บทที่ 160 หาทางพาจางซานหยาออกมา

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 160 หาทางพาจางซานหยาออกมา

จางซิ่วเอ๋อกล่าว “บ้านตระกูลจางไม่ใช่ที่ที่จะอยู่นาน ๆ ได้ เราต้องหาทางพาซานหยาออกมา แต่ก่อนหน้านั้นจำไว้ว่าอย่าด่วนตัดสินใจทำอะไรจนผิดพลาดเด็ดขาด”

ดวงตาจางชุนเถาเป็นประกาย “พี่ พี่หมายความว่าจะรับซานหยาออกมาด้วยเหรอเจ้าคะ?”

จางซิ่วเอ๋อพยักหน้า นางคิดอยู่ว่าแม่เฒ่าจางออกจะรักเงินทองขนาดนั้น ถ้าหาคนที่เชื่อถือได้ไปซื้อจางซานหยาออกมาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

แต่ใครกันล่ะที่เชื่อถือได้? เรื่องนี้จางซิ่วเอ๋อไม่ค่อยมั่นใจ

จะไปหาคนค้ามนุษย์จริง ๆ ก็ไม่ได้ เกิดถึงเวลาแล้วคนค้ามนุษย์ล้มข้อตกลงขึ้นมาล่ะ นางเสียเงินน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่จะเป็นโทษต่อชีวิตซานหยาได้

นี่เป็นเหตุผลที่จางซิ่วเอ๋อยังไม่ลงมือสักที

จางชุนเถาเงียบ นางวางปังตอลงและพูดอาย ๆ “เมื่อครู่ข้าวู่วามเกินไป พี่ใหญ่ เอาตามที่พี่ว่าเลย”

ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อก็จริงจังกับเรื่องนี้แล้ว

ที่บ้านพอมีเงินเหลืออยู่ ตอนนั้นแม่เฒ่าจางยอมขายนางกับชุนเถาในราคาเพียง 4 ตำลึงเงิน จะขายซานหยาอย่างมากสุดก็ได้แค่ 4 ตำลึงเงิน เพราะฉะนั้นเงินไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้ต้องการแค่คนที่เชื่อถือได้ให้ช่วยดำเนินการ

ไม่ว่าจะเป็นท่านหมอเมิ่งหรือบัณฑิตจ้าว ก็ล้วนเป็นคนที่เชื่อถือได้ แต่สองคนนี้จะยอมทำเหรอ?

ต่อให้พวกเขายอมช่วย จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่าไม่เหมาะ

อย่างไรเสียพวกเขาก็รู้จักกัน ขืนทะเล่อทะล่าเข้าไปซื้อตัวซานหยาถึงบ้าน แม่เฒ่าจางต้องสงสัยแน่ ถ้าแม่เฒ่าจางรู้ว่าเป็นนางที่ต้องการซื้อจางซานหยาจะยอมปล่อยไปง่าย ๆ เหรอ? ต้องโก่งราคาอย่างแน่นอน!

ก่อนที่จางซิ่วเอ๋อจะเจอคนที่เหมาะสมและเชื่อถือได้ เรื่องนี้ต้องพับไว้ก่อน

ถึงจางซิ่วเอ๋อจะรู้สึกอัดอั้นตันใจกับเรื่องของจางซานหยา แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป

โชคดีที่ครึ่งเดือนต่อมาจางอวี่หมินก็ดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ได้ไปหาเรื่องจางซานหยาอีก เพราะความจริงจางอวี่หมินไม่มีเวลามาหาเรื่องเท่าใดแล้ว

จางซิ่วเอ๋อไปสืบมา จวี๋ฮวาก็เป็นคนบอกว่าจางอวี่หมินเริ่มคุยถึงเรื่องแต่งงานแล้ว

นางได้ดูตัวไปแล้วคนหนึ่ง เพียงแต่จางอวี่หมินไม่ได้พูดว่าพอใจหรือไม่พอใจ จึงไม่รู้ว่าสรุปแล้วเป็นอันตกลงหรือไม่

คน ๆ นี้เป็นคนในเมือง ที่บ้านมีร้านขนาดกลางไม่ใหญ่ไม่เล็ก

ในสายตาจวี๋ฮวาคิดว่าเป็นเขาคนที่ดีมากแล้ว นางจึงไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมจางอวี่หมินถึงไม่ตกลงไปเสีย

จางซิ่วเอ๋อรู้เรื่องพวกนี้ก็อดขำในใจไม่ได้

คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมจางอวี่หมินทำแบบนี้ แต่นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจางอวี่หมินวางแผนอะไรในใจ?

