ตอนที่ 305 เจรจาเรื่องดอกเบี้ยกันสักหน่อย / ตอนที่ 306 เกิดเรื่องแล้ว

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 305 เจรจาเรื่องดอกเบี้ยกันสักหน่อย 

 

 

เมื่อตะโกนออกไปจนจบ เธอก็ตะลึงงันไป 

 

 

ครั้นเงยหน้าขึ้น เธอเห็นอวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตะลึงงันไปเช่นกัน 

 

 

ผ่านไปนานทีเดียว เขาถึงจะขยับริมฝีปากบาง “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” 

 

 

ตอนนี้เธอพูดแก้ตัวอย่างไรก็ไม่ทันแล้วใช่ไหม 

 

 

อยากโผเข้าหาบอสใหญ่ของตนเอง แถมยังตะโกนใส่หน้าเขาอีก จะทำอย่างไรดี 

 

 

ต้องออนไลน์แล้ว เร่งด่วนมาก! 

 

 

เมื่อสบตาสีดำลุ่มลึกของเขา ในนั้นปรากฏความห่างเหิน ทำเอาสมองของเธอดีดตัว และยืดตัวตรง “คุณเอาเปรียบฉันทั้งคืน ยังให้ฉันรออีกเหรอ ฉันกลัวว่าฉันจะทนไม่ไหว พุ่งไปคิดบัญชีกับคุณน่ะสิ!” 

 

 

อวี๋เยว่หาน “…” แค่นั้นเหรอ 

 

 

นัยน์ตาของเขาปรากฏความผิดหวังเล็กน้อย 

 

 

“คุณมีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด” เหนียนเสี่ยวมู่ปอดแหกแล้ว ไม่กล้ามองตาเขา 

 

 

อวี๋เยว่หานดึงมือกลับ ก่อนจะกอดอกพิงกรอบประตู แล้วเลิกคิ้วมองเธอ “ผมแค่อยากจะเตือนคุณด้วยความหวังดี คุณไม่ได้ใส่เสื้อนอก” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” 

 

 

เธอหันหน้าไปมองโซฟา พบว่าเสื้อนอกของเธอตกอยู่บนโซฟาของเขาจริงๆ เธอจึงรีบวิ่งไปคว้ามา จากนั้นก็วิ่งไปข้างนอก 

 

 

ขณะที่วิ่งออกจากประตูนั้น เธอจงใจเหยียบเท้าเขาครั้งหนึ่งด้วย! 

 

 

“นี่คือดอกเบี้ยที่คุณเอาเปรียบฉันเมื่อคืน!” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่แลบลิ้นใส่หน้าเขาครั้งหนึ่ง แล้วหันหน้าวิ่งไปตอนที่เขายังไม่ดึงสติกลับา 

 

 

เธอวิ่งหายลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็วราวกับควัน 

 

 

อวี๋เยว่หานยืนอยู่ตรงหน้าประตู มองเงาร่างของเธอหายไปกับตา นัยน์ตาสีดำขุ่นมัวเล็กน้อย 

 

 

ตรงหน้าราวกับปรากฏภาพเมื่อคืนที่เธอกอดเขา ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยเขาอีกครั้ง 

 

 

ก่อนที่บนใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างหาได้ยาก 

 

 

ผ่านไปนานทีเดียว เขาถึงจะใจเย็นลง และหมุนตัวเข้าไปในห้องน้ำ 

 

 

 

 

 

บริษัทตระกูลอวี๋ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาในบริษัทเป็นคนแรก 

 

 

ตั้งแต่พบว่าตนเองมีความคิดจะโผเข้าหาอวี๋เยว่หาน เธอก็ปอดแหก ไม่กล้าแม้แต่จะนั่งรถของเขา 

 

 

เธอถือโอกาสตอนที่เขายังไม่ลงมาชั้นล่าง ออกจากคฤหาสน์มาก่อนอย่างลับๆ ล่อๆ 

 

 

เมื่อมาแสกนบัตรที่บริษัทในแผนกประชาสัมพันธ์ไม่มีใครเลยสักคน 

 

 

เธอถือหระเป๋าเดินไปยังที่นั่งของตนเอง แล้วดึงเก้าอี้มานั่งลง 

 

 

หญิงสาวไม่รีบเปิดคอมพิวเตอร์ แต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรศัพท์ไปหาหวางเมี่ยวเมี่ยว 

