อันหลินคิดว่าจิตสังหารที่สุนัขตัวนี้ระเบิดออกมามีเขาเป็นเป้าหมาย
เขางุนงงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจว่าทำไมสุนัขตัวนี้ต้องอาฆาตตนถึงปานนั้น
เขาเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่ได้แย่งกระดูกของสุนัขตัวนี้นี่นา
ยังดีที่ไม่นานจิตสังหารของสุนัขตัวนี้ก็หายไป เพียงแต่ว่าสายตาของมันยังคงไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย “เจ้ามาที่นี่ทำไม”
ชัดเจนว่าประโยคนี้คุยกับอันหลิน อันหลินก็ไม่ปิดบัง ตอบตามตรงว่า “มาเยี่ยมต้าไป๋น่ะ”
สุนัขตัวนั้นแสยะฉีกยิ้ม แลดูงดงาม หางตั้งขึ้นเล็กน้อย
“ไปให้พ้น!”
อันหลิน “…”
หมาตัวนี้ไปกินรังแตนมาหรือไง ทำไมถึงหยาบคาบแบบนี้
จ้าวหวายหยินกระเถิบเข้าไปข้างหูอันหลินอย่างลำบากใจ กระซิบบอกว่า “สุนัขตัวนี้ชื่อชิงหัว เป็นคู่หมั้นคู่หมายแต่เยาว์วัยของต้าไป๋”
อันหลินชะงัก “แล้วอย่างไรเล่า”
จ้าวหวายหยินพูดอีกครั้งว่า “ประเด็นสำคัญคือนางชอบต้าไป๋ด้วย!”
อันหลิน “…”
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมชิงหัวถึงอาฆาตเขา
อันหลินมองชิงหัว พูดอย่างจริงใจว่า “ชิงหัว เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่แย่งผู้ชายกับเจ้าหรอก! เพราะทั้งเผ่าพันธุ์และเพศก็แตกต่างกัน ข้ากับต้าไป๋เป็นไปไม่ได้หรอก!”
จ้าวหวายหยินยกมือปิดหน้า ความคิดของอันหลินเป็นอย่างไรกันแน่ คิดเรื่องอย่างแย่งผู้ชายแบบนี้ออกมาได้อย่างไร
ทั้งๆ ที่ชิงหัวมีเจตนาอันเป็นปฏิปักษ์ เพราะไม่อยากให้ต้าไป๋อันผู้ที่รักลดเกียรติไปเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์แท้ๆ!
ครืน!
คลื่นพลังที่น่ากลัวกระจายออกมาจากตัวชิงหัว
นางพูดเสียงเกรี้ยวว่า “ต้าไป๋จะอยากเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์โง่ๆ แบบนี้ได้อย่างไร ไม่ได้ วันนี้ข้าจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โฮ่งๆ!”
จู่ๆ แสงสีทองชั้นหนึ่งก็ปกคลุมตัวชิงหัวไว้ กระทืบเท้าแล้วกระโจนใส่อันหลินด้วยความเร็วสูงสุด
“หยุดนะ โฮ่ง!”
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น
อันหลินเงยหน้า เห็นต้าไป๋ขี่เมฆสีรุ้งมาปานวีรชนเย้ยปฐพี
แรงลมอันรุนแรงจู่โจมชิงหัวดุจขีปนาวุธ
ชิงหัวถูกแรงลมโจมตีเข้าอย่างจัง ร่างตกลงมากระแทกพื้น ทำให้เกิดหลุมลึกขนาดใหญ่
ชั่วขณะที่ฝุ่นตลบอบอวล ต้าไป๋เหาะลงมา ยืนจังก้าขวางหน้าอันหลิน พูดอย่างฉุนเฉียวว่า “เจ้าทำร้ายเจ้านายข้าทำไม โฮ่ง!”
เมื่ออันหลินได้ยินต้าไป๋เป็นฝ่ายเรียกตนว่าเจ้านาย ในใจก็ตื้นตันยิ่งนัก อยากกอดร่างกายที่มีขนปุกปุยของต้าไป๋นานๆ เสียเหลือเกิน แต่เขาก็กลัวว่าชิงหัวจะหึงหวง จึงจำใจต้องอดกลั้น
ชิงหัวปีนออกมาจากหลุมใหญ่ด้วยท่าทางจนตรอก แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
นางจ้องต้าไป๋ ดวงตาสุกใสมีน้ำตาคลอหน่วย เสียงก็เริ่มสั่นเครือขึ้นมา “เจ้าทำร้ายข้า…”
ต้าไป๋นิ่วหน้าเล็กน้อย “ทั้งๆ ที่เจ้าเป็นคนลงมือก่อน ข้าเพียงแค่ห้ามเจ้าเท่านั้น”
ชิงหัวทำหน้าน้อยใจ น้ำตาไหลลงจากหางตา เปื้อนขนขาวสะอาดอ่อนนุ่ม “เจ้าทำร้ายข้าเพราะเขา…”
เมื่อเห็นอากัปกิริยาของชิงหัว ต้าไป๋ก็ยู่ปาก ท่าทีก็อ่อนลง “อย่าไร้เหตุผลสิ นี่เป็นการตัดสินใจของข้า”
“โฮ่งๆ ฮือ…” หูและหางของชิงหัวลู่ลง ท่าทางน่าสงสาร “ตั้งแต่เล็กจนโต เจ้าไม่เคยทำร้ายข้าเลย…”
อันหลินสะดุ้งโหยง ละครน้ำเน่ารักสามเศร้านี่มันอะไรกัน มาโซคิสม์ของสุนัขเหรอ
ต้าไป๋ไม่ควรลงมือจริงๆ นั่นแหละ ชิงหัวดูน่าสงสารมากเลย!
