บทที่ 172 ล้มป่วย

ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน

เมื่อวาน​หลังจาก​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​หลี​ให้​ของขวัญ​แก่​อวี​้​ถัง​และ​กู้​ซี​แล้ว​ ​ยัง​ไม่ทัน​พูดคุย​กับ​คน​ทั้งสอง​อย่างละเอียด​ก็​ดัน​มาเกิด​เรื่อง​กับ​นาย​หญิง​เสิ่น​เสียก่อน​ ​เพียง​จำ​ความรู้สึก​ได้​รางๆ​ ​ว่า​อวี​้​ถัง​อ่อนหวาน​ ​กู้​ซีส​ง่า​งาม​ ​วันนี้​ได้​มอง​อวี​้​ถัง​อีกที​ ​เห็น​นาง​ยิ้ม​ได้​อย่าง​น่า​พิศ​ ​ดวงตา​เปล่งประกาย​ ​ใน​ความอ่อนหวาน​มี​เกลียวคลื่น​ซ่อน​อยู่​ ​นาง​อด​จะ​มอง​อีก​หลายครั้ง​อย่างแปลกใจ​ไม่ได้​ ​แล้ว​หันไป​เอ่ย​กับ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ว่า​ ​“​เมื่อวาน​ก็​ว่า​สะสวย​ดี​ ​เพราะ​ดวงตา​พร่า​เลือน​ ​จึง​ไม่ได้​มอง​ให้​ชัด​ ​วันนี้​เห็น​แล้ว​ ​คุณหนู​อวี​้​ช่าง​โดดเด่น​เสีย​จริง​ ​มิน่า​เจ้า​ถึง​ให้​นาง​มา​อยู่​ข้าง​กาย​ ​หาก​ได้​มอง​สัก​หลาย​ที​ ​ก็​คง​อารมณ์ดี​ไม่เลว​!​”

ยัง​ไม่เคย​มี​ใคร​เอ่ย​ชม​นาง​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​โดยเฉพาะ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย

ดวง​หน้า​ของ​อวี​้​ถัง​แดงก่ำ​เป็น​สี​เลือด​ ​รีบ​ลุกขึ้น​แล้ว​พึมพำ​ถ่อมตน​หลาย​คำ

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​หัวเราะ​หึๆ​ ​หาง​ตา​หัว​คิ้ว​หา​ได้​มี​ความ​เกรี้ยวกราด​สะเทือน​ฟ้า​ดิน​อย่าง​เมื่อวาน​ ​นาง​มองหน้า​อวี​้​ถัง​ด้วย​ความ​ใจดี​แล้ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​ถึง​ได้​มีคำ​ว่า​หญิงสาว​ก็​เหมือน​บุปผา​อย่างไรเล่า​ ​เพราะ​ทำให้​คน​มอง​เริงใจ​เช่นนี้​!​ ​ข้าว​่า​เจ้า​น่ะ​ ​วัน​ๆ​ ​ก็​อย่า​เอาแต่​หมก​ตัว​เฝ้า​เรือน​หลัง​น้อย​อยู่​เลย​ ​มี​เวลา​ก็​ออกมา​เดินเล่น​ข้างนอก​บ้าง​”​ ​ทั้ง​เอ่ย​ต่อว่า​ ​“​ลุง​สาม​ท่าน​ผู้เฒ่า​ยัง​ฝึก​วิชา​อมตะ​อยู่​รึ​?​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ทำ​หน้า​อับจน​ ​“​เขา​ไป​สำนัก​เทียน​อี้​ที่​เขา​หลง​หู่​ ​ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะ​มี​เวลา​ออกมา​ข้างนอก​ได้​อย่างไร​!​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ร้อง​ ​“​เอ๊ะ​”​ ​ที​หนึ่ง​ ​“​แล้ว​จะ​กลับมา​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​เรือน​หรือไม่​?​”

“​บอกว่า​จะ​อยู่​ฉลอง​บน​เขา​นั่นแหละ​”​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​เอ่ย​พลาง​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​ก็​จนปัญญา​ ​ได้​แต่​กำชับ​ผู้ดูแล​ที่​ติดตาม​ไป​ว่า​ต้อง​รับใช้​เขา​ให้​ดี​”

