บทที่ 157 เพียงสองหมัด

ไหปีศาจ

บทที่ 157 เพียงสองหมัด

ลูหยางพิง

ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเขาได้พูดว่า “ทุกคนที่ต่อต้านข้าจะต้องตาย” ด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่งของเขา

แต่ในเวลาต่อมาเขากลับถูกโยนทิ้งลงบนพื้นเหมือนศพสุนัขที่ตายแล้ว มีบาดแผลทะลุในช่องท้องส่วนล่าง ซึ่งทำลายแก่นวิญญาณของเขาและเป็นเหตุให้เขาสูญเสียชีวิต

ใครจะไปคิดว่าลูหยางพิงผู้แข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งของพรรคหวงชา ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดและสร้างความหนักใจให้กับทุกคน จะถูกโค่นลงได้อย่างง่ายดาย

ผู้คนต่างมองไปที่ชายวัยกลางคนที่พวกเขาไม่รู้จักด้วยความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในใจของพวกเขา

ผู้ชายคนนี้คือใครกัน

เห็นได้ชัดว่าไม่มีคลื่นพลังวิญญาณแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา แต่ลมปราณของเขานั้นดูอันตรายมาก เพียงแค่สายตาและคิ้วของเขาก็สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกบีบคั้นหัวใจได้

มีเพียงคนจากศาลาไป่หยู่เท่านั้นที่รู้ว่าชายคนนี้คือใคร

ชายวัยกลางคนคนนี้คือหลงเซี่ย!

หลงเซี่ยเดินลงไปตามขั้นบันไดอย่างช้าๆหายใจฝืด ๆ และพูดกับลั่วอู๋ “ชายคนนี้บอกว่าเขาจะฆ่าเจ้า ข้าก็เลยช่วยฆ่าเขาให้ก่อน”

“ ……”

เกิดคลื่นความกลัวขนาดใหญ่ในใจของคงฉิน

ชายคนนี้บอกว่าเขาจะฆ่าเจ้า ข้าก็เลยช่วยฆ่าเขาให้ก่อน?

ผู้ชายคนนี้คือใครกัน?

มันดูง่ายมากสำหรับเขาที่จะฆ่าลูหยางพิง เพราะเขามัวแต่ให้ความสนใจกับกองทัพหลักของคงฉินที่บุกเข้ามาก็จริงอยู่

แต่ก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่าต่อหน้าชายวัยกลางคนคนนี้ ลูหยางพิงไม่สามารถขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อย

ชายคนนี้มาจากศาลาไป่หยู่งั้นหรือ?

ศาลาไป่หยู่ซ่อนกำลังรบไว้เท่าไหร่กันแน่?

ด้วยเหตุนี้คงฉินจึงเหงื่อตก ถ้าชายวัยกลางคนได้ยินสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับลั่วอู๋ถูก เขาจะถูกฆ่าตายด้วยรึเปล่า?

ฉูจงฉวนแสดงสีหน้าตกใจ “ว้าว หมอนี่โหดร้ายชะมัด”

ลั่วอู๋ไม่รู้ว่าจะใช้สำนวนอะไรมาจัดการกับสถานการณ์นี้ เขาคิดอยู่เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะพูดถามว่า “ทำไมเจ้าถึงช่วยข้าล่ะ?”

“ ท่านเฒ่าเฉินขอให้ข้าคอยช่วยเหลือเจ้า” หลงเซี่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา

ลั่วอู๋กะพริบตา “ทำไม ท่านเฉินต้องการให้เจ้าช่วยข้า?”

“ ……” หลงเซี่ยเงียบไปครู่หนึ่งและดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง“นายหญิงเฉินต้องการขอโทษเจ้า ดังนั้นข้าจึงอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเจ้า”

คราวนี้ลั่วอู๋เงียบไปในทันที

ตัวเขามีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุอยู่ในประโยคนี้ด้วยหรือ?

ในเวลานี้ปีศาจไม้แห่งความตายกำลังตกที่นั่งลำบาก มันรู้สึกได้ถึงพลังแห่งพันธสัญญาที่หยุดชะงักลงไปและไม่สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจเจ้านายของมันได้อีก

มันฉลาดพอที่จะรู้ถึงความหมายนี้

เจ้านายของมันได้เสียชีวิตไปแล้ว

เพราะแบบนั้นมันจึงโกรธเกรี้ยว

“กรรร!”

