ตอนที่ 90 - พลังเวทมนตร์ของจิตวิญญาณกระบี่

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 90 – พลังเวทมนตร์ของจิตวิญญาณกระบี่

ในขณะที่เจี้ยนเฉินมึนงง หัวขนาดเล็กที่ไม่ได้สัดส่วนเมื่อเทียบกับปากขนาดใหญ่ที่ไม่เข้าคู่กันของอสรพิษทองริ้วเงินหันกลับมางับเข้าที่คอของเจี้ยนเฉินอีกครั้ง เขี้ยวของมันแกว่งไปมา กระแสของหมอกพิษสีเทาไหลออกมาจากปากของมัน

เมื่อรู้สึกว่าปากที่เปิดกว้างของอสรพิษกัดเขา เจี้ยนเฉินเอียงหัวไปทางด้านข้างทันทีเพื่อหลบปากที่อ้าค้างไว้ของสัตว์อสูร ในทันใดนั้น ฝีเท้าอันดุดันของเขาก็ขยับพาเขาไปทางด้านหลังของอสรพิษทองริ้วเงิน กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายอย่างเจิดจ้า ในขณะที่เขาเหวี่ยงมันลงบนร่างของอสรพิษอีกครั้งอย่างปฏิเสธที่จะเชื่อว่ามันจะไม่ได้ผล

กระบี่วายุโปรยแทงลงบนผิวหนังของอสรพิษทองริ้วเงินอย่างแม่นยำ แต่ก็หยุดที่ชั้นแรกสุดของเกล็ดอสรพิษเท่านั้นไม่สามารถเจาะทะลุไปได้อีก ผิวสีทองบาง ๆ เป็นเหมือนป้อมปราการที่ไม่สามารถทะลุทะลวงได้ ไม่มีรอยใดที่จะคงอยู่แม้เขาจะใช้พลังโจมตีเต็มสิบส่วน

เมื่อเห็นอย่างนี้สีหน้าของเจี้ยนเฉินก็ยิ่งน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม อารมณ์ของเขาหดหู่หลังจากค้นพบว่ากระบี่ของเขามีประสิทธิภาพลดลง การป้องกันอันทรงพลังของอสรพิษทองริ้วเงินได้ทำให้เจี้ยนเฉินไม่มีทางเลือก เนื่องจากการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาต่อการป้องกันของอสรพิษนั้นเป็นเหมือนรอยขีดข่วนของเด็ก ๆซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ

เจี้ยนเฉินไม่ลังเลเลย เขาเรียกกระบี่ของเขากลับทันที เขารวบรวมกำลังไว้ที่ขาทั้งสองเพื่อกระโดดขึ้นจากพื้นดิน ก่อนที่อสรพิษจะตอบสนอง ร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศแล้ว หลังจากได้กำหนดทิศทางแล้ว เขายืมพลังของกิ่งไม้และลอยไปที่ส่วนลึกของเทือกเขาสัตว์อสูร

การป้องกันที่แข็งแกร่งของอสรพิษทองริ้วเงินไม่ใช่สิ่งที่เจี้ยนเฉินสามารถรับมือได้ ด้วยทุกอย่างที่เจี้ยนเฉินมี เขาวิ่งหนีเข้าไปในส่วนลึกของเทือกเขาด้วยความหวังว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอีกตัวจะดึงดูดความสนใจของอสรพิษทองริ้วเงิน นี่เป็นวิธีเดียวที่เจี้ยนเฉินจะสามารถหลบหนีได้ แม้ว่าวิธีนี้จะเป็นอันตราย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เจี้ยนเฉินรู้ว่ามีทหารรับจ้างจำนวนมากอยู่ในเทือกเขาสัตว์อสูรซึ่งเขาอาจจะได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขาในการหยุดยั้งอสรพิษทองริ้วเงิน อย่างไรก็ตามเทือกเขานั้นกว้างใหญ่เกินไป โอกาสที่จะพบกับทหารรับจ้างคนอื่นนั้นค่อนข้างยาก

