เล่มที่ 6 บทที่ 160 สตรีที่แต่งงานแล้วไม่มีพิษภัย

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

“เจ้าอย่าโทษซินเยว่เลย ซินเยว่ก็พลาดพลั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ” ฮูหยินเฒ่ากู้ช่วยพูดแทนกู้ซินเยว่ ซ่งฉางชิงก็กล่าวอะไรไม่ได้ เดินขึ้นหน้าประคองฮูหยินเฒ่ากู้ไว้

ฮูหยินเฒ่ากู้ยิ้มพร้อมกล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว “ฮูหยินเซียวช่างคล่องแคล่วว่องไวนัก ข้าจำได้ว่าเจ้าอยู่ข้างหน้าซินเยว่ด้วยซ้ำ เหตุใดถึงได้เร็วขนาดนี้? “

เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “อ๋อ ข้าวิ่งค่อนข้างเร็วเจ้าค่ะ”

สตรีในยุคสมัยนี้ล้วนยึดถือความอ่อนโยนสงบเสงี่ยม สำรวมและสง่างามเป็นมารยาทอันดีงาม บอกว่าตัวเองวิ่งเร็ว ก็เท่ากับบอกผู้อื่นว่าตัวเองไม่รู้มารยาทที่สตรีพึงมีเลยไม่ใช่หรือ?

กู้ซินเยว่หันมองไปที่เท้าของเซี่ยยวี่หลัวตามสัญชาตญาณ

ใต้ชายกระโปรงคือเท้าที่ไม่เคยผ่านการรัด เท้าใหญ่มาก เทียบกับบัวทองสามนิ้ว*ของนาง เรียกว่าไม่น่าดูเลยสักนิด

สตรีที่เท้าใหญ่ สตรีที่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน สตรีที่เคยแต่งงานแล้ว…

สตรีผู้นี้ ไม่มีพิษภัยใดๆ ทั้งสิ้น

คราวนี้กู้ซินเยว่ไม่มีแก่ใจจะสนใจว่ากระโปรงยาวของตนจะเลอะคราบน้ำอีกต่อไป ประคองฮูหยินเฒ่ากู้อย่างใส่ใจ

ซ่งฉางชิงประคองฮูหยินเฒ่ากู้จากด้านขวาอยู่ก่อนแล้ว กู้ซินเยว่จึงประคองฮูหยินเฒ่ากู้จากด้านซ้าย ระหว่างทั้งสองคนมีฮูหยินเฒ่ากู้คั่นอยู่ตรงกลาง กู้ซินเยว่หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เช่นนี้ดูเหมือนสองสามีภรรยาประคองผู้อาวุโสหรือไม่?

กู้ซินเยว่แค่คิดดู ใบหน้าก็ขึ้นสีแดงแล้ว

ทุกคนมาถึงห้องบัญชีอย่างรวดเร็ว

ซ่งฉางชิงหยิบเงินห้าตำลึงให้เซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวรับมา ยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้ง “ขอบคุณท่านซ่งมาก! “

พอนางยิ้มดวงตาก็โก่งโค้งราวกับจันทร์เสี้ยว ประกายแสงวิบวับประหนึ่งหมู่มวลดาราทอแสง

ซ่งฉางชิงผ่อนลมหายใจยาว มองแวบหนึ่งก็เบือนหน้าไปทางอื่น เดินไปยังที่นั่งของตัวเอง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและขึงขัง “หวังว่าครั้งหน้าจะได้ร่วมงานกับฮูหยินเซียวอีก”

เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “หากมีสูตรอาหารดีๆ อีก ข้าต้องขายให้ท่านซ่งแน่”

“ซ่งฝู ส่งฮูหยินเซียวกลับไป! ” ซ่งฉางชิงออกคำสั่งกับซ่งฝู

เซี่ยยวี่หลัว “ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้าเช่ารถม้ากลับไปเองได้ นอกจากนั้น ข้ายังมีธุระอื่น ไม่รบกวนท่านซ่งน้อยแล้ว! ”

ในเมื่ออีกฝ่ายยืนกรานว่าไม่ต้องส่ง ซ่งฉางชิงก็กล่าวอะไรไม่ได้ เพียงกล่าวอำลา ก็นั่งลงและดื่มชา

เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอำลาฮูหยินเฒ่ากู้ ก็หันขวับเดินออกไปแล้ว

