ตอนที่ 307 หยั่งเชิง / ตอนที่ 308 ความเป็นสุภาพบุรุษของคุณชายหาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 307 หยั่งเชิง

 

 

“ก่อนหน้านี้คนของแผนกออกแบบติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีหรือยัง” เหนียนเสี่ยวมู่วางสาย แล้วถามเสียงเคร่ง

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดีเป็นคนที่รักษาเวลามาก

 

 

เขาไม่มีทางไม่ส่งแผนมาโดยไม่มีเหตุผลแน่

 

 

ตอนนี้เธอเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไร

 

 

“ติดต่อแล้วค่ะ ตอนนั้นนัดเวลาส่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คือวันนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ถึงติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวาน”

 

 

เลขาหยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ

 

 

“จนกระทั่งถึงวันนี้ เลยเวลาส่งงานไปแล้ว ก็ยังติดต่อทางมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ได้ เพื่อนร่วมงานที่แผนกออกแบบถึงจะรู้สึกว่าอาจจะเกิดปัญหา”

 

 

“เมื่อวานก็ติดต่อไม่ได้…” เหนียนเสี่ยวมู่กอดอก ใคร่ครวญอยู่พักหนึ่ง

 

 

“ตอนนี้เก้าโมงเช้า กว่าจะหมดวันนี้ก็เหลือเวลาอีกนาน บอกคนของแผนกออกแบบให้รออีกหน่อย ฉันก็จะติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีให้ได้เร็วที่สุด”

 

 

“ได้ค่ะ” เลขาออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เร่งฝีเท้าเดินกลับไปที่นั่งของตนแอง “เสี่ยวเสี่ยว ส่งข้อมูลโดยละเอียดของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีกับทีมของเขามาให้ฉันชุดหนึ่ง”

 

 

เสี่ยวเสี่ยวอึ้งไปเมื่อถูกเรียก แต่ก็ยังตอบรับตามสัญชาตญาณ

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ก่อนหน้านี้หวางเมี่ยวเมี่ยวดูแลข้อมูลของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีค่ะ”

 

 

“…แล้วหลังจากหวางเมี่ยวเมี่ยวลาออก ข้อมูลอยู่ที่ใคร” สีหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่เคร่งเครียดขึ้น ก่อนจะหันไปมองเธอ

 

 

เสี่ยวเสี่ยวคิด แล้วชี้ไปที่ห้องทำงานผู้จัดการ

 

 

“น่าจะเป็นผู้จัดการเหวินค่ะ”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตา เดินเข้าไปเคาะประตู

 

 

จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไป

 

 

เมื่อเหวินหย่าไต้เห็นเธอ สีหน้าไม่มีความประหลาดใจเลยสักนิด

 

 

ตรงหน้ามีเอกสารหนาเตอะชุดหนึ่งวางอยู่ด้วย

 

 

“มาเพราะเรื่องมิสเตอร์ลอมบาร์ดีใช่ไหมคะ” เหวินหย่าไต้มองเธอพร้อมรอยยิ้ม

 

 

“หลังจากหวางเมี่ยวเมี่ยวไป เธอควรจะส่งข้อมูลของบริษัทให้คุณตั้งนานแล้ว แต่ฉันสะเพร่าเลยลืมไป หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะ”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองเอกสารตรงหน้า เธอไม่ได้ยื่นมือไปรับมา แต่ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

 

 

“หวางเมี่ยวเมี่ยวย้ายบ้านไปแล้ว ปิดมือถือติดต่อไม่ได้ ผู้จัดการเหวินรู้ใช่ไหมคะ”

 

 

“อะไรนะคะ” เหวินหย่าไต้ไม่คิดว่าอยู่ๆ เธอจะถามแบบนี้ จะตะลึงลานไปในทันที

 

 

แต่ก็กลับมาสงบนิ่งดังเดิมในพริบตา

 

 

“เธอทำผิด ก็ควรจะได้รับบทลงโทษ ฉันเสียใจมากค่ะ หลังจากเธอลาออก ก็ไม่ได้ติดต่อกับเธอเลย ทำไมเธอย้ายบ้านล่ะเนี่ย”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ตอบ

 

 

ปฏิกิริยาของเหวินหย่าไต้เป็นปกติมาก

 

 

แต่เธอกลับรู้สึกว่า ตอนนี้ตนเองสงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว

 

 

“เพื่อนร่วมงานในแผนกของเราบอกว่าตอนนี้ติดต่อเธอไม่ได้ ฉันก็เลยถามดูน่ะค่ะ ไม่รบกวนผู้จัดการแล้วนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพลางยื่นมือไปหยิบเอกสารตรงหน้าอีกฝ่าย และเตรียมตัวจะออกไป

 

 

ทันใดนั้น เหวินหย่าไต้ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้

 

 

“จริงสิ ฉันได้ยินว่าตอนนี้ติดต่อทางมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ได้ ฉันให้เพื่อนที่อยู่อิตาลีช่วยถามข่าวคราวแล้ว ถ้าได้ข่าวอะไร จะบอกคุณทันทีเลยค่ะ”

 

 

“ขอบคุณค่ะ ผู้จัดการเหวิน” เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกาย และออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

ขณะที่ประตูห้องทำงานปิดลง

 

 

ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเหวินหย่าไต้พลันเยียบเย็นลง

 

 

เธอมองออกไปจากผนังกระจก มองเหนียนเสี่ยวมู่ที่เพิ่งออกจากห้องทำงานของเธอ ขณะเดียวกันนั้นก็มีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปาก

 

 

หาไปเถอะ หาไปให้ตาย

 

 

เมื่อวานเธอได้ข่าว ว่าคนในสตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเข้าโรงพยาบาลยกทีม เพราะอาหารเป็นพิษ

 

 

ตอนนี้ทางสตูดิโอคงจะวุ่นวายกันไปหมด

 

 

ไม่มีคนสนใจเหนียนเสี่ยวมู่หรอก

 

 

 

 

ตอนที่ 308 ความเป็นสุภาพบุรุษของคุณชายหาน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ใช้ความโชคดีไปจนหมดแล้ว

 

 

คราวนี้แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยเธอไม่ได้!

