ตอนที่ 94: กำจัดทุกคน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 94: กำจัดทุกคน

เมื่อหลบกระบี่ใหญ่ของชายวัยกลางคนได้ เจี้ยนเฉินก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าของทหารรับจ้างคนอื่นพร้อมกระบี่วายุโปรยของเขา เขาแทงออกไปหลายครั้งต่อกัน ในเวลาเดียวกัน ทหารรับจ้างก็ยกอาวุธเซียนขึ้นมาและเหวี่ยงไปที่เขา

“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”

เสียงอาวุธหลายอันปะทะกันเกิดขึ้นมา ในช่วงเวลาสั้น ๆ เจี้ยนเฉินใช้ความเร็วสูงเหนือจินตนาการในการฟันออกไปสิบกว่าครั้ง ทำให้อาวุธเซียนที่โจมตีเขาเข้ามาเบี่ยงเบนจากทิศทางเดิม หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ไม่ลังเลในขณะที่กระบี่วายุโปรยในมือของเขาเปล่งแสงราง ๆ ออกมา เขาใช้ความได้เปรียบจากการที่ทหารรับจ้างพยายามที่จะกลับมาควบคุมอาวุธเซียนของพวกเขา กระบี่วายุโปรยของเขากลายเป็นแสงไฟสีขาวเงินหลายสิบเส้นซึ่งพุ่งออกไป

“ฟุบ!” “ฟุบ!” “ฟุบ!”

ในช่วงเวลาสั้นสั้น กระบี่วายุโปรยของเจียนฉินแทงออกไปอีก 3 ครั้ง แต่ละครั้งแทงอย่างแม่นยำไปที่คอของทหารรับจ้างสามคน ร่างของพวกเขาแข็งทื่อในขณะที่คอของพวกเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมา และย้อมคอของพวกเขาจนเป็นสีแดง และร่างกายของพวกเขาก็หล่นลงไปที่พื้นช้า ๆ

ในตอนนี้เอง เสียงแหลมคมที่มีพลังงานที่แข็งกร่งก็แทงผ่านอากาศมา แสงดังมาจากด้านข้าง เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่โผล่มาจากที่ใดก็ไม่รู้ทำให้เจี้ยนเฉินหันไปและฉากหลบไปด้านข้าง 2 เมตร แต่ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะหลบไปที่ข้างข้างได้อย่างปลอดภัย ลมแรงอีกชุดก็มาที่เจี้ยนเฉินและมาถึงตรงหน้าของเขาในพริบตา

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ในขณะที่เขาเอากระบี่วายุโปรยของเขาเพื่อมาป้องกันการโจมตีด้านหน้า

“แกร้ง!”

กระบี่ใหญ่ปะทะกันอย่างรุนแรงกับกระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินทำให้เจี้ยนเฉินลอยถอยไปหลายเมตรอย่างควบคุมไม่ได้

“วูซซ!”

ในขณะที่เจี้ยนเฉินลอยผ่านอากาศไป หอกยาวสีเงินก็ไล่ตามและพุ่งเป้าไปที่หัวใจของเจี้ยนเฉินด้วยเสียงหวีดหวิว

เมื่อสัมผัสได้ว่าหอกเงินมีพลังเซียนปริมาณมหาศาลในนั้น เจี้ยนเฉินก็เครียดในขณะที่เขาเห็นเซียนผู้เชี่ยวชาญเข้ามาในที่สุด

เจี้ยนเฉินกระทืบพื้นอย่างรุนแรงและทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้ที่พื้นในขณะที่เขาพยายามหยุดร่างของเขาจากการถอยไปอย่างต่อเนื่อง มือขาของเขากระตุกในขณะที่กระบี่วายุโปรยฟันไปที่หอกด้านหน้าเขาอย่างไม่กลัว

“ชิ้ง!”