“​สุขภาพ​ไร้​โรค​ภัย​สำคัญ​กว่า​สิ่งใด​ทั้งหมด​”​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ปลอบใจ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ ​“​ไม่เช่นนั้น​จะ​บอกว่า​เขา​เป็น​คน​มี​วาสนา​หรือ​?​ ​ท่าน​ลุง​จากไป​เร็ว​กว่า​ท่าน​ผู้​นั้น​สกุล​ข้า​เสียอีก​ ​ท่าน​ลุง​สี่​หลาย​ปีนี​้​ก็​เจ็บ​ออด​ๆ​ ​แอด​ๆ​ ​ข้าว​่า​ครั้งหน้า​ที่​ท่าน​ลุง​สาม​กลับมา​ ​มิสู​้​พาท​่า​นลุง​สี่​ไป​ฝึก​วิชา​ที่​สำนัก​เทียน​อี้​อะไร​นั่น​ด้วย​เลย​”

สอง​คน​สนทนา​เรื่อง​จิปาถะ​ใน​สกุล​ ​คุณหนู​ทั้งหลาย​ได้​แต่​ถอนหายใจ​เฮือก​ ​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​มอง​กัน​ไปมา​ ​ปิด​สีหน้า​ยินดี​ไว้​ไม่​มิด​ ​ทว่า​พอนั​่ง​ไป​สักพัก​หนึ่ง​ ​ก็​ถูก​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​บ่น​อย่าง​นึก​ ​‘​รังเกียจ​’​ ​ว่า​ ​“​เด็ก​ๆ​ ​อย่าง​พวก​เจ้า​คงจะ​เบื่อ​ที่​ต้อง​มานั​่ง​ฟัง​ยายแก่​อย่าง​พวก​ข้า​รื้อฟื้น​ความหลัง​ละ​สิ​ ​พวก​เจ้า​ออก​ไป​เล่น​กันเอง​เถอะ​ไป​!​ ​แต่​วันนี้​หิมะ​เริ่ม​ตกลง​มา​ใหม่​ ​พวก​เจ้า​ห้าม​ก่อ​สงคราม​หิมะ​ ​ห้าม​ปั้น​ลูก​หิมะ​ ​แล้ว​เก็บตัว​อยู่​ใน​ห้อง​ให้​เรียบร้อย​ ​ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะ​ไม่​พา​พวก​เจ้า​ออก​ไป​ข้างนอก​”

ทุกคน​ต่าง​ยิ้ม​ชอบใจ​แล้ว​ย่อ​กาย​รับคำ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​มี​เพียง​คุณหนู​สี่​ที่​เอ่ย​ขึ้น​มา​อย่าง​หัวไว​ว่า​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​จะ​ไป​ไหน​หรือ​เจ้า​คะ​?​ ​ถ้า​วันนี้​พวกเรา​เป็น​เด็กดี​ว่านอนสอนง่าย​ ​ท่าน​จะ​ต้อง​พา​พวกเรา​ไป​ข้างนอก​นะ​เจ้า​คะ​!​”

“​ไอ​หยา​!​”​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ได้ยิน​ก็​หัวเราะ​แล้ว​หันไป​พูด​กับ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ว่า​ ​“​ดูท่า​แล้ว​ ​ใน​บรรดา​พี่น้อง​คง​ไม่​ใคร​เฉลียวฉลาด​เท่า​นาง​ ​เจ้า​เกริ่น​ไป​เพียง​นิดเดียว​ ​นาง​ก็​เดา​ออก​ทันที​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​หัวเราะ​ชอบใจ

ทุกคน​ถึง​เข้าใจ​ในทันที​ ​กระทั่ง​คุณหนู​สาม​ที่​มีนิ​สัย​เงียบขรึม​ยังดี​ใจ​จน​เดิน​เข้าไป​หา​พร้อมกับ​คุณหนู​ห้า​ ​กอด​แขน​ซ้าย​ขวา​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​คนละ​ข้าง​แล้ว​ออดอ้อน​ว่า​ ​“​ท่าน​ย่า​อย่า​ลืม​ข้า​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​!​”

“​ได้​ไป​ทุกคน​ๆ​!​”​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ยิ้ม​ ​“​พวกเรา​ไป​กิน​อาหารเจ​ที่​อาราม​ดับทุกข์​ด้วยกัน​!​”

อาราม​ดับทุกข์​?​!

อาราม​ดับทุกข์​ที่​ชาติก่อน​นาง​ถูก​ทำร้าย​จนตาย​!