เจี้ยนเฉินบินขึ้นไปในอากาศโดยใช้กิ่งไม้ทั้งสองข้างเพื่อส่งตัวเองไปในทิศทางของภูเขา ข้างหลังเขาคืออสรพิษทองริ้วเงินที่กำลังติดตามอย่างกระชั้นชิด ลิ้นของมันแลบเข้าแลบออกอย่างต่อเนื่อง ส่วนบนของร่างกายมีความยาว 6-7 เมตร

อสรพิษตัวนี้ยังไม่ทราบความยาวของมัน ในขณะนั้นเจี้ยนเฉินยังไม่เห็นร่างของงูทั้งตัว อย่างไรก็ตาม เขาสามารถประมาณได้จากการตัดสินจากสิ่งที่เขาเห็นจากอสรพิษทองริ้วเงิน จนถึงตอนนี้มันมีความยาวอย่างน้อย 50 เมตร

เจี้ยนเฉินยังคงวิ่งซิกแซกไปมา ในขณะที่มองหาสิ่งกีดขวางด้วยความหวังว่าอสรพิษทองริ้วเงินจะถูกสกัดกั้น

“โฮก!”

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคำรามของเสืออยู่ใกล้ ๆ เสียงนั้นมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นไม่นานเจี้ยนเฉินก็เห็นเสือดำยาว 3 เมตรปรากฏในแนวสายตาของเขา ดวงตาของเสือแวววาวด้วยความรู้สึกเป็นลางร้ายเมื่อมองไปที่เจี้ยนเฉิน แต่เมื่อมันจ้องเขม็งมายังเขา ร่างคล้ายเถาวัลย์สีทองยาว 50 เมตรก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า

เมื่อมันเห็นอสรพิษทองริ้วเงิน มันก็เหมือนกับว่าเสือดำถูกสายฟ้าฟาด ขนทั้งหมดในร่างกายของมันลุกชัน แววตาของมันเหี่ยวเฉาลงในทันที ความกลัวได้เข้ามาแทนที่แววตาที่วาววับน่ากลัวเมื่อมองเห็นอสรพิษ มันไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป เสือดำวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วด้วยหางจุกตูด

แม้ว่าอสรพิษทองริ้วเงินนั้นเป็นอสรพิษ แต่ถ้าหากมีมันอยู่ในฝูงสัตว์อสูรจำนวนมาก สัตว์อสูรส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าที่จะรบกวนมัน

สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในภูเขาหลายครั้งก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉินพบสัตว์อสูรหลายชนิด แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการล่าถอยอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นอสรพิษทองริ้วเงิน เขาสาปแช่งเสือดำตัวนี้โดยไม่ส่งเสียง เพราะมันเริ่มวิ่งหนีไปอย่างเศร้าโศก ไม่ได้มีสัตว์อสูรสักตัวเดียวที่กล้ายั่วยุอสรพิษทองริ้วเงินด้านหลังเขา

อีกครึ่งชั่วยามต่อมาเจี้ยนเฉินก็อยู่ใกล้กับส่วนลึกของเทือกเขาสัตว์อสูร ป่าไม้มีความเขียวชอุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เจี้ยนเฉินเผชิญกับอุปสรรคมากขึ้นในระหว่างทางของเขา ข้างหลังเขา อสรพิษทองริ้วเงินกำลังไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ ราวกับว่าอสรพิษทองริ้วเงินตัดสินใจเลือกเจี้ยนเฉินเป็นเหยื่อของมัน แม้จะเจอสัตว์อสูรมากมาย แต่การจ้องมองของมันยังคงยึดติดอยู่กับเจี้ยนเฉิน

ฟ่อ! หัวอสรพิษหายไปพร้อมกับภาพพร่ามัวขณะที่มันฉกไปที่เจี้ยนเฉินอีกครั้ง

เจี้ยนเฉินคอยติดตามสถานการณ์อยู่ข้างหลังเขาตลอดเวลาและเมื่อเขาเห็นอสรพิษขยับเข้ามาหาเขา ขาของเขาดันกิ่งไม้ที่แข็งแรงที่เขาอาศัยอยู่ ผลักดันเขาไปด้านข้างอย่างฉับพลันทำให้อสรพิษพลาด