ปลายของกระบี่วายุโปรยและหอกปะทะกันกลางอากาศ เมื่อเห็นดังนี้ ตาของเจี้ยนเฉินก็เป็นประกายในขณะที่ปราณกระบี่ปริมาณมหาศาลก็ไหลออกจากกระบี่ของเขาไป มันถ่ายปราณกระบี่ไปที่หอกของชายวัยสามสิบปี

เมื่อจับได้ว่าเจี้ยนเฉินกำลังคิดอะไร ชายวัยสามสิบก็เหยียดออกมา หลังจากนั้น พลังเซียนปริมาณมหาศาลก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขาและไหลไปตามหอกไปที่กระบี่วายุโปรย มันหยุดปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินไม่ให้เข้ามาใกล้กว่านี้ ทันทีหลังจากนั้น ปราณกระบี่ก็หยุดเคลื่อนไปข้างหน้าเนื่องจากมันปะทะเข้ากับพลังเซียนที่ควบเข้ามาเหมือนม้า นี่ทำให้การเคลื่อนไหวของปราณกระบี่หยุดลง

ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายอันตรายในขณะที่เขาเริ่มเพิ่มพลังงานเพื่อที่จะสู้กับชายคนนั้น ทันใดนั้นเองปราณกระบี่ปริมาณมากก็พวยพุ่งออกไปและปะทะไปที่พลังเซียนของชายอีกคนอย่างไม่เกรงกลัว

“ปัง!”

ในขณะที่ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินที่เป็นเอกลักษณ์ปะทะกับพลังเซียนของทหารรับจ้างอีกคน เสียงระเบิดดังก็เกิดขึ้น พลังงานจากการปะทะกันระเบิดออกไปโดยมีการปะทะกันระหว่างอาวุธเซียนเป็นจุดศูนย์กลาง

คลื่นกระแทกทำให้นักสู้ทั้งสองถอยกระเด็นไป แต่ละก้าวที่ทหารรับจ้างถอยไป เขาก็ทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้ที่พื้น อย่างไรก็ตาม ร่างของเจี้ยนเฉินก็คล่องแคล่วกว่าอย่างเทียบไม่ได้ ในขณะที่นิ้วเท้าของเขาสัมผัสเบา ๆ กับพื้น เขาก็เซไปมาก่อนที่จะกลับมานิ่งได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เจี้ยนเฉินตั้งตัวได้ พลังรุนแรงก็มาจากด้านหลังเขาและเข้ามาใกล้ร่างของเขาในพริบตา

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากการที่เขาปะทะกับทหารรับจ้างก่อนหน้านี้นั้น เขาก็ใช้พลังงานไปมาก ในตอนนี้ เขาขาดกำลังและไม่สามารถที่จะรวมรวมพลังเซียนเพื่อที่จะต้านรับการโจมตีของเซียนผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่มาจากด้านหลังของเขาได้ ในช่วงเวลาแห่งความล่อแหลม เจี้ยนเฉินก็กลิ้งไปบนพื้นเพื่อหลบ แต่ถึงอย่างนั้น กระบี่ใหญ่ก็ฝากแผลไว้บนหลังของเขาลึกมาจนเห็นกระดูก

“ฮ่าห์!” เมื่อเห็นว่าเขาได้เปรียบ เขาก็ชูกระบี่ของเขาขึ้นมาอย่างไม่ปราณีอีกครั้งเพื่อที่จะฟันเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงความเจ็บร้อนที่ด้านหลังของเขา เขากัดริมฝีปากของเขาในขณที่มือซ้ายของเขาสัมผัสไปที่พื้น ร่างของเขาลอยไปด้านหลังทันที จากนั้นร่างของเขาก็บิดไปด้านข้างเล็กน้อยและหลบการโจมตีที่สองจากชายคนนั้นได้เพียงปลายผม อย่างไรก็ตาม กระบี่วายุโปรยของเขาก็เหมือนสายฟ้าในขณะที่มันแทงไปที่ทหารรับจ้างที่แก่กว่าด้วยความเร็วที่สูงมาก

ชายที่แก่กว่ารู้ตัว เขาเพิ่งเหวี่ยงอาวุธเซียนของเขาออก มันจึงสายไปที่เขาจะดึงมันกลับมาเพื่อป้องกันตัวเอง เออยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมนี้ ชายคนนี้ก็เอียงหัวเพื่อที่จะหลบกระบี่ที่แทงมาที่คอของเขา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะหลบการโจมตีที่ถึงตายได้ แต่กระบี่ก็ทิ้งรอยเล็กไว้ที่คอเขาทำให้เลือดไหลออกมา

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วบิดข้อมือเพื่อที่จะให้กระบี่วายุโปรยของเขาไล่ตามชายชราที่แก่กว่าและเล็งเข้าไปที่คออีกครั้งก่อนที่ชายคนนั้นจะได้ตั้งตัว

ทันทีหลังจากที่กระบี่วายุโปรยสีเงินวาบผ่านคอของชายคนนั้นไป หน้าของเขาก็แข็งทื่อในขณะที่เลือดเริ่มไหลออกมาจากคอของเขาเป็นคลื่นเล็ก ๆ

