บทที่ 140: ให้ตายสิชาร์ล็อต!
บนกำแพงที่เป็นดั่งชายแดนอาณาเขตทางด้านตะวันออกของดินแดนมนุษย์ป้อมปราการทาร์ก คาร์เตอร์กำลังสนทนาอย่างสนุกสนานกับเด็กสาวผมทอง
“ท่านลุงคาร์เตอร์ ข้ารู้สึกขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของท่านในเรื่องนี้”
“ไม่มีเป็นไรหรอก ฝ่าบาท ข้าก็แค่สั่งให้แอนนาร่วมมือกับท่าน”
คาร์เตอร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากนี้การหมั้นหมายน่าจะกลายเป็นโมฆะ ลูกชายของเขาจะปลอดภัย จากนั้นความกังวลของคาร์เตอร์ก็จะได้บรรเทาลง ในที่สุดคืนนี้เขาก็จะได้นอนหลับฝันดีเสียที
หลายวันที่ผ่านมานี้มาร์ควิสคาร์เตอร์แทบจะไม่ได้นอน เนื่องจากสัญญาการหมั้นหมายของโรเอล แม้มันจะดูเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่เบื้องหลังนั้นมีความยุ่งยากมากมาย นั่นก็เพราะการหมั้นหมายนี้ได้มาในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด
หากเป็นเมื่อสามปีก่อน มาร์ควิสคาร์เตอร์คงจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นน้อมรับสัญญาการหมั้นหมายที่มีอายุนับศตวรรษนี้แต่โดยดี ตระกูลโซโรฟยามีผลประโยชน์ที่น่าสนใจมากมายมานำเสนอ และตัวของชาร์ล็อตเองก็มีชื่อเสียงที่ดี
ทว่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา อลิเซียได้เข้ามาในตระกูลแอสคาร์ด กลายเป็น ‘น้องสาว’ ที่แทบจะตัวติดกันของโรเอล และนอร่าก็ได้กลายมาเป็นผู้พิทักษ์ของเขา
ทั้งสองมีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมในฐานะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ และพวกเธอเองก็มีภาษีไม่ได้ต่ำไปกว่าตระกูลโซโรฟยา
พรสวรรค์อันยอดเยี่ยมของอลิเซียจะกลายขุมพลังอันล้ำค่าของตระกูลแอสคาร์ด ด้วยความจริงที่ว่าเธอพร้อมจะสนับสนุนโรเอลอย่างไม่มีเงื่อนไข หมายความว่าเธอจะกลายเป็นพันธมิตรที่ภักดีในอนาคต ส่วนนอร่าก็มีอิทธิพลในฐานะองค์หญิงแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทหนุนหลังอยู่ ซึ่งเธอสามารถใช้พลังนั้นเพื่อรับประกันความปลอดภัยของโรเอลได้
คนหนึ่งสามารถเสริมรากฐานให้กับตระกูลแอสคาร์ด ส่วนอีกคนสามารถเสริมสถานะของตระกูลแอสคาร์ดในจักรวรรดิเซนต์เมซิทได้ ไม่ว่าโรเอลจะเลือกใคร เขาก็จะได้รับประโยชน์มากมายจากตัวเลือกนั้น
ส่วนชาร์ล็อตนั้นต่างออกไป แม้ว่าตระกูลโซโรฟยาจะมั่งคั่ง แต่พวกเขาก็เป็นกลุ่มอำนาจจากภายนอก อิทธิพลของพวกเขาในจักรวรรดิเซนต์เมซิทจึงมีจำกัด นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถสนับสนุนตระกูลแอสคาร์ดโดยตรงได้หากมีปัญหาเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเสี่ยงที่ตระกูลโซโรฟยาจะพยายามโค่นล้มโรเอลลงเพื่อยึดอำนาจของตระกูลแอสคาร์ด
สิ่งที่ตระกูลโซโรฟยาจะมอบให้ตระกูลแอสคาร์ดได้อย่างแท้จริงคงมีเพียงแค่ทรัพย์สินเงินทอง แต่ ตระกูลแอสคาร์ดก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินไม่ใช่เหรอ?
