ตอนที่ 195 ไอดอลของเธอเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ใหญ่ / ตอนที่ 196 ความริษยาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 195 ไอดอลของเธอเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ใหญ่

 

 

ซ่งเย่าหนานและพวกงงเป็นไก่ตาแตก…

 

 

คุณผู้ชาย! ประสาทเสียแล้วเหรอ

 

 

เธอแค่ถลอก! จะเรียกว่าบาดแผลได้ยังไง

 

 

ดูพวกเราสิ!

 

 

ได้โปรดหันมามองที่พวกเรา!

 

 

ก่อนจะพูดอะไรช่วยหันมาดูแผลเราก่อนไหม

 

 

ครั้งนี้แม้แต่เผยอวี่ถังและทีมซีเอ็ชวันก็ยังเข้าข้างซ่งเย่าหนาน

 

 

เผยอวี่ถังกัดริมฝีปาก ยืนจ๋อยอยู่ที่มุมห้อง

 

 

พี่ใหญ่…ช่วยหันมาสนใจน้องชายที่โดนอัดจนน่วมไปทั้งตัวหน่อยได้ไหม

 

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเรื่องชกต่อยกับใคร พี่ใหญ่จะทิ้งเขาและไล่เขาออกไปทันที แต่พอพี่สะใภ้ใหญ่ทำแบบเดียวกับเขาบ้าง พี่ใหญ่กลับแสดงความเป็นห่วงเป็นใยและดูเป็นกังวลกับบาดแผลของเธอ

 

 

พี่ใหญ่โคตรลำเอียง นี่ทำให้เขาถึงขั้นเสียน้ำตาด้วยความเจ็บแค้น…

 

 

เผยอวี้เฉิงชำเลืองมองไปที่เฉิงมั่วซึ่งเป็นผู้ช่วยของเขา เฉิงมั่วพยักหน้ารับรู้ในทันทีและตอบกลับ

 

 

“ท่านประธาน ผมจะออกไปซื้อยามาครับ”

 

 

เขารีบร้อนตรงไปที่ร้านขายยา

 

 

เผยอวี่ถังมองดูเฉิงมั่วอย่างเงียบๆ ได้แต่คิดกับตัวเอง ช่วยซื้อยามาให้ผมด้วยได้ไหม

 

 

 

 

ทนายของเผยอวี้เฉิงเตรียมเอกสารที่จำเป็นทุกอย่างและทำเรื่องปล่อยตัวหลินเยียน เผยอวี่ถัง และคนอื่นๆ ออกมา

 

 

เผยอวี่ถังรีบรุดขึ้นไปนั่งเบาะหน้า เฉิงมั่วกลับมาพร้อมยาและยื่นส่งให้เผยอวี้เฉิงก่อนที่จะเปิดประตู

 

 

หลินเยียนทำได้เพียงตามเผยอวี้เฉิงไปนั่งเบาะหลัง

 

 

ทันทีที่เข้าไปในรถ เธอก็พบว่ามีอีกคนนั่งอยู่ข้างใน!

 

 

“เผย…คุณเผย…” หลินเยียนพูดตะกุกตะกักด้วยความประหม่า

 

 

เผยหนานซวี่ประหลาดใจที่เห็นหลินเยียน “คุณหลิน? คุณอยู่กับอวี่ถัง?” เผยหนานซวี่ถาม

 

 

หลินเยียนกระแอมเบาๆ “ฉันไปดูนายน้อยลำดับที่สามแข่งวันนี้ค่ะ…”

 

 

เผยหนานซวี่ตอบ “ต้องขอโทษด้วย นายนั่นชอบหุนหันพลันแล่นไปหน่อย เขาทำอะไรให้คุณเดือดร้อนหรือเปล่าครับ”

 

 

เผยอวี่ถังร้องออกมา “พี่รอง! พี่เข้าใจผิดแล้ว! ผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องตีกับใคร ไม่ใช่ผม!”

