บทที่ 142 จงเชื่อมือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลาญเงิน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

“ผมได้ยินมานานว่าบอสเผยกับบริษัทเถิงต๋าเป็นม้ามืดในเมืองจิงโจว ทุกเกมที่สร้างดังถล่มทลาย ได้ขึ้นเป็นคำค้นหายอดนิยมบนเว่ยป๋อ พวกเราอิจฉาสุดๆ เลยครับ”

ตู้รุ่ยเจี๋ยจิบชา รู้สึกปลงตกอยู่ในใจ

เผยเชียนตอบกลับอย่างสุภาพ “จริงๆ ผมก็อิจฉาบอสตู้เหมือนกันครับ”

ตู้รุ่ยเจี๋ยนิ่งไปครู่หนึ่ง “อิจฉาเรื่องอะไรครับ”

“เอ่อ… ผมอิจฉาดวงคุณน่ะครับ” จริงๆ เผยเชียนอยากจะตอบไปว่า ‘อิจฉาที่ขาดทุนเก่งขนาดนี้’ แต่ก็คิดขึ้นได้ว่าไม่เหมาะเลยที่จะพูดออกไปอย่างนั้นจึงรีบเปลี่ยนคำพูด

ตู้รุ่ยเจี๋ยหัวเราะเสียงดัง “บอสเผยเป็นคนตลกเหมือนกันนะครับ จะว่าไปผมก็โชคดีเลยทีเดียว

“ถ้าบริษัทอื่นเจอแบบนี้คงจะปิดบริษัทไปนานแล้ว ผมนี่โชคดีจริงๆ ที่บอสเผยคิดอยากซื้อกิจการต่อ

“บอสเผย ขอบคุณมากนะครับที่คุณเข้ามาช่วยฉางหยางเกมส์ ผมจะไม่ปิดบังอะไร จะบอกทุกอย่างตามจริง

“เอาจริงๆ  ที่การดำเนินการของบริษัทย่ำแย่ขนาดนี้ หลักๆ เป็นความผิดของผมเอง ถ้าคุณช่วยฉางหยางเกมส์ให้พ้นจากสภาพอันเลวร้ายนี้และทำให้มันกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งได้ ผมก็อยากจะยกบริษัทให้คุณเลย

“แต่…

“เรื่องแรกเลยคือ ผมกับเพื่อนรักอีกคนร่วมกันก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา เราทุ่มหยาดเหงื่อแรงกายไปมากมายกับมัน เรื่องที่สอง พนักงานทุกคนในบริษัทเป็นเหมือนพี่เหมือนน้องสำหรับผม ผมหวังว่าจะสามารถหาที่ดีๆ ให้พวกเขาได้ไปต่อ…”

ตู้รุ่ยเจี๋ยยกชาขึ้นจิบระหว่างที่พูด

ถึงตู้รุ่ยเจี๋ยจะพูดฟังดูดี แต่เผยเชียนก็รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามจะขึ้นราคา

ประเด็นจริงๆ ที่เขาจะสื่ออยู่หลังคำว่า ‘แต่’!

สรุปคือบอสตู้ตั้งใจจะเน้นว่าเขาทุ่มเทไปแค่ไหนในการเปิดบริษัทนี้ และพนักงานในบริษัทนั้นดีขนาดไหน เขาอยากจะชี้ให้เห็นว่ายังมีความหวังในการชุบชีวิตเกมทั้งสองให้กลับมาเปิดบริการได้ใหม่ และทำกำไรให้ได้ขอแค่พยายามสักหน่อย

เผยเชียนนั่งฟังยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร

ตู้รุ่ยเจี๋ยพล่ามอยู่สิบนาทีเต็ม เขาเล่าเรื่องสถานการณ์ของฉางหยางเกมส์ในปัจจุบันและเสริมความเห็นส่วนตัวเข้าไปอีกยกใหญ่ ดูท่าจะเตรียมการมาดีเลยทีเดียว

เผยเชียนไม่ได้ตอบอะไร เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลยด้วยซ้ำ

อาจเพราะบอสตู้เห็นว่าเผยเชียนยังเด็กเลยพยายามคุยข่มเพื่อต่อรองขึ้นราคาขาย

แต่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าเผยเชียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องราคาซื้อขาย แถมยังไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้อีก คนที่จัดการเรื่องนี้คือเลขาซิน

เลขาซินฟังอยู่เงียบๆ ด้านหลังเผยเชียนพลางจดข้อมูลลงสมุด เธอพร้อมตัดราคาทุกเมื่อขอแค่เผยเชียนสั่ง

