ตอนที่ 163 ทำมาหากิน

“ยอมตกลงกันทุกคนเลยเหรอคะ?”

เมื่อเห็นเขากลับมา ซูตานหงก็ถามขึ้น

“ทุกคนไม่มีปัญหากันเลยครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้ม

“เห็นคุณตั้งใจทำมาหากินขนาดนี้ พ่อแม่คุณคงสบายใจแล้วล่ะค่ะ” ซูตานหงบอกพลางเตรียมอาหารไปด้วย

ความเป็นอยู่ของเธอกับจี้เจี้ยนอวิ๋นรวมถึงครอบครัวได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้านจี้เจี้ยนเหวินก็นับว่าไม่แย่ เขามีบ้านอยู่ที่เมืองเจียงสุ่ย แม้จะกว้างเพียง 80 ตารางเมตร แต่ก็เพียงพอสำหรับครอบครัวสามคนแล้ว

อีกทั้งยังเป็นคุณครูทั้งคู่ มีชามข้าวเหล็ก*ในมือ ไปที่ไหนก็ไม่อายใคร

*เปรียบเปรยถึงอาชีพข้าราชการว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง มีชามข้าวที่ทำมาจากเหล็ก สามารถเลี้ยงดูไปได้ตลอดชีวิต

เหลือก็เพียงแต่จี้เจี้ยนกั๋วกับจี้เจี้ยนเยี่ย

คนหนึ่งเป็นลูกคนโต อีกคนคือลูกคนรอง แต่ทั้งคู่กลับทำแต่การเกษตรมาทั้งชีวิต

หากเฝิงฟางฟางกับจี้มู่ตานไม่เปิดฉากทะเลาะในช่วงปีใหม่ที่แล้ว พี่น้องคงไม่ต้องมาแตกหักกันเพราะเรื่องเล็ก ๆ โดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ แม้พี่ชายทั้งคู่จะไม่ได้พูดอะไรกับจี้เจี้ยนเหวินผู้เป็นน้องชายคนเล็กก็ตาม

ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น เมื่อก่อนลำบากอย่างไรตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเดิมนัก แค่มีอาหารสามมื้อประทังชีวิตได้ก็เพียงพอแล้ว

ด้วยเหตุนี้คุณพ่อกับคุณแม่จี้จึงไม่คิดเอาเรื่องลูกมาใส่ใจนัก และถึงแม้นางจะอยากพูดอะไร คุณพ่อจี้ก็คงจะห้ามเอาไว้อยู่ดี

อย่าถามว่าซูตานหงรู้หรือไม่เลย เธอย่อมรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

โดยเฉพาะปีนี้ที่จี้เจี้ยนอวิ๋นยอมให้พี่ชายไม่เอาไหนของเธอมาทำงาน แต่กลับไม่ให้พี่ชายตัวเองมาทำ เธอรู้ว่าแม่สามีก็ยังนึกติดใจเรื่องนี้อยู่

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นลูกนาง เธอที่เป็นแค่ลูกสะใภ้คงจะไปเทียบไม่ได้ นับประสาอะไรกับซูจิ้นจวินพี่ชายของเธอ

หากแต่ตอนนี้ทุกครอบครัวได้รับโอกาสเท่าเทียมกันก็คงหมดปัญหาแล้ว และเธอคงไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป

ส่วนพวกเขาจะทำงานได้ดีหรือไม่เธอเองก็ไม่ได้สนใจ หากทำไม่ได้ก็แค่ต้องหาคนมาทำแทน เธอเชื่อว่าสามีย้ำเรื่องนี้อย่างชัดเจนและคงไม่มีปัญหาตามมา

ดูอย่างพี่ชายกลับใจของเธอสิ หลังมาทำงานที่สวนเขาก็กินน้อยลงในขณะที่ทำงานหนักขึ้น

จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะ”

