บทที่ 162 แม่หลินคนบ้า

แม่หลินรู้ว่าลูกชายตัวเองตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าไม่อยากกลับบ้าน

นางมีลูกชายแค่คนเดียว แต่เขามาหายตัวไปแบบนี้ แม่หลินจะไม่เครียดไม่ร้อนใจได้อย่างไร นางจึงทรมานตัวเองจนมีสารรูปกึ่งคนกึ่งผี

พอตอนนี้เห็นจางซิ่วเอ๋อ นางก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ

ทั้งหมดเป็นเพราะจางซิ่วเอ๋อ สวี่อวิ๋นซานถึงได้หายไป

ถ้าไม่ใช่นังแพศยาจางซิ่วเอ๋อมายั่วยวนลูกชายตัวเอง ลูกชายที่เป็นเด็กดีและกตัญญูขนาดนี้จะไปจากบ้านนี้โดยไม่บอกกล่าวได้อย่างไร?

เป็นความผิดจางซิ่วเอ๋อทั้งหมด!

สีหน้าจางซิ่วเอ๋อเย็นเยียบลง “ท่านป้าหลิน ท่านพูดให้ชัดนะ ข้าไปซ่อนตัวลูกชายท่านตั้งแต่เมื่อไหร่?”

แม่หลินเอ่ยเสียงกราดเกรี้ยว “เจ้านั่นแหละ เจ้านั่นแหละ! ถ้าไม่ใช่เจ้า อวิ๋นซานจะหายไปได้อย่างไร? ต้องเป็นเจ้าแน่ ๆ ที่ซ่อนอวิ๋นซานไว้ บอกให้เขามาพบข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

จางซิ่วเอ๋อก็โมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกัน “ปล่อยข้านะ!”

แม่หลินกระชากเสื้อของจางซิ่วเอ๋อ เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมือ “เจ้าคืนลูกข้ามานะ! นังแพศยา!”

ต่อให้จางซิ่วเอ๋อนิสัยดีแค่ไหนเวลานี้ก็โมโหขึ้นมาแล้ว แล้วยังเป็นสถานการณ์ที่ประจันหน้ากับคนอย่างแม่หลินอีก จางซิ่วเอ๋อความอดทนต่ำมาแต่ไหนแต่ไร จึงกระชากผมของแม่หลินและออกแรงดึง

แม่หลินรู้สึกเจ็บปวด ถ้าเป็นเมื่อก่อนนางคงปล่อยจางซิ่วเอ๋อไปแล้ว

แต่แม่หลินในวันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน นางสะเทือนใจจากเรื่องที่สวี่อวิ๋นซานหนีออกจากบ้าน พอตอนนี้มาเจอจางซิ่วเอ๋อนางยิ่งบันดาลโทสะ แค้นจนแทบอยากกินเนื้อดื่มเลือดของจางซิ่วเอ๋อ นาทีนี้หรือจะยอมปล่อยมือง่าย ๆ ?

กล่าวถึงชายวัยกลางคนผู้นั้น ตอนนี้ก็ได้ไปแจ้งข่าวให้กับคนบนรถม้าแล้ว

“หมู่บ้านนี้ก็ไม่มีคนผู้นี้ขอรับ” ชายวัยกลางคนพูดอย่างผิดหวัง

“ข้างนอกนั่นเกิดอะไรขึ้น?” เสียงทุ้มต่ำดังมา

ชายวัยกลางคนมองออกไปยังที่ไกล ๆ เนื่องจากผมของจางซิ่วเอ๋อถูกทึ้งจนยุ่งเขาจึงดูไม่ออกว่าจางซิ่วเอ๋อคือคนที่ตัวเองตามหา

แต่คนในรถม้าได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนัก ยื่นมือไปเปิดม่านรถม้า

มือเรียวขาวราวหยกสลักข้างหนึ่งโผล่ออกมา แค่ได้เห็นมือนี้ก็เพียงพอให้จินตนาการต่อแล้ว