ซ่งฉางชิงก้มหน้าดื่มชา หางตาชำเลืองมองเห็นชายกระโปรงสีแดงเข้มหายลับไปตรงมุม เขาจึงวางถ้วยน้ำชาลง เอ่ยถามฮูหยินเฒ่ากู้ “ท่านแม่ วันนี้ว่างมาได้อย่างไร? ”

เขาพูดเข้าประเด็น

ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวเป็นเชิงตำหนิ “เห็นเจ้าไม่กลับบ้านมากว่าครึ่งค่อนเดือนน่ะสิ เจ้าไม่กลับมา หรือจะไม่ให้พวกเรามาเยี่ยมเจ้าด้วย? “

“ลูกไม่ได้หมายความเช่นนั้น ท่านแม่สุขภาพไม่ดี ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้าน” ในน้ำเสียงเคร่งขรึมของซ่งฉางชิงแฝงเร้นด้วยความอ่อนโยนอย่างหาได้ยากนัก

นี่เป็นความรู้สึกจากใจที่ไม่เคยแสดงออกต่อหน้าผู้อื่นมาก่อน

แม้แต่กู้ซินเยว่ก็แทบไม่เคยเห็น เมื่อได้เห็นดวงหน้าอันอ่อนโยนและหล่อเหลาของญาติผู้พี่ หัวใจของนางก็เหมือนกำลังอยู่ในน้ำเดือดก็มิปาน เพียงรู้สึกว่าหัวใจร้อนรุ่ม ร่างกายก็ร้อนรุ่ม หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอกนาง

ฮูหยินเฒ่ากู้มองบุตรชายของตนเองด้วยความเอ็นดู ความรักใคร่เอ็นดูแทบล้นทะลักออกจากดวงตา “กิจการสำคัญก็จริง แต่สุขภาพร่างกายของเจ้าก็สำคัญเช่นกัน เจ้าดูสิ ระยะนี้งานยุ่งจนผอมลงไปมากทีเดียว”

ซ่งฉางชิงไม่อาจทนเห็นฮูหยินเฒ่ากู้รู้สึกไม่ดี จึงรีบปลอบโยน “ท่านแม่ ข้ารู้แล้ว ต่อไปข้าจะระวัง”

ฮูหยินเฒ่ากู้ขานตอบทีหนึ่ง “จริงสิ ครั้งก่อนสั่งตัดชุดให้เจ้าหนึ่งชุดที่ฮวาหม่านยี ได้ยินว่าส่งมาให้แล้ว เจ้าสวมหรือยัง? “

เสื้อที่ตัดจากฮวาหม่านยี?

ซ่งฉางชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หันมองซ่งฝูที่อยู่ข้างๆ

ซ่งฝูรู้ว่าคุณชายคงลืมเรื่องเสื้อตัวนั้นไปแล้ว จึงรีบกล่าวเสียงเบา “คุณชาย เสื้อที่ท่านนำกลับมาครั้งก่อน ข้าเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าให้ท่านแล้วขอรับ”

ในที่สุดซ่งฉางชิงก็นึกออก

ครั้งนั้นเขาตามเซี่ยยวี่หลัวเข้าไปในฮวาหม่านยี จากนั้นจึงนำเสื้อกลับมาตัวหนึ่ง

“ยังไม่ทันได้ใส่”

ฮูหยินเฒ่ากู้ทอดถอนใจ “ดูเจ้าสิ เสื้อตัดเย็บเสร็จแล้ว เจ้ายังไม่ลองใส่ หากเล็กไปหรือใหญ่ไปเขาจะได้แก้ให้ ซ่งฝู เจ้ารีบไปหยิบเสื้อตัวนั้นมา ให้คุณชายของเจ้าลองสวม”

ซ่งฝูนำเสื้อมา สะบัดทีหนึ่ง

เสื้อตัวนี้ตัดเย็บจากผ้าดิ้นชั้นดี ตัดเย็บโดยช่างตัดเย็บที่ดีที่สุดของฮวาหม่านยี ย่อมเป็นของดีเลิศ ซ่งฉางชิงเพียงปราดตามองแวบหนึ่ง เป็นสีฟ้าครามที่เขาโปรดปรานที่สุด จากนั้นจึงพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบสงบ “ดูดี”

ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าวเป็นเชิงตำหนิ “เสื้อผ้ามีไว้สวมใส่ ไม่ได้มีไว้ดู ลองสวมตอนนี้เลย หากตรงไหนใหญ่ไปหรือเล็กไป ยังให้คนไปแก้ให้ได้ ซินเยว่ เจ้าไปห้องด้านในช่วยญาติผู้พี่ของเจ้าเปลี่ยนเสื้อ ดูว่าตรงไหนไม่พอดีตัวแล้วจดไว้ ถึงเวลาให้ฮวาหม่านยีแก้ตามขนาด”

ฮูหยินเฒ่ากู้กำลังสร้างโอกาสให้นางกับญาติผู้พี่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง!

