เล่มที่ 6 บทที่ 159 นมแพะแก้เผ็ดได้

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

นมแพะไหลผ่านจากปากลงสู่ท้อง สิ่งที่น่าประหลาดคือ แค่เพิ่งดื่มเข้าปาก ก็รู้สึกว่าไม่เผ็ดเท่าไรแล้ว

จื่อเยียนนำน้ำเย็นมา กู้ซินเยว่รีบรับมา ยื่นส่งให้ด้วยตัวเอง “ญาติผู้พี่ ท่านดื่มน้ำเย็นหน่อยเจ้าค่ะ”

ซ่งฉางชิงไม่ปล่อยให้นางเข้าใกล้ เพียงกล่าวอย่างเรียบสงบ “ไม่จำเป็น”

จากนั้นเขาจึงยกหมูต้มจิ้มน้ำจิ้มมาตรงหน้าฮูหยินเฒ่ากู้ด้วยตัวเอง “ท่านแม่ ถึงแม้ข้าจะกลัวรสเผ็ด แต่ก็ยังรู้สึกว่าอร่อยมาก ท่านแม่ชอบกินอาหารเผ็ด หากได้กิน ต้องรู้สึกว่าอร่อยแน่”

กู่ซินเยว่เห็นว่าของที่ตัวเองเตรียมมากลับไม่ได้ใช้ ก็รู้สึกห่อเหี่ยว กัดริมฝีปากยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ

เมื่อฮูหยินเฒ่ากู้เห็นเขายืนกรานว่าอาหารนี่อร่อย จึงลองกินหนึ่งคำ

นางไม่กลัวอาหารเผ็ด หลังจากจิ้มน้ำจิ้มก็รู้สึกชอบยิ่งนัก “อร่อย! ”

กู้ซินเยว่เห็นท่านป้ากินหนึ่งคำแล้วบอกว่าอร่อย ก็รู้สึกตกตะลึงมาก

ฮูหยินเฒ่ากู้กินต่ออีกหลายชิ้น ก่อนจะวางตะเกียบลงอย่างนึกเสียดาย

“เนื้อหมูนี่ปรุงอย่างไรกัน? ช่างอร่อยเสียจริง เนื้อหมูอ่อนนุ่ม กลิ่นหอมชวนลิ้มลอง ติดมันแต่ไม่เลี่ยน อร่อยมากทีเดียว”

ซ่งฉางชิง “เช่นนั้น ท่านแม่คิดว่าจะมีคนชื่นชอบหรือไม่? ”

หอมอร่อยกว่าเนื้อหมูที่ปรุงด้วยวิธีทอดและต้มตามปกติ ผ่านวิธีปรุงที่เก็บรสชาติดั้งเดิมของเนื้อหมูไว้

สุราขมและซีอิ๊ว ต้นหอมและกระเทียม ดึงรสชาติหอมอร่อยของเนื้อหมูออกมาได้มากยิ่งขึ้น

เนื้อหมูนี่อร่อยมาก วิธีการกินแปลกใหม่ ทำให้คนที่ได้กินชิ้นแรกแล้วอยากกินชิ้นที่สองต่อ

ฮูหยินเฒ่ากู้กินอยู่หลายชิ้นจึงวางตะเกียบลง นางวางตะเกียบลงด้วยท่าทางนึกเสียดาย “อาหารนี่ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ ”

หายากนักที่ซ่งฉางชิงจะไม่ทำสีหน้าเคร่งขรึม ตวัดริมฝีปากแย้มรอยยิ้มต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ “ท่านแม่ เช่นนั้นท่านคิดว่าหากขายอาหารชนิดนี้ จะมีคนโปรดปรานหรือไม่? ”

ฮูหยินเฒ่ากู้รีบพยักหน้า “มี มี เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นวิธีกินเช่นนี้ ไม่เลวเลยจริง! แม่นางน้อย เจ้าเอาวิธีกินแปลกใหม่เช่นนี้มาจากที่ใดงั้นหรือ ไม่เลวเลย”

กู้ซินเยว่หันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัวด้วยความแค้นและริษยา

แม้แต่ท่านป้ายังรู้สึกว่าอร่อย ทั้งยังกล่าวชมสตรีผู้นั้นต่อหน้าคนมากมาย

เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “สามีของข้าชอบกินเนื้อหมู ข้าจึงคิดหาวิธีกินแปลกใหม่ไปเรื่อยๆ อาหารนี่เขาก็ชอบกินมากทีเดียว! ”

โยนเรื่องนี้ไปที่ตัวเซียวยวี่ อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่มีทางไปถามว่านางเคยทำให้เซียวยวี่กินหรือไม่

สามี?