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วโรเอลจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อพัฒนาเขตการปกครองแอสคาร์ด แต่คาร์เตอร์นั้นมีตรรกะที่แตกต่างกันออกไป
พวกเรามีเงินเพียงพอที่จะรักษากองทัพของเรารึเปล่า? มีงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหานี่
คาร์เตอร์ไม่เคยคิดว่าเขตการปกครองแอสคาร์ดขาดแคลนเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโรเอล พัฒนาเขตการปกครองได้ดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการทางการเงินของตระกูลแอสคาร์ดลดลงไปอีก
มุมมองของคาร์เตอร์นั้นเรียบง่าย เนื่องจากเขาได้รับอิทธิพลมามากจากแนวคิดทางการทหาร คาร์เตอร์เชื่อว่าความมั่นคงของเขตการปกครองมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ตราบใดที่มีเงินเพียงพอที่จะสนับสนุนกองทัพ และไม่มีใครอดอยาก ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก
นอกจากนี้คาร์เตอร์เชื่อมั่นในความรักอิสระ อลิเซียเป็นเด็กสาวคนแรกที่เริ่มไล่ตามโรเอล มันจึงฟังดูไร้สาระมากสำหรับเขาที่จะต้องขอให้เธอยอมถอย เพียงเพราะคำมั่นสัญญาจากร้อยปีก่อน
ที่สำคัญที่สุด แค่มีอัจฉริยะสองคนต่อสู้กันแย่งโรเอลก็น่าปวดหัวพอแล้ว หากเพิ่มเข้ามาในการต่อสู้ ครั้งนี้ มันคงจะกลายเป็นหายนะจริง ๆ แน่ บางทีจู่ ๆ วันหนึ่งลูกชายของเขาอาจจะถูกลอบสังหารคาห้องก็ได้!
รู้อะไรไหม? ข้าขอถอนคำพูดในตอนนั้นที่บอกให้เจ้าหาภรรยามาแต่งงานเยอะ ๆ หยุดยุ่งกับผู้หญิงพวกนี้ได้แล้วได้ไหม? ตอนนี้พ่อกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกมากเลย!
ทว่ามีอย่างหนึ่งที่คาร์เตอร์สงสัยมาตลอด จากสิ่งที่เขารู้ โรเอลนั้นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่แล้วทำไมทั้งอลิเซียและนอร่าถึงได้หมกมุ่นอยู่กับเขาแบบนี้กัน?
มาร์ควิสพยายามเค้นสมองกับคำถามนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เขาก็ยังหาคำตอบเกี่ยวกับมันไม่ได้ ท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น คาร์เตอร์จึงสั่งให้แอนนาร่วมมือกับอลิเซียและนอร่า วางแผนร่วมกันขัดขวางไม่ให้เด็กสาวจากตระกูลโซโรฟยาตกหลุมรักโรเอล ไม่อย่างนั้นในอนาคตลูกชายของเขาจะต้องลำบากมากแน่ ๆ
แน่นอนว่ามันก็ยังมีความเสี่ยงที่โรเอลพ่ายแพ้ต่อความงามของชาร์ล็อตและพยายามจะจีบเธอ แต่คาร์เตอร์เชื่อว่าลูกชายของตนไม่ใช่คนแบบนั้นแน่
คนเจ้าชู้ไม่เคยมีจุดจบที่ดี เพราะฉะนั้นอย่าหลงไปในทางที่ผิด
แน่นอนว่าแผนนี้มีค่าใช้จ่าย เพราะมันจะทำให้ชื่อเสียงของโรเอลมัวหมอง ซึ่งแน่นอนว่าคาร์เตอร์ไม่คิดว่านั่นเป็นปัญหา ทั้งหมดที่เขาต้องทำมีเพียงแค่ออกไปชี้แจงเกี่ยวกับมันในภายหลังเมื่อทุกอย่างจบลงก็เท่านั้น
รอยจูบอาจเป็นเพียงการแกล้งกันของอลิเซียและโรเอล ส่วนเรื่องนอร่ากับสายจูงสุนัขของเธอก็สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่าเธอคิดจะพาสุนัขของตนไปเดินเล่นที่คฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ดกับโรเอลเพื่อนรัก มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาหากตระกูลโซโรฟยาจะคิดถึงเรื่องนี้มากเกินไป
เมื่อตระกูลโซโรฟยาถอนตัวจากสัญญาหมั้นไปแล้ว พวกเขาก็จะไม่สามารถทวงมันได้อีก