กู้ซินเยว่ตื่นเต้นจนใบหน้าขึ้นสีแดงไปถึงใบหู

ช่วยญาติผู้พี่เปลี่ยนเสื้อ นางยังไม่เคยอยู่ใกล้ญาติผู้พี่ถึงเพียงนี้มาก่อน!

แต่วาจาต่อมาของซ่งฉางชิง กลับทำให้ความตื่นเต้นของกู้ซินเยว่ดับสลาย

“เอาเสื้อให้ข้า ข้าเปลี่ยนเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาช่วย” ซ่งฉางชิงกล่าวอย่างเรียบสงบ ซ่งฝูที่อยู่ข้างๆ รีบไปยกถาด ส่งเข้าไป จากนั้นก็ออกมา

กู้ซินเยว่กลับมาอยู่ด้านหลังฮูหยินเฒ่ากู้ด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ฮูหยินเฒ่ากู้ตบหลังมือของนางเบาๆ ปลอบใจนางเสียงเบา “ญาติผู้พี่ของเจ้าก็เป็นคนเช่นนี้ เจ้าอย่าถือโทษโกรธเขาเลย”

กู้ซินเยว่พยายามฝืนยิ้มออกมา กล่าวด้วยท่าทางว่าง่าย “ซินเยว่จะโทษญาติผู้พี่ได้อย่างไรเจ้าคะ! “

ฮูหยินเฒ่ากู้เห็นว่านางรู้ความ จึงรู้สึกชื่นชอบยิ่งขึ้น

ส่วนกู้ซินเยว่ที่อยู่ข้างหลัง กำมือไว้แน่น ปลายเล็บที่ตะไบจนแหลมแทบจะทิ่มแทงเข้าไปในฝ่ามือ เมื่อสัมผัสถึงความรู้สึกเจ็บแปลบจากผิวบนฝ่ามือ กู้ซินเยว่จึงรู้ตัวว่าตัวเองเสียมารยาทแล้ว รีบสงบสติอารมณ์ กลับสู่ท่าทางว่าง่ายและสง่างามตามปกติ

ไม่นานซ่งฉางชิงก็ออกมา

ฝีมือการตัดเย็บของฮวาหม่านยีไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เนื้อผ้าดีเลิศ ฝีมือการตัดเย็บก็ดีเยี่ยม สวมใส่อยู่บนกายซ่งฉางชิงได้พอดีตัว

สีฟ้าครามนิ่งขรึมดูสง่า ขับให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของซ่งฉางชิงดูโดดเด่นประหนึ่งจันทร์กระจ่างเหนือมหาสมุทรก็มิปาน

ทำให้เห็นแล้วชวนหลงใหล แทบอยากเก็บจันทร์กระจ่างที่มีทั้งความสามารถ รูปลักษณ์หน้าตา และทรัพย์สมบัติมาเป็นของตัวเอง

ฮูหยินเฒ่ากู้ลุกขึ้นยืน มองดูรอบๆ พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว ฝีมือตัดเย็บของฮวาหม่านยียังคงดีเหมือนเคย เสื้อตัวนี้ ถึงแม้ไม่ได้ตัดเย็บโดยวัดขนาดตัวของเจ้า แต่ก็ตัดเย็บออกมาได้ดีเหมือนกับตัวที่ซินเยว่ใส่ ฉางชิง เจ้าดูเนื้อผ้าของเสื้อบนกายซินเยว่สิ เป็นเนื้อผ้าชนิดเดียวกับเสื้อของเจ้า สีเหลืองนวลนี่ขับให้ผิวดูเด่น พออยู่คู่กับสีฟ้าครามของเจ้า คนหนึ่งนิ่งขรึมดูสง่า อีกคนสดใสดูใจกว้าง! ”

เสื้อของทั้งสองคนตัดเย็บจากผ้าชนิดเดียวกันจริงๆ

เชิงอรรถ

*บัวทองสามนิ้ว เป็นการเรียกเท้าของสตรีจีนในยุคโบราณที่มีการรัดเท้าตั้งแต่เด็ก จนเท้ามีขนาดเล็กและปลายแหลมคล้ายดอกบัวตูม