ตอนนี้สถานการณ์กระอักกระอ่วนมาก! ซ่งเฉียงที่อยู่ในสายได้ยินคำพูดของเฉินชางแล้ว
ไม่สะดวกหรือ? เด็กคนนี้นี่ จะไม่สะดวกขนาดไหนกัน!
เซี่ยงอิ๋งรับโทรศัพท์ “คือ…หัวหน้าซ่ง…”
ซ่งเฉียงมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดว่า “คุณรอก่อนนะครับ ผมยังอยู่ที่โรงพยาบาล ยังไม่ได้กลับบ้าน ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”
วันนี้เพิ่งสิ้นสุดการประเมินพนักงานชั่วคราวของโรงพยาบาล ดังนั้นฝ่ายกิจการแพทย์จะต้องรีบเปลี่ยนคนเข้ามาเป็นพนักงานสัญญาจ้าง ฝ่ายกิจการแพทย์และฝ่ายบุคลากรจึงกำลังยุ่งเรื่องนี้กันอยู่ ซ่งเฉียงที่เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการแพทย์จึงยังไม่ได้กลับบ้าน
ตอนนี้เซี่ยงอิ๋งไม่ยอมถอยแล้ว ส่วนเด็กชายกลับยืนพิงกำแพงอยู่ด้านข้าง ทำท่าทางสนุกเหมือนกำลังรอดูละคร
หญิงวัยกลางคนเห็นการแต่งกายของหยางจื้อฟู่และโจวข้วงเซิงก็คิดแผนการขึ้นได้ทันที “นี่ พี่ชายสองคนนี้ เด็กยังเล็ก สะดวกหลีกทางให้ก่อนไหมคะ? ใช่แล้ว นี่เป็นเงิน หนึ่งหมื่นหยวน คุณรับไปเถอะ ดีไหมคะ?”
หยางจื้อฟู่และโจวข้วงเซิงใบหน้าเดี๋ยวเขียวม่วง รู้สึกอัดอั้นตันใจ
โจวข้วงเซิงยิ่งรู้สึกไม่ดี ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจโลก เฉินชางคนนี้เป็นหมอที่ดีจริงๆ แต่ว่า…ยิ่งเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งกลัวว่าตนจะทำให้คนอื่นวุ่นวาย
ผู้หญิงคนนี้ ดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่ใช่คนธรรมดา ถึงกับโทรหาประธานคณะกรรมการและหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ได้ในพริบตาเดียว เกรงว่าคงเป็นคนมีพื้นเพ แม้เขาจะอยากรักษามาก แต่เขาก็กลัวสร้างความลำบากให้เฉินชาง!
เมื่อเห็นเงินปึกหนาที่เซี่ยงอิ๋งส่งมาให้ มันเยอะมาก เงินเท่านี้ตนต้องทำงานสามเดือนถึงจะได้ ซื้อเสื้อผ้าให้น้องสาวได้หลายตัว เป็นค่าเล่าเรียนให้ลูกชายได้ด้วย
โจวข้วงเซิงหัวเราะแห้งๆ “ไม่เป็นไรครับ ให้ลูกคนไปตรวจก่อนเลย ไม่ว่าใครก็มีลูกเหมือนกัน ผมเห็นหน้าเขาดูเจ็บปวดมาก ผมไม่ใช่คนละเอียดอ่อนอะไร อีกอย่าง ทำงานแบบพวกเราก็ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ ไม่เป็นไร ให้ลูกคุณก่อนเลย ผมไม่รีบ”
เงินหมื่นหยวนมีแรงดึงดูดมากจริงๆ แต่บางอย่างก็สำคัญกว่าเงิน!
เขามีชีวิตอยู่มาห้าสิบกว่าปีแล้ว จะไม่เข้าใจเรื่องนี้หรือ? ผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นคนมีความสามารถมากแน่ๆ หากล่วงเกินเธอ จะไม่ดีกับทุกฝ่าย…
โจวข้วงเซิงเป็นคนซื่อสัตย์ เดิมทีเขามาทำงานในเมืองก็รู้สึกแตกต่างอยู่แล้ว และยิ่งรู้สึกเคารพหวาดกลัวคนมีเงินมีอำนาจ
ตอนนี้ เขายังคงเลือกที่จะถอย
เฉินชางเห็นดังนั้นก็รู้สึกจนใจ ผ่านไปประมาณสามนาที ซ่งเฉียงก็วิ่งเข้ามาอาจ เป็นเพราะวิ่งเร็วเกินไปจึงทำให้ผมบางๆ เหมือนสาหร่ายบนหัวกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง
เมื่อเห็นเซี่ยงอิ๋ง ซ่งเฉียงก็ยิ้มมาแต่ไกล “ประธานเซี่ยง ไม่พบกันนานเลยครับ!”