เบื้องหน้า​ของ​อวี​้​ถัง​พลัน​มี​ภาพ​แสง​สลัว​ของ​วิหาร​ใหญ่​ใน​อาราม​ดับทุกข์​กับ​ดวง​หน้า​บิดเบี้ยว​ของ​ท่าน​เจ้าอาวาส​ลอย​ขึ้น​มา​ให้​เห็น

นาง​ได้ยิน​เสียง​ ​‘​เปรี้ยง​’​ ​ดัง​ขึ้น​ ​คล้าย​กับ​มี​อสนีบาต​ฟาด​ลงมา​ที่​ข้าง​หู​ ​หัว​สมอง​มี​เพียง​ภาพ​ขาวโพลน

“​พี่​อวี​้​ๆ​!​”​ ​ไม่รู้​ว่านาน​เท่าไร​ ​นาง​กำลัง​ถูก​คน​เขย่าตัว​ ​จากนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​ร้อนใจ​ของ​คุณหนู​ห้า​ดังที่​ข้าง​หู​ว่า​ ​“​ท่าน​เป็น​อะไร​ไป​?​ ​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือ​เจ้า​คะ​?​ ​ท่าน​อย่า​ทำให้​ข้า​ตกใจ​สิ​!​”​ ​พูด​จบ​ ​น้ำเสียง​ก็​เริ่ม​เครือ​สะอื้น

“​รีบ​ไป​ตาม​ท่าน​หมอ​มา​เร็ว​เข้า​!​”​ ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้สติ​ดี​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​ร้อนรน​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ดัง​ต่อ​จาก​คุณหนู​ห้า​ขึ้น​มาติด​ๆ​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ ​ปกติ​ไม่เห็น​บอกอะ​ไร​สัก​อย่าง​ ​ข้า​ยัง​กังวล​ว่า​พอ​มา​อยู่​กับ​ข้า​แล้ว​จะ​ไม่สบาย​ไป​ ​ยัง​สั่ง​ให้​จี้​ต้า​เหนียง​ดูแล​นาง​เป็นพิเศษ​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ก็​หน้าขาว​ซีด​ ​ดวงตา​เบิก​กว้าง​อย่างนี้​?​ ​มิใช่​มี​โรคประจำตัว​อะไร​กระมัง​?​ ​เร็ว​เข้า​ ​รีบ​ส่ง​คน​ไป​ถาม​ที่​เรือน​นาง​หน่อย​ ​แต่​อย่า​บอกว่า​นาง​ป่วย​ล่ะ​ ​พูดว่า​หลาย​วันนี้​พวกเรา​จะ​ไป​พัก​ที่​อารม​ดับทุกข์​ ​กลัว​ว่า​อากาศ​จะ​หนาว​เกินไป​ ​เด็ก​ๆ​ ​อาจ​เจ็บไข้​ขึ้น​มา​ได้​ ​จึง​อยากรู้​ว่า​ต้อง​ระวัง​เรื่อง​ใด​เอาไว้​บ้าง​ ​จะ​ได้​ตระเตรียม​หยูกยา​และ​พา​หมอ​ร่วม​ขบวน​ไป​ด้วย​…​”

หากว่า​ส่ง​คน​ไป​ถาม​ที่​เรือน​นาง​ ​ไม่ว่า​จะ​พยายาม​ปกปิด​อย่างไร​ ​แต่​ถ้า​มารดา​นาง​จับ​สังเกต​ได้​ขึ้น​มา​ ​จะ​ไม่​ร้อนใจ​ตาย​หรอก​หรือ​?​!

