ตอนที่ 586 ล่วงหน้ากับการรักษา

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอกับอวี๋หมิงหลางออกไปแล้ว แต่เธอรู้สึกว่าเจ้าของร้านคนนั้นดูพิลึกชอบกล วันนี้อวี๋หมิงหลางขับรถ เธอนั่งข้างๆ เสี่ยวเชี่ยนเปิดถุงหยิบกล่องเหล้าออกมาเปิด พอเห็นของที่อยู่ในนั้นเธอก็ออกอาการตกใจ 

 

 

“หยุดรถ” 

 

 

“มีอะไรเหรอลูกเชี่ยน?” 

 

 

อวี๋หมิงหลางขับเข้าไปจอดข้างทาง มองเสี่ยวเชี่ยนหยิบขวดเหล้าที่ดูดีผิดปกติออกมาจากกล่องกระดาษ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเปิดขวดด้วยความระมัดระวัง เอานิ้วแตะเหล้าขึ้นมาจากนั้นคิ้วก็ขมวดแน่น 

 

 

เหล้าขวดนี้พอถูกเปิดขวดกลิ่นก็คลุ้งเต็มรถ อวี๋หมิงหลางเองก็ได้กลิ่น 

 

 

“เหล้านี่ผิดปกติเหรอ?” 

 

 

“กลิ่นหอมรสหวานกลมกล่อม เหล้านี่อายุอย่างน้อยๆก็สิบปี” 

 

 

อวี๋หมิงหลางพอมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง “เหล้าลูกสาวไม่ใช่ยิ่งนานยิ่งแพงเหรอ? เหล้าที่พวกเรากินเมื่อกี้ไม่น่าถึงสามปีด้วยมั้ง ทำไมเจ้าของร้านคนนี้ถึงได้ใจกว้างนัก เหล้านี่น่าจะราคาเป็นร้อยเลยหรือเปล่า?” 

 

 

เหล้าลูกสาวไม่ถือว่าเป็นเหล้าราคาแพงอะไร อายุสิบปีราคาอยู่ที่80-100 แต่เมื่อกี้พวกเขากินอาหารก็จ่ายกันไปไม่เท่าไร ทำไมเจ้าของร้านถึงได้ใจดีแบบนี้? 

 

 

“ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เหล้า นายดูที่ขวดสิ” 

 

 

อวี๋หมิงหลางกวาดตามอง ฉีเยี่ยน้าชายของเขาทำธุรกิจอัญมณี พอรู้เรื่องเกี่ยวกับของโบราณบ้าง อวี๋หมิงหลางค่อนข้างสนิทกับเขา จึงพอจะดูของพวกนี้ออก 

 

 

“แจกันเครื่องเคลือบเลียนแบบของจริง?” 

 

 

อวี๋หมิงหลางจำได้ว่าเขาเคยเห็นของพวกนี้ที่บ้านผู้ใหญ่สักคน แจกันเครื่องเคลือบสมัยราชวงศ์ชิง อันเล็กๆแต่ราคาไม่เล็ก ลวดลายที่อยู่บนแจกันมีความประณีตมาก วาดเป็นดอกไม้และนก ราคาย่อมไม่ธรรมดา 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเสียวสันหลัง ขวดเหล้านี้เหมือนกับเมื่อชาติที่แล้วไม่มีผิด 

 

 

จนถึงตอนนี้เธอยังไม่เข้าใจเลยว่าขวดใบนั้นมันเรื่องอะไรกัน หลังกลับชาติมาเกิดทำไมขวดใบนี้มาปรากฏอีกแล้ว? 

 

 

เธอยกขวดขึ้น แล้วก็เห็นก้นขวดเหมือนขวดเมื่อชาติที่แล้วตามคาด ผลิตในสมัยเฉียนหลงราชวงศ์ชิง อักษรสไตล์ลี่ซูหกตัวสามบรรทัด ไม่มีอะไรแตกต่างจากเมื่อชาติก่อนเลยสักนิด 

 

 

“กลับรถ กลับไปที่นั่น” ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนอยากเจอเจ้าของร้านนั้นเพื่อทำให้เรื่องชัดเจนว่ามันคืออะไร 

 

 

ถึงอวี๋หมิงหลางจะไม่เข้าใจว่าทำไมเสี่ยวเชี่ยนต้องตื่นตูมขนาดนี้ แต่ก็ขับรถกลับไปตามที่เธอบอก แต่ประตูกันขโมยของร้านได้ถูกปิดแล้ว 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นในใจ อวี๋หมิงหลางถามเธอ 

 

 

“ลูกเชี่ยนเป็นอะไรไป?” 

