ตอนที่ 47.2 หลี่เปียวผู้ชั่วช้า (2)

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

“นี่เจ้า! …”

ผู้อาวุโสแห่งสมาคมผู้ฝึกสัตว์อสูรเดือดดาลขึ้นมาทว่าก็กล่าวสิ่งใดไม่ออก หากที่นี่มีเพียงหลี่เปียวคนเดียว เขาคงจะไม่ลังเลที่จะใช้วาจาข่มขู่คุกคาม ทว่าเมื่อหันไปมองลิ่วเยว่บุรุษจากอารามที่มีสีหน้ามืดหม่นในตอนนี้ ผู้อาวุโสวัยกลางคนก็เลือกที่จะสงบคำ คนจากอารามเป็นกลุ่มคนที่เขาไม่ควรจะไปยั่วยุหรือสร้างความบาดหมางมากที่สุด

“หลี่เปียว เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าไม่รีบลงมือพวกมันจะสยบอสูรเทวะไปหมดแล้วนะ! ”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ พุ่งข้าต่อสู้กับอสูรเทวะทั้งสาม ใบหน้าของลิ่วเยว่ก็ถมึงทึงบิดเบี้ยวถึงขีดสุด หากสุดท้ายผลการแข่งขันจบลงด้วยการที่ฉินอวี้โม่สยบพวกมันได้ เขาก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในทันที นอกจากจะไม่ได้สิ่งใดในเทศกาลอสูรล้อมเมืองครั้งนี้แล้ว เขายังต้องสูญเสียอสูรเทวะคู่กายที่ใช้ในการวางเดิมพันไปอีกด้วย ผลลัพธ์เช่นนั้นเขาไม่อาจจะทำใจยอมรับได้แน่

ในตอนที่ตกลงกันเมื่อวาน หลี่เปียวบอกเขาว่าวันนี้เขาไม่ต้องลงมือทำสิ่งใดทั้งนั้น *‘ท่านเพียงแค่รอดูเรื่องสนุก ๆ ก็พอ’*ตอนแรกเขาก็วางใจเพราะเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่าย แต่เวลานี้เขาเกิดความกังวลใจที่หนักหนาขึ้นมาแล้ว เขาไม่อยากจะยอมรับความพ่ายอย่างน่าอเนจอนาถเช่นนี้

“ไม่ต้องห่วงท่านลิ่วเยว่ ข้าบอกแล้วว่าอย่างไรเราก็ชนะ”

ในตอนนั้นเองหลี่เปียวก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาพลางส่งสัญญาณให้ลูกน้อง

คนของกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจทยอยนำของบางอย่างออกมาทีละอันแล้วขว้างมันเข้าใส่กลุ่มคนที่กำลังต่อสู้อยู่กับอสูรเทวะ

“นั่นมันอะไร?! ”

เมื่อเห็นว่าพวกหลี่เปียวปาอะไรบางอย่างไปที่กลุ่มพันธมิตรอวี้โม่ที่อยู่แนวหน้า ชื่อเซียวและลั่วอวิ๋นผู้มีหน้าที่สั่งการในจุดนี้ก็ชะงัก

สิ่งของนั้นคือขวดกระเบื้องขนาดเล็ก มันถูกปาเข้ามาอันแล้วอันเล่า เมื่อมาถึงกลุ่มคนในฝ่ายของฉินอวี้โม่และตกลงพื้น กระเบื้องขวดน้อยก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ทันที ผงละเอียดบางอย่างที่อยู่ภายในนั้นฟุ้งกระจายออกมาและส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว

“นั่นก็คือผงชนิดพิเศษที่ข้าเตรียมไว้เมื่อวานนี้ ผงนี้จะมีกลิ่นประหลาดบางอย่าง เมื่อกลิ่นนั้นกระจายออกไป เหล่าอสูรมายาจำนวนมหาศาลก็จะพุ่งเข้าไปรวมตัวกันในบริเวณที่เกิดกลิ่น หึ หึ แน่นอนว่าความอันตรายก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ข้าอยากจะเห็นนักว่าฉินอวี้โม่ผู้นั้นจะรับมือกับอสูรมายาที่บ้าคลั่งเป็นฝูงได้ยังไง! ฮ่า ๆ ๆ ”

หลี่เปียวกล่าวขึ้นมาด้วยความสะใจและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่เขาก็ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด เพราะเขามั่นใจว่าอย่างไรก็ต้องเป็นฝ่ายชนะ และเพื่อชัยชนะแล้ว คนอย่างเขาไม่เลือกวิธีการ ไม่ใส่ใจความถูกต้อง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลี่เปียวกำลังคาดหวังกลับไม่เกิดขึ้น ผงที่กระจายอยู่ทั่วพื้นส่งกลิ่นประหลาดออกมา *แต่นั่นกลับเป็นกลิ่นหอม ๆ อันสดชื่น !*กลิ่นหอมพวกนั้นไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้อสูรมายาเกิดอาการบ้าคลั่งและพุ่งเข้าไปรวมตัวกันเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกมันสงบลงและถอยห่างออกไปอีกด้วย

“เหอะ! เจ้าพวกต่ำช้า คุณหนูคาดเดาแผนการของพวกเจ้าออกหมดแล้ว”

เสี่ยวโร่วเปล่งเสียงเหยียดหยามออกมาก่อนจะหยิบเอาขวดกระเบื้องจำนวนหนึ่งออกมาและขว้างเข้าใส่ทางฝั่งที่หลี่เปียวยืนอยู่บ้าง*… สาวใช้น้อยผู้ฉลาดเฉลียวเลือกเล็งเข้าใส่หัวหน้าอันธพาลอย่างตั้งใจ*

