บทที่ 76 หอเซียวเหยา
“หลัวซิว เจ้า……ข้า……” ชั่วขณะนั้น ลู่เมิ่งเหยาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของนาง หลัวซิวจับมือของนางขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “เมิ่งเหยา เจ้าบอกว่าจะรอข้าที่สำนักเซียวเหยา ในเมื่อวันนี้ข้าได้มาตามนัดแล้ว ก็จักต้องทำให้เห็นผลสำเร็จ ให้มีฐานะและตำแหน่งที่คู่ควรกับเจ้า!”
แม้ว่าทั้งสองเคยเปลือยกายอยู่ด้วยกันหลายครั้ง แต่ในตอนนั้นก็เพื่อรักษาโรคชีพจรขาดธาตุไฟ ถูกหลัวซิวจับมือเอาไว้ในเวลานี้ ลู่เมิ่งเหยาทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที
มองดูลู่เมิ่งเหยาวิ่งออกไปด้วยท่าทางเขินอาย ในดวงตาที่สงบนิ่งของหลัวซิว เผยความหนักแน่นอย่างสุดซึ้งออกมา
เขารู้ดี โลกใบนี้พูดกันด้วยฝีมือ มีเพียงฝีมือที่แข็งแกร่ง ถึงจะมีฐานะและตำแหน่งที่สูงพอได้
ที่หลัวซิวต้องการ ไม่ใช่ให้เจ้าสำนักลู่เห็นว่าเขาคู่ควรที่จะอยู่ด้วยกันกับลู่เมิ่งเหยา แต่เพื่อให้ลู่เฟยเฉินรู้ว่า เมิ่งเหยาคบหากับตนนั้น เป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด!
ที่พักของหลัวซิว อยู่ในเขตนอกสำนักเซียวเหยา ศิษย์นอกสำนักทุกคน อยู่ที่นี่ต่างมีที่พักที่เป็นส่วนตัว
หลังจากที่อาการบาดเจ็บของหลัวซิวฟื้นคืนเป็นปกติ เขาก็ได้ทราบว่า จางหลู่เหลียงไม่ได้ถูกทำลายผลการฝึกตน และไม่ได้ถูกล่ามกระดูกสะบักด้วยโซ่
ไม่เพียงเท่านั้น จางหลู่เหลียงยังถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกน้ำ และยังมีฐานะเป็นผู้ดูแลนอกสำนักเช่นเดิม
เรื่องนี้สำหรับหลัวซิวแล้ว จักต้องไม่ใช่ข่าวดีอย่างแน่นอน
จากลู่มิ่งเหยา หลัวซิวได้ทราบมาว่าจางหลู่เหลียงได้รับการคุ้มครองจากผู้อาวุโสในสำนักท่านหนึ่ง
สำนักเซียวเหยา แบ่งเป็นนอกสำนักและในสำนัก ฐานะของในสำนักเหนือกว่า ฐานะของผู้อาวุโสในสำนักนั้น สูงกว่าเจ้าสำนักนอกสำนักเสียอีก
“จางหลู่เหลียงคิดจะเอาชีวิตข้าอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จักต้องไม่ยอมละมือง่าย ๆ แน่ เขายังมีผู้อาวุโสในสำนักเป็นที่พึ่งพิงด้วย?”
หลังจากที่พิจารณาอย่างถี่ถ้วน หลัวซิวตัดสินใจถ่อมตนไปสักระยะ เขาทราบดีว่าระหว่างเขาและจางหลู่เหลียง เป็นความสัมพันธ์ที่ถึงขึ้นไม่ตกตายจะไม่ยอมละมือ
รางวัลในการสอบเข้าสำนักสำหรับผู้ที่ได้อันดับหนึ่ง คือยาฝึกปราณสามเม็ด โดยปกติแล้ว ยาฝึกปราณเม็ดหนึ่ง สามารถทำให้จอมยุทธ์ชี่ไห่ เลื่อนแดนขึ้นมาได้เล็กน้อย
แน่นอน ยาชนิดนี้มิใช่ว่าจะไม่จำกัดไร้ประโยชน์ ระยะห่างในการใช้ยาฝึกปราณหนึ่งเม็ด ต้องห่างกันประมาณหนึ่งปี
สาเหตุที่มีข้อจำกัดเช่นนี้ เนื่องด้วยหากใช้ยาฝึกปราณติดต่อกัน ฤทธิ์ของยาจะยิ่งด้อยลงไปเรื่อย ๆ หรือแม้กระทั่งทำให้ร่างกายของจอมยุทธ์เกิดการพึ่งพายาอีกด้วย ส่งผลกระทบต่อการทะลวงแดนยุทธ์ในอนาคต
นอกจากนี้จอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดานั้น เพื่อกลั่นแปรดูดซับฤทธิ์ยาของยาฝึกปราณอย่างสมบูรณ์แบบนั้น ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งปี
ภายในห้อง หลัวซิวหยิบเอายาฝึกปราณออกมา แล้วโยนเข้าไปในปากหนึ่งเม็ดทันที
ไม่นาน ฤทธิ์ยาของยาฝึกปราณก็ได้กระจายไปตามร่างกาย กลายเป็นพลังจิตที่บริสุทธิ์ จอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดานั้นไม่สามารถกลั่นแปรฤทธิ์ยาได้มากเพียงนี้ภายในครั้งเดียวได้ ดังนั้นจิตวิญญาณของยาส่วนมากจะถูกเก็บไว้ในร่างกายของตัวจอมยุทธ์เอง และกลั่นแปรอย่างช้า ๆ ในเวลาต่อมา
สำหรับหลัวซิวแล้ว กลับไม่มีเงื่อนไขเช่นนี้
“วงล้อแห่งชีวิตและความตาย!”