จากนั้นมีคน ๆ หนึ่งลงมาจากรถม้า คนผู้นี้หน้าตาสะอาดสะอ้านดั่งหยก กลิ่นอายของคนชั้นสูงแผ่รอบตัว เขายกมุมปากเล็กน้อย รอยยิ้มนี้กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ให้รู้สึกเหมือนลมหนาวพัดผ่านเสียมากกว่า

เขามองไปข้างหน้า ชะงักสายตาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปข้างหน้า

ชายวัยกลางคนเห็นภาพนี้แล้วตื่นตกใจ รีบเอ่ยขึ้น “คุณชาย…..ท่าน……”

เด็กติดตามชุดเขียวที่ขับรถอยู่ก็กระโดดลงจากรถม้า ยัดบังเหียนใส่มือชายวัยกลางคน “พ่อบ้านโจว รบกวนท่านด้วย”

พูดจบเด็กติดตามชุดเขียวก็ไล่ตามขึ้นไปอย่างรีบเร่ง

“คุณชาย ช้าหน่อย!” เด็กติดตามชุดเขียวพูดเครียด ๆ

พ่อบ้านโจวเริ่มสงสัย แต่เขารู้ว่าพ่อบ้านตัวเล็ก ๆ อย่างตัวเองไม่มีสิทธิ์ไปซักถามเรื่องของคุณชาย เวลานี้จึงได้แต่รออยู่ที่เดิม

จางซิ่วเอ๋อกำลังโรมรันพันตูอยู่กับแม่หลิน

“จางซิ่วเอ๋อ! นังแพศยา! วันนี้ข้าจะเล่นงานเจ้าให้ตายไปเลย!” แม่หลินเอ่ยอย่างอาฆาต

จางซิ่วเอ๋อโดนกัดโดยไม่ทันระวัง ด่ากราดทันที “แม่หลิน เจ้าเกิดปีหมารึไง?”

จางซิ่วเอ๋อเองก็คิดไม่ถึงว่าแม่หลินจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนขนาดนี้ โหดเหี้ยมขึ้นมาได้ขนาดนี้

นาทีนี้จางซิ่วเอ๋อก็บันดาลโทสะ “แม่หลิน เจ้าอยากรู้ใช่ไหมว่าลูกชายเจ้าไปอยู่ไหน? งั้นข้าจะบอกให้! ลูกชายเจ้ารังเกียจเจ้า! ลูกชายเจ้าออกจากบ้านเพราะแม่อย่างเจ้า!”

“สวี่อวิ๋นซานออกจากบ้านไม่ใช่เพราะข้าจางซิ่วเอ๋อ! ถ้าเพราะข้าทำไมเขาไม่พาข้าไปด้วยล่ะ น่าขำจริง ตอนนี้เจ้าบีบคั้นลูกเจ้าจนต้องออกจากบ้าน เจ้าทรมานใจแล้วยังคิดจะโทษข้าอีก?” จางซิ่วเอ๋อด่าด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว

คำพูดของจางซิ่วเอ่อทิ่มแทงเข้าไปในใจของแม่หลิน

แม่หลินฟังแล้วรู้สึกอึดอัดใจ เบื้องลึกในใจนางมีเสียงหนึ่งกระซิบว่าจางซิ่วเอ๋อพูดถูก ใช่แล้ว ที่สวี่อวิ๋นซานออกจากบ้านก็เพราะนาง ถ้าไม่ใช่นางที่บังคับให้สวี่อวิ๋นซานแต่งงานกับหลีฮวา ถึงขั้นมอมยาสวี่อวิ๋นซาน เขาก็คงไม่ไปจากบ้านอย่างเด็ดขาดขนาดนี้

แต่ในใจแม่หลินยังมีเสียงอื่นอยู่!

ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น! สวี่หวินซานออกจากบ้านก็เพราะจางซิ่วเอ๋อ! เป็นความผิดของจางซิ่วเอ๋อทั้งหมด!

แม่หลินร้องไห้ไปด่าไป “นังแพศยา…..เจ้าอำมหิตขนาดนี้ได้อย่างไร? เจ้าแย่งลูกชายข้าไปได้อย่างไร?”