ซูตานหงพยักหน้ารับรู้และเงียบไป เธอไม่ได้คัดค้านที่สามีจะออกค่าเรียนให้จี้เจี้ยนเยี่ย แม้ว่ามันจะไม่แพงมากแต่เขาก็คงมีไม่พอจ่าย ถ้าเป็นอย่างนั้นต่อให้อยากเรียนแต่จี้มู่ตานก็คงจะค้านหัวชนฝา

ต่อไปจี้เจี้ยนอวิ๋นก็คงจะยุ่งมากขึ้น ทั้งต้องพาจี้เจี้ยนเยี่ยไปเรียนขับรถ และไปดูร้านกับซุนต้าซานกับเหอเจี่ยในเมืองมหาวิทยาลัย

ร้านตรงนั้นถูกซ่อมแซมปรับปรุงแล้ว การตกแต่งก็น่ามอง สมัยนี้ต้องตกแต่งให้ดึงดูดเข้าไว้ถึงจะขายดี

พื้นที่ด้านหลังทำเป็นที่พัก ส่วนด้านหน้าไว้ใช้ขายของ

ไม่ต้องรอให้จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก เหอเจี่ยก็ซื้อสมุดมาให้เขาทำรายการสินค้าก่อนวางขายในร้าน เมื่อตรวจสอบและรับสินค้าแล้วก็จะจดไว้อีกครั้งเพื่อใช้เทียบกัน

มันคือสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

ทั้งซุนต้าซานกับเหอเจี่ยต่างก็เห็นตรงกันว่าหากต้องการทำงานนี้และได้เงินเดือนถึง 70 หยวนต่อไป พวกเขาต้องลงบัญชีไว้ให้ชัดเจน

เหอเจี่ยเอาตัวอย่างที่หล่อนเคยทำมาให้ดู และแนะนำให้ทำสรุปรายเดือน เดิมทีหล่อนคิดว่าควรจะทำทุกสัปดาห์เสียด้วยซ้ำ แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นที่เป็นเจ้าของเห็นด้วยกับการทำเป็นรายเดือน เหอเจี่ยจึงไม่ได้เอ่ยขัดอะไร

เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่มีปัญหา จี้เจี้ยนอวิ๋นก็ไม่ได้พูดอะไรอีกและปล่อยให้พวกเขาทำงานไป

วันนี้เขาพาทั้งคู่มาพร้อมกันขนสินค้ามาด้วย โดยพวกเขาจะเป็นคนขาย ส่วนเขาจะเป็นคนดูแลเรื่องการเงิน หากซุนต้าซานกับเหอเจี่ยคุ้นเคยกับธุรกิจของเขาที่เมืองมหาวิทยาลัยแล้ว ต่อไปจะได้วางใจให้ทั้งคู่ดูแลได้

หากกิจการเป็นไปได้ราบรื่น พวกเขาก็จะได้รับค่าแรงมากขึ้นด้วย

ระหว่างที่พวกเขาทำงาน เขาก็ได้แนะนำให้ลุงป้าน้าอารู้จักพวกเขาไปด้วย รวมถึงบอกว่าต่อไปจะมาเปิดร้านที่นี่ วันนี้ให้ซุนต้าซานกับเหอเจี่ยเตรียมตัวอีกหน่อย พรุ่งนี้ก็จะเปิดร้านอย่างเป็นทางการแล้ว

ในวันเปิดร้านจะมีการลดราคาถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หากต้องการจะซื้อตุนก็ให้รีบมา เพราะหลังพรุ่งนี้ไปก็จะไม่ได้ราคานี้แล้ว

สินค้าทั้งหมดมีอยู่อย่างจำกัด ทั้งไก่ ไข่ น้ำผึ้ง และสตรอเบอรี่ อีกสักพักจึงจะมีแตงโมมาขาย และของทุกอย่างก็มีราคาบอกไว้ชัดเจน