เซี่ยงอิ๋งก็ยิ้มให้ “หัวหน้าซ่ง รบกวนคุณแล้ว”
ซ่งเฉียงรีบโบกมือเดินเข้าไปในห้องหัตถการกับเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน? ใช่ไหมครับ? คุณเย็บแผลให้เด็กคนนี้ก่อนเถอะ ใช้เวลาไม่กี่นาทีหรอก มีเวลามาทำเรื่องแบบนี้คงจะเสร็จไปนานแล้ว”
ซ่งเฉียงไม่รู้จักเฉินชาง แม้ก่อนหน้านี้เคยได้ยินชื่อมาบ้าง แต่ว่า…โรงพยาบาลมีคนมากขนาดนั้น เฉินชางเป็นแค่มนุษย์ตัวเล็กๆ ที่ไม่สำคัญอะไร
สำหรับหมอแล้ว ฝ่ายกิจการแพทย์เป็นฝ่ายที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าจัดการเรื่องเกี่ยวกับพวกแพทย์โดยตรง แน่นอนว่าหากเกิดเรื่องอะไรก็จะออกมาปกป้อง ข้อพิพาททางการแพทย์ก็อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายกิจการแพทย์เช่นกัน
ดังนั้นหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตำแหน่งของซ่งเฉียงไม่ด้อยไปกว่ารองผู้อำนวยการเหล่านั้นเลย อาจพูดได้ว่าสูงกว่ารองผู้อำนวยการด้วยซ้ำ จะอย่างไรเขาก็มีอำนาจจัดการพวกหมอ
เฉินชางส่ายหน้า “หัวหน้าซ่ง อาการบาดเจ็บของโจวข้วงเซิงอันตรายมาก คุณถ่วงเวลาแบบนี้ คุณจะรับผิดชอบได้หรือครับ?”
ตอนนี้เฉินชางรู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว เจอกับพวกวีไอพีหัวแข็งเงินเยอะ เขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน!
คนที่จะเสียเวลาก็คือคนป่วย เมื่อพูดจบเฉินชางก็พูดกับโจวข้วงเซิงว่า “คุณเข้ามา ถ้าคุณยังเสียเวลาอีก มือของคุณจะรักษาไม่ได้แล้ว ผมไม่รับประกันนะครับ!”
คำพูดของเฉินชางไม่ไว้ไมตรีแม้แต่น้อย ซ่งเฉียงหน้าเสียคล้ายถูกตบหน้าไปฉาดหนึ่ง!
นี่เป็นครั้งแรกที่มีหมอน้อยกล้าปฏิเสธเขาซึ่งหน้าตั้งแต่ที่เขาได้เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการแพทย์!
สีหน้าของซ่งเฉียงเปลี่ยนไปทันที!
อีกอย่าง ตอนนี้เอง ชายสวมแว่นกรอบทองร่างผอมเมื่อครู่นี้ก็ลุกขึ้นยืน หัวเราะอย่างเย็นชา “โรงพยาบาลไม่มีคิวแล้วหรือ? พวกเราเข้าแถวรอกันมาครึ่งวัน คุณก็มาแซงคิวแบบนี้เลย? คุณคือหัวหน้าแผนกซ่งใช่ไหมครับ? โรงพยาบาลทำกันแบบนี้หรือ?”
ขณะพูด ชายร่างผอมก็ส่งสายตาให้เฉินชาง เฉินชางเข้าใจได้โดยพลัน รีบดึงโจวข้วงเซิงเข้าไปแล้วปิดประตูรักษา แม้ข้างนอกจะคุกรุ่นดั่งมีคลื่นพายุ ตอนนี้เขาก็ต้องรักษาคนป่วย!
โจวข้วงเซิงมีสีหน้ากังวล ถามอย่างระแวงว่า “หมอเฉิน…ผมสร้างปัญหาให้คุณหรือเปล่าครับ?”
เฉินชางส่ายหน้า “ไม่ครับ ผมจะฉีดยาชาให้คุณก่อนนะครับ”
โจวข้วงเซิงยังคงรู้สึกไม่ดี “หมอเฉิน คุณยังเด็ก คุณไม่เข้าใจ…คนพวกนั้นมีเงินมีอำนาจ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางลับก็หาเรื่องคุณได้ทั้งนั้น วันนี้ผม อา…สร้างปัญหาให้คุณแล้ว”
เฉินชางเห็นโจวข้วงเซิงมีท่าทีรู้สึกผิดจึงเริ่มพูดไปว่า
“คุณโจว คุณอายุพอๆ กับพ่อผม พ่อผมก็เป็นคนชนบทเหมือนกัน คุณว่า ถ้าผมหวาดกลัวคนมีเงินมีอำนาจ กลัวพวกเขาจนยอมทรยศศีลธรรมอันดีงามของตัวเองเพื่อทำเรื่องในวันนี้ ผมคงเป็นคนดีไม่ได้อีกชั่วชีวิต หากคนเรายอมวางศีลธรรมในใจเอาง่ายๆ อยากจะหยิบขึ้นมาใหม่ก็ยากแล้ว!”