พื้นดินทั่วบริเวณสั่นสะเทือน

กิ่งไม้จำนวนนับไม่ลอยออกไปกลายเป็นกิ่งเหล็กนับไม่ถ้วนยิงเข้าใส่ไปที่หลงเซี่ยและพลังวิญญาณมหาศาลได้กลายไปเป็นลำแสงพลังวิญญาณเย็นยะเยือกส่องโจมตีใส่ผู้คน

ทักษะระดับ S [การถล่มทลายแห่งความตายร้ายแรง]

กิ่งไม้เหล่านั้นลอยพุ่งเข้าโจมตีเหมือนกับทหารนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้ามาพร้อมดาบขนาดใหญ่

ทักษะนี้สามารถสังหารทหารติดอาวุธหนักได้หลายพันคนในสนามรบ

[การถล่มทลายแห่งความตาย] ธรรมดาเป็นเพียงทักษะระดับ B แต่ด้วยการยกระดับทางมิติวิญญาณของปีศาจไม้แห่งความตายไปยังระดับเพชร ทักษะนี้จึงได้รับการยกระดับขึ้นเช่นกัน ทักษะนี้จึงได้กลายเป็น “การถล่มทลายแห่งความตายร้ายแรง”

ทักษะต่าง ๆ นั้นมีลำดับชั้น

ตัวอย่างเช่นทักษะทรายดูดอยู่ที่ระดับ C และทรายดูดขั้นสูงอยู่ที่ระดับ A

นอกจากนี้ยังมีทักษะระดับ B [ลมปราณ] ที่พอยกระดับเป็นขั้นสูงก็จะเปลี่ยนไปเช่น [ลมปราณมังกร], [ลมปราณเปลวเพลิง],หรือ [ลมปราณแห่งน้ำค้างแข็ง] เป็นต้น

“ทุกคน ถอยไปก่อน!” สีหน้าของคงฉินดูตกใจมาก

แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะก้าวขึ้นไปสู้กับสัตว์วิญญาณระดับเพชรเท่าไหร่ แต่ทักษะนี้ที่เป็นการโจมตีแบบกลุ่ม จึงทำให้ความเสียหายเป้าหมายเดี่ยวของมันอ่อนแอลง

อย่างไรก็ตามทักษะระดับ S นั้นไม่ใช่เรื่องตลก

ขณะที่ทุกคนพร้อมที่จะแยกย้ายหลบกันไป หลงเซี่ยก็มองกลับไปที่ปีศาจไม้แห่งความตาย เขามองไปที่กิ่งไม้แหลมคมที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้าดั่งห่าฝนแล้วโบกมือ

กำปั้นนั้นดูแบนลงเหมือนกับว่ามันยืดออกได้

ในสายตาของปีศาจไม้แห่งความตาย มันเห็นเหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังอยู่ในความมืดมิด

ระหว่างสวรรค์และปฐพีมีเพียงหมัดนี้หมัดเดียวที่คงเหลืออยู่

มีลมกระโชกแรงฉับพลันพัดผ่านไป

ทุกคนต่างรู้สึกอึดอัดที่จะหายใจออกราวกับว่าหมัดนั้นได้ระบายอากาศทั้งหมดรอบตัวพวกเขาออกไป มุมมองของพวกเขาเริ่มบิดเบี้ยว

นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นข้อผิดพลาดทางสายตาที่เกิดจากความไม่เสถียรของพื้นที่มิติวิญญาณ

“ตูมมม”

หมัดเจาะลงบนตัวของมัน

ปีศาจไม้แห่งความตายคำรามด้วยความเจ็บปวด มีรูอันน่ากลัวปรากฏบนร่างกายขนาดใหญ่ของมัน โดยรูปร่างของรูเป็นรอยของกำปั้น

“ไปให้พ้นซะ เจ้ามันเสียงดังเกินไป” หลงเซี่ยกล่าวอย่างใจเย็น

ร่างกายของปีศาจไม้แห่งความตายสั่นสะท้าน ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต สัญชาตญาณในการแสวงหาหนทางรอดและหลีกเลี่ยงอันตรายเพื่อรักษาชีวิต มันรู้สึกได้ถึงมนุษย์ผู้น่ากลัวที่อยู่ตรงหน้ามัน

หลงเซี่ยไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าปีศาจไม้แห่งความตาย

ทุกชีวิตต่างมีจิตวิญญาณของตนเอง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ปีศาจไม้จะเติบโตได้ถึงระดับนี้

อย่างไรก็ตามปีศาจไม้แห่งความตายยังไม่ต้องการที่จะถอยไป

เพราะเจ้านายของมันได้เสียชีวิตลงที่นี่

ทุกคนต่างก็ดูแลสัตว์วิญญาณของพวกเขาอย่างดี เพราะมันจะเป็นเพื่อนกันกับพวกเขาไปชั่วชีวิต

ลูหยางพิงเองก็เช่นกัน

เพื่อที่จะให้มันได้ก้าวหน้าทางมิติวิญญาณ ลูหยางพิงต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายและความพยายามมากมายมหาศาล

เมื่อเจ้านายของมันตาย มันก็ควรล้างแค้นให้กับเขา

แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีพันธสัญญาระหว่างกันแล้วก็ตาม

หลงเซี่ยมองไปที่ปีศาจไม้แห่งความตายและพูดด้วยเสียงต่ำ “เจ้าไม่คิดจะถอยไปสินะ งั้นข้าจะสนองความต้องการของเจ้าให้เอง”