อวี​้​ถัง​ได้ยิน​ก็​รีบ​สูด​หายใจ​ลึก​หลายครั้ง​ ​จากนั้น​ก็​หยิก​ต้นขา​ตัวเอง​ที​หนึ่ง​ ​สติ​ถึง​เริ่ม​แจ่มใส​ขึ้น​บ้าง​ ​แล้ว​เร่ง​เอ่ย​พร้อม​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ไม่เป็นไร​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เป็นไร​ ​แค่​ปวดท้อง​ขึ้น​มากะ​ทัน​หัน​ ​แต่​ปวด​มาก​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ ​ข้า​อยาก​ไป​ห้องน้ำ​…​”​ ​จากนั้น​ก็​คิด​ว่า​พูดจา​เช่นนี้​ไม่ได้​ ​ในเมื่อ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ยัง​สงสัย​ว่านา​งมี​โรค​อื่น​แอบแฝง​ ​ก็​ต้อง​ทำลาย​ความสงสัย​ทิ้ง​ไป​เสีย​ ​นาง​มา​อาศัย​เรือน​ผู้อื่น​อยู่​ ​หาก​ตอบ​ลวกๆ​ ​ไป​แล้ว​ตน​เกิด​เป็น​อะไร​ขึ้น​มา​ ​ผู้อื่น​ก็​คง​แบก​ความรับผิดชอบ​ไม่ไหว​ ​จึง​รีบ​แก้​คำใหม่​ว่า​ ​“​ถ้า​ท่าน​แม่เฒ่า​เชิญ​ท่าน​หมอ​ให้​ได้​ก็​จะ​ดีมาก​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​กลัว​ว่า​ ​อาจ​กิน​อะไร​ผิดสำแดง​!​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​น้ำเสียง​ก็​เบา​ลง​เหมือน​เสียง​ยุง​บิน​ตัว​หนึ่ง

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​และ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ต่าง​หัวเราะ​ ​เห็นชัด​ว่า​โล่งใจ​ไป​ได้​เปลาะ​หนึ่ง

อวี​้​ถัง​อด​จะ​รู้สึก​ผิด​ไม่ได้

ท่าน​แม่เฒ่า​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​ผ่าน​ลม​ฝน​มามาก​มาย​ ​บัดนี้​ต้อง​มาร​้อน​ใจ​เพราะ​นาง​ ​อารมณ์​ทั้งหมด​แขวน​ชัด​บน​สีหน้า​ ​แสดงว่า​ทำให้​สอง​แม่เฒ่า​ต้อง​ตกอกตกใจ​แล้ว​จริงๆ

เพราะ​ใจ​นาง​คิด​เช่นนั้น​ ​ดวงตา​จึง​สะท้อน​อารมณ์​ภายใน​ออกมา​ให้​เห็น

สอง​แม่เฒ่า​เดิน​ข้าม​สะพาน​มามาก​กว่า​เกลือ​ที่นา​งกิ​นลง​ไป​เสียอีก​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​มองออก​ ​สอง​คน​หันมา​สบตา​กัน​ ​สายตา​ที่​มอง​อวี​้​ถัง​จึง​อ่อนโยน​ขึ้น​หลาย​ส่วน

จี้​ต้า​เหนียง​กับ​เจิน​จู​ช่วยกัน​พยุง​นาง​ไป​ห้องน้ำ​ด้านนอก​อย่างระมัดระวัง

อวี​้​ถัง​เอ่ย​ขอบคุณ​พวก​นาง​อย่าง​ละอายใจ​ ​รอ​จน​นาง​ออกมา​จาก​ห้องน้ำ​แล้ว​ ​ท่าน​หมอก​็​มาถึง​พอดี​ ​เมื่อ​จับชีพจร​ดู​ ​ก็​บอกว่า​ชีพจร​เต้น​มีพลัง​ ​ไม่​อ่อน​หรือ​แรง​เกินไป​ ​ไร้​ซึ่ง​ร่องรอย​การเจ็บไข้​โดยสิ้นเชิง​ ​ซ้ำ​ยัง​เอ่ย​กระเซ้า​สอง​แม่เฒ่า​ว่า​ ​“​ดูท่า​แล้ว​ให้​คุณหนู​เดิน​รอบ​ทะเลสาบ​หู​ซาน​ใน​คฤหาสน์​สัก​สอง​สาม​รอบ​ก็​น่าจะ​ยัง​ไม่​หายใจ​หอบ​ด้วยซ้ำ​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​คง​เป็นห่วง​จน​วิตก​เกินไป​ ​เมื่อ​ครู่​อาจ​แค่​หายใจ​ไม่ทัน​เท่านั้น​ ​ข้า​จับชีพจร​ดูแล​้ว​ ​ลม​ใน​ท้อง​ก็​ไม่มี​เช่นกัน​ ​ท่าน​สามารถ​พา​คุณหนู​ขึ้น​เขา​วัด​เจา​หมิง​ได้​อย่างสบายใจ​ขอรับ​”

สอง​แม่เฒ่า​พากั​นกลั​้​นขำ​ไว้​ไม่อยู่​ ​จากนั้น​ก็​ตกรางวัล​ก้อน​โต​ให้ท่าน​หมอ​ไป