 

 

งานแสดงการออกแบบประจำปีของบริษัทตระกูลอวี๋ใกล้จะมาถึงแล้ว แผนกออกแบบเปิดเผยกับสื่อก่อนแล้ว ว่างานแสดงในครั้งนี้จะจับมือกับสตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี เตรียมงานเลี้ยงออกแบบที่มีหนึ่งเดียวให้ทุกคนเห็น

 

 

ถ้าเกิดความผิดพลาดในเวลานี้ เธอไม่ต้องทำอะไร เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยากจะรอดพ้นไปได้!

 

 

เธอรอวันที่เหนียนเสี่ยวมู่ล้มเหลวอยู่!

 

 

ในส่วนทำงาน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถือข้อมูลของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี เดินกลับไปยังที่ของตนเอง

 

 

หญิงสาวก้มหน้าเริ่มค้นคว้าข้อมูลของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีและสมาชิกในสตูดิโอของเขา

 

 

ขณะเดียวกันก็ให้คนติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีอย่างต่อเนื่อง

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดีคะ” เลขาเดินมาข้างๆ เหนียนเสี่ยวมู่ พร้อมกับถามด้วยความร้อนใจ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เห็นว่าผ่านมานานแล้ว เธอเวียนหัวอยู่บ้าง

 

 

หญิงสาวยื่นมือนวดหว่างคิ้ว “บอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งวิตก ติดต่อต่อไป ถ้าพรุ่งนี้ยังติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ได้ ฉันจะบินไปอิตาลีเอง”

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” เลขาเห็นสีหน้าเธอไม่ดี จึงถาม

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็ส่ายหน้า

 

 

และอ่านข้อมูลตรงหน้าต่อไป

 

 

ขอเพียงพบช่องทางการติดต่อสักทาง ก็จะได้ลองสักครั้ง

 

 

แต่ก็ยังไม่ได้อะไรเหมือนเดิม

 

 

ดูท่าทางคงจะต้องบินไปอิตาลีจริงๆ…

 

 

“ครืดๆ!” อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปรับสายโดยไม่คิดด้วยซ้พ

 

 

ขณะที่คิดจะถามว่าใช่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีหรือเปล่า ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของอวี๋เยว่หานดังมาจากปลายสายเสียก่อน “วันนี้เลิกงานเร็วหน่อย มารอผมที่ลานจอดรถ”

 

 

“มีเรื่องอะไรเหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไป

 

 

“วันนี้เสี่ยวลิ่วลิ่วไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลวันแรก ไปรับเธอเป็นเพื่อนผมหน่อย” อวี๋เยว่หานพูดจบด้วยความเฉยชา ก่อนจะเสริมอีก “ความคิดเสี่ยวลิ่วลิ่ว”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ทันได้แสดงความเห็น สายก็ตัดไปแล้ว

 

 

เธอมองเวลาเล็กน้อย ก่อนจะเก็บของ บอกลาเพื่อนร่วมงานแล้วถึงออกไป

 

 

เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ เงาร่างสูงโปร่งก็ยืนอยู่ที่หน้ารถแล้ว

 

 

เสื้อกันลมตัวยาวยิ่งทำให้เขาดูงสูงขึ้น

 

 

ผมสั้นสีดำปลิวไปตามลง เขาหันหน้ามามองเธอ นัยน์ตาสีดำลุ่มลึกราวกับจะดูดกลืนวิญญาณของเธอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รีบวิ่งสั้นๆ เข้าไปหา “ฉันรับโทรศัพท์คุณแล้ว ก็เก็บของลงมาเลย”

 

 

เขามาเร็วเกินไป เธอไม่ได้มาสาย

 

 

อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเธอครั้งหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปเปิดประตูรถให้เธอขึ้นรถ

 

 

เมื่อเธอนั่งเรียบร้อย เขาถึงจะอ้อมไปนั่งอีกฝั่งในรถ

 

 

รถเคลื่อนออกไปได้ระยะหนึ่ง เหนียนเสี่ยวมู่ก็มีสติกลับมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

เมื่อกี้อวี๋เยว่หานเปิดประตูรถให้เธอ…

 

 

เขาเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 

พอใส่ใจขึ้นมา ก็แทบจะฆ่ากันตายได้เลย!

 

 

แถมเรื่องไปรับเจ้าตัวเล็กหลังเลิกเรียนแบบนี้ มันเหมือนเรื่องที่พ่อแม่ของเด็กควรจะทำ

 

 

เขาพาเธอไปแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นเข้าใจผิดเหรอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หันไปลอบมองเขา ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ขณะที่มองเขาอยู่

 

 

“คุณชาย คุณมีคนรู้จักอยู่ที่อิตาลีหรือเปล่า”

 

 

“หืม?” อวี๋เยว่หานตอบรับโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

เสียงน่าดึงดูด เหมือนตอบรับหัวใจใคร

 

 

นัยน์ตาสีดำมองเธอ ราวกับกำลังสงสัย ว่าเธอถามคำถามนี้ เพราะพบอะไรเข้าหรือเปล่า

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้สังเกตสีหน้าของเขา และพูดขึ้นมาเอง

 

 

“อยู่ๆ มิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็ขาดการติดต่อไป ฉันเห็นว่าในข้อมูลของเขามีที่อยู่ด้วย อยากหาคนช่วยไปดูหน่อย”