ตอนที่ 96 เอาคืนด้วยวิธีของอีกฝ่าย

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

ซูฉิงหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและแสร้งทำเป็นดื่มไปครึ่งแก้ว
อาศัยความมืด ซูฉิงจึงแอบรินไวน์ทิ้งไปครึ่งแก้ว…
และแอนนี่เองก็ไม่รู้ เธอเห็นซูฉิงดื่มไวน์ลงไปแล้วครึ่งแก้วไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างนั้นมุมปากของเธอก็ยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
สำเร็จ!
ในที่สุด ซูชิงก็ดื่มไวน์แก้วนี้ เดี๋ยวสักครู่ก็จะมีอะไรดีๆให้ดูแล้ว!
ซูฉิงสังเกตุเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของแอนนี่แล้ว เธอก็เยาะเย้ยอยู่ภายในใจ
เธอแกล้งทำเป็นเซ ถือแก้วไวน์ในมือซ้ายและเอามือขวาชี้ “โอ้ ทำไมฉันรู้สึกเวียนหัวจัง”
“ซูฉิง คุณเป็นอะไรไป? คุณโอเคไหม?” แอนนี่ถามด้วยการแสร้งทำเป็นกังวล
“ฉันเวียนหัวมาก ร้อนมาก…” ซูฉิงดูอึดอัดมาก และเอนตัวไปบนราวบันไดอย่างนุ่มนวล
คุณกินอะไรแสลงมาหรือเปล่า? เอางี้ไหม เดี๋ยวฉันจะช่วยพาคุณไปพักผ่อนที่ห้อง แอนนี่ระงับความตื่นเต้นในใจของเธอ เธอก้าวไปข้างหน้า และช่วยพยุงซูฉิงเป็นอย่างดี
“โอเค ขอบคุณมากเลยนะ” ซูฉิงดูร้อนรนและกระสับกระส่าย และเอื้อมมือไปหยิบกระโปรงของเธอ “ทำไมจู่ๆ ก็ร้อนอย่างนี้ล่ะ?”
“เธอทนหน่อยนะ เดี๋ยวพักสักครู่ก็ดีขึ้นแล้ว” แอนนี่ปะคองซูฉิงและเดินไปที่ห้องพัก
คิดไม่ถึงว่ายานี้จะได้ผลดีนัก และมันก็ได้ผลเร็วมาก
จากนั้นแอนนี่แอบส่งข้อความถึงสวีหว่านเอ๋อร์
“ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ซูฉิงดื่มไวน์ไปแล้วหนึ่งแก้ว ฉันกำลังพาเธอไปที่ห้องรับรอง และในอีก 10 นาที คุณกฌโทรให้คนมาได้เลย”
แอนนี่พยุงซูฉิงและเมื่อเธอมาถึงห้องรับรอง เธอก็พยุงซูฉิงไปที่โซฟา ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยแสงที่รุนแรง “ซูฉิง คุณพักผ่อนที่นี่ก่อนนะ”
หลังจากพูดจบ แอนนี่ก็หันหลังและจากไป
ขณะที่กำลังก้าวออกไปได้ก้าวเดียว ก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาดังมาจากข้างหลังเขา “หยุดก่อน!”
แอนนี่ตกตะลึงครู่หนึ่งแล้วหันกลับมาโดยไม่รู้ตัว
เธอเห็นเพียงซูฉิงยืนที่กำลังลุกขึ้นทันทีและมองเธอด้วยสายตาที่เฉียบคม ไม่อ่อนหวานเหมือนเมื่อกี้
“ซูฉิง คุณไม่ใด้…” ใบหน้าของแอนนี่เต็มไปด้วยความตกใจ
“ฉันไม่ได้อะไรเหรอ?” ซูฉิงเยาะเย้ย ทันใดนั้นเธอก็เอื้อมมือออกไปคว้าแอนนี่ ผลักแอนนี่อย่างแรง แล้วเธอก็โยนแอนนี่ลงบนโซฟา
ความรู้สึกกลัวท่วมท้นหัวใจของแอนนี่ เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกซูฉิงรั้งไว้
“เธอจะทำอะไร?” แอนนี่จ้องไปที่ซูฉิงอย่างโกรธจัด
เธอไม่ได้โดนยาในแก้วไวน์หรอกเหรอ?
ทำไมตอนนี้ดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?
เป็นไปได้ไหมที่เธอแกล้งทำว่าโดนยาในแก้วแล้ว?
ซูฉิงนังผู้หญิงเลวคนนี้กำลังจะทำอะไร?
ซูฉิงเขย่าไวน์แดงครึ่งแก้วในมือของเธอ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อไวน์นี้อร่อยมาก งั้นเธอก็มาดื่มให้หมดกันเถอะ”
“ฉันไม่ดื่ม ปล่อยฉันไป” แอนนี่พยายามอย่างหนักเพื่อผลักซูฉิงออกไป
ซูฉิงจับหัวของแอนนี่ด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกมือหนึ่งเทไวน์แดงที่เหลือเข้าปากของเธอ
เนื่องจากแอนนี่ไร้ยางอายและต้องการทำร้ายเธอด้วยวิธีที่หยาบคายเช่นนี้ เพราะอย่รางนั้นจึงจะมาว่าเธอหยาบคายก่อนไม่ได้
ใช่วิธีที่คนอื่นทำกับเรา ปฏิบัติต่อคนอื่น กับดักนี้ ให้แอนนี่เป็นคนจัดการมันด้วยตัวเองดีกว่า
แอนนี่สำลักอย่างรุนแรง และเธอก็ไออย่างรุนแรง “อะ อะ อะ… ซูฉิง แก… นังคนเลว! แกไม่ได้ดื่มไวน์แก้วนั้น แกหลอกฉัน!”
