บทที่ 161 รถม้าหรูหรา

เมื่อกี้นางได้ยินเสียงเอะอะด้านนอกจึงมาดูหน่อย

ใครจะรู้ว่านางมายืนได้ครู่เดียวก็มีคนเข้าหา

จางอวี่หมินมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา คนผู้นี้สวมใส่เสื้อผ้ามีสง่าราศี หน้าเหลี่ยม โครงหน้าใช้ได้

“แม่นางน้อย” ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาและเอ่ยขึ้นก่อน

เวลานี้จวี๋ฮวาเองก็ออกมายืนอยู่ข้าง ๆ จางซิ่วเอ๋อ นางเห็นภาพนี้แล้วถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ญาติของบ้านเจ้ารึ?”

จางซิ่วเอ๋อไม่แน่ใจจริง ๆ จึงบอก “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“หรือว่าท่านป้าใหญ่ ท่านลุงรองของเจ้าสักคนกลับมา?”​ จวี๋ฮวามีสายตาฉงน

จางซิ่วเอ๋อรู้มาตลอดว่าตัวเองมีท่านป้าใหญ่และท่านลุงอีกคน แต่รู้เรื่องของสองคนนี้ไม่มาก รู้แค่ว่าพวกเขาไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว ส่วนด้วยเหตุผลอะไรนั้นจางซิ่วเอ๋อไม่รู้เหมือนกัน

นางเคยลองถามจางชุนเถา แต่จางชุนเถาก็ไม่รู้เหมือนกัน บอกแค่ว่าตัวเองไม่ได้เจอกับสองบ้านนี้นานแล้ว

เนื่องจากความทรงจำของจางซิ่วเอ๋อไม่สมบูรณ์ นางกลัวว่ายิ่งตัวเองพูดมากก็จะยิ่งพลาดเยอะ ทำให้จางชุนเถาสงสัยเปล่า ๆ จางซิ่วเอ๋อจึงไม่ถามอีก

นางมองชายวัยกลางคนที่เดินไปหาจางอวี่หมินอย่างสงสัย นึกในใจว่าหรือตระกูลจางจะมีญาติร่ำรวยแบบนี้จริง ๆ?

แต่ถ้าลูกสาวและลูกชายแม่เฒ่าจางร่ำรวยขนาดนี้จริง ๆ ทำไมตระกูลจางถึงอยู่อย่างยากจนขนาดนี้ล่ะ?

ตามนิสัยแม่เฒ่าจางจะยอมง่าย ๆ ได้อย่างไร?

จางอวี่หมินเขินจนหน้าแดง นางถาม “ท่านมาหาข้าต้องการอะไรหรือเจ้าคะ?”

จางอวี่หมินเหลือบมองทางรถม้า นางไม่ได้โง่ รู้ว่าคนที่เดินอยู่ที่พื้นไม่ใช่เจ้านาย นางคิดอยู่ในใจว่าหรือตัวเองเป็นที่ต้องใจของเจ้าของรถม้า ถึงได้ส่งคนมาสืบ?

ชายวัยกลางคนผู้นี้ยังดูมั่งคั่งขนาดนี้ แล้วเจ้าของรถม้าจะขนาดไหน?

จางอวี่หมินอดคิดมากไม่ได้ นางรู้สึกว่าชายวัยกลางคนเองก็มีสง่าราศีไม่ธรรมดา จึงนึกในใจว่าบางทีชายวัยกลายคนผู้นี้ก็คือเจ้านาย เขามาเองแบบนี้เพื่อหยั่งเชิงตัวเอง

สรุปคือ จางอวี่หมินในตอนนี้รู้สึกล่องลอยเพราะการเข้าใกล้ของชายวัยกลางคน มีความคิดมากมายโผล่เข้ามาในใจ

จางอวี่หมินไหนเลยจะรู้ว่าที่ชายวัยกลางคนผู้นี้เข้ามาถามนางแค่เพราะดูถามได้สะดวกเท่านั้น

ชายวัยกลางคนคลี่กระดาษในมือ เป็นภาพวาดของคนผู้หนึ่ง ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะเอ่ยยิ้ม ๆ “ข้าอยากจะถามหาคนผู้หนึ่ง ไม่ทราบว่าเจ้ารู้จักคนในภาพนี้หรือไม่?”