จี้เจี้ยนอวิ๋นปล่อยให้พวกเขาปรับตัวกับการทำงานก่อนจะขับรถกลับบ้าน

เมื่อกลับมาถึงเขาก็เริ่มจัดการสินค้า เขาส่งไก่กับไข่ไปก่อนเพราะรู้ว่าการลดราคาถึง 20 เปอร์เซ็นต์จะทำให้ขายดีอย่างแน่นอน จึงต้องมีสินค้าให้เพียงพอกับการขาย

จี้เจี้ยนอวิ๋นซื้อตู้แช่เอาไว้หลังบ้านแล้ว เขาเชือดไก่แช่ในตู้เตรียมให้ซุนต้าซานกับเหอเจี่ยเอาไปขาย เมื่อก่อนเขาต้องขายไก่ตัวเป็น ๆ ในราคาที่ถูกกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็มียังมีหลายคนคิดว่าไม่สะดวกที่จะเอาไปทำอาหารต่อ

ตอนนี้จ้างพวกเขามาช่วย งานจึงสบายมากขึ้น

เมื่อเชือดเสร็จ ไก่จะถูกเอาไปแช่แข็งในตู้เย็น จี้เจี้ยนอวิ๋นส่งสินค้าไปสองคันรถ มีทั้งไข่จำนวนมากและไก่ที่เพิ่งเชือดใหม่ ๆ แช่แข็ง ต่อให้ขายพรุ่งนี้ก็ยังสดใหม่อยู่

หลังจากส่งของไปถึงสองครั้งในวันเดียว ซูตานหงก็ว่าออกมาอย่างหัวเสีย “ทำไมไม่ขอให้เหล่าฉินช่วยล่ะคะ จะได้ไปรอบเดียวให้จบ”

เดิมทีเธอก็นึกเสียดายเงินที่ออกค่าเรียนขับรถให้จี้เจี้ยนเยี่ย แต่ตอนนี้กลับไม่ได้คิดอย่างนั้นแล้ว เพราะเขาเองก็ช่วยไม่ให้ครอบครัวเธอต้องทำงานหนักมากนัก

เพียงแค่ให้เงินเดือน 30 หยวนเท่านั้น

“ผมไม่ได้บอกเหล่าฉินเพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ น่ะ” เขาตอบพร้อมส่งยิ้ม

พรุ่งนี้ทางร้านคงจะยิ่งวุ่นวาย แต่เขาก็ไม่คิดจะเรียกให้เหล่าฉินมาช่วย ร้านนี้เป็นของเขาจึงไม่อยากรบกวนใคร

ซูตานหงรู้ว่าเขาเอาแต่เกรงใจคนอื่นจึงไม่พอใจและทำเมินเขา แต่เธอก็ยังมีใจทำซุปไก่ให้กินในช่วงเย็น และต้มยามาแช่เท้าให้ พอเหงื่อออกแล้วสีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมาก ก่อนที่จะเข้านอนไปพร้อมกับลูกชาย

จี้เจี้ยนอวิ๋นตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น กินมื้อเช้า และขนของใส่รถบรรทุก ก่อนจะออกเดินทางเข้าเมืองมหาวิทยาลัย

เขามาถึงตั้งแต่ 7 โมงเช้า พบว่าซุนต้าซานกับเหอเจี่ยก็เริ่มเปิดร้านแล้ว เห็นได้ชัดว่าหน้าร้านมีลูกค้ามารอกันแน่นขนัด เพราะมีการลดราคา 20 เปอร์เซ็นต์เฉพาะวันนี้เท่านั้น

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

นึกถึงบรรยากาศเปิดร้านใหม่ที่คนกรูเข้าไปซื้อของแล้วก็ถอนหายใจ ตอนนี้คงอีกนานเลยนะคะที่จะเห็นบรรยากาศแบบนั้น ในเมื่อยังต้องรักษาระยะห่างกันอยู่เพราะโควิด

ไหหม่า(海馬)