ตอนที่ 93: ฆ่าปิดปาก

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 93: ฆ่าปิดปาก

เมื่อได้เห็นว่าเจี้ยนเฉินพุ่งไปที่พวกเขาด้วยความเร็วสูง ทหารรับจ้างทุกคนก็ตั้งสติแล้วเรียกเอาอาวุธเซียนของพวกเขาออกมาเพื่อเตรียมตัวที่จะโจมตี

เจี้ยนเฉินไม่ต้องการจะพัวพันอยู่กับการต่อสู้นาน ดังนั้นแทนที่จะรับการโจมตีพวกนั้นไปตรง ๆ เขาก็หลบการโจมตีและเคลื่อนไปข้าง ๆ อย่างรวดเร็ว กระบี่ของเขาตัดไปที่คอของทหารรับจ้างสองคนทันที

ในขณะที่แสงสีเงินหายไป ทหารรับจ้างสองคนก็ตาย ในขณะที่ประกายในดวงตาของพวกเขาค่อย ๆ จางหายไป ที่คอของพวกเขามีหยดเลือดที่เริ่มไหลอกมาให้ทุกคนเห็นได้ ในตอนต่อมา เลือดก็พุ่งออกมาจากแผลของพวกเขาในขณะที่ร่างของพวกเขาก็ล้มลงไปที่พื้น

เจี้ยนเฉินไม่รอช้าและข้ามผ่านศพของทั้งสองคนไปและพุ่งไปที่ทหารรับจ้างที่อยู่ด้านหลังสุดในพริบตาเดียว คนพวกนี้ที่เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มทหารรับจ้างเป็นเป้หมายแรกของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าจะมีทหารรับจ้างทั้งหมดประมาณ 20 คน แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นแค่เซียนและเซียนระดับสูง มีเพียงชายวัยกลางคนเท่านั้นที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ

เจี้ยนเฉินใช้ย่างก้าวพริบตาและไปโผล่ที่ด้านหลังกลุ่ม กระบี่วายุโปรยของเขาแว่บขึ้นมา ในขณะที่ทหารรับจ้างก็พลาดพลั้งให้กับกระบี่ของเขา ทหารรับจ้างที่เป็นแค่เซียนไม่สามารถทำอะไรกับการโจมตีที่รวดเร็วนี้ได้ เมื่อพวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้ ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะรับมือได้

ในเวลาเพียงอึดใจเดียว ทหารรับจ้างที่อยู่ในระดับเซียนธรรมดาได้ตายด้วยกระบี่ของเจี้ยนเฉิน คนที่เหลืออยู่ที่เป็นเซียนระดับสูงและเหนือกว่านั้นเริ่มเตรียมตัวที่จะป้องกันการโจมตีจากเจี้ยนเฉิน

แม้แต่หลังจากที่ฆ่าเซียนที่อ่อนแอไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้หยุดเลย กระบี่วายุโปรยก็กลายเป็นแสงสีเงินในขณะที่เขาเหวี่ยงไปที่ทหารรับจ้างที่เป็นเซียนระดับสูงที่อยู่ถัดไปจากเขา

เมื่อเห็นว่าการโจมตีที่รวดเร็วกำลังเข้ามาทางเขา ใบหน้าของทหารรับจ้างก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อไม่มีเวลาทันให้หลบ เขาก็ทำได้เพียงยกขวานศึกขึ้นมาข้างหน้าเขาอย่างไร้หนทางเท่านั้น

แต่กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินก็เหมือนกับงูพิษ ด้วยการขยับเพียงครั้งเดียว ทิศทางของมันก็ต่ำลงและเปลี่ยนจากเป้าหมายที่คอไปเป็นที่หัวใจของเขา

“ฟุบ!” ในครั้งนี้ ทหารรับจ้างที่เป็นเซียนระดับสูงไม่สามารถโต้ตอบได้ทัน แสงสีเงินของกระบี่วายุโปรยได้ฝังตัวเองเข้าไปที่ด้านซ้ายของหน้าอกของชายคนนั้น มันแทงทะลุผ่านหัวใจของเขาไป

กระบี่ถูกดึงออกมาจากหน้าอกของชายคนนั้นทันทีเร็วเหมือนที่มันแทงเข้าไป เจี้ยนเฉินเริ่มเคลื่อนไหวต่อและโจมตีอย่างดุร้ายไปที่ทหารรับจ้างคนอื่น ๆ

เมื่อเห็นพรรคพวกตายไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา ทหารรับจ้างที่เหลือก็ร้องออกมาด้วยความโกรธและตกใจ

“เจ้าสารเลว ไปตายซะ! “

“เอาชีวิตของพรรดพวกของพวกเราคืนมานะ!”

เซียนระดับสูงที่เหลือมารวมตัวกันและยกอาวุธเซียนของพวกเขาขึ้นมาเพื่อโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินจากหลายหลายทิศทาง และพยายามที่จะปิดทางหนีของเจี้ยนเฉินเอาไว้

เจี้ยนเฉินเหยียดออกไปก่อนที่เหวี่ยงกระบี่ของเขาไปทำให้เห็นเหมือนเป็นเส้นรูปพระจันทร์เสี้ยวเหลืออยู่ กระบี่ของเขาแทงไปที่เซียนระดับสูงคนอื่นดุจสายฟ้า

“ชิ้ง!” “ชิ้ง!” “ชิ้ง!”