จางอวี่หมินพูดเขิน ๆ “เดี๋ยวข้าช่วยดูเจ้าค่ะ”

พูดเสร็จจางอวี่หมินก็มองไป รอจนจางอวี่หมินได้เห็นว่าคนในภาพคือใคร สีหน้านางก็ย่ำแย่ลงทันที

นี่มัน……….นี่มัน…………

นางขยี้ตาตัวเอง แทบไม่อยากเชื่อกับคนในภาพ

นี่มันจางซิ่วเอ๋อนี่!

ใช่แล้ว คนในภาพก็คือจางซิ่วเอ๋อนั่นเอง!

รูปร่างผอมแห้งรวมถึงใบหน้าเป็นสีเหลือง ผมแห้งกรังดั่งหญ้าแห้งนั่น ทุกลักษณะที่เห็นบ่งบอกว่าคนในภาพคือจางซิ่วเอ๋อ

จางอวี่หมินหน้าตาเขียวคล้ำ กัดฟันแน่น

นางคิดไม่ถึงเลยว่าขบวนรถม้าที่ดูไม่รวยก็ทรงอำนาจนี่จะมาหาจางซิ่วเอ๋อ จางอวี่หมินยากจะรับได้จริง ๆ

“แม่นางน้อย เจ้ารู้จักคนผู้นี้ไหม?” ชายวัยกลางคนเห็นจางอวี่หมินสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จึงถามเร่งอย่างอดไม่ได้

จางอวี่หมินมองรถม้าหรูหรานั่นก่อนจะกลอกตาและถาม “พวกท่านรู้ไหมว่านางชื่ออะไร?”

ชายวัยกลางคนส่ายหัว “ไม่รู้ว่าชื่ออะไร”

“แล้วตามหานางไปทำไมกันเจ้าคะ?” จางอวี่หมินถามต่อ

“คุณชายของเราอยากพบนาง” ชายวัยกลางคนเป็นคนซื่อ ๆ จางอวี่หมินถามนิดถามหน่อยก็ได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้

สองมือของจางอวี่หมินกำเสื้อตัวเองแน่น คุณชายผู้นี้อยากรู้จักตัวขาดทุนอย่างจางซิ่วเอ๋องั้นหรือ! ต้องเป็นคนที่จางซิ่วเอ๋อไปยั่วไว้ในเมืองแน่ ๆ! นางว่าแล้วว่าแม่ม่ายน้อยอย่างจางซิ่วเอ๋อทนเหงาไม่ไหว!

นี่ไงล่ะ ชายชู้มาหาถึงที่!

จางอวี่หมินดูแคลนจางซิ่วเอ๋อในใจสารพัด แต่พอเห็นรถม้าหรูหราแล้วในใจก็นึกอิจฉาไม่น้อย

แค่ดูจากรถม้าก็รู้แล้วว่าคนผู้นี้บ้านรวยมาก ๆ

ทำไมถึงชอบจางซิ่วเอ๋อกันนะ? ถ้ามาชอบตัวเอง นางก็เต็มใจเหมือนกัน……

พอคิดว่าถูกคนแบบนี้ชอบอีกหน่อยตัวเองก็คงได้นั่งรถม้าหรูหราแบบนี้ และเข้าหมู่บ้านมาท่ามกลางสายตาอิจฉาอยากมีอยากได้ของทุกคน จางอวี่หมินก็อดตื่นเต้นไม่ได้

แต่หลังจากตื่นเต้นแล้วจางอวี่หมินก็ได้สติ

คนผู้นี้ไม่ได้มาหาตัวเอง! แต่มาเพื่อนังแพศยาจางซิ่วเอ๋อ!