ซ้ำแล้วซ้ำอีก เจี้ยนเฉินยังคงหลบการโจมตีของอสรพิษต่อไป อสรพิษทองริ้วเงินโกรธยิ่งขึ้นในความล้มเหลวแต่ละครั้ง ประกายตาที่เป็นอันตรายของมันทวีความดุร้ายมากขึ้น ทันใดนั้นหางอสรพิษทองริ้วเงินก็บินออกจากหญ้าสูงไปทางเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าหางพุ่งมาหาเขา เมื่อเห็นกิ่งไม้ที่แข็งแรงอยู่ด้านข้างเขา เขาก็กระโดดและถีบตัวออกไปจากจุดของเขาในทันทีโดยไม่ลังเล ร่างกายทั้งหมดของเขาถูกส่งไปยังต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านหนาทึบ

หางของอสรพิษเปลี่ยนทิศทางทันทีและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วทะลุคอขวด มันรัดเจี้ยนเฉินในไม่ช้าและเริ่มหมุนรอบเอวของเขาอย่างแน่นหนา

ขณะที่หางพันรอบเอวของเขาใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็ซีดด้วยความตกใจ กระบี่วายุโปรยเริ่มส่องแสงอย่างสว่างไสวลงมาที่หางของมันทันที แต่เนื่องจากเกล็ดด้านนอกนั้นแข็งแกร่งมาก กระบี่ของเจี้ยนเฉินไม่อาจทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ได้เลย

ในขณะนั้นมีกลิ่นเหม็นกำลังออกมาจากปากของอสรพิษทองริ้วเงินซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าร่างของมันจนสามารถมองเห็นได้ชัด ในพริบตามันพุ่งไปที่คอของเจี้ยนเฉินและกำลังจะยึดมันไว้

เจี้ยนเฉินรีบส่งกระบี่วายุโปรยไปที่ปากงูทันที

แต่อสรพิษก็ฉลาดแกมโกงและมันบิดหัวเพื่อหลบกระบี่ หลังจากนั้นงูก็เปิดปากกว้างและกัดด้วยเขี้ยวอันแหลมคมลงไปที่ไหล่ซ้ายของเจี้ยนเฉิน

เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ไหล่ซ้ายของเขา ใบหน้าของเจี้ยนเฉินไร้สีเลือด พิษของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นแข็งแกร่งมากและเมื่อถูกอสรพิษกัด ยาแก้พิษตัวเดียวก็คือเลือดของอสรพิษ ไม่มีวิธีอื่น แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้

แต่เกล็ดอสรพิษทองริ้วเงินนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าเจี้ยนเฉินจะสร้างบาดแผลให้กับมันได้

เมื่อเห็นอสรพิษกัดแน่นอยู่บนไหล่ของเขา เจี้ยนเฉินก็ตื่นตระหนกยิ่งขึ้นในวินาทีนั้นและสีหน้าของเขาก็บ้าคลั่ง จิตใจของเจี้ยนเฉินได้รับอิทธิพลจากสภาพจิตใจเช่นนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเนื่องจากภาพทิวทัศน์รอบตัวเขากลายเป็นภาพพร่ามัวในใจ แม้ว่าความรู้สึกนี้จะจางมาก หากเจี้ยนเฉินไม่รู้สึกถึงความตั้งใจ เขาจะไม่สามารถรู้สึกอะไรเลย อย่างไรก็ตามในขณะที่อารมณ์ของเขากำลังปั่นป่วนมาก เขาไม่ได้สังเกตความจริงนี้

“อ๊าก ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนขึ้นไปบนฟ้า โดยไม่สนใจว่าเขาจะสามารถฝ่าแนวป้องกันของอสรพิษได้หรือไม่ เขาชูกระบี่วายุโปรยขึ้นสู่อากาศก่อนที่จะเหวี่ยงกระบี่กลับลงมาโดยหวังว่าจะตัดหัวมัน

ชั่วขณะที่กระบี่วายุโปรยถูกเหวี่ยงลงมาราวกับว่าจิตวิญญาณของเจี้ยนเฉินเชื่อมโยงกับกระบี่ในมือของเขา มันเหมือนกับว่าทั้งสองได้หลอมรวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีความแตกต่าง การหลอมรวมเป็นไปอย่างราบรื่นจนทำให้เกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ในใจราวกับว่ากระบี่ของเขาคือจิตวิญญาณของเขาและจิตวิญญาณของเขาคือกระบี่ของเขา