ในเวลาอันสั้น กระบี่ของเจี้ยนเฉินก็โจมตีไปโดยอาวุธเซียนของทหารรับจ้างสามคน ในการปะทะแต่ละครั้ง เสียงโลหะกระทบกันก็ดังขึ้นมา เจี้ยนเฉินเหวี่ยงออกไปเร็วมาก มันยากที่จะแยกเสียงของการกระทบกับของแต่ละอาวุธออก เพราะเสียงของมันดังเหมือนเกิดการปะทะเพียงครั้งเดียว

ในตอนที่กระบี่วายุโปรยปะทะกัน พลังปริมาณมากได้ถ่ายทอดกลับไปที่อาวุธเซียนของทหารรับจ้าง

เมื่อรู้สึกถึงพลังที่ถูกส่งถ่ายมาที่พวกเขา ใบหน้าของพวกทหารรับจ้างทั้งหมดก็เปลี่ยนไป พวเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของพวกเขาได้และถอยกลับไปหลายก้าว ไม่มีใครคิดว่ากระบี่ที่เล็กเรียวขนาดนั้นจะมีพลังที่ไม่ด้อยไปกว่ากระบี่ของพวกเขาเลย

ตาของเขาเป็นประกายทันทีด้วยจิตสังหาร เจี้ยนเฉินใช้โอกาสที่คนพวกนั้นมือชาไปชั่วขณะ และเขาไปใกล้ทหารรับจ้างที่เคลื่อนไหวไม่ได้ กระบี่วายโปรยถูกคลุมไปด้วยชั้นปราณกระบี่ที่หนาและมันก็พุ่งไปที่คอของทหารรับจ้างอย่างรวดเร็ว

เมื่อต้องเผชิญกับกระบี่ที่รวดเร็วแบบนี้ ทหารรับจ้างก็ไม่สามารถทำได้แม้แต่จะต่อต้านเลย ในตอนสุดท้าย ท่าทางของของพวกเขาก็ทั้งโกรธและตกใจในขณะที่กระบี่วายุโปรยได้แทงทะลุเข้าไปที่คอของพวกเขาแล้ว เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูดออกมาจากรูและเปรอะเต็มเจี้ยนเฉินไปหมด ในขณะที่กระบี่แทงเข้าไป

ในตอนนี้ พายุการโจมตีที่รุนแรงก็โจมตีมาที่เจี้ยนเฉินจากด้านหลัง ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายในขณะที่เขาดึงกระบี่ออกมาจากคอของทหารรับจ้างที่เขาเพิ่งฆ่าออกมาทันที เจี้ยนเฉินหันไปและใช้กระบี่วายุโปรยที่เสริมพลังด้วยปราณกระบี่แทงไปที่ด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็วเหมือนเป็นสายฟ้าสีเงิน

“แกร้ง!”

กระบี่กว้าง 2 นิ้วปะทะกับกระบี่กว้าง 3 นิ้วกลางอากาศ ไม่มีอาวุธเซียนใดที่โดนกระแทกถอยหลัง และอาวุธทั้งสองก็ติดค้างกับอยู่อย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสังเกตว่าในตอนที่กระบี่ปะทะกัน มือขวาของเจี้ยนเฉินได้กระตุกไปสองครั้งหลังจากนั้น

ตาของเจี้ยนเฉินกลอกไปดูที่เจ้าของกระบี่ใหญ่อย่างเย็นชา เขาเป็นทหารรับจ้างวัยกลางคนที่เป็นคนที่พูดในตอนแรก ชายคนนั้นกำลังมองไปที่เขาด้วยท่าทางที่มืดมนมาก แต่ตาของเขาก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร

“ฮ่าห์ ! ” ชายวัยกลางคนร้องออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ตาของเขาแดงก่ำ มือซ้ายของเขากำหมัดและต่อยไปที่เจี้ยนเฉิน ทำให้เกิดเสียงลมตามมา

ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายเย็นชาในขณะที่เขาเหยียดออกไป เมื่อต้องเจอกับหมัดที่แข็งแกร่งของชายวัยกลางคนนี้ เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้หลบแต่เขายกหมัดของเขาขึ้นมาสู้อย่างไม่เกรงกลัว

“ปัง ! “

หมัดปะทะกันทำให้เกิดเสียงระเบิดดังออกมา ในตอนที่พวกมันปะทะกัน คลื่นสั่นสะเทือนที่ทรงพลังก็ออกมาจากพวกมันและส่งผลไปถึงทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ภายใต้พลังรุนแรงที่มองไม่เห็นนี้ ต้นไม้รอบ ๆ ใกล้ใกล้ทั้งสองก็ไหวเอน แม้แต่วัชพืชก็ราบไปกับพื้น

