“หยุนเฉิง ฉันรู้ว่าใจคุณนั้นมีฉันอยู่” สวีหว่านเอ๋อร์ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเธอไว้ได้ ก่อนทั้งร่างจะเข้าไปแนบชิดกับตัวฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองเธอนิ่งๆ แต่หางตากลับจ้องไปที่เงาแสนสวยมุมห้อง
เมื่อมองไปที่ฟลอร์เต้นรำ ฮ่อหยุนเฉิงและสวีหว่านเอ๋อร์กำลังกอดกันแน่น ในใจซูฉิงก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาอย่างลึกลับ
ถ้าไม่เจอก็ไม่รู้สึก เธอจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องจัดเลี้ยง
“ซูฉิง เธอจะไปไหนน่ะ?” เฉินจุนเหยียนที่เห็นก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ซูฉิงชะงักฝีเท้าก่อนจะหันกลับไปพูดอย่างเย็นชา “ฉันรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย อยากอยู่คนเดียว”
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไป
เมื่อมองตามหลังซูฉิงจากไป นัยน์ตาของเฉินจุนเหยียนก็มืดมนลง
ที่ซูฉิงรู้สึกไม่สบายใจเพราะฮ่อหยุนเฉิง?
เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าที่ซูฉิงรู้สึกไม่สบายใจนั้นเป็นตั้งแต่ที่ฮ่อหยุนเฉิงพาสวีหว่านเอ๋อร์ไปที่ฟลอร์เต้นรำ
แม้ว่าซูฉิงจะไม่พูดอะไร แต่สัญชาตญาณของเฉินจุนเหยียนนั้นบอกว่าซูฉิงไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรกับฮ่อหยุนเฉิง
ถ้าหากเป็นอย่างที่ซูฉิงพูดเมื่อกี้ว่าเธอไม่ได้ชอบฮ่อหยุนเฉิง ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮ่อหยุนเฉิงนั้นเป็นเพียงแค่สัญญาเท่านั้น แล้วทำไมสีหน้าของซูฉิงที่มองฮ่อหยุนเฉิงไปเต้นกับสวีหว่านเอ๋อร์ถึงได้ดูไม่ดีขนาดนั้น?
หัวใจของเฉินจุนเหยียนรู้สึกเจ็บปวดขึ้นทีละนิด
ในขณะนั้นเอง ไป๋หลานก็เข้าหาเฉินจุนเหยียนด้วยท่าทางชื่นชม ก่อนจะเอ่ยปากทักทาย “ไฮ ซุปเปอร์สตาร์เฉิน บังเอิญจังเลย”
ไป๋หลานจ้องเฉินจุนเหยียนมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง สายตาของเธอก็ไม่เคยละสายตาไปจาเฉินจุนเหยียนเลย
ในที่สุดตอนนี้ก็เจอโอกาสที่จะได้อยู่กับเฉินจุนเหยียนตามลำพัง
เฉินจุนเหยียนกวาดสายตามองไป๋หลานอย่างเย็นชา “เธอเองหรอกเหรอ?”
“อื้ม ฉันเอง คุณยังจำฉันได้เหรอ?” น้ำเสียงของไป๋หลานแปลกใจและเขินอายเล็กน้อย “ซุปเปอร์สตาร์เฉิน ขอฉันเต้นรำกับคุณได้ไหม?”
“ไม่ได้” คำพูดเย็นชาของเฉินจุนเหยียนทำลายความหวังของไป๋หลานจนแหลกสลาย
เฉินจุนเหยียนเมินไป๋หลานและนั่งที่ที่ซูฉิงนั่งเมื่อกี้คนเดียวพร้อมกับถือแก้วไวน์แดงในมือ
ไวน์แดงสะท้อนใบหน้าอันน่าทึ่งของเขาที่ฉายแววความเศร้าโศก
สีหน้าของไป๋หลานซีด มือที่ขนาบข้างตัวทั้งสองข้างก็กำหมัดแน่น
ซูฉิง ทั้งหมดนี้มันเกิดจากซูฉิง!