ทางด้านของโรเอล คาร์เตอร์ได้เขียนจดหมายเพื่ออธิบายและขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ทันทีที่สัญญาหมั้นถูกทำลาย เขาจะส่งจดหมายไปหาโรเอล ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งอลิเซียและนอร่าเองก็น่าจะตกลงกันเกี่ยวกับวิธีที่พวกเธอจะชดเชยให้แก่โรเอลไว้แล้วเช่นกัน
หลังจากได้ยินรายงานของนอร่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ คาร์เตอร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะเขาคิดว่ามันจบลงแล้ว
ทว่าหากมีหมอดูอยู่ที่นี่ เขาคงจะบอกคาร์เตอร์อย่างแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คาร์เตอร์จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างแท้จริง เมื่อสายลมแห่งโชคชะตาเริ่มพัดมา มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมทุกอย่างอีกต่อไป
…
ตอนนี้หัวของชาร์ล็อตรู้สึกหนักอึ้งไปหมด
ในฐานะทายาทของตระกูลขุนนางชื่อดัง ไม่ว่าความปรารถนาของโรเอลจะแรงกล้าแค่ไหน เขาไม่ควรทำอะไรแบบนั้นก่อนที่จะมาพบคู่หมั้นของเขาเป็นครั้งแรก!
นั่นมันฝีมือองค์หญิงหรือน้องสาวบุญธรรมของเขากัน? หรือว่าเป็นผู้หญิงคนอื่น?
ชาร์ล็อตส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เธอไม่ต้องการรับรู้หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่โรเอลก็ไม่ควรเหลือร่องรอยอะไรแบบนี้เอาไว้ก่อนการนัดพบ อย่างน้อย ๆ เขาก็ควรจะรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ให้ดีตั้งแต่ต้นจนจบสิ
ชาร์ล็อตไม่ได้ลืมว่ามักจะมีเรื่องแนว ๆ นี้ในแวดวงชนชั้นสูง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นใครบางคนทำมันอย่างเปิดเผย
“ตอนแรกฉันคิดที่จะเจรจาต่อ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว…”
“หืม มีอะไรหรือ? คุณชาร์ล็อต?”
ดวงตาอันเฉียบคมและใบหน้าที่ยิ้มเยาะเย้ยของชาร์ล็อตทำให้โรเอลรู้สึกตัวได้ว่าเหตุการณ์กำลังเลวร้ายลง เด็กชายตระหนักได้ว่าเธอกำลังจ้องมองมาที่คอของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่เขาจะได้โต้ตอบ ชาร์ล็อตก็โยนคำถามอื่นออกมา
“คุณโรเอล คุณรู้เรื่องการหมั้นหมายของเราตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“หืม? ก็ไม่นานมานี้นะ ราว ๆ ครึ่งเดือนก่อน”
ชาร์ล็อตพยักหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบ เธอเข้าใจแล้วว่าตนเองเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขามากแค่ไหน
…
“พวกเราเป็นแค่คนแปลกหน้าสองคนที่มาเจอกันด้วยกระดาษเพียงแผ่นเดียว ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะวิจารณ์การใช้ชีวิตของคุณ แต่อย่างน้อย ๆ ฉันก็คิดว่า ฉันมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคุณ”
“อะไรนะ?”
“คุณโรเอล ฉันรู้ว่ามันอาจจะกะทันหันไปหน่อย แต่ฉันเชื่อว่าพวกเราไม่เหมาะกัน คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?”
“…”
โรเอลเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ การตัดสินใจโดยกะทันหันของชาร์ล็อตทำให้เขารู้สึกหนักใจเล็กน้อย ราวกับว่าเกมที่เขาเล่นอยู่ได้ถูกเร่งไปถึงตอนจบในทันที
แต่เรายังไม่ได้รับแต้มความสนใจจากเธอเลยนะ! ทำไมจู่ ๆ เธอถึงได้ตัดจบแบบนี้ล่ะ?
