ตอนที่ 587 ไม่ยอมกับทำสงคราม

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“ผมไม่ใช่แค่รู้ว่าเราอยู่ข้างนอกกันนะ ยังรู้อีกว่ารถกำลังจะ…สั่น” 

 

 

เขากัดฟันพูดเน้นย้ำคำสุดท้ายอย่างภูมิใจ ใช่ น้องสาวไม่ต้องกลัวโรคย้ำคิดย้ำทำนะจ๊ะ พี่จะฉีดยาเข้าเส้นด้วยความรักให้ เดี๋ยวก็จะลืมความกลุ้มไปเสียหมดสิ้น 

 

 

ไม่เชื่อ? 

 

 

มาลองสิ 

 

 

สายลมอันอบอุ่นของหน้าร้อนพัดผ่าน เสียงจักจั่นร้องดังมาจากในพุ่มไม้ ณ มุมอับหลังสวนสาธารณะ รถเก๋งสีแดงคันหนึ่งกำลังสั่นสะเทือนด้วยความเร็วที่คงที่ชนิดมองด้วยตาเปล่าก็เห็น 

 

 

มีเสียงอู้อี้ดังลอยมาแว่วๆ คล้ายกับมีอะไรอุดปากอยู่ เสียงปะปนไปกับเสียงจักจั่น 

 

 

ทันใดนั้นรถก็สั่นหนักขึ้น เสียงร้องอู้อี้ดังชัดมากกว่าเดิม แล้วในที่สุดรถก็หยุดสั่น 

 

 

สักพัก หน้าต่างรถที่ถูกแง้มไว้นิดหน่อยก็ถูกปรับลงจนสุดเพื่อระบายอากาศภายในที่ค่อนข้างอึมครึมออก 

 

 

อวี๋หมิงหลางที่เปลือยท่อนบนผิวปากเคลื่อนออกจากตัวเธอ เสี่ยวเชี่ยนคลุมตัวด้วยเสื้อผ้าของเขา ลมหายใจยังไม่เป็นปกติดีเท่าไร 

 

 

ไม่เคยคิดเลยว่าโลกนี้จะมีผู้ชายหน้าไม่อายได้ขนาดนี้ ถึงกับกล้าทำเรื่องแบบนี้ในที่สาธารณะ 

 

 

อวี๋หมิงหลางปรับเบาะเธอให้กลับเป็นเหมือนเดิมอย่างนุ่มนวล เขาปรับให้ท่านั่งเธอเป็นกึ่งเอนนอนสบายๆ มองเธอด้วยสีหน้าลึกซึ้งแบบพี่ชายที่รู้ใจ 

 

 

“ลูกเชี่ยนดีขึ้นหรือยัง? ไม่ได้อยากล้างมือแล้วใช่ไหม?” 

 

 

ถ้าตัดพฤติกรรมรถโยกสั่นสะเทือนเหมือนอยู่ในเครื่องเล่นสวนสนุกแบบเมื่อกี้ทิ้งล่ะก็ เหตุการณ์ในตอนนี้จะเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก 

 

 

“ตอนนี้ฉันอยากทุบนายมาก ทางที่ดีอย่ามายั่วโมโหฉัน…” น้ำเสียงแหบเล็กน้อย ต่อให้พูดจาโหดๆก็ยังดูน่ารัก ฟังแล้วไม่เหมือนกำลังขู่ เหมือนงอนๆมากกว่า 

 

 

เห็นได้ชัดว่าอวี๋หมิงหลางกำลังอารมณ์ดีมาก เขาผิวปากพลางสตาร์ทรถอีกครั้ง ยังไม่ลืมประจบเอารางวัล 

 

 

“ต่อให้พบเจอผู้คนมาเยอะแยะ แต่พี่คนนี้ดีที่สุดใช่ไหมล่ะ? คุณจะไปหาผู้ชายดีๆแบบผมได้ที่ไหนอีก ไม่ใช่แค่สามารถช่วยคุณเอาชนะโรคย้ำคิดย้ำทำได้ ออกกำลังทำให้คุณอารมณ์ดี แม้แต่ทิชชู่เปียกกับถุงยางผมยังใส่ใจเอาวางไว้บนรถเลย บางครั้งผมก็รู้สึกนับถือตัวเอง ทำไมถึงได้เป็นคนใส่ใจได้ขนาดนี้?” 