“น่าจะประมาณนี้แหละครับบอสเผย ผมตีราคาให้แบบไม่เอากำไร ปัดเศษเอาราคากลมๆ ไปที่หนึ่งล้านหยวน โอเคไหมครับ”

บอสตู้ทำหน้าประมาณว่า ‘นี่ลดสุดแล้วนะ’

เผยเชียนไม่ได้ตอบอะไร แต่ถามคำถามออกไปแทน “จำได้ว่าหัวหน้าฝ่ายวางแผนคนก่อนหน้านี้ชื่อหลิวนี่ครับ เขาอยู่ไหนเหรอครับตอนนี้”

ตู้รุ่ยเจี๋ยนิ่งไปก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “อ๋อ หัวหน้าหลิวเหรอครับ เขาลาออกไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน น่าจะหางานที่บริษัทอื่นได้แล้ว

“ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย เสี่ยวปินทำตำแหน่งนักออกแบบระบบมานาน ความสามารถล้นเหลือเลยครับ ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแทนหัวหน้าหลิวแล้ว! ไม่สิ อาจจะเก่งกว่าหัวหน้าหลิวเลยด้วยซ้ำ!”

ลาออกเหรอ

โธ่…

เผยเชียนกลุ้มใจ

หัวหน้าหลิวรู้ว่าบริษัทกำลังจะเจ๊งเลยไปหางานเผื่อเอาไว้แล้ว

ก็จริงแหละ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสำหรับหัวหน้าหลิวที่มีประสบการณ์ด้านวางแผนเกมและมีประวัติการทำงานอันหรูเลิศ

น่าเสียดายจริงๆ ที่บริษัทดีๆ แบบนี้กลับไม่สมประกอบก่อนที่เขาจะเข้าซื้อ

แต่เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจอะไรนักและไม่คิดจะไปตามตัวหัวหน้าหลิวกลับมาด้วย

บริษัทนี้ขาดแค่หัวหน้าฝ่ายวางแผน แค่หาคนมาทำตรงนี้ก็ไปต่อได้

เผยเชียนหันมองหวังเสี่ยวปิน เขารู้สึกว่าเจ้านี่ไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน

จากที่บอสตู้พูด เขาเป็นนักออกแบบระบบของโปรเจ็กต์ก่อน จึงรู้และเข้าใจในตัวโปรเจ็กต์เป็นอย่างดี ความสามารถก็เข้าขั้น

ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องจริง

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรให้เจ้านี่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน เกิดเก่งกว่าหัวหน้าหลิวขึ้นมาจะทำยังไง

ก็ต้องหาคนอื่นมาเปลี่ยน

เผยเชียนครุ่นคิดอยู่ในใจ ใบหน้าไม่ได้แสดงอาการอะไร

“ขอลองเล่นเกมทั้งสองเกมที่บริษัทคุณทำได้ไหมครับ” เผยเชียนถาม

ตู้รุ่ยเจี๋ยพยักหน้า “ได้ครับ เสี่ยวปิน ไปเอาโน้ตบุ๊กมาเปิดเกมให้บอสเผยลองเล่น”

หวังเสี่ยวปินพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปหาโน้ตบุ๊กนอกห้องทำงาน

เผยเชียนเห็นว่าบนโต๊ะของตู้รุ่ยเจี๋ยก็มีโน้ตบุ๊กวางอยู่

แสดงว่าตู้รุ่ยเจี๋ยไม่เคยเล่นเกมที่บริษัทตัวเองทำเลย

เผยเชียนรู้สึกอิจฉาขึ้นมา

ดูสิ! บริษัทใหญ่ต้องเป็นแบบนี้แหละ บอสไม่ได้สนใจว่าบริษัทจะดำเนินการกันยังไง และปล่อยให้บริษัทขาดทุนด้วยตัวเอง

ย้อนกลับมาดูเถิงต๋า ฉันตรวจดูรายละเอียดทุกอย่างในเกม แต่ก็ดันสร้างปัญหาให้ได้เหมือนเดิม

ไม่นานหวังเสี่ยวปินก็กลับมาพร้อมโน้ตบุ๊ก

ฉางหยางเกมส์ทำเกมออกมาสองเกม เกมแรกชื่อนักพรตสะกดใจ ส่วนอีกเกมชื่อเพลงรบโลหิต ทั้งสองเกมต้องเล่นผ่านเว็บบราวเซอร์ เกมแรกเป็นเกมแนวบริหารทรัพยากร เกมที่สองเป็นเกม RPG เนื้อหาเกี่ยวกับการรบกันของสองชาติ