“จะ เจ้า…” ตาของชายชราเบิกกว้างในขณะที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเหลือเชื่อ เขายกมือขึ้นมา แล้วนิ้วของเขาก็สั่นในขณที่ชี้ไปที่เจี้ยนเฉิน มันดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะพูดบางอย่าง แต่แผลที่คอของเขาก็ทำให้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้ ในตอนท้าย ชายคนนั้นก็ทรุดลงที่พื้นอย่างเงียบ ๆ

เมื่อเห็นชายคนนี้ตาย ทหารรับจ้างที่เหลือก็ตกใจมาก พวกเขาเริ่มมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่กลัวมาก

หลังจากที่ฆ่าชายวัยกลางคนแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้ให้เวลาทหารรับจ้างคนอื่นได้หายใจ เขาเริ่มเคลื่อนที่ไปหาคนที่เหลือพร้อมกับกระบี่วายุโปรย

เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินเข้ามาใกล้ เซียนผู้เชี่ยวชาญที่ยังเหลืออยู่ก็เคลื่อนที่เพื่อไปขวางเจี้ยนเฉิน เขาแทงออกไปและหอกยาวของเขาก็หายไปทันทีและมาโผล่ขึ้นอีกทีเป็นเหมือนภาพราง ๆ เข้าไปทางเจี้ยนเฉิน

ทหารรับจ้างที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญสูงถูกข่มขวัญจากการตายของเซียนผู้เชี่ยวชาญวัยกลางคน และกลัวที่จะพุ่งเข้าไป พวกเขามีความคิดที่จะล่าถอยอยู่ในหัวใจ ถ้าไม่ใช่เพราะมีทหารรับจ้างที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญอีกคนอยู่ พวกเขาก็คงจะหนีไปนานแล้ว

“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง…”

เสียงปะทะกันอย่างต่อเนื่องดังผ่านป่าไปในขณะที่เจี้ยนเฉินและทหารรับจ้างวัยสามสิบปีก็สลับกันโจมตีด้วยความเร็วสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ ในตอนนี้เมื่อไม่มีคนอื่นมายุ่งแล้ว ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินช่วยให้เขาได้เปรียบอย่างรวดเร็วและกดดันคนอื่นได้ ในพริบตาเดียว เจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรุก

เพราะการใช้กระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วมาก ทหารรับจ้างที่อายุสามสิบปีก็ไม่กล้าที่จะโจมตีกลับ เขากำลังปกป้องตัวเองและตอบโต้จากการเคลื่อนที่ของเจี้ยนเฉิน เขากลัวว่าถ้าเขาพยายามที่จะโจมตี เจี้ยนเฉินจะสามารถใช้ช่วงอันสั้นนั้นในการฆ่าเขาก่อนที่เขาจะโจมตีเสร็จ

ไม่เพียงแค่นั้น เจี้ยนเฉินกำลังสู้กับเขาในระยะใกล้ ทหารรับจ้างวัยสามสิบปีไม่สามารถที่จะแสดงพลังที่แท้จริงของหอกยาวออกมาออกมาได้ในการต่อสู้ระยะประชิดตัว ดังนั้นเขาจึงมีความรู้สึกเหมือนว่าถูกผูกแขนข้างหนึ่งไว้ข้างหลัง

หลังจากที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเจี้ยนเฉินก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้นั้นทำให้เขาสามารถต่อสู้กับคนที่มีระดับสูงกว่าเขาได้อย่างเท่าเทียม

หลังจากที่โจมตีด้วยความเร็วสูงไปหลายครั้ง ทั้งสองก็แยกออกจากกัน อย่างไรก็ตาม ชายวัยสามสิบก็อยู่ในสภาพที่น่าสลด เสื้อของเขาขาดจนหมด บางส่วนบนร่างของเขามีบาดแผลที่ดูลึก และแม้แต่คอของเขาก็มีรอยบาง ๆ จากการที่เจี้ยนเฉินพยายามที่จะตัดคอของเขา

ในทางด้านเจี้ยนเฉิน นอกจากแผลเดียวที่หลังของเขา เขาก็ดูไม่แตกต่างไปจากเดิมเลย สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเดียวคือหน้าของเขาที่ซีดขึ้น

