ตอนที่ 138 : กู่หลิงหลิง

เมื่อหลี่ว่านเฟิงเล่าเรื่องราวในอดีตจบ เขาก็รู้สึกว่าเหล้าที่กินกับหวังเย่านั้นไม่พอจนต้องสั่งเพิ่ม

“เรื่องราวความหลังผ่านมาเนิ่นนานหลายปี ชีวิตต้องเดินหน้าต่อ ถึงจะเศร้าแต่ก็ต้องเดินหน้าต่อ” หลี่ว่านเฟิงพึมพำออกมา

ตอนนี้ความสงสัยทั้งหมดในใจของหวังเย่าก็หายไป

หลังจากกินข้าวเสร็จทั้งสองก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน วันต่อมาหลี่ว่านเฟิงก็พาหวังเย่าไปหาเพื่อนเก่าของเขา

ตั้งแต่ที่เรียนจบมา หลี่ว่านเฟิงก็ไม่ได้กลับมาที่เมืองหัวเซี่ยอีก เขาขาดการติดต่อกับทุกคน เป็นธรรมดาที่การกลับมาครั้งนี้จะทำให้เขาตื่นเต้น

ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นการช่วยหวังเย่า เขาสามารถแนะนำผู้ที่มีอำนาจในเมืองให้หวังเย่าได้รู้จัก

“ลุงหลี่ เราจะไปหาใครกัน ? ”

ทั้งสองแต่งตัวเต็มยศ เมื่อวานนี้หลี่ว่านเฟิงได้สั่งคนคุ้มกันให้ไปซื้อของขวัญเป็นจำนวนมากมาด้วย

หลี่ว่านเฟิงไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่เขามาอยู่ที่นี่ไม่นาน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเช่ารถแทน

“ไปหาอาจารย์ของฉันก่อน” หลี่ว่านเฟิงตอบกลับอย่างใจเย็น ดวงตาของเขาสะท้อนความคิดถึงออกมา มันคิดภาพออกได้ว่าอาจารย์คนนั้นมีบทบาทยังไงกับการเติบโตของเขาบ้าง

รถได้จอดในเขตหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่นี่มีบ้านอยู่มากมายเกือบร้อยหลัง คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คงมีอำนาจพอตัว

คนคุ้มกันลงจากรถก่อนจะไปเปิดประตูทั้งสองฝั่งให้หลี่ว่านเฟิงและหวังเย่าลงจากรถ

บ้านหลังนี้มี 4 ชั้น มีสวนเล็ก ๆ อยู่ด้านหน้าซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ ในช่วงหน้าร้อนนี้ดอกไม้นั้นบานสะพรั่งทำให้สวนนี้ดูงดงามอย่างมาก

คนคุ้มกันเดินไปกดกริ่งที่หน้าบ้าน ไม่นานหญิงวัยกลางคนก็เดินออกมาต้อนรับ เธอดูเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็ก

เธอมองไปยังผู้ชายด้านนอกและถามขึ้นมา  “คุณเป็นใคร ? ”

หลี่ว่านเฟิงก้าวออกมาและพูดขึ้น  “ฉัน หลี่ว่านเฟิง ฉันมาเยี่ยมอาจารย์กู่หาว”

พี่เลี้ยงพยักหน้าและพูดขึ้น  “รอสักครู่”  จากนั้นเธอก็หันกลับไปแจ้งคนในบ้าน

ไม่นานชายชราผมขาวก็ก้าวออกมา ตาของเขาเป็นประกาย ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความยินดี

“ว่านเฟิง นายมาเองงั้นหรือ”  ชายชราก้าวเข้ามาเปิดประตูรั้วให้

หลี่ว่านเฟิงตาแดงก่ำ จากนั้นเขาก็พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก  “อาจารย์ อาจารย์สบายดีไหม ? ”

กู่หาวมองไปหลี่ว่านเฟิงอยู่สักพักก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ  “ ว่านเฟิง ไม่เจอกันมาหลายปี ตอนนี้นายได้ขึ้นเป็นผู้ตรวจสอบ 4 ดาวแล้ว “

“เป็นเพราะอาจารย์นั้นแหละที่สั่งสอนผมมาดี”  หลี่ว่านเฟิงตอบกลับทันที

ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักพักก่อนจะแนะนำหวังเย่าให้กู่หาวรู้จัก   “อาจารย์ เด็กนี่เป็นเด็กที่ผมดูแล ชื่อหวังเย่า ผมพาเขามาเพื่อแนะนำเขาให้อาจารย์รู้จัก”

กู่หาวมองไปที่หวังเย่าและพูดขึ้น  “เขาดูเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ นายบอกว่าเขาชื่อหวังเย่างั้นหรือ ? ”

“ใช่ครับ อาจารย์ มีปัญหาอะไรรึเปล่า ? ”  หลี่ว่านเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“ไม่มีอะไร ฉันเพิ่งเห็นชื่อเขาในอินเตอร์เน็ต”  สายตาของกู่หาวดูชื่นชมหวังเย่ายิ่งกว่าเก่า

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด หวังเย่าในข่าวคนนั้น คงเป็นเด็กคนนี้สินะ” หลี่ว่านเฟิงเองก็ตรวจสอบข้อมูลมาบ้าง เขาได้ตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ตพร้อมกับข่าวต่าง ๆ ในเมืองหัวเซี่ย โดยเฉพาะข่าวเรื่องแร่ไฟเมื่อไม่นานมานี้