“คุณชาร์ล็อต พวกเราเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน ฉันว่าพวกเรายังไม่ได้รู้จักกันดี”
“ไม่หรอก ฉันเชื่อว่าฉันเข้าใจดีแล้วว่าคุณเป็นคนแบบไหน”
ดวงตาสีมรกตของชาร์ล็อตจับจ้องไปบนรอยช้ำที่ต้นคอของโรเอล ด้วยความโกรธเคืองเดือดดาลอยู่ในใจของเธอ แต่ด้วยสถานะของอีกฝ่าย เด็กสาวจึงได้แต่ระงับความโกรธเอาไว้พร้อมอธิบาย
“ทุกคนมีความเข้าใจที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความหมายของการแต่งงาน บางคนคิดว่ามันเป็นพิธีการ บางคนคิดว่ามันเป็นแค่การค้า อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่าการแต่งงานเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นรากฐานในการสร้างครอบครัว มันคือวิธีการแสวงหาความสุข คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?”
“คำพูดของคุณสมเหตุสมผลมาก คุณชาร์ล็อต”
“อย่างนั้นหรือ? งั้นเราก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ง่าย ๆ เลย”
ริมฝีปากของชาร์ล็อตเชิดขึ้น เครื่องหมายแห่งความรักของอลิเซียทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคือง ทำให้เด็กสาวทำในสิ่งที่เธอไม่คิดจะทำตามปกติ พลังเวทอันรุนแรงเริ่มหมุนวนไปทั่วร่างกาย พลังแห่งสายเลือดที่เธอได้รับมาจากบรรพบุรุษไฮเอลฟ์เริ่มหลั่งไหลออกมา
จุดแสงคล้ายหมู่ดาวเริ่มก่อตัวขึ้นข้างหลังชาร์ล็อต เป็นรูปร่างของกลุ่มดาวเทพเจ้าโบราณ เทพเจ้าโบราณองค์นี้ถือไม้เท้าไว้ในมือข้างหนึ่งในขณะที่อีกข้างจับตาชั่งเอาไว้ เหมือนกำลังมองมาที่เธอ
คาถาเวทโบราณนี้ดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งหมดที่อยู่ใกล้ ๆ ในทันที แม้แต่กรันด้าก็ยังต้องหันมามองจากอีกโลกหนึ่ง
พลังเวทสีแดงหมุนวนออกมาจากร่างของโรเอลห่อหุ้มเขาไว้ ปกป้องเด็กชายจากอันตราย จากนั้นมันก็ก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างของโครงกระดูกขนาดใหญ่ แต่แล้วมันก็หายไปในทันที ทำให้ใคร ๆ ต่างก็สงสัยว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญรึเปล่า
“เทพธิดาแห่งโชคชะตา? น่าสนใจเสียจริง”
เสียงแหบแห้งดังก้องอยู่ในหูของโรเอลทำให้เขารู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ภายใต้การไหลเวียนของพลังเวทอันทรงพลัง บรรยากาศอันสูงส่งของชาร์ล็อตถูกปกคลุมไปด้วยชั้นพลังเวทลึกลับ กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนโดยรอบ
“ ‘อนุญาโตตุลาการแห่งโชคชะตา’ นี่คือพลังสายเลือดของฉัน นอกจากนี้มันยังเป็นข้อพิสูจน์อีกด้วยว่าตระกูลของเรามีต้นกำเนิดมาจากไฮเอลฟ์โบราณ”
ภายใต้แสงดาวที่เธอเรียกออกมา ชาร์ล็อตหันกลับไปมองดูกลุ่มดาวลึกลับพร้อมอธิบายอย่างใจเย็น
“ตั้งแต่ในสมัยโบราณ ไฮเอลฟ์ ทำหน้าที่เป็นทูตของเทพธิดาแห่งโชคชะตา พวกเขาเป็นผู้ให้กำเนิดการทำนายและคาถาพยากรณ์ทั้งมวล เนื่องจากความสามารถในการมองเห็นวงจรการไหลเวียนของความมั่งคั่ง ในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้าและธุรกิจ”
“การควบแน่นชีวิตของคนคนหนึ่งคือสิ่งที่พวกเราเรียกว่าโชคชะตา โชคชะตาเป็นสิ่งที่เหลวไหล มันมักจะเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลง ชีวิต ความตาย และการแต่งงานเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของโชคชะตา คุณเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังสื่อรึเปล่า?”