 

 

เผยหนานซวี่มองรอยแผลบนใบหน้าของเผยอวี่ถัง “ไม่ใช่นายเหรอ”

 

 

เผยอวี่ถังเผลอเอามือลูบตาที่มีรอยเขียวช้ำ “ผมโดนอัด แต่ผมไม่ได้สวนกลับไปเลยแม้แต่นิดเดียว พี่สะใภ้ใหญ่เข้าไปจัดการพวกมันแทนผม รัวหมัดใส่พวกมันไม่ยั้ง แม้แต่ตำรวจยังไม่เชื่อคำพูดของเธอ…”

 

 

เผยอวี่ถังเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นอย่างเมามัน

 

 

เผยหนานซวี่ถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก…

 

 

เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้

 

 

หลินเยียนมองเผยอวี่ถังอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ให้ตายสิ! เขาบังอาจทำให้ชื่อเสียงของเธอต้องมัวหมองต่อหน้าไอดอลของเธอได้ยังไง

 

 

น่าเสียดายที่เธอทำอะไรไม่ได้เลยแม้ว่าเธอจะเคืองมากเพราะเผยอวี้เฉิงนั่งอยู่ข้างๆ เธอ

 

 

เผยหนานซวี่หัวเราะน้อยๆ และตอบ “ฉันไม่คิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะมีฝีมือขนาดนี้”

 

 

หลินเยียนพูดอะไรไม่ออก!

 

 

ไอดอลของเธอ…เรียกเธอว่าพี่สะใภ้ใหญ่!

 

 

จิตใจของเธอสับสนว้าวุ่นไปหมดจากความรู้สึกที่แล่นปราดเมื่อได้ยินสิ่งที่เผยหนานซวี่พูด

 

 

เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะได้มาใกล้ชิดสนิทสนมกับไอดอลสุดที่รักมากขนาดนี้

 

 

แฟนคลับคนอื่นๆ ต่างใฝ่ฝันและภาวนาขอให้ไอดอลของตัวเองกลายมาเป็นคุณสามี…

 

 

แต่เรื่องของเธอต่างออกไป ไอดอลของเธอกลายมาเป็น…น้องสามี…

 

 

หลินเยียนโบกมือปฏิเสธอย่างเขินอายขณะพึมพำ “ไม่…ไม่…ฉันแข็งแรงกว่าคนอื่นแค่นิดเดียวเอง…”

 

 

ขณะที่รถแล่นเรื่อยไปตามท้องถนน ไม่มีใครพูดอะไรอีก ความเงียบนี้ชวนให้เธอรู้สึกอึดอัดเป็นบ้า

 

 

เหมือนกับครั้งที่แล้ว หลินเยียนนั่งเอาหัวพิงหน้าต่างถัดออกไปที่หนึ่ง

 

 

หูของเธอทำงานเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นเบาๆ

 

 

เธอแอบลอบมองและเห็นเผยอวี้เฉิงใช้นิ้วมือเรียวยาวคลี่ม้วนผ้าพันแผล จากนั้นดวงตาของชายหนุ่มก็หันมามองที่เธอและจ้องเธอเขม็ง

 

 

“ส่งมือมา”

 

 

 

 

 

ตอนที่ 196 ความริษยาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

 

 

“โอ้…โอเค…” หลินเยียนรีบยื่นมือออกไป

 

 

เผยอวี้เฉิงเริ่มจากฆ่าเชื้อที่แผลของหญิงสาว ก่อนที่จะค่อยๆ ทายาอย่างเบามือ จากนั้นปิดแผลด้วยผ้าพันแผล

 

 

เผยอวี่ถังที่นั่งอยู่เบาะหน้า หันหน้าที่ยับเยินไปด้วยรอยฟกช้ำเอี้ยวมามองพี่ชายอย่างซังกะตาย

 

 

พร้อมกับพร่ำบอกตัวเอง ‘ความริษยาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง…’

 

 

มีอะไรบางอย่างที่เขาก็หาคำตอบไม่ได้ ก่อนหน้านี้แผลของพี่เยียนเลือดไหล แม้ว่าเลือดจะออกไม่มาก แต่ทำไมแผลมันค่อยๆ สมานตัวเอง

 

 

หรือว่าก่อนหน้านี้เขาตาฝาด

 

 

เผยอวี้เฉิงทั้งอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษ เขาพยายามเลี่ยงไม่ให้ร่างกายของเขาสัมผัสโดนตัวเธอ ไม่แม้แต่จับมือเธอตอนล้างแผล

 

 

ถึงกระนั้นหัวใจของหลินเยียนก็ยังเต้นรัวแรง…

 

 

หลินเยียนดึงมือกลับและกระแอมออกมาเบาๆ “อะแฮ่ม…คุณเผยคะ ฉันจำเป็นต้องอธิบาย ฉันเป็นคนก่อเรื่องชกต่อย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายน้อยลำดับที่สาม ได้โปรดอย่าไปตำหนิเขาเลย เขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ พวกนั้นพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยั่วโมโหเขา แต่เขาก็ยังอดทนทุกคำดูถูกและยืนนิ่งไม่ขยับแม้แต่ปลายนิ้ว…”

 

 

เผยอวี่ถังเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินที่หลินเยียนพูด เธอสมกับเป็นพ่อของเขาจริงๆ!