 

 

“สวัสดีค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…” 

 

 

ปิดเครื่อง 

 

 

ตั้งแต่เธอไปที่คอนโดมิเนียมของหวางเมี่ยวเมี่ยว และพบว่าอีกฝ่ายย้ายไปแล้ว แถมยังปิดโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอด 

 

 

เธอลองอยู่หลายครั้งแล้ว 

 

 

ไม่ว่าจะโทรศัพท์ไปช่วงเวลาไหนในหนึ่งวัน ก็ปิดเครื่องอยู่ตลอด 

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ หรือจงใจปิดเครื่องหนีใคร 

 

 

ล่ามสาวกับคนที่วางแผนให้ร้ายเธอเมื่อวาน มีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่บนที่นั่งของตนเอง เริ่มผูกเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน 

 

 

แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก เธอทำใครผิดใจกันแน่ 

 

 

พูดตามเหตุผลแล้ว อยู่ๆ เธอก็ได้ลงมาทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์ ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักใคร ไม่น่าจะมีความแค้นเก่าแก่ 

 

 

ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ก็คือไปคุกคามใครเข้า หลังจากที่มายังแผนกประชาสัมพันธ์แล้ว 

 

 

เซี่ยจิงจิงไม่อยู่แล้ว 

 

 

วางเทียนลี่ก็ถูกย้ายไปแล้ว 

 

 

หวางเมี่ยวเมี่ยวก็ลาออกไปแล้ว 

 

 

ยังมีใครอีก? 

 

 

ถ้าเบื้องหลังของหวางเมี่ยวเมี่ยวมีคนคอยชักใยอยู่จริง ตำแหน่งของคนคนนั้นก็ไม่น่าจะต่ำกว่าเธอ 

 

 

ไม่อย่างนั้นหวางเมี่ยวเมี่ยวคงไม่ทิ้งงานอันล้ำค่าไปง่ายๆ อย่างนี้ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่นึกอะไรออกบางอย่าง จึงเงยหน้ามองห้องทำงานผู้จัดการที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง 

 

 

เธอคิดมากไปเองหรือเปล่า 

 

 

แต่ก็รู้สึกอยู่ตลอด ว่าเหวินหย่าไต้มีปฏิกิริยาแปลกๆ ต่อเรื่องของหวางเมี่ยวเมี่ยวอยู่บ้าง 

 

 

หญิงสาวกำลังเหม่อลอย จนเสียงฝีเท้าระลอกหนึ่งพลันดังขึ้นจากข้างหลัง… 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 306 เกิดเรื่องแล้ว 

 

 

“ซูเปอร์ไซเซอร์เหนียน คุณมาเช้าจังเลยนะคะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจจนสะดุ้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ 

 

 

เมื่อหันไป เธอเห็นเหวินหย่าไต้ยืนอยู่ข้างหลัง ลูกตาของเธอหดตัวในทันใด 

 

 

พูดจาลับหลังใครไม่ได้เลยจริงๆ 

 

 

พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา! 

 

 

“ฉันทำให้คุณตกใจหรือเปล่า ขอโทษนะคะ ไม่รู้ว่าคุณคิดเรื่องอะไรอยู่ อยู่ๆ เรียกคุณแบบนี้ คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” เหวินหย่าไต้ยื่นมือมาจับไหล่ของเธอ พลางถามด้วยความเป็นห่วง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา แล้วฉีกยิ้ม “ฉันไม่เป็นไรค่ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ ผู้จัดการเหวิน” 

 

 

“สวัสดีค่ะ คุณนั้นแหละ มาเช้าขนาดนี้ กินข้าวเช้าหรือยังคะ” เหวินหย่าไต้เห็นเธอไม่เป็นไรจริงๆ ถึงได้ปล่อยมือ แล้วยกถุงอาหารเช้าในมือขึ้นมาแกว่งตรงหน้าเธอ 

 

 

พร้อมกับถามด้วยรอยยิ้ม 

 

 

น้ำเสียงของผู้จัดการสาวอ่อนโยนมาก ท่าทางเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย ไม่ถือตัวเลยสักนิด 

 

 

มีหัวหน้าแบบนี้ ถือเป็นสิ่งหาได้ยากในสายตาของใครหลายๆ คน 

 