สำหรับคนที่สู้กันทั้งสอง พลังจากการโจมตีของพวกเขาทำให้เกิดแรงสะเทือนตามมาและทำให้พวกเขาถอยไปหลายก้าว ในที่สุด พวกเขาก็เอนไปมาหลังจากที่ถอยไป 10 เมตรในขณะที่กำลังรอคู่ต่อสู้อยู่

ชายวัยกลางคนมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างจริงจัง “เจ้าหนุ่ม เจ้าค่อนข้างเร็วทีเดียว ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีที่จะได้กำจัดเจ้า”

ทหารรับจ้างที่เป็นเซียนระดับสูงที่เหลือเริ่มมารวมด้านหลังชายวัยกลางคน แต่ละคนมองเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่กลุ่มทหารรับจ้างอย่างเย็นชาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ในเมื่อพวกเขาเจออสรพิษทองริ้วเงินแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดปากพวกเขา ด้วยประสบการณ์จากชาติที่แล้วของเขา เจี้ยนเฉินจึงไม่ใช่ชายหนุ่มที่ไร้ประสบการณ์ในตอนนี้ เขารู้ว่าถ้าข่าวเรื่องอสรพิษทองริ้วเงินหลุดออกไป มันจะสร้างปัญหามากมายไม่รู้จบเพราะงูนี้สร้างกำไรได้อย่างมาก ถ้าเขาต้องเจอกับตระกูลเหล่านั้นเข้า มันก็คงเป็นปัญหามากกว่าปัญหาในตอนนี้ของเขากับสำนักหัวหยุน ดังนั้นมันจึงเรื่องที่เจี้ยนเฉินอยากจะเลี่ยงเป็นที่สุด เจี้ยนเฉินต้องการที่จะฆ่าทหารรับจ้างที่นี่เพื่อที่จะหยุดข่าวลือก่อนที่มันจะเริ่ม

มีทหารรับจ้างเหลือเพียง 11 คนในกลุ่มเท่านั้นที่อยู่ข้าง ๆ เซียนผู้เชี่ยวชาญวัยกลางคน ชายอีกคนที่ดูอายุประมาณ 30 ปีก็มีพลังใกล้เคียงกับเซียนผู้เชี่ยวชาญ ท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้างนี้ มีเพียงชายวัยสามสิบและชายวัยกลางคนเท่านั้นที่ทำอันตรายกับเจี้ยนเฉินได้

เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไร ชายวัยกลางคนก็พูดออกมาเสียงดัง “พี่น้องของข้า โจมตีไปพร้อม ๆ กับข้า ! ถ้าพวกเราฆ่ามัน ไม่เพียงแต่เราจะแก้เค้นให้พรรคพวกที่ตายได้เท่านั้น แต่อสรพิษทองริ้วเงินจะเป็นของพวกเรา! ถ้าพวกเราเอาอสรพิษทองริ้วเงินนั่นไปได้ พวกเราก็จะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตในเทือกเขาสัตว์อสูรเพื่อหาเงินอีกต่อไป ! “

หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนก็พุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน พร้อมกับทหารรับจ้างที่เหลือที่ตามเขาอยู่ด้านหลัง

เจี้ยนเฉินยังคงไม่พูดอะไร แต่จิตวิญญาณต่อสู้ในใจของเขาพุ่งไปถึงจุดสูงสุดโดยไม่รู้ตัว เจี้ยนเฉินยกกระบี่วายุโปรยขึ้นมาและใช้ย่างก้าวพริบตาพุ่งไปทางกลุ่มทหารรับจ้าง

“ฮ่าห์ ! ” เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินที่พุ่งเข้ามา ตาของชายวัยกลางคนก็แสดงจิตสังหารออกมาในนั้น เขาชูกระบี่ใหญ่ของเขาขึ้นไปบนอากาศเพื่อเตรียมที่จะผ่าหัวของเจี้ยนเฉินเป็นสองส่วนหลังจากนี้

เจี้ยนเฉินแค่นเสียงออกมาอีกครั้ง เขาไม่อยากที่จะปะทะกับชายวัยกลางคนอีก เขาเปลี่ยนทิศทาง เขาเลี่ยงชายวัยกลางคนและพุ่งไปสู้กับทหารรับจ้างที่อ่อนกว่า

แต่ชายวัยกลางคนก็พลาดจากกลวิธีนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว เจี้ยนเฉินเห็นกระบี่ใหญ่เปลี่ยนทิศทางกลางอากาศไปในทิศทางที่เขาไป หลังจากนั้น กระบี่ใหญ่ก็ตามหลังเจี้ยนเฉินไปและกวาดผ่านเงาของเขา จากนั้นมันก็ฟันในแนวนอนไปที่เจี้ยนเฉิน

กระบี่ใหญ่ก็รวดเร็วมาเช่นกัน ในขณะที่มันเคลื่อนไปที่หลังของเจี้ยนเฉิน มันก็พาสายลมรุนแรงไปตัดที่เอวของเจี้ยนเฉินทันทีอย่างไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่หน้าของชายวัยกลางคนเลย สายตาของเขาแข็งทื่อในขณะที่เขาตระหนักว่าร่างของเจี้ยนเฉินค่อย ๆ หายไป “ภาพติดตา ! ” เขาคำรามออกมา