อวี​้​ถัง​ได้​แต่​ขอขมา​ท่าน​แม่เฒ่า​ทั้งสอง​ด้วย​ความรู้สึกผิด

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​นาง​ยัง​พอ​เข้าใจ​อยู่​บ้าง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ก็​เป็น​คน​เปิดเผย​ผู้​หนึ่ง​ ​นาง​โบกมือ​ไปมา​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ ​ร่างกาย​มัน​เจ็บป่วย​ ​มิใช่​เพราะว่า​เจ้า​อยาก​ให้​มัน​เจ็บป่วย​เสียหน่อย​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​รู้สึก​ผิด​แทน​มัน​หรอก​ ​แม้​ท่าน​หมอ​จะ​บอกว่า​ไม่เป็นไร​ ​แต่​เจ้า​ก็​ต้อง​พัก​สักหน่อย​ ​คุณหนู​ทั้งหลาย​ยัง​อายุ​น้อย​ ​เจ้า​เป็น​พี่สาว​ ​ก็​อย่า​เอาแต่​ไล่ตาม​พวก​นาง​ ​หากว่า​พวก​นาง​วิ่ง​เร็ว​ไป​ ​เจ้า​ก็​เดินตาม​ช้าๆ​ ​อยู่​ข้างหลัง​ก็​พอแล้ว​ ​สาวใช้​ใน​เรือน​มี​เป็น​โขยง​ ​จะ​ปล่อย​ให้​พวก​นาง​วิ่ง​หาย​ไป​ก็​ลองดู​สิ​!​”

นี่​คือ​เชื่อ​สิ่ง​ที่​ท่าน​หมอ​พูด​เมื่อ​ครู่​ว่า​หายใจ​ไม่ทัน​จริงๆ​ ​สินะ

อวี​้​ถัง​ยิ่ง​ไม่สบายใจ​เข้าไป​ใหญ่​ ​นาง​เอ่ย​รับ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”

คุณหนู​ห้า​เข้ามา​ประคอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​ปวดใจ​ ​เอ่ย​เสียง​เล็ก​ๆ​ ​เหมือน​เด็ก​กับ​นาง​ว่า​ ​“​พี่​อวี​้​ ​ข้า​พยุง​ท่าน​เดิน​ไป​เอง​เจ้าค่ะ​”​ ​ทำเอา​หัวใจ​ของ​อวี​้​ถัง​อ่อน​ยวบ​ไป​หมด

คุณหนู​สี่​ก็​เข้ามา​พยุง​นาง​ด้วย​สีหน้า​สงสาร​เช่นกัน

คุณหนู​สาม​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​นาง​อย่างระมัดระวัง​ ​คล้าย​กลัว​ว่า​พอนาง​ขยับ​แล้ว​จะ​ล้ม​ลง​ไป​ ​ส่วน​คุณหนู​รอง​ที่​เคย​วางตัว​เย่อหยิ่ง​อยู่​ตลอด​ ​ก็​เผย​สีหน้า​กังวล​ให้​เห็น

อวี​้​ถัง​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​ร้องไห้​ไม่​ออก​ ​บอก​แล้ว​ว่า​ตนเอง​ไม่เป็นไร​แต่​ก็​ไม่มีใคร​เชื่อ

ยังดี​ที่​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​เอ่ย​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​รู้​ว่า​พี่​อวี​้​ของ​เจ้า​วิ่ง​มาก​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​ก็​อย่า​ได้​วิ่ง​ซุกซน​ไป​ทั่ว​อีก​ ​วันนี้​ก็​อยู่​แต่​ใน​ห้อง​ให้​พี่​อวี​้​ของ​พวก​เจ้า​ช่วย​สอน​ทำ​ดอกไม้​ผ้า​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​ก็​ให้​จี้​ต้า​เหนียง​สอน​งาน​เย็บ​ปัก​ให้​ก็ได้​”

คุณหนู​สาม​รับคำ​อย่างนอบน้อม​ ​คุณหนู​สี่​กับ​คุณหนู​ห้า​แย่ง​กัน​พูดว่า​ ​“​พวกเรา​จะ​ไป​ทำ​ดอกไม้​ผ้า​กับ​พี่​อวี​้​เจ้าค่ะ​!​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ส่ายหน้า​ ​แล้ว​แสร้ง​ดุ​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​อีก​ ​เจ้า​มายื​นอยู​่​แบบนี้​จน​ข้า​เวียนหัว​ไป​หมด​แล้ว​”