ตามการเคลื่อนไหวพลังจิตของหลัวซิว วงล้อแห่งชีวิตและความตายตรงกลางชี่ไห่จุดตันเถียนได้หมุนวนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ปราณแท้ที่เป็นดั่งหมอกควันในชี่ไห่หมุนตามขึ้นมาด้วย กลายเป็นวังวนทะเลหมอก กลายเป็นแรงดูดกลืนพลังมหาศาล
หลัวซิวขับเคลื่อนพลังหยางบริสุทธิ์ในทันที เริ่มกลั่นแปรดูดซับฤทธิ์ยาอย่างรวดเร็ว
เป็นเช่นนี้ หลัวซิวใช้เวลาฝึกตนอยู่ในห้องเป็นเวลาหนึ่งวัน ตอนที่เขาลืมตา ก็เป็นเช้าของวันถัดมาแล้ว
ฤทธิ์ของยาฝึกปราณหนึ่งเม็ด ใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน ก็ได้กลั่นแปรดูดซับจนหมดสิ้น ปราณแท้ดั่งหมอกควันในชี่ไห่จุดตันเถียนให้หนาแน่นและทรงพลังยิ่งขึ้น
“แดนวิชาชี่ไห่ขั้น3 ฤทธิ์ของยาฝึกปราณนับว่าไม่เลว”
หลัวซิวยิ้มอย่างพอใจ ลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนเส้นสาย
ผลักเปิดประตูห้อง แล้วเดินออกไปยังลานด้านนอก หลัวซิวใช้กระบวนท่าหมัดเสือมังกรออกมาชุดหนึ่ง ให้กล้ามเนื้อและกระดูกที่นั่งมาหนึ่งวันได้ผ่อนคลาย
“วิชาชี่ไห่ขั้น3 สามารถฝึกวิชายุทธ์ระดับ5 ได้แล้วนี่”
โดยปกติแล้ว วิชายุทธ์ระดับ5 เหมาะกับวิชาชี่ไห่ขั้น3 ถึงขึ้น6
ในมือของหลัวซิวมีเคล็ดวิชายุทธ์ระดับ5 อยู่สิบแปดเคล็ดวิชา ไม่ว่าจะเป็นกำลังภายในทักษะยุทธ์ วิชาท่าร่าง ล้วนมีครบหมดทั้งนั้น
ในนั้นยังมีทักษะยุทธ์วิชากระบี่และวิชาท่าร่างที่เหมาะสมกับตนเองอยู่
กลับเข้ามาในห้อง หลัวซิวเลือกดูอย่างละเอียด เลือกเป็นเคล็ดวิชากระบี่แสงเหนือ เป็นเคล็ดวิชากระบี่ที่เชี่ยวชาญด้านการเคลื่อนไหว หากนำมาใช้ร่วมกับเคล็ดวิชาดาบเร็ว อานุภาพมหาศาล จักต้องทัดเทียมกับวิชายุทธ์ระดับ6 ได้อย่างแน่นอน!
ส่วนวิชาท่าร่าง หลัวซิวก็ได้เลือกมาเคล็ดวิชาหนึ่ง มีชื่อว่าวิชาเงาเศษสิบช่อง เคล็ดวิชาท่าร่างนี้เมื่อฝึกถึงขั้นปฐมภูมิ สามารถสร้างเงาร่างขึ้นมาอีกเงาได้ ฝึกถึงแดนสำเร็จน้อย สามารถสร้างเงาร่างขึ้นมาอีกสามเงา ตามเหตุดังกล่าว ฝึกตนถึงแดนบริบูรณ์ ทันทีที่เคลื่อนไหว จะเกิดเงาร่างขึ้นมาสิบเงา ทำให้ศัตรูยากที่จะแยกแยะได้ว่าร่างไหนคือร่างจริง
“หลัวซิว!”