ฮูหยินเฒ่ากู้ตกใจ “แม่นางน้อยออกเรือนแล้วงั้นหรือ? ”

เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้าพร้อมเผยรอยยิ้มบาง “เรียนฮูหยินเฒ่า สามีข้าแซ่เซียว นามว่ายวี่เจ้าค่ะ”

กู้ซินเยว่หันมองซ่งฉางชิง เมื่อเห็นสีหน้าของเขายังเรียบสงบ ไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย เช่นนั้นเขาก็น่าจะรู้เรื่องที่สตรีผู้นี้แต่งงานแล้วเหมือนกัน

กู้ซินเยว่ทั้งรู้สึกโมโหและน่าขัน นี่นางกำลังอิจฉาริษยาสตรีที่แต่งงานแล้วงั้นหรือ? นางคิดว่าญาติผู้พี่จะหลงใหลสตรีที่แต่งงานแล้ว ช่างน่าขันเสียจริง!

จิตปรปักษ์ที่กู้ซินเยว่มีต่อเซี่ยยวี่หลัวหายไปในชั่วพริบตา ยิ้มจนตาหยีพร้อมกล่าว “ท่านป้า ข้าชิมด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ? ”

ฮูหยินเฒ่ากู้ยื่นตะเกียบให้นาง “เจ้าลองชิมดู อร่อยจนเจ้าหยุดกินไม่ได้แน่”

กู้ซินเยว่กินหนึ่งชิ้นแล้วจึงกล่าวด้วยท่าทางตกใจ “ท่านป้า อร่อยมากเจ้าค่ะ! ฮูหยินเซียว ฝีมือการทำอาหารของท่านช่างดีจริงๆ ! ”

เซี่ยยวี่หลัวยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้ง “ท่านชอบก็ดีแล้ว”

ราวกับคนที่เมื่อครู่นี้กล่าวหาว่าตนเองมีเจตนาร้ายไม่ใช่นางอย่างไรอย่างนั้น สตรีผู้นี้ ช่างเปลี่ยนท่าทีได้เร็วเสียจริง!

กู้ซินเยว่กินต่ออีกหลายชิ้น จากนั้นจึงเดินไปตรงหน้าฮูหยินเฒ่ากู้กระซิบอะไรอยู่หลายประโยค ฮูหยินเฒ่ากู้เพียงกล่าวว่าดีไม่หยุด “ได้ ได้ ฉางชิงชอบกิน ซินเยว่บอกว่าครั้งหน้ากลับบ้านก็จะทำอาหารชนิดนี้แบบไม่เผ็ดให้เจ้าลองชิม เจ้าจะได้ไม่ต้องกินของเผ็ดจนน้ำตาไหลอีก”

กู้ซินเยว่หันมองไปทางซ่งฉางชิงอย่างเหนียมอาย จากนั้นจึงรีบก้มหน้าลงด้วยท่าทางขวยเขิน

ซ่งฉางชิงแววตาเรียบสงบ เพียงทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ

เมื่อเซี่ยยวี่หลัวส่งสูตรอาหารเสร็จ ก็ย่อมต้องกลับ

“ท่านซ่ง ข้าส่งสูตรอาหารแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน” จากนั้น กล่าวอำลากับฮูหยินเฒ่ากู้ ก็จะออกไปแล้ว

ซ่งฉางชิงขวางนางไว้ “สูตรอาหารนี้ข้ารับไว้แล้ว เจ้าไปห้องบัญชีกับข้า ข้าจะมอบเงินให้เจ้า”

ครั้งก่อนสูตรอาหารของผักตี้เอ่อสูตรละห้าตำลึง ซ่งฉางชิงจำราคาได้

เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก สูตรนี้ข้าให้ท่านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย”

ไม่ต้องจ่ายเงิน!