หลงเซี่ยออกหมัดไปอีกครั้ง

โลกของมันดูมืดมนอีกครั้ง

มีคลื่นอากาศพุ่งขึ้น

ราวกับโลกทั้งใบถูกฉีกออกจากกัน

สติสัมปชัญญะของปีศาจไม้ถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนและร่างกายขนาดใหญ่ของมันพังทลายลงในพริบตากลายเป็นดั่งใบไม้ร่วงลงไปทั่วท้องฟ้า

“ตูมม”

ปีศาจไม้แห่งความตายล้มลง

เหลือเพียงแต่ท่อนไม้ที่หักออกเป็นชิ้น ๆ

คงฉินและพรรคพวกได้แต่ตกตะลึง

แม้หลงเซี่ยนั้นจะเป็นคนสังหารลูหยางพิง แต่พวกเขาจะไม่ได้เห็นมันด้วยตาของพวกเขาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของหลงเซี่ย

แต่ตอนนี้พวกเขาได้เห็นแล้ว

เพียงแค่ออกหมัดไปสองหมัดร่างของปีศาจไม้แห่งความตาย ซึ่งเป็นสัตว์วิญญาณระดับเพชรก็ถูกทำลายไปทั้งร่าง ความแข็งแกร่งนี้คืออะไรกัน?

ยิ่งไปกว่านั้นหมัดทั้งสองนี้ยังถูกปล่อยออกมากลางอากาศ ถ้าถูกชกลงไปบนร่างกายจริงๆมันจะน่ากลัวได้ถึงขนาดไหน

หลงเซี่ยหันกลับมาและมองไปที่ลั่วอู๋ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังดูใจเย็น “ยังมีคนที่เป็นศัตรูของเจ้าเหลืออยู่อีกรึเปล่า? ข้าจะได้ช่วยเจ้ากำจัดพวกมันให้”

ลั่วอู๋กะพริบตาและมองไปที่ใจกลางกลุ่มผู้ใช้พลังวิญญาณแบบไม่สมัครใจเท่าไหร่

ใบหน้าของคงฉินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

“เขาคนนั้นสินะ” หลงเซี่ยมองไปที่คงฉิน

คงฉินกลัวและพูดอย่างรีบร้อน “น้องชายลั่วอย่าล้อกันเล่นเลยน่า ข้าเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ที่สุดของศาลาไป่หยู่ของเจ้า ลูหยางพิงตายแล้วในอนาคตจะไม่มีใครในพรรคหวงชาไปรบกวนเจ้าได้อีก ข้าสาบานว่าความร่วมมือพันธมิตรของเราจะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ”

“จริงเหรอ?” ลั่วอู๋มองคงฉินด้วยรอยยิ้ม

คงฉินพยักหน้าอย่างสิ้นหวัง

ข้าจะทำอะไรได้อีกเล่านอกจากยอมพยักหน้า? ต้องก้มหัวหลบใต้ชายคารึไง

ลั่วอู๋หันศีรษะไปมองที่หลงเซี่ย “ไม่ใช่เขาหรอก ในที่นี้ไม่มีใครที่คิดจะทำอันตรายข้าเหลืออยู่แล้ว ถ้ายังมีใครคิดจะปองร้ายข้าอีกท่านคงฉินก็จะปกป้องข้าใช่ไหม”

“ใช่ ใช่ ใช่” คงฉินกล่าวอย่างรีบร้อน

หลงเซี่ยพยักหน้ายอมรับต่อหน้าเขา

คงฉินรู้สึกประหม่าและไม่สามารถอดกลั้นความกลัวที่มีต่อหลงเซี่ยได้

หลงเซี่ยเกาเบา ๆ ที่แขนของคงฉินและมีบาดแผลเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับหยดเลือด

อย่างไรก็ตามธรรมชาติของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงการบาดเจ็บเล็ก ๆ เท่านี้ สามารถหายได้ทันทีในอึดใจเดียว

หลงเซี่ยหยิบขวดเล็ก ๆ ออกมาและใส่เลือดลงไปในนั้น “ในอนาคตถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลั่วอู๋ ข้าจะมาหาเจ้า เลือดของเจ้าอยู่ที่นี่กับข้า ข้าสามารถตามหาเจ้าได้ทุกเมื่อ ข้าพร้อมจะตามไปฆ่าเจ้าได้ทุกที่ แม้ว่ามันจะเป็นปลายสุดขอบโลกก็ตาม”

คงฉินอยากร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา

แบบนี้ข้าก็ต้องรับผิดชอบหากเกิดเหตุกับเขาด้วยงั้นหรือ เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรล่ะ

แต่คงฉินที่ไม่กล้าทักท้วงทำได้เพียงแค่พยักหน้าอย่างช่วยอะไรไม่ได้