เฉินจุนเหยียนชอบซูฉิง!
ซูฉิงมีอะไรดีกันถึงทำให้ผู้ชายมากมายชอบ ทั้งยังล้อมรุมจีบเธออีก?!
นัยน์ตาของไป๋หลานฉายแววถึงความขุ่นเคืองและร้ายกาจ
คืนนี้ไม่เพียงแต่ฮ่อหยุนเฉิงที่ต้องได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูฉิงเท่านั้น ต้องให้เฉินจุนเหยียนเห็นด้วยให้ได้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไป๋หลานก็มองไปรอบๆ เพื่อหาตัวแอนนี่
เมื่อเห็นว่าแอนนี่กำลังหาอะไรกินอยู่ ไป๋หลานก็เดินเข้าไปแสร้งทำเป็นว่ากำลังจะไปหาอะไรกิน ก่อนจะไปยืนข้างแอนนี่
“เธอเห็นซูฉิงไหม?” แอนนี่ที่ตามหาซูฉิงไม่เจอ พอเห็นไป๋หลานและรู้ว่าหล่อนคือเพื่อนสนิทของสวีหว่านเอ๋อร์จึงได้ถาม
“ซูฉิงงั้นเหรอ…” ไป๋หลานชี้ไปที่ประตูห้องจัดเลี้ยงและพูดอย่างเป็นกันเอง “ฉันเพิ่งเห็นซูฉิงออกไปพอดีเลย”
“ออกไปแล้ว?” แอนนี่ขมวดคิ้ว ซูฉิงคงไม่ได้กลับเร็วขนาดนี้หรอกใช่ไหม?
แอนนี่ร้อนใจ หากซูฉิงกลับเร็วขนาดนี้ คืนนี้ก็เสียแรงเปล่าสิ?
เธอขอร้องให้บรูซพาเธอมางานกาล่าไม่ใช่ง่ายๆ เธอเตรียมการมาพร้อม จะมาพลาดไม่ได้นะ!
“เธอตามหาซูฉิงมีอะไรหรือเปล่า เขาเพิ่งจะออกไปไม่นาน เธอตามออกไปตอนนี้ก็น่าจะทันนะ” ไป๋หลานพูดเป็นนัย
“ขอบคุณนะ” แอนนี่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบไปทางประตู
ค่ำคืนเงียบสงบ
ซูฉิงยืนอยู่บนระเบียงบนชั้นสอง พิงราวบันได มองขึ้นไปบนท้องฟ้า อารมณ์ความรู้สึกก็รู้สึกลอยห่างไกลออกไป
ฮ่อหยุนเฉิงเต้นรำกับสวีหว่านเอ๋อร์แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?
ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่สบายขนาดนี้?
ลมเย็นพัดมา ซูฉิงที่รู้สึกหนาวเล็กน้อยก็กำลังจะกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมา “ซูฉิง ที่แท้เธอก็มาอยู่นี่นี่เอง ฉันตามหาเธอให้ทั่วเลย”
ซูฉิงขมวดคิ้ว ปรากฏในสายตาของเธอคือหญิงสาวที่มีเชื้อชาติผสมผสาน ผมสีบลอนด์ดวงตาสีฟ้า และนั่นคือแอนนี่
เมื่อนึกถึงเรื่องแย่ๆ ที่แอนนี้เคยก่อเอาไว้ ซูฉิงจึงอดไม่ได้ที่จะระมัดระวัง
เธอเหลือบมองแอนนี่นิ่งๆ “เธอตามหาฉัน?”