เผยเชียนเปิดเกมนักพรตสะกดใจขึ้นมาเล่นก่อน

อย่างแรกที่เห็นหลังจากสร้างบัญชีผู้ใช้คือภาพวาบหวิว บนหน้าจอมีสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยชวนเลือดกำเดาไหลโชว์หราอยู่

ตู้รุ่ยเจี๋ยกับหวังเสี่ยวปินรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ทั้งคู่รู้สึกเหมือนกำลังพาลูกสะใภ้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ไปเจอญาติผู้ใหญ่

พวกเขาได้ยินมาว่านอกจากบอสเผยจะเป็นบอสของบริษัทแล้ว ยังเป็นนักออกแบบเกมหลักของบริษัทเถิงต๋าด้วย

อย่างเกมฮิตล่าสุดอย่างเกมนักออกแบบเกมที่มีการวิเคราะห์และวิจารณ์อุตสาหกรรมเกมในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่น งานภาพ และแก่นสารหลักของเกมต่างอยู่ในระดับเดียวกับเกมของต่างประเทศ

ส่วนฉางหยางเกมส์เหมือนเพิ่งจะตั้งไข่

ระดับห่างไกลกันราวฟ้ากับเหว…

ถ้าบอสเผยได้เห็นเกมแล้วเกิดไม่ชอบใจ จนตัดสินใจไม่ซื้อบริษัทพวกเขาขึ้นมาจะทำยังไง

เผยเชียนสำรวจเกมอย่างรวดเร็วแล้วพบว่าเนื้อหาเกมก็เหมือนที่ชื่อเกมจะสื่อ…

เป็นแค่เกมบริหารทรัพยากรบนเว็บทั่วไปที่อัดแน่นไปด้วยสาวสวยมากหน้าหลายตา เล่นไปสักพักก็จะปลดล็อกสาวสวยคนใหม่ได้เพิ่ม

ทุกองค์ประกอบของเกมนี้ถือว่าห่วยแตก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมปิดให้บริการไป

เผยเชียนปิดเกมแรกแล้วเปิดเกมเพลงรบโลหิตขึ้นมาเงียบๆ

กราฟฟิกของเกมนี้ดีกว่าเกมเมื่อกี้ แต่ก็ยังถือว่าแย่อยู่ดี

เกมนี้เป็นเกมแนว ‘ไล่ฟันไม่ยั้ง’ ที่เห็นได้ทั่วไป ภาพสองมิติของเกมทำให้เผยเชียนรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในยุคหิน

แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเกมนี้จะทำเงินให้ได้มากมายในช่วงสองเดือนแรกหลังปล่อยเกม จนเพียงพอที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายประมาณสามแสนหยวนต่อเดือนของฉางหยางเกมส์ ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์สุดๆ

พอได้เห็นทั้งสองเกม เผยเชียนก็รู้สึกหน่วงๆ ขึ้นมาหน่อยๆ

เขารู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงไม่ขาดทุน

เป็นเพราะขาดความคิดสร้างสรรค์นี่เอง!

เพราะเขามีความทรงจำจากปี 2019 รสนิยมและสไตล์ความชอบได้ผ่านการบ่มเพาะมาจากงานขึ้นหิ้งหลายชิ้นในช่วงเวลานั้น

ถึงเขาจะอยากสร้างเกมกากๆ ขึ้นมาใจจะขาด สิ่งเดียวที่เขาคิดออกคือเกมที่มีกำแพงค่าใช้จ่ายสูงๆ ในตลาด

แต่พวกเกมที่วางกำแพงค่าใช้จ่ายไว้สูงปรี๊ดในความทรงจำของเผยเชียนมีแต่เกมที่เอาตัวรอดในตลาดอันดุเดือดมาได้ แถมยังทำกำไรได้อีกด้วย!

เพราะอย่างนั้นจินตนาการของเขาจึงถูกจำกัดไว้ ไม่สามารถคิดเกมที่กากกว่านั้นได้

แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว

ว่ามันต้องเป็นเกมแบบเกมนักพรตสะกดใจและเกมเพลงรบโลหิต…

เล่นไปได้แค่สองนาทีก็รู้สึกเหมือนโดนถอดสมองออกมาเหยียบ

กะแล้วว่าต้องเชื่อมือผู้เชี่ยวชาญด้านการขาดทุน

การซื้อกิจการครั้งนี้ดูจะเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว!

…………