หวังเย่าโค้งให้และพูดขึ้น  “ ผม หวังเย่า คำนับผู้อาวุโส”

กู่หาวหัวเราะออกมา  “ไม่ต้องสุภาพไป เอาจริง ๆ แล้ว นายชื่อเสียงโด่งดังกว่าฉันอีก นายน่ะไม่ธรรมดา แม้จะอายุยังน้อย แต่กลับทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้ได้ ถ้านายทำได้สำเร็จ นายจะเป็นเศรษฐีที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์แน่ “

หวังเย่ารีบพูดขึ้นมา  “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่โชคดี”

กู่หาวพยักหน้าก่อนจะเชิญทั้งสองคนเข้าบ้าน ส่วนคนคุ้มกันนั้นกลับไปที่รถเพื่อขนของฝากต่าง ๆ ไปไว้ที่ห้องโถง

กู่หาวนั่งลง ก่อนจะพูดขึ้นว่า  “ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ฉันกำลังจะกินแต่พวกนายก็มากันพอดี”

หลี่ว่านเฟิงพูดขึ้น  “ต้องขอโทษอาจารย์ด้วย”

เพราะตารางที่เร่งรัด ทำให้หลี่ว่านเฟิงต้องเร่งรีบ ตอนนี้ยังเป็นเวลา 9 โมงเช้าอยู่แต่เขาต้องรีบมาพบกู่หาว เพราะจะไปหาคนอื่นต่อ

พี่เลี้ยงได้ยกมื้อเช้าเข้ามาเสิร์ฟก่อนจะเดินออกไป มื้อเช้านั้นมีนม, ขนมปังปิ้งและไข่ดาว

หวังเย่านั่งลงตามและกินอาหารอยู่เงียบ ๆ คอยฟังทั้งสองคนพูดคุยกัน

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองไปที่ชั้นบน ก่อนจะเห็นเด็กสาวอายุประมาณ 16 ปี ที่ผมยุ่งเหยิงกำลังเดินลงมา

เธอสวมชุดนอนน่ารัก ผมสั้นและมีกระบนแก้มทั้งสองข้างเล็กน้อย

“เสี่ยวหลิง มีแขกมา”  กู่หาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“หือ ? ”  เด็กสาวมองลงมาด้วยท่าทีลนลานและรีบพูดขึ้น  “ปู่ ปู่บอกว่าจะพาหนูไปเที่ยวนอกเมืองไม่ใช่หรือ ทำไมถึงรับแขกได้”

ตอนที่พูดนั้นเธอก็แอบมองไปที่หลี่ว่านเฟิงและหวังเย่า สุดท้ายเธอก็มองหวังเย่าอยู่สักพัก

เธอคือหลานของกู่หาวนี้เอง

กู่หาวพูดขึ้น  “ว่านเฟิง หวังเย่า นี่คือหลานของฉัน เธอชื่อกู่หลิงหลิง”

หลี่ว่านเฟิงพยักหน้าตอบรับก่อนจะเอากล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋ามิติและยิ้มออกมา  “เธอเป็นถึงหลานสาวของอาจารย์ ผมก็ควรมอบของขวัญให้กับเธอ”

กู่หลิงหลิงเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งมารับของขวัญทันที

กู่หาวแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา   “เด็กนี่ไม่รู้จักมารยาท ยังไม่ขอบคุณลุงหลี่อีก”

กู่หลิงหลิงรีบทำตามทันที  “ขอบคุณลุงหลี่”  จากนั้นเธอก็รับของขวัญไปด้วยสีหน้าพอใจ

แต่เธอไม่ได้เปิดมันดูทันที แต่กลับมองไปที่หวังเย่า

ทำให้หวังเย่าชะงักไปครู่หนึ่ง  เธอมองมาแบบนี้แสดงว่า เขาต้องให้ของขวัญกับเธอด้วยหรือ ?

ตอนที่หวังเย่ากำลังคิดว่าเขาควรให้ของขวัญด้วยรึไม่นั้น กู่หลิงหลิงก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้น  “น้องชายคนนี่หล่อจริง ๆ นายชื่ออะไร ? ”

หวังเย่าได้แต่ลูบจมูกและพูดขึ้น  “ฉันชื่อหวังเย่า”

“หวังเย่างั้นหรือ ? อ๊ะ นายคือหวังเย่างั้นหรือ ? ”  กู่หลิงหลิงกรี๊ดออกมา จากนั้นเธอก็รู้ว่าเธอทำตัวไม่สุภาพ จึงรีบเอามือปิดปากทันที

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจ เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะโด่งดังถึงขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสที่รู้จักเขา แต่กู่หลิงหลิงก็ยังรู้จักเขาด้วย

“สวัสดีหวังเย่า ฉัน กู่หลิงหลิง”  กู่หลิงหลิงทำการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการทันที

หวังเย่าจับมือกับเธอและรับรู้ถึงความนุ่มจากมือเธอ

“นายกินข้าวไปก่อนนะ” กู่หลิงหลิงยิ้มออกมา  “รอฉันอาบน้ำก่อนแล้วเราค่อยไปเล่นด้วยกัน”