ชาร์ล็อตหันไปหาโรเอลที่กำลังประหลาดใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มจะปะติดปะต่อคำพูดของเธอได้แล้ว เด็กสาวก็พยักหน้า
“ไม่ว่าโชคชะตาจะเข้าข้างพวกเราหรือไม่ ไม่ว่าการหมั้นหมายของเราจะนำมาซึ่งความสุขหรือความทุกข์ยาก ทั้งหมดนี้สามารถทำนายได้ด้วยพลังของคาถาเวท อนุญาโตตุลาการแห่งโชคชะตา”
“นี่… นี่มันไม่ฟังดูสะดวกเกินไปเหรอ?”
“คุณคิดว่าข้อสรุปจากพลังเหนือธรรมชาติที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ น่าเชื่อถือน้อยกว่าการประเมินของพวกเราภายในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยปฏิสัมพันธ์งั้นหรือ? สิ่งที่เราเห็นด้วยตานั้นมักจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ”
เมื่อชาร์ล็อตลงทุนทำถึงขนาดนี้ เพื่อยืนยันว่าพวกเขาไม่เข้ากัน โรเอลก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจยาว ๆ ออกมา
เขาจะทำอะไรได้ในสถานการณ์แบบนี้? ถามถึงความน่าเชื่อถือของการทำนายดวงชะตาแล้วขัดขวางไม่ให้เธอใช้คาถาเวทงั้นเหรอ?
ชาร์ล็อตได้ชักนำโรเอลให้กล่าวสนับสนุนต่อทัศนะที่ว่าการแต่งงานควรสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความสุข ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะหยุดยั้งเธอจากการทำนายผลการแต่งงานของพวกเขา อันที่จริง ถ้าโรเอลพยายามทำเช่นนั้น มันจะมีแต่จะสร้างความสงสัยในความจริงใจของเขาเท่านั้น
ถ้าโรเอลบอกว่าเขาสนใจแค่แต้มความสนใจของเธอ เธอจะเชื่อเขาไหมล่ะ?
โรเอลคิดไตร่ตรองถึงคำถามนี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่ชาร์ล็อตจะเชื่อคำพูดของเขา ยังไงอีกฝ่ายก็น่าจะคิดว่าเขาทำไปเพราะต้องการเงินของตระกูลโซโรฟยาเท่านั้น
จากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วที่โรเอลจะได้รับแต้มความสนใจจากเธอ โชคดีที่ทั้งสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้ากัน ดังนั้นเมื่อการหมั้นถูกยกเลิก มันจึงไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้ชาร์ล็อตกลับมาทำร้ายเขาในภายหลัง
ทางที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือพยายามรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับชาร์ล็อตเอาไว้ เพื่อที่จะสามารถเจรจาร่วมมือกับตระกูลโซโรฟยาได้ในอนาคต
นอกจากนี้ โรเอลก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างเหนื่อยสำหรับเขาที่จะต้องคอยระวังเด็กสาวคนนี้ แถมเด็กชายยังรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสดีสำหรับเขาอีกด้วยที่จะข้ามพิธีการหมั้นต่าง ๆ และมุ่งตรงไปยังธุรกิจซึ่งเป็นประเด็นหลัก
หลังจากครุ่นคิดทบทวนแล้วโรเอลก็โบกมือและพูดขึ้น
“คุณชาร์ล็อต ในเมื่อคุณร่ายคาถามาถึงขั้นนี้แล้ว ก็จัดการในสิ่งที่คุณจะต้องทำต่อไปได้เลย ฉันจะรอฟังผล”
“ได้เลย ฉันจะใช้เหรียญทองนี้เป็นสื่อกลางในการทำนายดวงชะตา”
ชาร์ล็อตตอบพร้อมพยักหน้า
เธอหยิบเหรียญทองที่มีสีซีดเล็กน้อยออกมาแสดงให้โรเอลเห็นอย่างชัดเจน
“นี่คือเหรียญทองของจักรวรรดิออสทีนโบราณ ด้านหัวแสดงถึงความสุข ก้อยแสดงถึงความทุกข์ยาก พวกเราจะให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์การแต่งงานระหว่างเรา ไม่มีข้อกังขาอะไรใช่ไหม?”