ทำไมเขาดูแล้ว ถึงอดรู้สึกสงสารไม่ได้
“เสี่ยวชิง…” ในที่สุดน้ำเสียงของต้าไป๋ก็อ่อนลง
“โฮ่งๆ! ไม่ยุ่งกับเจ้าแล้ว ฮือๆ…” ชิงหัวหันหลัง วิ่งออกไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังมอง
อุ้งเท้าของต้าไป๋ขยับไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่ก้าวออกไป เพียงแค่มองแผ่นหลังที่จากไปเงียบๆ ไม่พูดอะไร
ถ้าหากฉากนี้เกิดท่ามกลางสายฝน เชื่อว่าจะทำให้คนไม่น้อยต้องหลั่งน้ำตา
“ถุย!”
จู่ๆ ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น
ต้าไป๋ถ่มน้ำลาย แสยะยิ้มชั่วร้าย “ในที่สุดปีศาจน้อยน่ารำคาญก็ไปได้สักที!”
อันหลิน “…”
เจ้าอัปลักษณ์ที่กำลังเช็ดน้ำตา “…”
อะไรกัน ต้าไป๋คืนความตื้นตันของข้าคืนมา!
“ไปกันเถอะ อันหลิน ข้าจะพาเจ้าไปดูที่ที่ข้าอยู่!” ต้าไป๋พูดอย่างเริงร่า
อันหลินสงบสติอารมณ์ ชี้ไปยังแผ่นหลังของอันหลิน
ต้าไป๋เลิกคิ้วเล็กน้อย
“ได้เลย!”
อันหลินระเบิดเสียงหัวเราะ กระโดดขึ้นขี่หลังต้าไป๋อย่างตื่นเต้น ขี่สุนัขเหาะเหินอีกครั้ง!
สัมผัสและอุณหภูมิร่างกายที่คุ้นเคยมาเนิ่นนาน ทำให้ใจเขารู้สึกประทับใจยิ่งนัก!
ต้าไป๋พุ่งขึ้นชั้นเมฆ เหาะไปยังที่พักของมัน
บนพื้นพสุธา…
จ้าวหวายหยินเหม่อมองท้องฟ้า จ้องต้าไป๋กับอันหลินที่จากไปไกล เขาที่ไม่ได้ร้องไห้เพราะละครสุนัขน้ำเน่าขมขื่น บัดนี้กลับมีน้ำตาไหลออกจากหางตา
ต้าไป๋เหินเวหา แต่ดวงตากลับเหลือบมองอีกทิศทางหนึ่ง ฉากนี้ถูกอันหลินจับสังเกตเห็นเข้าพอดี
ที่พักของต้าไป๋อยู่ในเรือนหรูหราหลังหนึ่ง มีราชสีห์สีดำระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณเป็นพ่อบ้าน รวมถึงนักพรตมนุษย์สิบกว่าชีวิตที่ให้การรับใช้ จากสิ่งนี้เห็นได้ว่าสถานะของมันในสำนักสัตว์เทพไม่ต่ำต้อยเลย
ภายในห้องนอนของมัน มีกระดูกชิ้นใหญ่อย่างมาก ส่องแสงห้าสีเป็นครั้งคราวอยู่หนึ่งชิ้น
“นี่เป็นกระดูกที่ข้าชอบที่สุด โฮ่ง!”
ขณะที่พูดต้าไป๋ก็คาบกระดูกขึ้นมาแล้วเลียอย่างสบายอุรา
อันหลินออกอาการตกใจ “นี่เป็นกระดูกของวัวสายรุ้งหรือ”
ดวงตาของต้าไป๋เปล่งประกายวาบ “ใช่แล้ว ไม่คิดว่าเจ้าจะรู้จักกระดูกชนิดนี้ด้วย”
อันหลินยิ้ม จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวที่กลุ่มของพวกเขากินวัวสายรุ้ง เรียกมังกรเทพออกมาโดยไม่รู้ตัว ไปจนถึงเข้าสู่โบราณสถานให้กับต้าไป๋
ต้าไป๋ฟังประสบการณ์ของอันหลินอย่างสนอกสนใจ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ติดตามเจ้ามักจะพบเจอเรื่องสนุกมากมายเลย ข้าไปกับเจ้าแน่นอน!”