 

 

ผู้ชายที่ดีต้องคิดทุกอย่างรอบคอบ 

 

 

เป็นคนก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ดูสิ ความละเอียดอ่อนของเขาควบคุมโรคย้ำคิดย้ำทำของลูกเชี่ยนได้สำเร็จ 

 

 

“คนแซ่อวี๋ ยังมียางอายไหมเนี่ย? ฉันยังไม่ได้ถามเลยนะ ทำไมในรถฉันมีของแบบนี้ด้วย?” 

 

 

“ถ้าไม่มีของพวกนี้ หรือคุณอยากจะให้ผมเสกเด็กเข้าท้อง? ผมน่ะคิดได้ว่าคุณยังไม่พร้อมเป็นแม่ ยังไม่พร้อมแต่งงาน แล้วเรื่องนี้จะโทษผมเหรอ? ลูกเชี่ยน พี่ดูเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ?” 

 

 

เขาหันหน้าไปถามเธอด้วยสีหน้าเจ็บปวด 

 

 

“แน่นอนว่าไม่ใช่ แต่ว่า—” 

 

 

“ไม่มีแต่ ผมก็เป็นผู้ชายแบบนี้นี่แหละ สิ่งที่คู่หมั้นผมคิด มันก็คือสิ่งที่ผมต้องทำ ถึงผมจะอยากเป็นพ่อคนมากแค่ไหน แต่คุณยังไม่พร้อม แล้วจะให้ผมทำเรื่องทุเรศแบบนั้นเหรอ? จะให้ผมปล่อยคุณถูกคนมองด้วยสายตาดูถูกที่ท้องก่อนแต่งเหรอ? ไม่ ผมไม่ทำแบบนั้น” 

 

 

ประโยคสุดท้ายพูดได้หนักแน่นแทบทะลุหลังคารถ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอึ้งไปกับความน่าไม่อายของเขา 

 

 

“นายอย่ามาทำเปลี่ยนเรื่อง นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” 

 

 

“อ่อ คุณไม่ได้รังเกียจเรื่องถุงยาง งั้นไม่โอเคกับทิชชู่เปียกเหรอ? เรื่องนี้ผมต้องอธิบายกับคุณหน่อย ช่วงนี้อากาศร้อน กระดาษทิชชู่ธรรมดาไม่สามารถตอบสนองความการของผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอแล้ว นับตั้งแต่ประเทศเรามีการปฏิวัติ การพัฒนาทางด้านวัตถุของบ้านเราก็ก้าวหน้าขึ้นมาก โดยเฉพาะทิชชู่เปียก มันล้ำสมัยไปเยอะสุดๆ วันนี้ผมไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ผมไปเห็นโซนที่ขายทิชชู่เปียกโดยเฉพาะ อื้อหือ ตอนที่ผมเห็นพวกมันวางอยู่บนชั้นนะ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไป…” 

 

 

ผู้ชายที่พูดเรื่องไร้สาระได้อย่างจริงจังคนนี้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนเกิดความรู้สึกอยากจะหักคอทิ้ง แต่พอได้ยินถึงตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความอยากรู้ 

 

 

“นายเห็นทิชชู่เปียกแล้วไง? มันเกี่ยวอะไรกับการปฏิวัติ?” 

 

 

“อันที่จริงนะความเห็นส่วนตัวผมแอบต่อต้านเล็กๆกับพวกนายทุนหน้าเลือดที่มาทำให้วัฒนธรรมของพวกเราหายไป อย่างเช่นการทำความสะอาดหลังเสร็จกิจ ในตำราโบราณหลายเล่มเขียนเอาไว้ว่า สาวใช้ยกอ่างน้ำสะอาด ชำระล้างร่างกายให้เป็นครั้งที่สอง ปะแป้งแต่งตัวให้สวยสด ตอนนี้กลายเป็นของแบบนี้แล้ว เห้อ ในขณะที่วัตถุมีความเจริญก้าวหน้าขึ้น วัฒนธรรมดีๆกลับเลือนหายไป ว่าไหม?” 

 

 

“……” คนๆนี้เอาเรื่องหน้าไม่อายมาโยงเข้าเป็นเรื่องที่ดูมีวิชาการได้ไงเนี่ย? 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลางที่ส่ายหน้าอย่างจริงจัง ในใจอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึงปรัชญาการใช้ชีวิต นี่ทำไมเธอถึงได้หาตัวประหลาดแบบนี้มาเลี้ยงในชีวิตได้นะ? 