“การเป็นคนจะต้องมีหลักการ เป็นหมอก็ต้องมีหลักการ บนบ่าของผมคือความสุขของคนอื่น สิ่งที่ผมแบกก็คือสุขภาพของคนอื่น ถ้าวันนี้ผมไม่มีหลักการ ไม่มีศีลธรรมจรรยาบรรณ พรุ่งนี้ผมก็จะไม่มีหลักการและจรรยาบรรณ หมอแบบนี้ผมไม่เป็นหรอก!”
“กว่าผมจะมาเป็นหมอได้ก็ลำบากมาก ต้องเป็นหมอที่ตรงไปตรงมาและผ่าเผย!”
พูดจบเฉินชางก็รู้สึกคล้ายมีคลื่นอารมณ์บางอย่างในใจ!
เขาไม่รู้ว่าทำไมต้องพูดคำเหล่านี้ออกไป อาจเป็นเพราะพูดให้โจวข้วงเซิงฟัง แต่ที่มากกว่านั้นก็คือพูดให้ตัวเองฟัง
ถ้าโรงพยาบาลลงโทษจริงๆ เฉินชางก็คิดได้ชัดเจนแล้ว อย่างมากก็แค่ถูกไล่ออก!
แผ่นดินกว้างใหญ่ ย่อมมีที่ให้เขาเฉินชางอยู่แน่นอน หากฉินเสี้ยวหยวนหรือหลี่เป่าซานเป็นแผ่นฟ้าให้เขาไม่ได้ ออกไปก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
เฉินชางในตอนนี้ไม่ใช่เฉินชางในตอนแรกแล้ว
มีระบบแล้ว ถ้ายังต้องทำตัวไร้จรรยาบรรณ เป็นเมฆที่เคลื่อนคล้อยไปตามสังคมแย่ๆ ไม่มีหลักการเป็นของตัวเอง แล้วจะมีระบบไปทำไม?
ลูกผู้ชายต้องมีหลักการ ไม่ทรยศหลักการของตัวเอง! ต่อให้เฉินชางไม่มีระบบ ก็จะขอเป็นหมอที่มีจรรยาบรรณ
ดังนั้นตอนที่เขาออกมาจากโรงพยาบาลซือลี่ ก็เพราะเขาคิดว่ามันทรยศศีลธรรมอันดีงามของตัวเอง!
เขาสูดหายใจครั้งหนึ่ง ต่อให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายในโรงพยาบาลเขาก็ต้องยืนให้มั่นคง!
“ผมจะให้ยาชาแล้วนะครับ ผ่อนคลายลงหน่อย…”
……
……
ตอนนี้นอกห้องหัตถการกำลังคึกคักเป็นอย่างยิ่ง! คำพูดของชายร่างผอมไปกระตุ้นอารมณ์ของฝูงชนเข้าแล้ว!
สำหรับคนงานชนบทสองคนเมื่อครู่นี้ ทุกคนล้วนเห็นใจเขา และคนงานทุกคนยังมีมารยาทก้มหัวขอโทษ แต่พวกคุณกลับดีจริงๆ มาถึงก็ให้หัวหน้าแผนกอะไรนั่นเปิดทาง ขอรักษาเป็นคนแรก?
คุณเป็นคนเปิดโรงพยาบาลนี้หรือไง?
ผู้คนรอบๆ ต่างก็วุ่นวายขึ้นมา!
“คุณเป็นหัวหน้าแผนกของโรงพยาบาลด้วยหรือ? ตามกฎระเบียบของโรงพยาบาล คุณทำแบบนี้ถือเป็นการทุจริต!”
“ขยะ! พวกหนอนแมลงเอ๊ย!”
“ถ่ายไว้ เอาเขาไปแฉในอินเทอร์เน็ตเลย ให้ทุกคนดูว่าหัวหน้าแผนกซ่งของโรงพยาบาลอันดับสองยอดเยี่ยมขนาดไหน!”
“แล้วก็ประธานเซี่ยงด้วย ทุกคนเอาไปแฉเลย ดูซิว่าคนพวกนี้จะมีอำนาจถึงขนาดไหน!”
……
ตอนนี้ซ่งเฉียงกระวนกระวายเข้าแล้ว สังคมปัจจุบันมีการพลิกผันของกระแสมากเกินไป
ซ่งเฉียงมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที “แผนกฉุกเฉินก็มีลำดับก่อนหลังครับ แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการอันตรายหรืออาการอื่นๆ ก็แยกเป็นระดับสีเขียวสีแดงได้ เด็กคนนี้ แผลเขาต้องรักษาภายในเวลาที่กำหนด…”
น่าเสียดายไม่มีใครฟังเขา!
เด็กคนนั้นไม่ได้มีท่าทีเคร่งเครียด กลับมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยท่าทีสนุกสนานด้วยซ้ำ “ประธานเซี่ยง คุณเก่งมากไม่ใช่หรือ? แล้วก็ยังมีหัวหน้าแผนกซ่งอะไรนั่งอีก ไม่ได้ยินประโยคนี้หรือครับ? จะเล่นก็ต้องเล่นให้ถูกคน!”