ทหารรับจ้างวัยสามสิบปีจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยหน้าที่ไร้ความรู้สึกแล้วพูด “ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ! ข้าจะรั้งเขาเอาไว้แล้วพวกเจ้าทุกคนหนีไปซะ ! ” หลังจากที่ต่อสู้กับเจี้ยนเฉิน ทหารรับจ้างวัยสามสิบปีก็รู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งและรวดเร็วเพียงใด ในใจของทหารรับจ้าง เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะรอดชีวิตไปจากที่นี่ ดังนั้นเขาจึงใช้แผนที่เลวร้ายที่สุดกับตัวเอง

เขาตระหนักว่าเขาตระหนักถึงบางสิ่งได้จากสถานการณ์ที่เกี่ยวกับอสรพิษทองริ้วเงินนี้ เพื่อที่จะรักษาเรื่องนี้ให้เป็นความลับ เจี้ยนเฉินคงจะฆ่าทุกคนที่พยายามจะออกไปจากที่นี่แน่ เขาคงไม่ปล่อยให้ใครออกไปแพร่งพรายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นตัวทหารรับจ้างเองที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาก็คงจะทำเหมือนกันกับที่เจี้ยนเฉินทำ

นี่เป็นกฏของความอยู่รอดบนทวีปเทียนหยวน ทุกอย่างตัดสินด้วยกำปั้น ใครก็ตามที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทหารรับจ้างที่เหลือทั้งหมดก็จ้องออกไปเล็กน้อยก่อนที่จะหนีออกไปทุกทิศทุกทาง

เมื่อเห้นว่าทหารรับจ้างทุกคนกำลังจะหนี ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็มืดมน เขาฟันกระบี่ออกไปเพื่อที่จะฆ่าชายคนนั้นให้ได้ไว ๆ

“ฮ่า!” ทหารรับจ้างวัยสามสิบปีร้องใจสู้ออกมาในขณะที่เขาเคลื่อนไปหาเจี้ยนเฉินอย่างไม่เกรงกลัว เพราะด้วยความเร็วที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมา เขาจึงรู้ดีว่าเขาคงไม่รอดออกไปจากที่นี่ เขาตัดสินใจที่ว่ามันคงจะดีกว่าที่จะใช้ชีวิตของเขาในการซื้อเวลาให้กับคนอื่น มากกว่าที่จะต้องมาตายด้วยกันทุกคน เมื่อเขาเรื่องอสรพิษทองริ้วเงินรั่วไหลออกไป ก็จะมีคนมาแก้เค้นเขาอย่างไม่ขาดสาย

“ชิ้ง!”

กระบี่วายุโปรยปะทะกับหอกยาวอีกครั้งทำให้เกิดประกายไฟออกมาจากทั้งสองอาวุธ จากนั้น ภายใต้การควบคุมของทหารรับจ้างวัยสามสิบปี กระบี่ก็พลิกไปที่ด้านบนของหอกและมันก็ลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศในขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปตามสัญชาติญาณ

ในตอนนี้ ชายคนนี้ก็ดูประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม ความยินดีก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาในไม่ช้าในขณะที่เขาจัดการใช้หอกแทงไปที่คอของเจี้ยนเฉินทันที

เจี้ยนเฉินยิ้มเยาะออกมาในขณะที่ฝ่ามือของเขาก็เต็มไปด้วยพลังเซียนที่แข็งแกร่งทันที ฝ่ามือทั้งสองหายไปเหมือนภาพราง ๆ และมือของเขาก็พุ่งออกไปจับที่ด้ามของหอกเอาไว้แน่น

ในเวลาเดียวกัน กระบี่วายุโปรยที่ถูกกระแทกลอยไปในอากาศจู่จู่ก็หยุด ในขณะที่ปราณกระบี่ก็เริ่มปกคลุมกระบี่ กระบี่วายุโปรยส่องสว่างออกมา และเคลื่อนไปผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้า เหมือนว่ามันจะสามารถตัดมิติให้เปิดออกมาได้กลางอากาศ เสียงดังบาดหูเกิดขึ้น และกระบี่ก็ทะลุคอของชายคนนั้นและหายไปในบริเวณป่าใกล้ใกล้

“อ๊าก!”

“อ๊าก!”

ทันใดนั้นเอง เสียงร้องดังจากบางคนก็ดังออกมาจากในป่า

จิตวิญญาณกระบี่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของเจี้ยนเฉิน ถ้าไม่ใช่เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เจี้ยนเฉินคงไม่ใช้มันออกมาง่าย ๆ