เวลานี้มีคนมามุงดูจำนวนไม่น้อย

คนในหมู่บ้านแต่ละวันไม่มีอะไรทำ ทุกคนจึงชอบมามุงดูเรื่องชาวบ้าน พอตอนนี้เห็นแม่ม่ายอย่างจางซิ่วเอ๋อทะเลาะตบตีกับแม่หลินและได้ฟังคำพูดเดือดดาลของแม่หลิน ทุกคนจะไม่มาดูได้อย่างไร?

อีกอย่าง คุณชายผู้มีสง่าราศีผู้นั้นก็ยืนอยู่ไม่ไกล ต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้อยากดูจางซิ่วเอ๋อทะเลาะกับแม่หลิน เวลานี้ก็อยากไปดูคุณชายผู้นี้ใกล้ ๆ

ทุกคนพึมพำในใจ หรือคนมีเงินก็ชอบดูสาวชาวไร่ตีกันเหรอ?

ขณะนั้นจางอวี่หมินก็เข้ามาใกล้ นางเห็นจางซิ่วเอ๋อตีกับแม่หลินแล้วอดสมน้ำหน้าไม่ได้

ครั้งนี้คุณชายร่ำรวยมาหาจางซิ่วเอ๋อ มาเจอภาพแบบนี้คงไม่พอใจเหมือนกันล่ะสิ

จางอวี่หมินเหลือบมองคุณชายชุดฝ้ายอย่างระแวดระวัง หน้าเป็นริ้วแดง

คุณชายชุดฝ้ายนี่หน้าตาดีกว่าชายที่นางไปดูตัวหลายวันก่อนเสียอีก!

ชายผู้นั้นไม่คู่ควรจะขัดรองเท้าให้คุณชายชุดฝ้ายนี่ด้วยซ้ำ!

คุณชายชุดฝ้ายนี่หน้าตาดีจริง ๆ แถมดูท่าทางเงินเยอะ ถ้าตัวเองได้ครองคู่กับคุณชายแบบนี้ ต่อให้เป็นแค่อนุภรรยาชาตินี้ก็คุ้มแล้ว!

จางอวี่หมินคิดไปคิดมาหน้าก็เริ่มแดง

เด็กหนุ่มในหมู่บ้านสามสี่คนที่ยังไม่แต่งงานเห็นท่าทางแบบนี้ของจางอวี่หมินแล้วอดมองไม่ได้

หญิงสาวในหมู่บ้านส่วนมากตากแดดจนผิวคล้ำเสีย หญิงสาวผิวขาวผ่องอย่างจางอวี่หมินหาดูได้ยากจริงๆ

ด้วยเหตุที่ต้องไปดูตัวกับฝ่ายชาย จางอวี่หมินจึงตื้อแม่เฒ่าจางให้ซื้อชุดใหม่ให้ ชุดสีชมพูอ่อนที่นางสวมใส่ยิ่งขับให้หุ่นนางดูเพรียวบาง

สายตาของพวกเด็กหนุ่มวัยกำลังโตวนเวียนอยู่ที่ตัวจางอวี่หมิน

ที่จริงสายตาพวกนี้ฉายแววอย่างว่า หญิงสาวปกติสัมผัสถึงสายตาแบบนี้ต้องอายและโกรธบ้าง

แต่จางอวี่หมินใช่หญิงสาวปกติที่ไหน? เวลานี้นอกจากนางจะไม่รู้สึกอายและโกรธแล้ว กลับได้ใจด้วยซ้ำ

นางรู้สึกล่องลอยไปทั้งตัว

ดูสิ นางเกิดมาหน้าตาสวยขนาดนี้ ชายหนุ่มในหมู่บ้านที่ยังไม่แต่งงานมีแต่คนอยากแต่งงานกับนาง คิดไปจางอวี่หมินก็ยิ่งได้ใจ

นางมองจางซิ่วเอ๋อที่กำลังตบตีอยู่กับแม่หลิน สีหน้าดูหมิ่นขึ้นมา

…………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

นังแม่หลินนี่น่าตบสักฉาดให้ฟันร่วง กัดเป็นหมาบ้าเลย

ตอนหน้ารอดูพญานกตัวใหญ่ ๆ นะคะ

ไหหม่า(海馬)