 

 

“เจ้าของร้านคนนี้แปลกๆ ขวดนี่เป็นของแท้ ไม่ใช่ของเลียนแบบ” 

 

 

“เอาวัตถุโบราณแจกคนเล่นงั้นเหรอ?” 

 

 

อวี๋หมิงหลางเองก็รู้สึกแปลก ตอนกินข้าวเมื่อครู่เจ้าของร้านคนนั้นก็มีท่าทางไม่เหมือนคนปกติ 

 

 

“ไม่รู้สิ…พวกเรารับไว้ไม่ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยเอากลับมาคืนเขา” 

 

 

ไม่ใช่แค่เสี่ยวเชี่ยนที่รู้สึกสงสัย แม้แต่อวี๋หมิงหลางก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้ว 

 

 

ว่ากันตามเหตุผล การให้เหล้าราคาแพงแบบนี้กับลูกค้าที่ใช้จ่ายในร้านไม่ถึงร้อยก็นับว่าผิดปกติแล้ว นี่ยังใช้วัตถุโบราณบรรจุเหล้าอีก 

 

 

นี่ไม่รู้ว่าเป็นของโบราณเลยให้ผิดหรือมีความหมายอื่นแอบแฝง? 

 

 

ระหว่างทางกลับ เสี่ยวเชี่ยนจับขวดเหล้าเล่น แต่ในใจกลับคิดเรื่องเมื่อชาติก่อน 

 

 

ชาติที่แล้วตอนที่เธอได้รับขวดแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งสัปดาห์ก่อนเสี่ยวเหวยเกิดเรื่อง อยู่ๆก็มีพัสดุส่งมาที่บ้าน ในนั้นมีกระดาษโน้ตอยู่หนึ่งแผ่น 

 

 

รออยู่ที่อีกโลกหนึ่ง 

 

 

ตอนนั้นเสี่ยวเชี่ยนคิดว่าใครเล่นพิเรนทร์จึงเอาขวดใบนั้นส่งไปพิสูจน์แล้วก็พบว่าเป็นวัตถุโบราณสมัยราชวงศ์ชิง 

 

 

เธอยังไม่ทันจะได้รู้เรื่องว่าใครเป็นคนส่งมาลูกสาวก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน 

 

 

พอขวดใบนั้นมาปรากฏในชาตินี้ล่วงหน้าก่อนหลายปี ในใจของเสี่ยวเชี่ยนก็เกิดความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย ถึงจะไม่มีกระดาษโน้ตติดมา แต่เธอก็ยังใจคอไม่ดี 

 

 

เมื่อชาติก่อนเธอเอาแต่จมอยู่กับความทุกข์ที่ต้องสูญเสียลูกสาว เลยไม่ได้รู้สึกสงสัยในขวดใบนี้ ตอนนี้มาคิดดู ข้อความในกระดาษใบนั้นไม่เป็นสิริมงคล 

 

 

งั้นทำไมขวดใบนี้ถึงได้มาปรากฏล่วงหน้าก่อนตั้งหลายปี? 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกตัวเองหายใจแรง แน่นหน้าอก รู้สึกเหมือนโรคย้ำคิดย้ำทำจะกำเริบ 

 

 

อวี๋หมิงหลางไม่รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนกำลังนึกถึงเรื่องเมื่อชาติก่อน แต่เขาดูออกว่าเธอกำลังรู้สึกแย่ 

 

 

วันนี้เกิดเรื่องมากมายเหลือเกิน 

 

 

ตอนแรกก็โรคจิตโทรเข้ารายการ ต่อมาก็เรื่องคนร้ายในเมืองนี้ที่ต้ากว่างพูดถึง กินมื้อดึกยังไปเจอเจ้าของร้านพิลึกให้ขวดราคาแพง 

 

 

“เสี่ยวเฉียง ขับรถไวหน่อย” เสี่ยวเชี่ยนหลับตา เธอพยายามควบคุมลมหายใจเพื่อระงับอาการที่กำลังจะกำเริบ 

 

 

“อยากล้างมือเหรอ?” 

