บทที่ 174 สิ่งที่คิด

“แต่น่าเสียดาย ถ้าคุณชายฉินคบอยู่กับจางซิ่วเอ๋อ…….” พูดมาถึงตรงนี้จางอวี่หมินทำหน้าเสียดาย

หลีฮวาเอ่ยขึ้นทันที “คุณชายฉินจะชอบจางซิ่วเอ๋อจริง ๆ ได้อย่างไร? ข้าว่าคุณชายฉินแค่อยากเล่นสนุกกับนางเท่านั้นล่ะ! สารรูปอย่างจางซิ่วเอ๋อ ข้าว่าต่อให้เป็นรองเท้าของคุณชายฉินนางยังไม่คู่ควรเลย!”

“ถ้าให้ข้าพูด จางซิ่วเอ๋อห่างชั้นกับเจ้าอยู่ไกลโข!” หลีฮวาพูดเกรี้ยวกราด

จางอวี่หมินได้ฟังก็แช่มชื่นหัวใจ

คำพูดของหลีฮวาช่างตรงใจนางจริง ๆ

แต่เพียงพริบตาเดียวจางอวี่หมินก็อารมณ์ไม่ดีอีกครั้ง ต่อให้เป็นเรื่องจริงแล้วอย่างไรล่ะ? คุณชายฉินก็ยังตาบอดไปชอบจางซิ่วเอ๋ออยู่ดีไม่ใช่เหรอ?

ไม่! นางไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้ดำเนินต่อไปหรอก!

ความต้องการเอาชนะของจางอวี่หมินเพิ่มสูงขึ้นอีก

“อวี่หมิน ข้าเฝ้าเป็นเพื่อนเจ้าที่นี่ดีกว่าไหม? รอให้คุณชายฉินออกมาข้าจะไปพูดเรื่องที่จางซิ่วเอ๋อให้ท่าพี่ข้าให้คุณชายฉินฟังกับเจ้า ให้คุณชายฉินได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของจางซิ่วเอ๋อ! เขาอาจจะรู้สึกดีกับเจ้าก็ได้!” หลีฮวาพูดพร้อมยิ้มตาหยี

จางอวี่หมินได้ยินว่าหลีฮวาอยากพบคุณชายฉิน นางก็ระแวงขึ้นมา “เรื่องนี้ข้าพูดให้คุณชายฉินฟังก็พอ เจ้าไปพบคุณชายฉินทำไม?”

หลีฮวาเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการความช่วยเหลือก็ไม่เป็นไร ข้าแค่อยากช่วยเจ้า ถ้าจางซิ่วเอ๋อพูดอะไรไว้ทำให้คุณชายฉินไม่เชื่อคำพูดเจ้าจะทำอย่างไร? ข้าเป็นเจ้าทุกข์จึงเป็นคนที่มีสิทธิ์พูดเรื่องนี้มากที่สุด!”

“จริงเหรอ?” จางอวี่หมินลังเล

หลีฮวาพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าไม่อยากเชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ข้าช่วยเจ้าก็เพราะเห็นว่าเราสองคนถูกชะตากัน และข้าเองก็ไม่ชอบจางซิ่วเอ๋อ! นางปั่นป่วนจนบ้านข้ามีสภาพแบบนี้ ทำไมถึงหันไปเจอคนดีอย่างคุณชายฉินได้?”

หลีฮวาจัดแจงเสื้อผ้าตัวเอง หันหลังพลางกล่าว “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการความช่วยเหลือ งั้นข้าไปล่ะ”

พูดเสร็จหลีฮวาทำท่าจะไป

จางอวี่หมินรีบคว้าแขนของหลีฮวาไว้อย่างร้อนใจ “เจ้าอย่าไปนะ!”

จางอวี่หมินเป็นพวกไม่รู้หนักเบา นางคว้าหลีฮวาแรงจนหลีฮวาเซ

ปกตินางกระชากแม่โจวและพี่น้องตระกูลจางจนชิน ตอนนี้จึงรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ และยิ่งไม่มีทางขอโทษหลีฮวา

หลีฮวาทรงตัวอย่างยากลำบากและมีสีหน้ามืดครึ้มลง

แต่สุดท้ายก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ นางเอ่ยยิ้ม ๆ “เจ้าทำอะไร?”