เหล่า​คุณหนู​พากั​นลา​กอ​วี​้​ถัง​วิ่ง​ออกมา​ข้างนอก​ ​แต่​วิ่ง​ไป​ได้​สอง​ก้าว​ก็​ชะงัก​เท้า​ลง​ทันที​ ​แล้ว​ค่อยๆ​ ​ก้าว​ขารา​วกั​บก​ลัว​จะ​เหยียบ​มด​ตาย​ ​ระหว่าง​ที่​เดิน​ก็​ยัง​หันมา​กำชับ​อวี​้​ถัง​ว่า​ ​“​พี่​อวี​้​เดิน​ระวัง​ๆ​ ​หน่อย​!​ ​ท่าน​ยัง​สบายดี​อยู่​หรือไม่​ ​จะ​ให้​ข้า​บอก​เฉิน​ต้า​เหนียง​ให้​ยก​เกี้ยว​มา​แบก​ท่าน​กลับ​ห้อง​ไหม​เจ้า​คะ​?​”

“​ข้า​ไม่เป็นไร​จริงๆ​!​”​ ​อวี​้​ถัง​รู้สึก​อิ่มเอม​ไป​ทั้ง​ใจ​ ​ความปวดร้าว​และ​เจ็บแค้น​เมื่อ​ชาติก่อน​คล้าย​ไม่​หนักอึ้ง​เหมือน​อย่างที่​เคย​ ​กระทั่ง​ความ​เย็นเยือก​ก่อน​นาง​จะ​ตาย​ก็​ถูก​ม่าน​บาง​ๆ​ ​คั่น​เอาไว้​ ​นาง​มอง​ภาพ​ฉาก​เบื้องหน้า​ได้​ชัดเจน​แจ่มแจ้ง​ ​และ​ภาพ​ฉาก​เหล่านั้น​ไม่​อาจ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ทรมาน​จนถึง​แก่น​กระดูก​ได้​อีกต่อไป

นาง​พลัน​คิดถึง​เผย​เยี​่​ยน​ขึ้น​มา

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ชีวิต​ใน​ชาติ​นี้​ของ​นาง​ ​คนที​่​นาง​สมควร​จะ​ขอบคุณ​มาก​ที่สุด​ก็​คง​เป็น​เขา

หาก​มิใช่​เพราะ​เขา​ ​อาการป่วย​ของ​มารดา​นาง​ก็​คง​ไม่ดี​ขึ้น​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เขา​ ​นาง​ก็​คง​ไม่ได้​มา​อยู่​ข้าง​กาย​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ ​ไม่ได้​รู้จัก​เหล่า​คุณหนู​ตัว​น้อย​ที่​จิตใจ​งดงาม​เช่นนี้​…

เขา​เป็น​คนสำคัญ​ของ​นาง

กรอบ​ตานาง​พลัน​มีน​้ำ​ตา​คลอ​เอ่อ

“​เจ้า​เป็น​อะไร​ไป​น่ะ​?​”​ ​คุณหนู​รอง​ปลอบใจ​นาง​อย่าง​ขัด​ๆ​ ​เขิน​ๆ​ ​“​ถ้า​เจ้า​เดิน​ไม่ไหว​ก็​ไม่ต้อง​ฝืน​หรอก​ ​ครั้งก่อน​ตอนที่​ข้า​ไป​วัด​เจา​หมิง​เป็นเพื่อน​ท่าน​ย่า​ก็​นั่ง​เกี้ยว​ขึ้น​เขา​ไป​เหมือนกัน​ ​มัน​มิใช่​เรื่องใหญ่​โต​อะไร​หรอก​”

อวี​้​ถังน้ำ​ตา​คลอ​เบ้า​ ​แต่​ดวง​หน้า​กลับ​ยิ้มแฉ่ง

นาง​เอ่ย​เสียง​นุ่ม​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​เป็น​อะไร​จริงๆ​ ​แค่​รู้สึก​ว่า​พวก​เจ้า​เป็นห่วง​ข้า​…​”

“​ข้า​รู้​แล้ว​!​”​ ​คุณหนู​สี่​โพล่ง​ขึ้น​มาตั​ดบ​ทนาง​ ​ตะโกน​ลั่น​ว่า​ ​“​พี่​อวี​้​กำลัง​ซาบซึ้ง​อยู่​นี่เอง​!​”

เจ้า​เด็ก​คน​นี้​!