แน่นอนว่าหลี่เปียวหลบมันตามสัญชาตญาณ ทันทีที่ตกลงพื้นมันก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ และมีผงบางอย่างฟุ้งกระจายออกมาจากภายใน

“คุณหนูสั่งเอาไว้ว่าให้ข้ามอบสิ่งนี้คืนให้พวกเจ้า”

เสี่ยวโร่วมองไปทางหลี่เปียวด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจราวกับทำงานสำคัญสำเร็จ

ผงที่ลอยออกมานั้นส่งกลิ่นรุนแรง และในทันทีที่เหล่าอสูรมายาที่อยู่โดยรอบได้กลิ่น พวกมันก็เริ่มคลุ้มคลั่งและบุกเข้าจู่โจมหลี่เปียว ลิ่วเยว่ และกลุ่มผู้ภักดีต่ออารามจากทุกทิศทาง ตามคำบอกเล่าที่หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเจ้าเล่ห์บรรยายไว้ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด

“เกสรงาดำ! “

เมื่อได้กลิ่นจากผงที่กระจายออกมา ผู้อาวุโสจางแห่งสมาคมผู้ฝึกสัตว์อสูรก็อุทานเสียงดัง

“เป็นไปไม่ได้ เกสรงาดำจะไปอยู่ในมือพวกมันได้ยังไง? ”

หลี่เปียวส่ายศีรษะอย่างแรง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

เมื่อวานเขาเป็นคนยืนคุมให้ลูกน้องนำผงเกสรงาดำกรอกลงในขวดกระเบื้องด้วยตัวเองก่อนจะกำชับว่า ในวันรุ่งขึ้นให้พวกเขาขว้างมันเข้าไปทางฝั่งของฉินอวี้โม่ ถึงตอนนั้นอสูรมายาก็จะพุ่งเข้าโจมตีฝ่ายนั้นราวกับพายุกระหน่ำและมันก็จะสร้างหายนะให้แก่ฝ่ายศัตรูได้

ทว่าเวลานี้เกสรงาดำกลับไปปรากฏอยู่ในมือฝ่ายตรงข้าม!

“เจ้าโง่! คุณหนูของเรารู้แผนการของเจ้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เลยแอบไปสับเปลี่ยนมาแล้วเรียบร้อย”

เสี่ยวโร่วมองหลี่เปียวอย่างเย้ยหยันและกล่าวต่อ “ผงเกสรงาดำที่พวกเจ้าเตรียมไว้เมื่อวานก็อยู่ใต้เท้าพวกเจ้าในตอนนี้นี่แหละ! ”

เมื่อคืน หลังจากที่ได้รับรู้แผนชั่วที่หลี่เปียวกับลิ่วเยว่ตกลงกัน ฉินอวี้โม่ก็สั่งให้เสี่ยวจินตัวน้อยลอบติดตามหลี่เปียวออกไป

ด้วยเหตุนั้นทำให้นางทราบถึงแผนการลับแสนต่ำช้านี้ นักฆ่าสาวใช้ความสามารถดั้งเดิมลอบเข้าไปในห้องพักของพวกเขาตอนกลางดึกและแอบสับเปลี่ยนถุงใส่ขวดเกสรงาดำอย่างเงียบเชียบ เหล่าสมาชิกทหารรับจ้างหมาป่าปีศาจไม่รู้ตัวเลยว่าขวดที่อยู่ในมือของตนเป็นเพียงผงเกสรดอกไม้หอมธรรมดา

ผงเกสรชนิดนี้นั้น แม้ว่าจะทำจากเกสรดอกไม้เหมือนกันแต่กลับให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับผงเกสรงาดำ เพราะมันทำให้อารมณ์ของอสูรมายาสงบลง สรรพคุณเช่นนี้อันที่จริงฉินอวี้ก็ไม่แน่ใจนัก นางเพียงแต่เลือกเอาดอกไม้ชนิดที่ช่วยให้มนุษย์จิตใจสงบมาเพียงเท่านั้น อันที่จริงนางเองก็ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้ผลกับอสูรมายาในลักษณะเดียวกันด้วย

“ตอนนี้ก็เชิญสนุกกับแผนการชั่วร้ายของตัวเองได้แล้ว”

เมื่อได้เห็นสถานการณ์ทางด้านนั้น ฉินอวี้โม่ก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างสะใจและต่อสู้กับต้นไม้วิญญาณที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างร่าเริง

ภายใต้การร่วมมือกันของฉินอวี้โม่และเสี่ยวเฮย ต้นไม้วิญญาณก็ถูกนางสยบลงได้ อสูรเทวะขนาดยักษ์ยอมหมอบลงแทบเท้าของนาง

การต่อสู้ของเสี่ยวจินเองก็เกือบจะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เสี่ยวจินนั้นมีระดับที่สูงกว่ากระเรียนขาแดงขั้นหนึ่งจึงทำให้มันได้เปรียบกว่าและเอาชัยเหนืออีกฝ่ายได้ในที่สุด

ทว่าทางฝั่งของการต่อสู้ระหว่างยักษ์ศิลากับกลุ่มพันธมิตรอวี้โม่นั้นดูจะดุเดือดรุนแรงมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กลุ่มพันธมิตรก็ดูเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ไม่น้อย และคาดว่าพวกเขาคงจะสามารถจบการต่อสู้ลงได้ในไม่ช้า

ฉินอวี้โม่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทว่าในตอนที่กำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับต้นไม้วิญญาณ อดีตนักฆ่าสาวก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงมาจากทางด้านหลัง!

.