“ใช่แล้ว” แอนนี่เดินเข้าหาซูฉิง ในมือถือถาดที่บนนั้นมีไวน์แดงสองแก้ว
หล่อนหยิบไวน์แดงหนึ่งแก้วยื่นให้ซูฉิง “คุณซู วันนี้ที่ฉันมาก็เพื่อขอโทษเธอน่ะ”
“ขอโทษ?” ซูฉิงมองแอนนี่อย่างสงสัย
แอนนี่มาขอโทษเธอเนี่ยนะ? จะเป็นไปได้ยังไง?
เว้นแต่พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกเท่านั้นแหละ!
แอนนี่พยักหน้าและกล่าวอย่างจริงใจ “เรื่องก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ผิดเอง บรูซตำหนิฉันแล้ว และฉันก็รู้แล้วว่าฉันผิด ตอนนี้เลยมาขอโทษ ไวน์แก้วนี้เพื่อเธอนะ”
“เอาล่ะ ฉันยอมรับคำขอโทษของเธอ ไม่ต้องดื่มไวน์หรอก” ซูฉิงหลุบตาเหลือบมองแก้วไวน์ในมือของแอนนี่ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เธอไม่คิดว่าแอนนี่จะใจดีมาขอโทษแบบนี้
เกรงว่าไวน์นี่คงมีอะไรซ่อนเร้นแน่
เมื่อเห็นว่าซูฉิงไม่รับแก้วไวน์ไป แอนนี่จึงรู้สึกร้อนใจ “คุณซู วันนี้ฉันมาเพื่อขอโทษอย่างจริงใจ แก้วไวน์แก้วนี้ฉันตั้งใจมาให้ หากเธอไม่ดื่มก็แสดงว่าไม่ไว้หน้าฉันน่ะสิ”
ซูฉิยกยิ้มเยาะเย้ย “ทำไมฉันต้องไว้หน้าเธอด้วย?”
“เธอ!” แอนนี่กำลังจะระเบิด แต่พอนึกถึงจุดประสงค์ของเธอในคืนนี้จึงระงับความโกรธเอาไว้ แล้วแสดงท่าทีน่าสงสารต่อไป “คุณซูยังปฏิเสธที่จะยอมรับคำขอโทษของฉันสินะ ถ้าบรูซรู้เขาต้องโกรธแน่ ฉันรักบรูซมากจริงๆ นะ ฉันไม่อยากสูญเสียเขาไป”
ซูฉิงมองหล่อนอย่างเย็นชา “เเล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
แอนนี่กัดริมฝีปากและทำท่าน่าสงสาร “จริงๆ แล้ว บรูซขอให้ฉันมาขอโทษเธอวันนี้ ฉันสัญญากับเขาไว้ว่าต้องให้เธอให้อภัยให้ได้ คุณซูคิดว่าสงสารฉันแล้วดื่มไวน์แก้วนี้เถอะนะ ความคับข้องใจระหว่างเราจะได้หมดไป ได้ไหม?”
เมื่อเห็นแอนนี่แสดงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซูฉิงจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
แอนนี่คิดจะทำอะไรกันแน่?
ในเมื่อแอนนี่อยากเล่น เธอก็จะเล่นเป็นเพื่อแอนนี่ก็แล้วกัน ดูซิว่าแอนนี่จะมาไม้ไหน
“อย่างนั้นหรอกเหรอ…” ซูฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบแก้วจากมือของแอนนี่ราวกับว่าถูกหล่อนเกลี้ยกล่อมได้ “ในเมื่อแอนนี่ขอโทษอย่างจริงใจขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็จะยอมรับมันด้วยความไม่เต็มใจก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นซูฉิงรับไวน์ไป นัยน์ตาแอนนี้ก็ส่องประกายก่อนจะหยิบแก้วไวน์แดงในมือตัวเองแล้วชูไปทางซูฉิง “ชนแก้ว!”
“ชนแก้ว!” ซูฉิงยิ้มเบาๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นมาแอบดม
อย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด ไวน์แดงแก้วนี้ถูกวางยา!