อวี​้​ถัง​พลัน​คิด​อะไร​ไม่​ออก​ทันที

คุณหนู​ห้า​กับ​คุณหนู​สาม​พากัน​หัวเราะ​ลั่น

คุณหนู​สาม​ ​คุณหนู​สี่​และ​คุณหนู​ห้า​จะ​ไป​ที่​เรือน​อวี​้​ถัง​เพื่อ​เรียน​ทำ​ดอกไม้​ผ้า​ ​คุณหนู​รอง​บอกว่า​ ​“​ข้า​ไม่​ไป​!​ ​ข้า​จะ​ไป​เยี่ยม​พี่​กู้​!​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​ถลึงตา​ใส่​อวี​้​ถัง​ที​หนึ่ง​ ​“​พวก​เจ้า​ไม่รู้​ใช่ไหม​ว่า​พี่​กู้​ก็​ป่วย​เหมือนกัน​?​ ​พวก​เจ้า​ไม่​คิด​จะ​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​นาง​เลย​รึ​?​”

คุณหนู​สาม​กับ​คุณหนู​ห้า​ส่ง​ยิ้ม​ให้​คุณหนู​รอง​อย่าง​ละอายใจ​ ​ส่วน​คุณหนู​สี่​รีบ​อธิบาย​ว่า​ ​“​พี่​อวี​้​กับ​พี่​กู้​ก็​พัก​อยู่​ใกล้​ๆ​ ​กัน​ ​เมื่อ​ครู่​พี่​อวี​้​เพิ่งจะ​ไม่สบาย​ ​พวกเรา​ไป​ส่ง​พี่​อวี​้​ก่อน​ ​ตอนบ่าย​ค่อย​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​พี่​กู้​ได้​หรือไม่​?​”

คุณหนู​รอง​ไม่​ใคร่​จะ​พอใจ​นัก

อวี​้​ถัง​หัวเราะ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​พวกเรา​ไป​เยี่ยม​คุณหนู​กู้​ก่อน​ดีกว่า​ ​คุณหนู​กู้​เป็น​คนป่วย​ ​ต้องการ​พักผ่อน​ ​พวกเรา​ไป​คุย​เล่น​กับ​คุณหนู​กู้​สักพัก​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ค่อย​ไป​กินข้าว​เที่ยง​ที่​เรือน​ข้า​ ​หาก​ตอนบ่าย​อากาศ​ดี​ ​พวกเรา​ก็​ไป​เดินเล่น​ริมทะเล​สาบ​ ​พวก​เจ้า​เห็น​ว่า​อย่างไร​?​”

สีหน้า​ของ​คุณหนู​รอง​ถึง​ค่อยดีขึ้น​มา​หน่อย

คุณหนู​สี่​ก็​ตบมือ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ประเสริฐ​”

คน​ทั้ง​กลุ่ม​จึง​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เรือน​ของ​กู้​ซี

อวี​้​ถัง​กลับ​คิด​อย่างใจ​ลอย​ว่า​ ​เหตุใด​คน​สกุล​เผย​จึง​รู้จัก​อาราม​ดับทุกข์​ได้​?

ต้อง​เข้าใจ​ด้วยว่า​ ​อาราม​ดับทุกข์​เป็น​อาราม​เล็ก​ๆ​ ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​หุบเขา​บน​เขา​เทียน​มู่​ ​ที่นั่น​เป็น​อาราม​แม่ชี​ ​คนที​่​มาบว​ชล​้​วน​เป็น​หญิง​ที่​ไม่มี​บ้าน​ให้​กลับ​ ​ถึงขั้น​ว่า​บางคน​เมื่อ​เข้าสู่​อาราม​แม่ชี​แล้ว​ ​ก็​ไม่มี​ที่​ให้​ไป​อีก​ ​เมื่อไร​้​หนทาง​ถึง​ได้​เริ่ม​ฝึก​บำเพ็ญ​ภาวนา

ที่​แห่ง​นั้น​ไม่มี​สถานที่​ให้​จุด​ธูป​กราบไหว้​ด้วยซ้ำ​ไป

หาก​มิใช่​เป็นความ​บังเอิญ​ ​คนที​่​อยู่​ใน​เมือง​หลิน​อัน​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​อย่าง​นาง​ก็​คง​ไม่รู้​ว่า​มี​อาราม​แม่ชี​เช่นนี้​อยู่​ด้วย