“ข้าต้องการความกระจ่าง เช่นนั้นเรามารอคุณชายฉินด้วยกันเถอะ!” จางอวี่หมินตัดสินใจในที่สุด

หลีฮวาพยักหน้า “ก็ดี อย่างไรเสียข้าก็ไม่มีอะไรทำ เราสองคนมารออยู่ที่นี่ก็แล้วกัน”

ทั้งคู่รอเป็นเวลานานมาก

รอจนหลีฮวายืนจนเจ็บขาไปหมด นางก็มองจางอวี่หมินพลางกล่าว “อวี่หมิน เจ้าไปดูที่บ้านผีสิงหน่อยไหม?”

จางอวี่หมินกระโดดถอยหลังหนึ่งก้าวทันที “ข้าไม่ไปหรอก”

“แต่คุณชายฉินก็อยู่ที่นั่นนะ จางซิ่วเอ๋อคงไม่หลอกผีหลอกเจ้าอะไรตอนนี้หรอก” หลีฮวาเอ่ย

จางอวี่หมินเคยเจอดีที่บ้านผีสิง นาทีนี้ไม่ว่าหลีฮวาจะพูดอะไร จางอวี่หมินก็ไม่ยอมตกลงเด็ดขาด

หลีฮวาเห็นว่าตัวเองเกลี้ยกล่อมจางอวี่หมินไม่สำเร็จจึงถอดใจ

จนถึงบัดนี้นางยังจำเงาดำ ๆ ที่นางเห็นวันนั้นได้ดี!

จางซิ่วเอ๋อไม่รู้หรอกว่ามีคนดักรออยู่ข้างนอก

ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อกำลังเหน็ดเหนื่อยกับการปรนนิบัติคุณชายฉิน!

นึกว่ากินข้าวเสร็จคุณชายฉินจะยอมไป แต่ตอนนี้ดูแล้วคุณชายฉินไม่คิดจะไปไหนเลยสักนิด!

ในสายตาจางซิ่วเอ๋อ คุณชายฉินก็คือหมาป่าคิดไม่ซื่อ

“คุณชายฉิน ท่านดูสิว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว” จางซิ่วเอ๋อชี้ท้องฟ้า ความหมายก็คือทำไมเขายังไม่ไสหัวไปอีก!

แต่คุณชายฉินทำท่าเหมือนฟังนัยยะของจางซิ่วเอ๋อไม่ออก เขายิ้มขึ้นพร้อมเอ่ย “บ้านเจ้าไม่กินมื้อค่ำกันเหรอ?”

ตอนที่คุณชายฉินมานั้นเป็นเวลาเที่ยง

ตอนนี้ค่ำแล้ว!

แต่ทุกคนกินข้าวเที่ยงกันแล้วจึงไม่ค่อยหิว แน่นอนว่าถ้าเป็นปกติจางซิ่วเอ๋อต้องกินมื้อค่ำแน่ แต่วันนี้เหรอ?

จางซิ่วเอ๋อถอนหายใจ “ท่านก็เห็นสภาพบ้านข้าแล้ว อย่าเอาแต่มองว่าบ้านของข้าดูใช้ได้เลย แต่นี่เป็นบ้านผีสิงเลื่องชื่อ ไม่มีใครอาศัยอยู่สักคน ข้าถึงได้มีที่ให้พักพิง!”

“แต่ถึงแม้ข้าจะมีที่พักพิง! ก็ไม่มีเสบียงเพียงพอที่จะกินหรอก…..”