เสียงที่คุ้นหูดังมาจากด้านนอกประตู ทำให้ที่มุมปากของหลัวซิวอดไม่ได้ที่จะปรากฏรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
เขาเก็บเคล็ดวิชายุทธ์ลง หลัวซิวลุกยืนขึ้น เปิดประตูออก ก็ได้เห็นลู่เมิ่งเหยายืนอยู่ที่ด้านนอก สวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้า ด้วยสีผิวที่เนียนขาวดั่งหยกและใบหน้าที่งามล้มบ้านล้มเมืองของนาง ทำให้หลัวซิวมองตาค้างไปทันที ไม่อาจเลื่อนสายตาจากไปได้
เมื่อถูกหลัวซิวจ้องมองเช่นนี้ ลู่เมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะมีท่าทีเขินอายขึ้นมา ทว่าภายในใจกลับรู้สึกได้ใจเล็กน้อย
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ภายในใจของทั้งสองต่างก็รู้ดี
“คนบ้า เจ้าดูพอหรือยัง?” ลู่เมิ่งเหยากล่าวอย่างเขินอาย นางเองก็ไม่รู้ว่าตนเองถูกอะไรดลบันดาล ถึงได้รักใคร่หนุ่มน้อยอายุเพียงสิบสี่อย่างหลัวซิว
“ดูพองั้นรือ? ชาตินี้ทั้งชาติข้าก็ดูไม่พอ!” หลัวซิวทำหน้านิ่ง กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง
“ช่างกะหล่อนเสียจริง” ลู่เมิ่งเหยามองค้อนเขาอย่างอ่อนหวาน จากนั้นก็กลับเข้าสู่หัวข้อหลัก กล่าว: “เจ้าได้อันดับหนึ่งในการสอบเข้าสำนัก สามารถเข้าไปเลือกเคล็ดวิชายุทธ์ระดับ5 ในหอเซียวเหยาได้แล้ว รอเจ้าทะลวงถึงขั้นชี่ไห่ระดับ3 ก็สามารถฝึกตนได้ทันที”
ในเวลานี้หลัวซิวไม่ได้กระจายกระแสพลังของตนเองออกมา ดังนั้นลู่เมิ่งเหยาจึงไม่อาจรับรู้ได้ว่าเขาได้ทะลวงถึงขั้นชี่ไห่ระดับ3 ได้ในทันที
“อืม ไปดูหน่อยก็ดีเหมือนกัน” หลัวซิวพยักหน้ากล่าว
เมื่อเทียบกับราชายุทธ์ปู้เฉินนั่นแล้ว ยังไงสำนักเซียวเหยาก็เป็นเจ้าแห่งทำนาจในเขตการปกครองหยุนหลง ทักษะยุทธ์ที่เก็บรวบรวมเอาไว้นั้นมากมายหลากหลาย บางทีในนั้นอาจจะมีวิชายุทธ์ที่เหนือกว่าวิชากระบี่แสงเหนือและวิชาเงาเศษสิบช่องอยู่ ก็อาจเป็นไปได้
เคียงบ่าเคียงไหล่กับลู่เมิ่งเหยาเดินผ่านทางเล็ก ๆ ของนอกสำนักไปด้วยกัน ตลอดทางมานั้นในสายตาของศิษย์นอกสำนักที่มองมาที่หลัวซิว ล้วนแฝงไปด้วยความเยือกเย็น
ในฐานะบุตรสาวเจ้าสำนักนอกสำนัก ฐานะของลู่เมิ่งเหยานั้นไม่ธรรมดา สำหรับคนหนุ่มสาวมากมายภายในนอกสำนักนั้น ยิ่งมีความหมายที่ไม่ธรรมดา
ความเป็นศัตรูของศิษย์นอกสำนักหลายคน หลัวซิวไม่ได้ใส่ใจ วิถีแห่งยุทธ์จะต้องพบกับความลำบากและบททดสอบมากมาย เขาไม่เกรงกลัวการท้าทายใด ๆ
ไม่นานสักเท่าไร หลัวซิวและลู่เมิ่งเหยาก็ได้มาถึงสถานที่ที่เก็บวิชายุทธ์เอาไว้มากมาย หอเซียวเหยา!