 

 

อวี๋หมิงหลางมองท่าทางผิดปกติของเธอออก โรคย้ำคิดย้ำทำกำลังจะกำเริบแล้ว 

 

 

“อืม…” 

 

 

อีกสักพักกว่าจะถึงบ้าน เดิมสถานีโทรทัศน์อยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขา แต่ทั้งสองคนจะไปกินมื้อดึกไกลๆให้ได้ ดังนั้นกว่าจะถึงบ้านก็อีกระยะหนึ่ง 

 

 

ตีหนึ่งกว่าแล้ว ถนนเงียบเหงา เบื้องหน้าห่างไปไม่ไกลมีสวนสาธารณะ ค่ำคืนในฤดูร้อนช่างเงียบสงัด 

 

 

อวี๋หมิงหลางหมุนพวงมาลัยรถเกิดเป็นวงโค้งที่ถนนเลนกว้าง เขาขับไปยังมุมหนึ่งที่อยู่ด้านหลังสวนสาธารณะ 

 

 

มีเพียงความมืดที่ไร้แสงไฟข้างถนน เสียงจักจั่นยามค่ำคืนในฤดูร้อนดังลอดเข้ามาในรถ 

 

 

มาถึงที่นี่เหมือนอยู่อีกโลกใบหนึ่ง ไร้ผู้คน ไร้รถ ไม่มีอะไรเลย 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงขับมาที่นี่? 

 

 

“เสี่ยวเฉียง นายไม่พาฉันกลับบ้าน พามาที่นี่ทำไม?” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่เข้าใจการกระทำของอวี๋หมิงหลาง ภายใต้แสงไฟจากหน้ารถที่ส่องสะท้อนเข้ามา ใบหน้าของอวี๋หมิงหลางมีแสงเรืองเล็กน้อย 

 

 

“ลูกเชี่ยน ผมเชื่อมั่นในคำพูดหนึ่ง” 

 

 

“อะไร?” คนเขาโรคย้ำคิดย้ำทำกำลังจะกำเริบ นายไม่รีบหาก๊อกน้ำ มาแสดงคติประจำใจอะไรเนี่ย? 

 

 

“พวกเราเป็นเจ้านายตัวเอง พวกเราจะปล่อยให้โรคภัยควบคุมตัวเราไม่ได้” 

 

 

“ไร้สาระ เหตุผลก็ส่วนเหตุผล แต่ฉันควบคุมตัวเองได้เหรอ?” 

 

 

เนื่องจากอารมณ์ไม่ดี เสี่ยวเชี่ยนจึงเริ่มหงุดหงิด 

 

 

หลายคนเข้าใจเรื่องโรคจิตเวชผิด คิดว่าคนที่มีความสามารถในการควบคุมตนเองต่ำถึงจะเป็นโรคจิตเวช 

 

 

ทั้งที่จริงเพ้อเจ้อกันทั้งนั้น 

 

 

มันไม่ได้เกี่ยวกับการควบคุมตัวเองหรือบุคลิกนิสัยเลยด้วยซ้ำ 

 

 

“คุณควบคุมไม่ได้ ผมควบคุมได้” 

 

 

“นาย?” เสี่ยวเชี่ยนเดาความหมายของอวี๋หมิงหลางไม่ออก 

 

 

เธอเห็นอวี๋หมิงหลางจอดรถให้ดี ดับไฟ รอบตัวมีแต่ความมืด เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ทันตั้งตัวก็รู้สึกว่ามีร่างกายอุ่นเข้าใกล้ ที่ปรับเบาะถูกเลื่อน แล้วเบาะเธอก็เอนลงระนาบ ร่างกายของเขารุกเข้ามา 

 

 

“อวี๋เสี่ยวเฉียง นายจะทำลามกอะไร” เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกได้ถึงวัตถุประสงค์ของเขาจากสัมผัสช่วงขาที่ผิดปกติ เธอผลักเขาออกด้วยความรู้สึกทั้งอายทั้งโมโห 

 

 

แต่เขาก็เหมือนภูเขาย่อมๆที่กดตัวเธอไว้ 

 

 

“ฉีกนะ” เสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาดดังขึ้นภายในรถที่พื้นที่เล็กนิดเดียว 

 

 

ตอนนี้โรคย้ำคิดย้ำทำบินหนีไปทั้งที่ไร้ปีกแล้ว สิ่งที่มาแทนคือการขัดขืนด้วยความโกรธของผู้หญิง 

 

 

“แมลงบินเข้าสมองบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันข้างนอกนะ ข้างนอก” 

 

 

เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก 

 

 

อีกอย่างนี่ก็Pradaคอลเลคชั่นล่าสุดนะ ทำไมฉีกเหมือนเป็นเสื้อผ้าตลาดนัด 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนโกรธจนโรคย้ำคิดย้ำทำลืมกำเริบแล้ว