อันหลินก็ชอบการขี่สุนัขเหาะเหินมากเช่นกัน เมื่อได้ยินคำพูดของต้าไป๋ ก็ดีใจเป็นล้นพ้น
แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา จึงพูดว่า “ต้าไป๋ เมื่อเจ้ามาอยู่กับข้า แล้วชิงหัวจะทำอย่างไร นางเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเจ้าไม่ใช่หรือ”
ต้าไป๋ส่ายหน้า “ไม่ต้องสนใจนาง ข้าเห็นนางเป็นแค่น้องสาว เมื่อข้าไปแล้ว นางจะดูแลตัวเองได้”
เพื่ออนาคตของต้าไป๋ อันหลินกลับรู้สึกว่าจะตัดสินใจส่งเดชเช่นนี้ไม่ได้ พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าทำเช่นนี้ เรื่องทายาทสืบทอดจะทำอย่างไร พ่อแม่เจ้ายอมหรือไม่ อีกอย่าง เมื่อมาอยู่กับข้า อาจจะไม่ได้เจอสุนัขตัวเมียที่สวยขนาดนี้อีกแล้ว เจ้าต้องเตรียมใจให้พร้อม ถึงตอนนั้นเจ้าโดดเดี่ยวอ้างว้าง อย่ามาหาข้าเชียวนะ…”
“นี่มัน…” เหมือนว่าต้าไป๋จะตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหาแล้ว
เมื่ออันหลินเห็นฉากนี้ ก็เปิดอกพูดว่า “เจ้าต้องการชิงหัวไหม”
“ต้องการชิงหัวหรือ” ต้าไป๋หน้าแดงก่ำ โต้กลับไปว่า “ข้าไม่ต้องการชิงหัวหรอก ข้าเห็นนางเป็นน้องสาวเท่านั้น!”
อันหลินได้ฟังคำตอบของต้าไป๋ ก็พอจะรู้แล้วว่าต้าไป๋ยังไม่ถึงวัยสืบพันธุ์ จึงรู้สึกโล่งใจ แต่กลับสอนสั่งเกลี้ยกล่อมด้วยเจตนาดีว่า “แม้จะเป็นเช่นนี้ เจ้าก็จะมองนางเป็นน้องสาวไม่ได้”
เมื่อต้าไป๋ได้ฟังก็ชะงักไป “จะให้ข้าแต่งงานกับนางหรือ ข้าไม่เอา โฮ่ง!”
อันหลินส่ายหน้า พูดยิ้มๆ ว่า “ข้าไม่ได้ให้เจ้าแต่งงานกับนางเสียหน่อย ความหมายของข้าคือ…ไม่ต้องมองเป็นน้องสาว ให้นางเป็นยางอะไหล่!”
“ยางอะไหล่คืออะไร” ต้าไป๋งงเป็นหมาตาแตก
อันหลินยิ้มอย่างมีเลศนัย “ยางอะไหล่ก็คือตัวสำรองของภรรยา เจ้าไม่ต้องประกาศสถานะความสัมพันธ์กับนาง แต่เจ้าต้องทำดีกับนาง อ่อนโยนกับนางหน่อย”
“เจ้าลองคิดดูสิ เมื่อเจ้าไปจากสำนักสัตว์เทพ ก็จะอยู่ต่างถิ่นกับชิงหัว นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการทดสอบความสัมพันธ์”
“หากเจ้าเป็นพี่น้องกับนาง นางจะไม่มีทางลืมพี่ชายอย่างเจ้าแน่นอน คิดว่าเจ้าไม่รู้จักความรักเชิงชู้สาว นางจะมีความหวังในตัวเจ้า เช่นนั้นจะเสียเวลาความรักของนาง”
“แต่หากเจ้ากับนางมีสถานะคลุมเครือ มันก็คือความสัมพันธ์ระหว่างตัวผู้และตัวเมีย เช่นนั้นนางจะมีตัวเลือกสองทาง อย่างแรกคือตั้งตารอคอยเจ้ากลับมา อย่างที่สองคือเลือกอยู่กับสุนัขตัวอื่น เมื่อพันธนาการระหว่างพี่น้องของพวกเจ้าหายไป ทุกอย่างก็จะเริ่มสว่างไสว”
“หากชิงหัวไปกับสุนัขตัวอื่น เช่นนั้นก็ถือว่านางรู้ใจตัวเองแล้ว ถ้าชิงหัวสามารถรอเจ้าได้ ไม่ถอดใจ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องแต่งงานกับนางนะ สุนัขตัวเมียที่ดีปานนี้จะไปหาที่ไหนได้อีก!”
เมื่อฟังการวิเคราะห์ของอันหลินจบ ดวงตาของต้าไป๋ก็เปล่งประกาย “เจ้านาย เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหมือนว่าเจ้าจะพูดมีเหตุผล!”
อันหลินลูบหัวของต้าไป๋พลางยิ้มบางๆ
ต้าไป๋คนโง่…แต่ทว่าแบบนี้ เจ้าต่างหากที่เป็นยางอะไหล่…
………………..