นางไม่ยอมให้คุณชายร่ำรวยผู้นี้ได้เจอจางซิ่วเอ๋อเด็ดขาด พอคิดได้ดังนั้นจางอวี่หมินจึงกล่าวขึ้น “ข้าไม่รู้จักคนผู้นี้หรอกเจ้าค่ะ ในหมู่บ้านเราก็ไม่มีคนผู้นี้ พวกท่านมาหาผิดที่กระมัง?”

ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว ถอนหายใจ พวกเขาหามาทั้งทางผ่านมาหลายหมู่บ้านแล้ว ก็ไม่เจอคนผู้นี้ นี่เป็นหมู่บ้านสุดท้ายแล้ว

เขาถึงได้พาคุณชายมา หรือว่าแม่นางผู้นี้จะไม่ใช่คนในหมู่บ้านกัน?

พอคิดได้แบบนี้ชายวัยกลางคนจึงเอ่ยขึ้นอย่างผิดหวัง “ขอบคุณแม่นางมาก”

จางอวี่หมินกล่าวยิ้ม ๆ “ไม่ต้องขอบคุณหรอกเจ้าค่ะ”

จางซิ่วเอ๋อมองอยู่สักพักเห็นชายวัยกลางคนไม่คิดจะเข้าบ้านตระกูลจางจึงหมดความสนใจ อย่างไรเสียเรื่องของตระกูลจางไม่เกี่ยวอะไรกับนาง ตระกูลจางมีญาติแบบไหนก็ไม่มีผลอะไรกับนาง

จางซิ่วเอ๋อหันหลังจะจากไป

ใครจะรู้ว่าขณะนั้นกลับเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นฉับพลัน

ร่างคนผู้หนึ่งที่ผมเผ้ากระเซิงกระโจนออกมาจากด้านข้างจับจางซิ่วเอ๋อไว้ ดึงจางซิ่วเอ๋อไปด้านหลังอย่างแรง!

จางซิ่วเอ๋อตกใจ เงยหน้ามอง

ก็เห็นคนตรงหน้าผอมหนังติดกระดูก ท่าทางน่าขนลุกเหลือแสน

แต่จางซิ่วเอ๋อยังคงจำได้ว่าคนผู้นี้คือใคร นี่มันแม่หลินไม่ใช่หรือ?

“ท่านป้าหลิน ท่านทำอะไร?” จางซิ่วเอ๋อสีหน้าเย็นชา

“จางซิ่วเอ๋อ! นังแพศยา! เจ้าเอาลูกชายข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน? เจ้าคืนลูกชายข้ามานะ!” แม่หลินก่นด่าอย่างเกรี้ยวกราด

จางซิ่วเอ๋อตะลึงงัน จากนั้นถึงได้สติว่าแม่หลินมาหาเรื่องเพราะเรื่องของสวี่อวิ๋นซาน

แต่เรื่องของสวี่อวิ๋นซานผ่านไปหลายวันแล้ว แม่หลินมาหาเรื่องตอนนี้…..แม่หลินจะรู้ตัวช้าไปหรือเปล่า

จางซิ่วเอ๋อรู้ที่ไหนว่าไม่ใช่ว่าแม่หลินรู้ตัวช้าหรอก

แต่หลังจากสวี่อวิ๋นซานหายไป ก็มีคนเคยเห็นสวี่อวิ๋นซานที่แคว้น แม่หลินจึงพาคนอื่นไล่ตามไปถึงในเมือง

พอไล่ตามไปจนถึงอำเภอ แม่หลินถึงตัดใจยอมกลับมา

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เอารองเท้าฟาดเรียกสติอวี่หมินหน่อยซิ ตื่นจ้ะตื่น อย่าเพิ่งมโนไกลนะ

นังแม่หลินกลายเป็นบ้าไปแล้ว กรรมตามสนองสินะที่ทำกับลูกชายตัวเองไว้

ไหหม่า(海馬)