เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้ชูหน่วนก็อดไม่ได้ที่จะทุบเขาให้ตายไป
นางใช้หลักการของรูเล็กๆ ในกระจกเพื่อสะท้อนแสงผ่านบานหน้าต่างในระยะไกล เพียงแค่เซี่ยวอวี่เซวียนกดลงที่บานหน้าต่าง ไม่นานเขาก็สามารถเอาชนะปรมาจารย์หมากรุกได้อย่างง่ายดาย
แต่เขากลับเดินหมากผิดพลาดได้ทั้งที่เดินตามตาราง
กู้ชูหน่วนสงสัยอย่างมากว่าเขาเข้าใจเรื่องการคำนวณหรือไม่
หากไม่ใช่เป็นเพราะนางจับตาดู และการเดินหมากรุกทุกตัวได้มีแผนสำรองไว้ นางจะต้องแพ้อย่างแน่นอนในการแข่งขันครั้งนี้
ครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะได้รับชัยชนะแต่ก็ใช้เวลาของนางไปไม่น้อยเลย แถมยังทำให้นางต้องใช้ความคิดหนักมากอีกด้วย
หลิ่วเย่ว์และอวี๋ฮุยเข้ามาล้อมเอาไว้ “พี่ใหญ่ ทักษะฝีมือการเดินหมากรุกของเจ้าเปลี่ยนไปเป็นยอดเยี่ยมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร”
เซี่ยวอวี่เซวียนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ก็แค่การเล่นหมากรุกเท่านั้น ข้าหลับตาข้าก็สามารถเอาชนะปรมาจารย์หมากรุกได้”
ปรมาจารย์หมากรุกเดินออกมาด้วยความสิ้นหวัง
พ่ายแพ้ให้กับท่านอาจารย์ก็แย่แล้ว แต่ทำไมถึงยังแพ้ให้กับคนไม่เอาไหนอย่างเซี่ยวอวี่เซวียนได้นะ?
หรือว่าทักษะฝีมือการเล่นหมากรุกของเขานั้นแย่มาก?
ทักษะฝีมือการเล่นหมากรุกที่ทำให้เขาภาคภูมิใจเมื่อก่อนนั้น ตอนนี้กลับเป็นเพียงเรื่องตลกในสายตาของปรมาจารย์หมากรุก
“ท่านอาจารย์……”
กู้ชูหน่วนรีบขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “ท่านแพ้แล้ว ดังนั้นคำสัญญาการเดิมพันของเราเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการนับแต่ตอนนี้ ข้าจะไม่เป็นอาจารย์ของท่านอีกต่อไป ท่านไม่ต้องเรียกข้าว่าอาจารย์อีกต่อไปแล้ว”
“เป็นอาจารย์เพียงหนึ่งวัน ดังเป็นอาจารย์ไปตลอดชีวิต ท่านอาจารย์ ท่านถือเป็นอาจารย์ของข้าไปตลอด”
ฟังที่เขาพูดออกมาอย่างเที่ยงธรรมและดังกังวานเช่นนั้น แทนที่กู้ชูหน่วนจะรู้สึกซาบซึ้งใจ แต่นางกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น
“หากข้ายังรับท่านเป็นศิษย์ต่อไป เช่นนั้นคนอื่นจะหาว่าข้าไม่รักษาคำพูดเอาได้” นางพูดโน้มน้าวให้เขายอมรับความจริง
“ข้าเพียงขอเป็นลูกศิษย์ของท่านต่อไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านเลย”
“……”
กู้ชูหน่วนแทบอยากมอบตั๋วเครื่องบินให้กับเขา ไปที่ไหนก็ได้ที่ไกลที่สุดประมาณนั้น
เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะ “หากนางไม่ยอมรับท่านเป็นศิษย์ เช่นนั้นแล้วข้าก็สามารถฝืนรับท่านเป็นศิษย์ได้นะ”
“ขอถามคุณชายเซี่ยวว่า เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่เจ้าได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ทำไมกลับเดินหมากไปที่ตำแหน่งของม้าด้วยหรือ?”
ตำแหน่งม้า?
ตำแหน่งม้าคือตำแหน่งอะไรกัน?
เซี่ยวอวี่เซวียนมองไปที่กู้ชูหน่วน กะพริบตาและขอคำแนะนำจากนาง แต่แม่สาวอัปลักษณ์คนนี้กลับเมินเฉยต่อเขา
ตอนนี้ทุกคนต่างกำลังจับจ้องมาที่เขา เซี่ยวอวี่เซวียนทำได้เพียง “เรื่องนี้นั้น……ท่านก็รู้อยู่เต็มอกไม่ใช่หรือปรมาจารย์หมากรุก?”
คำเพียงคำเดียว แต่กลับทำให้ปรมาจารย์หมากรุกรู้สึกแปลกประหลาด
เขารู้อยู่เต็มอกคืออะไร?
ตอนนี้มีผู้คนมากมาย ต่อให้ปรมาจารย์หมากรุกจะไม่เข้าใจเขาก็ต้องฝืนยอมรับออกไปว่า “คุณชายเซี่ยวช่างเป็นคนที่มีความสามารถจนน่าตกตะลึงและน่าชื่นชมอย่างมาก”
“ข้ามีความสามารถมากมายจะตายไป นี่ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น”
“โอ๊ะ ไม่ทราบว่าคุณชายเซี่ยวยังมีความสามารถด้านใดอีกหรือ?”
“ฮึ……เรื่องมันยาว ท่านอาจารย์ต่างก็อยู่ที่นี่ และข้ายังต้องเรียนต่อ เช่นนั้นแล้วข้าก็ขอตัวก่อน”
ทุกคนในสำนักศึกษาต่างตกตะลึงในความสามารถของเซี่ยวอวี่เซวียน
พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนไม่เอาไหนอย่างเซี่ยวอวี่เซวียนจะสามารถเอาชนะปรมาจารย์หมากรุกได้
อาจารย์สวีและอาจารย์หรงจ้องมองกันและกันและเห็นความสงสัยในสายตาของกันและกัน
แต่หัวหน้าสำนักศึกษาราวกับเข้าใจอะไรบางอย่างและให้ทุกคนนั่งลง
“วันนี้ที่ข้ามาที่ห้องเรียนก็ไม่มีเรื่องอะไร ข้าก็แค่มาดูหน้าผู้ชนะสองคนแรกในการแข่งขันทางวิชาการและเพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่า การชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์ที่จัดขึ้นทุกยี่สิบปีนั้น ได้เปลี่ยนมาจัดขึ้นทุกแปดปี และจะจัดขึ้นในวันที่สิบห้าเดือนหน้าที่จะถึงนี้”
“ว้าว……”
ทุกคนในห้องต่างตื่นเต้นดีใจ
“ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม เดือนหน้าจะมีการจัดการแข่งขันล่าขุมทรัพย์ขึ้น? ข้าคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เข้าไปในถ้ำสวินหลงซานเสียแล้ว”
“ข้าตื่นเต้นเหลือเกิน ข้าฝันไปหรือเปล่า เจ้ารีบตบหน้าข้าดูหน่อยสิ”
“หากสามารถหาสมบัติได้บ้างในถ้ำสวินหลงซานละก็ เช่นนั้น……เช่นนั้นข้าก็จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีนะสิ”
กู้ชูหน่วนหันไปมองเซี่ยวอวี่เซวียน “การชุมนุมแข่งขันล่าขุมทรัพย์? หมายความว่าอย่างไร?”