 

“…ฉันไม่หิวค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งเอ่ยปาก ก็เห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้ว และมองเธออย่างไม่เห็นด้วย 

 

 

“ไม่กินข้าวเช้าไม่ได้นะคะ ไม่หิวก็ต้องกินสักหน่อย ฉันซื้อแซนวิชเกินมาชิ้นหนึ่งพอดีเลย” เหวินหย่าไต้พูด และหยิบแซนวิชออกจากในถุงวางลงบนโต๊ะของเธอ 

 

 

“ตอนนี้คุณเป็นคนสำคัญของแผนกเรา ฉันมีงานหลายอย่างต้องการให้คุณช่วยฉัน อย่าเกรงใจฉันเลยค่ะ”  

 

 

หลังจากเธอพูดจบ ก็ไม่มีโอกาสให้เหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยปากปฏิเสธอีก 

 

 

เหวินหย่าไต้ยิ้มให้เหนียนเสี่ยวมู่ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงานผู้จัดการ 

 

 

“…” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองหลังของเธอ แล้วหันมามองแซนวิชบนโต๊ะครั้งหนึ่ง 

 

 

สายตาพลันมีความรู้สึกที่ซับซ้อน 

 

 

ความรู้สึกแบบนี้… 

 

 

เหวินหย่าไต้ทำให้เธอมีความรู้สึกที่พูดไม่ออก 

 

 

หญิงสาวดีกับคนอื่นมาก 

 

 

ดีเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ ถึงแม้จะเป็นคนแปลกหน้า เธอก็ปฏิบัติกับคนคนนั้นอย่างอ่อนโยน 

 

 

ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเธอเจอกัน เหวินหย่าไต้ไม่เคยแสดงเจตนาร้ายกับเธอเลย 

 

 

เธอได้ลงมาทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์ เหวินหย่าไต้ก็เป็นคนแรกที่ยอมรับเธอ และเชื่อใจเธอ 

 

 

ว่ากันตามตรงแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ควรสงสัยเธอ 

 

 

แต่เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกๆ ไป… 

 

 

หรือว่าเธอจะคิดมากไปจริงๆ? 

 

 

ไม่นานเพื่อนร่วมงานในแผนกก็มาถึง 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ท่าทางเมื่อคืนจะหลับสบายมากเลยนะคะ วันนี้ถึงได้มาทำงานเช้าขนาดนี้” มีคนหยอกเย้า 

 

 

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ภากที่ลืมได้ยากลำลากก็ทะลักเข้ามาในสมองทันที 

 

 

แถมยังมีใบหน้าหล่อเหลาล่มเมืองของอวี๋เยว่หาน และคำพูดที่เธออยากโผเข้าใส่เขาแวบเข้ามาด้วย… 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณเป็นอะไรไปคะ ทำไมอยู่ๆ ก็หน้าแดง” 

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ ในส่วนทำงานอุ่นเกินไป ก็เลยร้อนนิดหน่อย ฉันจะออกไปสูดอากาศค่ะ!” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพลางหมุนตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน จัดการสัญญาของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเรียบร้อยแล้ว จะให้ส่งไปที่แผนกวางแผนเลยไหมคะ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หยุดฝีเท้า แล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย 

 

 

“ส่งไปเลยค่ะ งานต่อจากนี้ ให้แผนกวางแผนดำเนินการได้เลย แต่งานประกาศที่เกี่ยวข้องเป็นความรับผิดชอบของแผนกเรา ดังนั้นพวกเรายังต้องร่วมกับแผนกวางแผนจับตาดูเคสนี้” 

 

 

หลังจากเหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ ก็เห็นเลขาเดินเข้ามาหาเธออย่างร้อนรน 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน แผนกวางแผนเพิ่งส่งข่าวมา ว่าสตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเหมือนจะเกิดปัญหา แผนที่รับปากว่าจะส่งให้พวกเรา จนตอนนี้แล้วยังไม่ส่งมาเลยค่ะ!” 

 

 

“คุณว่าอะไรนะ?” เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งไป 

 

 

จากนั้นเธอก็หมุนตัวเดินกลับไปยังที่นั่งของตนเอง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และโทรศัพท์หามิสเตอร์ลอมบาร์ดีทันที 

 

 

โทรศัพท์ได้ แต่ไม่มีคนรับเลย!