 

 

“แต่ผมก็คิดนะว่า ถึงรูปแบบจะเปลี่ยนไป แต่เพื่อลูกเชี่ยนที่ผมรักแล้ว ผมไม่แคร์ที่จะต้องก้มหัวให้พวกนายทุนหน้าเลือดสักครั้ง ทิชชู่เปียกนำเข้าซื้อก็ซื้อสิ ขอแค่คุณมีความสุขผมพร้อมจะเสียสละทุกอย่าง” 

 

 

ความรักที่น่าชื่นชม~ 

 

 

“ดังนั้น นี่ก็คือเหตุผลที่นายเลือกที่จะจอดรถข้างนอกแล้วทำ…?” อยากกัดหัวให้ตายเลยโว้ย 

 

 

“ฮี่ๆ~” 

 

 

เสียงหัวเราะได้ใจแบบนี้เพียงพอที่จะแสดงออกถึงความสุขของอวี๋หมิงหลางในเวลานี้  

 

 

ผู้ชายดีๆก็ต้องเป็นแบบนี้นี่แหละ ไม่ใช่แค่ทำตามความต้องการของตัวเอง ยังต้องคำนึงถึงว่าที่ภรรยาด้วย อุปกรณ์ทุกอย่างต้องเตรียมให้พร้อม ลองคิดดูถ้าเขาไม่เตรียมพร้อมแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น? 

 

 

ลูกเชี่ยนต้องทรมานจากโรคย้ำคิดย้ำทำ เขาปวดใจนะ 

 

 

ในฐานะที่เป็นชายหนุ่มที่มีความรับผิดชอบ ว่าที่ภรรยายังไม่พร้อมแต่งงานกับเขา งั้นเขาก็ต้องไม่ทำเรื่องให้เธอท้องก่อนแต่ง แล้วถ้าไม่สามารถใช้วิธีสุดยอดแบบนี้ปลอบเธอ อดทนจนกว่าจะถึงบ้าน เธอก็ต้องร้องไห้ไปล้างมือไป เขาก็ยังต้องคอยปลอบเธอ ถึงตอนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะไปกลิ้งกันบนเตียงอยู่ดี 

 

 

ดังนั้นการเตรียมพร้อมเพียงเล็กน้อย ได้ช่วยทั้งสองคนได้อย่างทันท่วงที เพอร์เฟ็ค 

 

 

ความรู้สึกอัดอั้นตันใจของเสี่ยวเชี่ยนเมื่อครู่ได้ถูกความคิดบ้าบอของเขาพาให้ลืมไปหมด เหลือแต่ความรู้สึกไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี 

 

 

“ถ้าผมอยู่กับคุณได้ตลอดเวลาคงดี จะได้มั่นใจว่าคุณไม่เป็นอะไร จริงๆนะลูกเชี่ยน ไหนคุณช่วยรีวิวประสบการณ์หน่อย รู้สึกไหมว่าพี่คนนี้นับวันจะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ?” 

 

 

“ไปไกลๆเลย” 

 

 

“อีกอย่างผมว่าผมคล่องขึ้นเรื่อยๆ จริงสิ” อยู่ๆเขาก็ตีหัวตัวเอง เสี่ยวเชี่ยนเดิมกำลังหลับตาที่เริ่มง่วงเล็กน้อยก็ถูกเขาทำให้ตกใจจนลุกขึ้นนั่งแล้วมองเขาด้วยความสงสัย 

 

 

“คุณว่าวิธีของพวกเราเมื่อกี้เอาไปลงในนิตยสารทางการแพทย์ได้ไหม? เป็นวิธีเอาชนะโรคย้ำคิดย้ำทำที่ชอบล้างมือที่ดีที่สุด โห ผมนี่สุดยอดเลย คุณว่าถ้าเขาจะมามอบรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ให้ผม จะรับดีไหม?” 

 

 

“……” เสี่ยวเชี่ยนมองผู้ชายหน้าไม่อายด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก สุดท้ายก็กลั้นไม่อยู่ 

 

 

“ฮ่าๆๆ นายนี่นะ เขาไม่มามอบรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ให้นายหรอก แต่อาจจะให้รางวัลคนหน้าหนาที่สุดแทน”