“ฉันไม่มีข้อกังขา”
“อนุญาโตตุลาการแห่งโชคชะตา”
“… เข้าใจแล้ว”
ชาร์ล็อตหลับตาและเริ่มพึมพำเบา ๆ เงาอันพร่ามัวภายในกลุ่มดาวเปล่งแสงเจิดจ้าออกมาพร้อมด้วยเสียงแหบห้าวตอบสนองต่อเจตจำนงของผู้ร่ายคาถา
ราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นถือเหรียญทองในมือของชาร์ล็อตเอาไว้ จากนั้นเสียง ‘กริ๊ง’ ก็ดังก้องไปพร้อมกับเหรียญที่ลอยขึ้นไปในอากาศ
เหรียญหมุนพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และแสงดาวด้านหลังชาร์ล็อตก็เปล่งแสงออกมารุนแรงขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อเหรียญลอยไปถึงจุดสูงสุดก่อนที่มันจะตกลงมา ดวงดาวทุกดวงก็กลับคืนสู่สภาพปกติ เหรียญทองคำตกลงไปยังตำแหน่งที่มันถูกสะบัดขึ้นไป หมุนสองสามรอบในอากาศก่อนที่จะร่อนลงมาด้านใดด้านหนึ่ง
“หัว”
เสียงแหบ ๆ ประกาศผลการทำนายดวงชะตา ทำให้เด็กหญิงผมสีน้ำตาลแดงและเด็กชายผมดำต้องตกตะลึง พวกเขาจ้องไปที่รอยประทับรูปศีรษะมนุษย์บนเหรียญแห่งโชคชะตาด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง พยายามทำใจรับมือกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดนี้
ก..เกิดอะไรขึ้น? มันควรจะเป็นแบบนี้เหรอ?
โรเอลตกตะลึงมาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชาร์ล็อตกำลังทำอะไรอยู่ ทว่าจิตใจของเด็กสาวเองก็กำลังวุ่นวายไม่ต่างอะไรไปจากเขา
หัว? มันเป็นหัวไปได้อย่างไร? เป็นไปได้ไหมว่าผลของการทำนาย ถูกบิดเบือนโดยพลังเวทของโรเอล?
นี่เป็นความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของชาร์ล็อต ทันทีที่เธอเห็นเหรียญแสดงออกมาเป็นฝั่งหัว อย่างไรก็ตามเมื่อเธอตรวจสอบสภาพแวดล้อมดี ๆ เด็กสาวก็สังเกตเห็นว่าพลังเวทของโรเอลควบแน่นรอบตัวเขา ไม่แสดงท่าทีว่าจะขยายออกไปด้านนอกเลยแม้แต่น้อย
ผลลัพธ์ไม่ได้ถูกบิดเบือนงั้นเหรอ? เป็นไปได้ยังไงกัน? กับผู้ชายเจ้าชู้คนนี้เนี่ยนะ…
ชาร์ล็อตยิ่งลนลานมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้
“ม…มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ! ฉันจะลองทำมันอีกครั้ง!”
“อา? อีกครั้งเหรอ?”
ปกติแล้วการทำนายเนี่ย มัน ‘ลองอีกครั้ง’ ได้รึเปล่า?
โรเอลขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นฝูงชนรอบตัวเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่พวกเขากำลังทำนายชีวิตรักของพวกเขาต่อหน้าผู้คนมากมาย อย่างไรก็ตาม ชาร์ล็อตตื่นเต้นเกินกว่าจะสนใจ เธอหันไปที่เงาด้านหลังและเน้นย้ำอีกครั้ง
“อนุญาโตตุลาการแห่งโชคชะตา! ด้านหัวแสดงถึงความสุข และก้อยแสดงถึงความทุกข์ยาก จงตรวจสอบผลลัพธ์ของการแต่งงานระหว่างชาร์ล็อต โซโรฟยา และโรเอล แอสคาร์ด!”
“… เข้าใจแล้ว”
กริ๊ง!
เหรียญถูกโยนอีกครั้ง สายตาของโรเอลและชาร์ล็อตจับจ้องอยู่ที่เหรียญตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่าผลลัพธ์นั้น…
“หัว”
“ป..เป็นไปได้ยังไง? มันเป็นไปได้อย่างไรกัน…”
ผลลัพธ์ของการโยนเหรียญครั้งที่สองเป็นดั่งค้อนที่ทุบลงมายังหัวใจของชาร์ล็อต เธอเหลือบมองดูว่าที่คู่หมั้น ผู้กำลังสับสนด้วยดวงตาที่หรี่ลง
เดี๋ยวนะ เป็นไปได้ไหมว่าเงื่อนไขที่เราตั้งไว้จะมีปัญหาบางอย่าง?