“ใช่ ฉันไม่ได้ดื่ม แล้วมันจะทำไม?” ซูฉิงเยาะเย้ย “ฉันไม่คิดว่าเลยนะว่าเธอจะใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ดื่มไวน์แก้วนี้ด้วยตัวเองไปเถอะนะ”
“ซูฉิง ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่นอน!” แอนนี่จ้องไปที่ซูฉิงด้วยความไม่พอใจบนใบหน้าของเธอ เธอต้องการที่จะยืนขึ้น แต่ไม่นานผลของยาเริ่มออกฤทธิ์
เธอเดินกะโผลกกะเผลกและทรุดตัวลงบนโซฟา
ร้อนมาก…
เพราะฤทธิ์ของยา ร่างกายของแอนนี่เริ่มร้อนขึ้นราวกับว่าเธอเป็นไข้ และรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก
เมื่อเห็นแอนนี่ทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง รอยยิ้มเยาะเย้ยก็ผุดขึ้นจากมุมปากของซูฉิง และเธอก็หันหลังและเดินออกจากไปทันที
ที่ฟลอร์งานเต้นรำ
สวีหว่านเอ๋อร์กอดชายตรงหน้าเธอแน่น หัวใจของเธอก็เต้นแรงมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสใกล้ชิดกับฮ่อหยุนเฉิง
เขายินดีที่จะเต้นรำกับเธอ หมายความว่าในใจของฮ่อหยุนเฉิงก็ยังมีเธออยู่จริงๆ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของสวีหว่านเอ๋อร์ก็เต้นแรงราวกับกวางวิ่งเต้นไปทั่ว
เธอเงยหน้าขึ้นและมองอย่างหมกมุ่นอยู่กับใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างหาที่เปรียบมิได้ของฮ่อหยุนเฉิง และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหมกมุ่น
คงจะดีถ้าเวลาสามารถหยุดนิ่งได้ในตอนนี้
ในขณะที่สวีหว่านเอ๋อร์กำลังคิดๆอยู่ จู่งๆฮ่อหยุนเฉิงก็ปล่อยเธอออกอย่างเย็นชา
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยทิ้งซูฉิงตั้งแต่ต้นจนจบ และทันทีที่เขาเห็นซูฉิงลุกขึ้นและจากไป เขาก็ไม่สนใจที่จะเต้นรำกับสวีหว่านเอ๋อร์อีกต่อไป
“หยุนเฉิง คุณจะไปไหน?” สวีหว่านเอ๋อร์เกือบล้ม และคว้าฮ่อหยุนเฉิงอย่างรวดเร็ว
ฮ่อหยุนเฉิงผลักเธอออกไปอย่างไร้ความรู้สึก ริมฝีปากบางๆของเขายกขึ้นเล็กน้อย “ฉันยังมีบางอย่างที่ต้องทำ”
เมื่อเห็นชายที่อยู่ข้างหน้าไม่แยแส หัวใจของสวีหว่านเอ๋อร์ก็จมลงอย่างไม่เต็มใจ
เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้ยังดีๆอยู่ พวกเขาทั้งสองยังคงเต้นรำด้วยกันอยู่ และพวกเขาก็เข้ากันโดยปริยาย แล้วทำไมฮ่อหยุนเฉิงถึงไม่สนใจเธอในเวลาเพียงไม่กี่นาทีแบบนี้?
ทำไมกัน?
เห็นได้ชัดว่าเธอรักฮ่อหยุนเฉิงมาก
ทำไมฮ่อหยุนเฉิงถึงไม่แยแสเธอสักนิด?
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะซูฉิง!
ในเวลานี้สวีหว่านเอ๋อร์ก็ได้รับข้อความจากแอนนี่
เมื่อเห็นสิ่งที่แอนนี่พูดในข้อความว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สวีหว่านเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมริมฝีปากของเธอขึ้น
เยี่ยมมาก
ซูฉิงติดเบ็ดแล้ว! เร็วๆเราจะได้เห็นอะไรดีๆกันแล้ว!
ถึงเวลานั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็จะเห็นซูฉิงกำลังพอดรักกับผู้ชายคนอื่น สวมเขาให้เขาในที่สาธารณะ แล้วเขาก็จะตั้งโกรธจนแทบจะระเบิดออกอย่างแน่นอน
แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวจะกำจัดซูฉิงไม่ได้แล้ว!
ฮ่อหยุนเฉิงผลักสวีหว่านเอ๋อร์ออกไปและมองไปรอบ ๆ ห้องจัดเลี้ยง แต่ก็ไม่เห็นซูฉิง
คิ้วของเขายกขึ้น และใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็รู้สึกโกรธนิดๆ
ผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไรกัน เธอสนใจจริงๆ หรือที่เขาไปเต้นรำกับสวีหว่านเอ๋อร์?
เมื่อไม่เห็นซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาซูฉิง แต่เธอปิดเครื่อง
ฮ่อหยุนเฉิงดึงเนคไทของเขาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของสวีหว่านเอ๋อร์ข้างหลังเขา “หยุนเฉิง”
“อะไรนะ?” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างไม่อดทน
สวีหว่านเอ๋อร์ลังเล “ฉันมีอยู่เรื่องหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีไหม…”
“มีอะไรเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงถามอย่างงงๆ
“เมื่อกี้ ฉันเห็นซูฉิงกับผู้ชายคนหนึ่ง…” สวีหว่านเอ๋อร์กัดริมฝีปากของเธอและจงใจละทิ้งสิ่งที่เธอพูดไว้ครึ่งหนึ่ง ปล่อยให้มีที่ว่างให้ผู้คนจินตนาการได้ไม่รู้จบ
ซูฉิงกับผู้ชายคนหนึ่ง?
ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง “ซูฉิงอยู่ที่ไหน?”