 

 

เขาตัดสินใจถูกแล้วที่ยกให้เธอเป็นพ่อของเขา!

 

 

การเป็นพ่อสื่อให้กับเธอถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง!

 

 

หลินเยียนอาจช่วยล้างมลทินให้กับเผยอวี่ถังได้ แต่เธอต้องเจอศึกหนักจากเรื่องทั้งหมดนี่ สมองของเธอแล่นปรื๋อใช้ความคิดอย่างหนักขณะที่เธอพยายามหาเหตุผลที่จะมาอธิบาย “ฉันทนไม่ได้จริงๆ ที่ต้องเห็นพวกนั้นหยามนายน้อยลำดับที่สาม ฉันเลยต้องเข้าไปขวาง ยังไงเขาก็เป็นน้องสามีของฉัน ฉันจะยอมให้คนอื่นมาหยามน้องแฟนของฉันได้ยังไง”

 

 

เผยอวี่ถังประหลาดใจ เธอแสดงความห้าวหาญออกมาอีกแล้ว!

 

 

เขาเปิดลิ้นชักและหยิบสมุดออกมาก่อนที่จะเริ่มลงมือจดอย่างเร็วจี๋…

 

 

เผยอวี้เฉิงเอียงคอคลี่ยิ้มน้อยๆ “โอ้ ต่อสิ”

 

 

หลินเยียนกลืนน้ำลายและเริ่มพูดอีกครั้ง “นอกจากนี้แม้ว่านี่จะเป็นการต่อสู้ ฉันก็ต่างจากนายน้อยลำดับที่สาม…”

 

 

เผยอวี่ถังเบ้หน้าเอี้ยวไปมองหลินเยียน “พี่สะใภ้ใหญ่…เราจะต่างกันได้ไง พี่ใหญ่ลำเอียงเห็นๆ ทำไมผมถึงโดนทำโทษอยู่คนเดียวเวลามีเรื่องชกต่อย ที่สำคัญนี่ไม่ใช่ความผิดของผม!”

 

 

เผยอวี่ถังจะไม่รู้สึกโกรธได้ไง เขารู้สึกมาตลอดว่าพี่ใหญ่โคตรลำเอียงและไม่สนใจความรู้สึกของเขาสักนิดเลย

 

 

เผยอวี้เฉิงยังคงนิ่งเฉยตอนที่ได้ยินน้องชายพูดราวกับไม่อยากอธิบาย

 

 

หลินเยียนเหลือบมองเผยอวี่ถังและพูดอย่างจริงจัง “นายน้อยลำดับที่สาม เธอต้องจำไว้ว่าตอนนี้เธอเป็นฝ่ายที่ทิ้งครอบครัวไป ในวงการแข่งรถมีผู้คนมากหน้าหลายตาจากหลากหลายพื้นเพรวมถึงพวกคุณหนูมีฐานะ ณ ขณะนี้เธอเป็นนักแข่งรถธรรมดาๆ คนหนึ่งกับทีมแข่งรถที่น่าสมเพชที่ไม่มีอำนาจหรือเกียรติประวัติอะไรเลย…”

 

 

เผยอวี่ถังเอามือกุมหน้าอกตอนที่ได้ยินหลินเยียนสาธยายว่าทีมแข่งรถของเขาเป็นทีมที่น่าสมเพชที่ไม่มีอำนาจหรือเกียรติประวัติอะไรเลย…

 

 

หลินเยียนพูดต่อ “ลองคิดดูนะ ถ้าเธอตอบโต้ละก็ อีกฝั่งไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่ ด้วยสถานะของเธอตอนนี้ เธอจะรับผิดชอบกับผลที่ตามมาหรือเดินหนีไปเฉยๆ ได้ยังไง แต่ถึงเธอจะยอมกัดฟันทนกับสิ่งที่ตามมา เธอก็จะต้องเป็นฝ่ายสูญเสียมากที่สุด

 

 

นายน้อยลำดับที่สาม ตระหนักบ้างไหม เธอเองที่คอยพร่ำบอกว่าเธอออกจากบ้านเพื่อมาไล่ตามความฝัน แต่ถึงอย่างนั้นโดยที่ไม่ทันรู้ตัวเธอกลับยังทำตัวราวกับเป็นคุณหนูตระกูลเผยและยังคอยให้พี่ชายมาตามแก้สารพัดปัญหาของเธอ…”