพิ่งหันหน้ากลับไป ก็เห็นกระบี่หนักเล่มหนึ่งลอยเข้ามาหาตนเอง ก็ยกมือขึ้นมาจับไว้อย่างไม่แยแส ตอนที่มือของเขาสัมผัสกับตัวกระบี่นั้น สีหน้าของเถ้าแก่อ้วนก็เปลี่ยนไป

พลังที่มาจากหินผนึกกำลังสายหนึ่ง กับพลังของกระบี่หนักเอง กดจนทำให้เถ้าแก่อ้วนนิ่งไป

แค่นิ่งไปครู่เดียว ลู่ฝานก็บุกเข้ามา

กำปั้นพุ่งมาโดยตรง แถมยังมีไฟลุกโชน ต่อยเข้าที่ใบหน้าของเถ้าแก่อ้วน ต่อให้มีพลังปราณคุ้มกาย เถ้าแก่อ้วนก็ยังถูกพลังอันแข็งแกร่งของลู่ฝาน ต่อยจนหมุนตัวลงไปฟุบกับพื้น ใบหน้าผิดรูปไปเลย

“ว้าว เห็นไหม นักบู๊แดนปราณนอกถูกนักบู๊แดนปราณในต่อยตัวหมุนไปเลย”

“พลังน่ากลัวมาก หมอนี่เป็นใครกัน!”

ด้านบน มีคนที่เข้ามามุงดูก็สะใจกันมาก การต่อสู้ที่ต่างระดับกันแบบนี้หาชมได้ยาก

ตอนนี้ลู่หมิงก็พุ่งเข้ามา ตะโกนเสียงดังว่า “ไอ้อ้วนสมควรตาย อย่างมึงน่ะหรือคิดจะมาแย่งชิงสัตว์อสูรของคนอื่นเขา ไปตายเสียเถอะ”

ลู่หมิงอาศัยจังหวะนี้กระทืบไปที่ใบหน้าของเถ้าแก่อ้วนอีกครั้ง

แต่ว่าพลังของเขามีไม่พอ แม้แต่พลังปราณก็ยังไม่มี ก็เลยถูกพลังปราณคุ้มกายของเถ้าแก่อ้วนดีดกลับกระเด็นออกไป

แต่ว่าไม่เป็นไร เขายังทิ้งรอยเท้าไว้บนใบหน้าของเถ้าแก่อ้วนอย่างชัดเจน ทำให้คนที่มุงดูด้านบนหัวเราะกันยกใหญ่