ซ่งฉางชิงยืนกราน “ไปกันเถอะ”

กล่าวจบ ไม่รอให้เซี่ยยวี่หลัวปฏิเสธ สะบัดแขนเสื้อ เดินมุ่งตรงออกจากห้องครัว เซี่ยยวี่หลัวเดินตามหลังแต่โดยดี ฮูหยินเฒ่ากู้และกู้ซินเยว่ก็รีบเดินตาม

พวกเขาเดินผ่านบ่อน้ำ ครั้งนี้พื้นเปียกกว่าเมื่อครู่เสียอีก

กู้ซินเยว่ถือโอกาสปล่อยแขนฮูหยินเฒ่ากู้อีกครั้ง ตัวนางเดินอยู่ข้างๆ ยกชายกระโปรงขึ้นเดินผ่านไปแล้ว

ฮูหยินเฒ่ากู้ไม่ทันเห็น เดินตรงไปข้างหน้า พื้นลื่นเกินไป ฮูหยินเฒ่ากู้ไม่ทันระวัง เท้าจึงลื่นไถล ส่งเสียงร้อง “ไอโย๊”

ซ่งฉางชิงได้ยินเสียง หันขวับอย่างฉับพลัน ก็เห็นฮูหยินเฒ่ากู้ล้มไปด้านหลัง จื่อเยียนพยุงกู้ซินเยว่เดินนำหน้าไปหลายก้าวแล้ว เวลานี้ฮูหยินเฒ่ากู้เดินเพียงลำพัง ข้างกายไม่มีคนช่วยประคองแม้แต่คนเดียว

“ท่านแม่…” ซ่งฉางชิงตื่นตกใจยิ่ง รีบวิ่งไปหา

แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ฮูหยินเฒ่ากู้ไถลหงายตัวไปด้านหลัง เดิมทีคิดว่าตัวเองต้องล้มลงไปแน่ แต่ใครจะคาดคิดว่านางไม่ได้ล้ม เพียงแค่ขาทั้งคู่โค้งงอไปด้านหลัง ก็มีคนช่วยพยุงไว้แล้ว

“ฮูหยินเฒ่า ท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ? ” น้ำเสียงบ่งบอกความห่วงใยดังขึ้นจากด้านหลัง ฮูหยินเฒ่ากู้ตื่นตกใจจนสติเตลิด มีคนช่วยพยุงแขนไว้ ประคองให้ยืนตัวตรง

ซ่งฉางชิงรีบตามมา สีหน้าวิตกกังวล “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่? ”

ฮูหยินเฒ่ากู้ตบหน้าอกเบาๆ แสดงสีหน้าตื่นตกใจ “ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร… ต้องขอบคุณฮูหยินเซียว! ”

เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าซ่งฉางชิงประคองฮูหยินเฒ่ากู้แล้ว จึงถอยออกข้างๆ อย่างมีมารยาท “ฮูหยินเฒ่าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

กู้ซินเยว่ตกใจจนสีหน้าขาวซีด ไม่มีแก่ใจจะสนใจว่ากระโปรงสกปรกหรือไม่ วิ่งตรงมา ใบหน้าเล็กตกใจจนซีดเซียว “ท่านป้า ท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ? ”

“ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกังวล” ฮูหยินเฒ่ากู้โบกมือพร้อมกล่าว

ซ่งฉางชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “ท่านป้ากุ้ยที่ติดตามอยู่ข้างกายท่านแม่เล่า? เหตุใดนางถึงไม่ตามมาด้วย? ”

กู้ซินเยว่สีหน้าขาวซีดกว่าเดิม

ฮูหยินเฒ่ากู้โบกมือพร้อมกล่าว “ไม่เป็นอะไร ข้าให้นางอยู่บ้าน ไม่ได้ให้นางตามมาด้วย ข้าก็ไม่เป็นอะไรนี่นา เจ้าอย่าได้กังวลใจ! ”

ซ่งฉางชิงจะไม่วิตกกังวลได้อย่างไร ท่าทางเมื่อครู่ อันตรายเพียงใดกัน

หากฮูหยินเฒ่ากู้ล้มกระแทกพื้นจริง ล้มจนศีรษะแตกเลือดไหลยังถือว่าเบา!

ซ่งฉางชิงแววตาเย็นเยียบ หันมองไปทางกู้ซินเยว่ด้วยสายตาดุดันและเย็นเยียบ “เมื่อครู่เจ้าเป็นคนประคองฮูหยินเฒ่ามาตลอดไม่ใช่หรือ? ”

เหตุใดประคองอยู่ดีๆ ฮูหยินเฒ่าถึงได้เดินคนเดียว ข้างกายไม่มีคนคอยประคองแม้แต่คนเดียว!

กู้ซินเยว่ใบหน้าขึ้นสีแดง รู้สึกพะอืดพะอม เมื่อครู่นางไม่ทันคิดจริงๆ…