ในเวลาเดียวกัน แสงสีฟ้าและสีม่วงในจุดตันเถียนของเขาก็เริ่มสั่นไหว ขณะที่ลำแสงสีอ่อนเริ่มแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาจากจุดแสงทั้งสองนี้ ในขณะที่เจี้ยนเฉินเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ลำแสงก็เริ่มแผ่ออกจากศีรษะของเขา

“ชิ้ง ! ” กระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินเปล่งเสียงดังออกมาราวกับปราณกระบี่ห่อหุ้มกระบี่ไว้อย่างสมบูรณ์ คราวนี้ปราณกระบี่ดูราวกับมีหมอกหนาทึบปกคลุมกระบี่อยู่ ใบมีดด้านในพร่ามัวทำให้มองเห็นได้ยาก

“ติ๊ง!” กระบี่วายุโปรยฟาดเข้าไปที่หัวของอสรพิษทองริ้วเงิน เสียงเบา ๆ ดังขึ้น คราวนี้ปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งได้ทำให้กระบี่ตัดผ่านชั้นแรกของเกล็ดอสรพิษที่มีพลังป้องกันสูง ทันใดนั้นบาดแผลที่ดูลึกก็ปรากฏขึ้นบนหัวของอสรพิษและเลือดสดก็เริ่มไหลจากบาดแผลอย่างล้นเหลือ

ฟ่อ ! อสรพิษทองริ้วเงินเปล่งเสียงดังกล่าวอย่างเจ็บปวด การกัดที่ไหล่ของเจี้ยนเฉินนั้นคลายออกแล้วก็หลุดออกไปจากเขา ดวงตาของมันถูกตรึงอย่างใกล้ชิดกับเจี้ยนเฉิน ขณะที่ลิ้นแลบออกมาซ้ำ ๆ

เมื่อเห็นบาดแผลที่นองด้วยเลือดบนหัวอสรพิษ เจี้ยนเฉินก็ตกตะลึงในไม่ช้า แต่หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าที่ยินดีก็เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา

” ดังนั้นดูเหมือนว่าจิตวิญญาณกระบี่จะสามารถทะลวงการป้องกันของอสรพิษทองริ้วเงินได้” เจี้ยนเฉินนึกยินดีอยู่ในใจ ภายใต้การควบคุมอย่างรอบคอบของเขา กระบี่และจิตวิญญาณของเขาได้ร่วมมือกันเพื่อให้กระบี่กลายเป็นจิตวิญญาณและจิตวิญญาณกลายเป็นกระบี่ มันเป็นการรวมกันของปาฏิหาริย์ซึ่งเจี้ยนเฉินรู้สึกได้อย่างชัดเจน ทำให้เขารู้สึกราวกับว่ากระบี่เล่มนี้เป็นชีวิตของเขา เป็นจิตวิญญาณของเขา

ในขณะที่การเชื่อมต่อระหว่างกระบี่และจิตวิญญาณของเขาลึกซึ้งขึ้น ปราณกระบี่ที่มีความรุนแรงรอบกระบี่วายุโปรยของเขาก็ยิ่งคมชัด ราวกับว่าปราณกระบี่ในปริมาณมหาศาลนั้นถูกควบคุมโดยจิตวิญญาณของเขาอย่างสมบูรณ์

ไม่ได้มีประสบการณ์กับความรู้สึกลึกลับเช่นนี้ เจี้ยนเฉินปล่อยมือจากการถือครองกระบี่วายุโปรย กระบี่ที่ห่อหุ้มด้วยปราณกระบี่ไม่ได้ล้มลงกับพื้น แต่กลับกันมันลอยอยู่กลางอากาศ มันค่อย ๆ ลอยขึ้นอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็หยุดอยู่ระดับจมูกของเจี้ยนเฉิน ห่างจากเขาเพียง 1 เมตร ปลายกระบี่ชี้ตรงไปที่อสรพิษทองริ้วเงิน

“ชิ๊ง ! ” ได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากภายในกระบี่วายุโปรย