ใช่เลย ความสุขอาจจะไม่ได้หมายถึงชีวิตคู่ของเราก็ได้ เราต้องจำกัดความให้แม่นยำมากขึ้น …
“อนุญาโตตุลาการแห่งโชคชะตา! ด้านหัวแทนการแต่งงานที่เปี่ยมไปด้วยความรักซึ่งกันและกัน ก้อยเป็นตัวแทนของการแต่งงานที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง จงตรวจสอบ!”
“… เข้าใจแล้ว”
กริ๊ง!
“หัว”
“…”
ทว่าเมื่อผลการทำนายครั้งที่สามจบลง มันก็ยิ่งทำให้ชาร์ล็อตสับสนงุนงงมากกว่าเดิม ขณะเดียวกัน สภาพอันน่าอับอายของเด็กสาวที่พยายามทำการทำนายดวงชะตาซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้เด็กหนุ่มเกิดความเขินอายขึ้นมา
เด็กชายมองไปยังเหล่าคนรับใช้ที่ดูกระสับกระส่ายจนผิดปกติ ก่อนจะรีบเดินไปหาชาร์ล็อตแล้วสะกิดเธอ
“คุณชาร์ล็อต หยุดก่อนเถอะ”
“อย่ามาขวางข้า นี่มันยังไม่จบหรอกนะ! ม..มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ ข้าต้องลองทำมันอีกครั้ง…”
เธอยังต้องการที่จะทำมันอีกครั้งเหรอ? ตกลงนี่เธอทำไปเพื่ออะไรกันแน่เนี่ย!
โรเอลที่กำลังเขินอายจนหน้าแดงก่ำตัดสินใจจับมือของชาร์ล็อต ทำให้เธอต้องก้มลงด้วยความตกใจ เด็กสาวรีบสะบัดอาการกระวนกระวายในใจออกไปทันที ทีแรกชาร์ล็อตนั้นคิดที่จะตำหนิโรเอลที่จู่ ๆ มาสัมผัสร่างกายของเธอโดยกะทันหัน แต่เมื่อเด็กสาวหันศีรษะไปทางเขา สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือแก้มและหูที่แดงก่ำของเด็กชาย
“มองดูรอบ ๆ ก่อน หยุดโยนเหรียญเถอะนะ … ขอร้องล่ะ”
“อา?”
โรเอลอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พลางก้มศีรษะลงเพื่อปกปิดใบหน้าอันแดงก่ำ จังหวะนั้นเองชาร์ล็อตก็ได้สติกลับคืนมาในที่สุด
เธอค่อย ๆ มองไปรอบ ๆ ตัว ก่อนจะตระหนักได้ว่า ทั้งสาวใช้ พ่อบ้าน ทหารองครักษ์ นักดนตรี หรือแม้แต่พ่อครัวในห้องต่างก็จับจ้องมาที่พวกเขาทั้งคู่ ใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มอันอบอุ่น ซึ่งนำความเขินเขินพุ่งขึ้นมาสู่ใบหน้าของเธอ
“ม…ไม่ น..นี่มันเป็นความเข้าใจผิด! พวกเราไม่ได้…”
เมื่อต้องเผชิญกับสายตามากมาย ชาร์ล็อตก็ใช้เวลาเพียงสองวินาทีในการเข้าถึงสภาวะอับอายสุดขีด ด้วยความกระวนกระวาย เด็กสาวพยายามอธิบายเหตุการณ์ให้ฝูงชนฟัง ทว่ากลับมีเพียงเสียงหัวเราะเบา ๆ ตอบกลับมาทำลายความกล้าหาญของเธอไปจนหมด
“คุณโรเอล ฉัน ฉัน ฉันคิดว่าฉันไม่สบาย… ฉันไม่สบาย! ขอตัวล่ะ!”
“อะไรนะ? เฮ้ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะที่จู่ ๆ เธอจะหนีไปแบบนั้น! ชาร์…”
ปัง!
เด็กสาวที่ตื่นตระหนกละทิ้งโรเอลที่กำลังสับสนเอาไว้แล้วรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องในทันที