จางอวี่หมินมักใหญ่ใฝ่สูง ตอนนี้นางคงอยากกั๊กคนผู้นั้นไว้เป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าหาที่ดีกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ จึงค่อยแต่งเข้าไป

ถ้าหาคนที่ดีกว่านี้ได้นางไม่แต่งกับเขาแน่นอน

ถึงแม้ว่าการได้แต่งงานเข้าเมืองเป็นเรื่องที่เกินเอื้อมสำหรับหญิงสาวหลาย ๆ คนในหมู่บ้าน แต่จางอวี่หมินก็ไม่ได้พอใจเพียงเท่านี้

ถึงนางจะเกิดในหมู่บ้าน แต่ก็ถูกแม่เฒ่าจางเลี้ยงมาด้วยความรักดั่งแก้วตาดวงใจตั้งแต่เด็ก

จะว่าไปก็แปลกนัก แม่เฒ่าจางเป็นคนชอบด่าเด็กผู้หญิงว่าเป็นตัวขาดทุน แต่กลับรักใคร่ลูกสาวคนนี้สุดหัวใจ

จางอวี่หมินถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ไม่ได้กินได้ใช้อะไรแพงมาก แต่เทียบกับคนในหมู่บ้านนี้ถือว่าไม่เลวแล้ว

ตระกูลจางยากจนขนาดนั้นยังเลี้ยงดูจางอวี่หมินได้ขนาดนี้ หาได้ยากมากจริง ๆ

เนื่องจากได้กินดีอยู่ดีและไม่ต้องทำงาน จางอวี่หมินก็หน้าตาดีกว่าสาวชาวไร่ทั่วไปมาก อย่างน้อยนางก็มีผิวขาวนวลเนียน

บวกกับคนตระกูลจางมีหน้าตาใช้ได้ จางอวี่หมินจึงถือเป็นสาวสวยในหมู่บ้าน

เรื่องนี้จึงทำให้จางอวี่หมินหยิ่งยโสสำคัญตัวเองว่าแตกต่างจากคนอื่น นางไม่มีทางแต่งงานกับพวกไร้อนาคตหรอก! นางจะต้องได้แต่งเข้าบ้านดี ๆ เท่านั้น!

แม่เฒ่าจางรักใคร่เอ็นดูจางอวี่หมินอยู่แล้ว พอตอนนี้รู้ความคิดจางอวี่หมินจะไม่สนับสนุนได้อย่างไร ตอนแรกแม่เฒ่าจางถึงขั้นจะขายจางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถาสองคนเพื่อเตรียมสินสอดดี ๆ ให้จางอวี่หมินด้วยซ้ำ!

ในสายตาแม่เฒ่าจาง ต่อให้ตัวเองจะเสียเงินให้จางอวี่หมินมากแค่ไหน จางอวี่หมินก็ไม่ใช่ตัวขาดทุน!

ขอแค่จางอวี่หมินได้แต่งเข้าบ้านคนรวยสำเร็จ คนเป็นแม่อย่างนางก็ต้องได้กินดีอยู่ดีอยู่ดีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นางดีกับจางอวี่หมินมาตลอด

ส่วนพวกจางซิ่วเอ๋อนั้นห่างจากแม่เฒ่าจางหนึ่งชั่วอายุคน ต่อให้ได้แต่งเข้าบ้านดี ๆ ก็ใช่ว่าจะกตัญญูต่อนาง

ไม่ว่าสองแม่ลูกคู่นี้จะมีแผนอะไร จางซิ่วเอ๋อก็คิดว่าขอแค่พวกนางไม่มายุ่มย่ามกับตัวเอง ไม่รังแกแม่โจวและซานหยา นางก็ไม่สนใจหรอก