“ข้าไม่กลัวท่านหัวเราะเยาะ ขอพูดความจริงกับท่านเลยแล้วกัน อาหารมื้อที่ท่านกินที่บ้านข้า เล่นเอาข้าต้องทนอดไปอีกสองวัน!” จางซิ่วเอ๋อพูดต่อ

นางไม่เชื่อว่าคุณชายฉินได้ยินแบบนี้แล้วจะยังหน้าด้านอยู่ที่นี่ได้ต่อ

คุณชายฉินมองจางซิ่วเอ๋อและยิ้มบาง ราวกับมองความคิดของจางซิ่วเอ๋อออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

แต่ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อไม่มีทีท่าจะหลบสายตา กลับจ้องคุณชายฉินกลับด้วยท่าทางแน่วแน่เป็นไงเป็นกัน

คุณชายฉินคลี่ยิ้ม “ในเมื่อชีวิตเจ้าแร้นแค้นถึงเพียงนี้ ทำไมไม่ขายสูตรเครื่องเทศให้ข้าเล่า? ขอแค่เจ้าขายเครื่องเทศสูตรลับให้ข้า…..ข้าช่วยให้เจ้าได้มีชีวิตที่ดีบัดเดี๋ยวนี้เลย!”

จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเย็น ๆ ในใจ ว่าแล้วว่าคุณชายฉินไม่ใช่คนดี!

เขาเป็นถึงคุณชายสูงศักดิ์ พุ่งเข้ามาในหมู่บ้านหลังเขาแบบนี้ไม่เท่าไหร่ แต่จะตื้ออยู่ที่นี่ไม่ยอมไปไหนเนี่ยนะ?

นางไม่คิดว่าตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดคุณชายฉินคนนี้หรอก ใช้นิ้วเท้าคิดยังรู้ว่าที่คุณชายฉินโผล่มาที่นี่ก็เพราะเรื่องสูตรเครื่องเทศลับ

ถึงแม้นางปฏิเสธคุณชายฉินไปแล้ว แต่คุณชายฉินกลับไม่คิดจะเลิกราง่าย ๆ!

จางซิ่วเอ๋อยิ้มแค่หน้าแต่ตาไม่ยิ้ม “คุณชายฉิน ข้ารู้ว่าท่านจิตใจเมตตาอยากจะเกื้อหนุนข้า แต่….เรื่องสูตรเครื่องเทศลับจะรีบร้อนไม่ได้”

“ท่านรอให้ข้าแต่งงานก่อนแล้วไปขอจากสามีข้าเอานะ” จางซิ่วเอ๋อหน้าตาแน่วแน่

“ชิ ถ้าเจ้าแต่งไม่ออกทั้งชาติ ชาตินี้เราก็อดได้สูตรเครื่องเทศลับน่ะสิ?” เด็กติดตามชุดเขียวพูดอย่างร้อนใจ

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ในเมื่อพวกท่านรีบนักก็จับตัวข้ามัดแล้วบีบบังคับให้พูดเลยสิ!”

คุณชายฉินยิ้มบาง “หรือเจ้าอยากให้ข้าใช้วิธีแบบนี้หรือ?”

จางซิ่วเอ๋อใจกระตุก คุณชายฉินคงไม่ได้คิดแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม? เมื่อครู่นางพูดแบบนั้นแค่เพราะอยากยั่วอารมณ์คุณชายฉิน ให้เขาล้มเลิกวิธีการนี้ไปซะ…..

แต่ตอนนี้ดูแล้วจิตใจของคุณชายฉินช่างยากจะคาดเดานัก ไม่ใช่ใครที่นางจะสร้างแรงกระทบได้

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกพ่ายแพ้

ในยุคโบราณนี้ ถึงนางจะไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่เรียกฟ้าเรียกฝนได้ แต่ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับคนประเภทไหนนางรับมือได้หมด แต่เมื่อเผชิญกับคุณชายฉิน…..

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกเหมือนตัวเองถูกบดขยี้เป็นผุยผง

ทันใดนั้นคุณชายฉินหัวเราะออกมา “เจ้าวางใจเถอะ ถึงข้าอยากทำธุรกิจกับเจ้า แต่คนอย่างข้าไม่เคยคิดใช้วิธีการต่ำช้า”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ไม่เคยใช้วิธีต่ำช้าอย่างไรหรือคะคุณชาย ขอน้องแต่งเป็นฮูหยินงี้หรือเปล่า?

ถ้าเป็นจริง นางสองคนนั้นเตรียมเป็นพญานกได้เลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)