ต่อให้จางอวี่หมินเสนอหน้าไปเป็นเมียน้อยให้คนรวยก็เป็นเรื่องของจางอวี่หมิน

พูดตามตรงจางซิ่วเอ๋ออยากเห็นจริง ๆ ว่าจางอวี่หมินจะได้แต่งงานกับคนแบบไหน ถ้าได้แต่งเข้าบ้านคนรวยไปเป็นอนุภรรยาจริง ๆ นิสัยอย่างจางอวี่หมินจะมีจุดจบอย่างไร

วันนั้นจางซิ่วเอ๋อเพิ่งเดินออกมาจากบ้านจวี๋ฮวา เดี๋ยวนี้ทั้งสองคนไปมาหาสู่กันบ่อย

นางก็เห็นรถม้าหรูหราคันหนึ่งแล่นจากหน้าหมู่บ้านเข้ามาถึงในหมู่บ้าน

รถม้าทั้งคันถูกทาให้เป็นสีแดง ส่วนม่านหน้ารถม้าทำจากผ้าต่วนสีม่วงปักลายสีเขียว

ม้าที่ลากอยู่มีสีแดงเข้มท่าทางสง่างาม ดูจากขนลื่นเป็นมันโดยไม่มีสีอื่นปนก็รู้ว่าม้าตัวนี้เป็นม้าชั้นดี

บนยอดมุมทั้งสี่ของรถม้าแขวนกระดิ่งเงินไว้ ส่งเสียงเสนาะหูเป็นระยะทุกขณะที่รถม้าเคลื่อนที่

รถม้าแบบนี้ต่อให้เป็นในเมืองก็หาดูได้ยาก

บัดนี้มาอยู่ในหมู่บ้านยิ่งเจอได้ยากเข้าไปใหญ่

ต่อให้เป็นจางซิ่วเอ๋อในตอนนี้ก็ข่มความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้ ได้แต่ชำเลืองมอง

ระยะห่างดูค่อนข้างไกล จางซิ่วเอ๋อจึงมองไม่ชัดว่าใครกันแน่ที่ขับรถม้าอยู่ แต่เห็นคนท่าทางเป็นบ่าวรับใช้เดินเปิดทางอยู่ด้านหน้า คน ๆ นั้นถือของบางอย่างอยู่ในมือและกำลังมองอย่างพิจารณา

พอรถม้าเข้ามาถึงด้านในหมู่บ้านก็ชะลอความเร็วลง บ่าวรับใช้จึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

แม้แต่บ่าวรับใช้คนนี้ยังสวมอาภรณ์ที่ตัดด้วยผ้าต่วน ดูก็รู้ว่าคนบนรถม้าถ้าไม่ใช่คนรวยก็เป็นผู้ทรงอำนาจ

มีคนยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาที่หมู่บ้าน เวลานี้คนที่ไม่ได้ไปที่ไร่ คนที่ยังอยู่บ้านต่างก็พากันชะโงกหัวมาดูอย่างอดไม่ได้ แต่ไม่มีใครไปขวางรถม้าไว้เพื่อถาม

น่าขัน พวกคนรวยช่างมีนิสัยแปลกประหลาดเหลือเกิน ไม่รู้ว่าคนผู้นี้มาทำอะไรที่นี่กัน หากผลีผลามเข้าไปทำให้ใครไม่พอใจเข้า ต่อให้โดนกระทืบตายก็ไม่มีใครเรียกร้องความยุติธรรมให้

ชายวัยกลางคนผู้เป็นบ่าวรับใช้มองไปรอบ ๆ และทอดสายตาไปที่คนผู้หนึ่ง

ขณะนั้นจางอวี่หมินเห็นคนผู้นี้เดินมาทางตัวเอง จึงเบิกบานใจและตื่นเต้นไม่น้อย

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ใครมาที่หมู่บ้านล่ะเนี่ย แล้วมาตามหาใคร

ไหหม่า(海馬)