ตอนที่ 150 : กล่าวเปิดงาน
สำหรับหวังเย่าแล้ว ยิ่งเขาได้กำไรเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ใต้หล้านี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์และกำไร ยิ่งได้เงินเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น หากไม่ได้กำไร งั้นคนอื่นก็จะด่าเราว่าโง่เอาได้
อันที่จริงแล้ว หวังเย่ามีความคิดหนึ่งที่ปิดบังเอาไว้ ชื่อหยวนจื่อได้บอกวิธีการใช้แร่ไฟกับเขา ซึ่งเขาจะพูดเรื่องนี้ในวันประมูล เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับผู้ร่วมประมูลเข้าไปอีก
สองวันผ่านไปในพริบตา
สมาคม, ตระกูล, กลุ่มคนและองค์กรมากมายรวมถึงฝ่ายกิจการต่าง ๆ ก็ได้ส่งตัวแทนมาเข้าร่วมในการประมูลครั้งนี้ ยังไงซะแร่ไฟนี้ก็คือแหล่งพลังงานไฟฟ้าของโลกนี้ในอนาคต ยิ่งประมูลมันได้เร็วเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งต่ำลง
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ประกาศว่าการประมูลจะเริ่มขึ้นในวันต่อไป
ผู้เข้าร่วมต่างก็พากันโล่งอก ยิ่งมีคนเข้าร่วมน้อยมากเท่าไหร่ แรงกดดันก็ยิ่งน้อยลงไปเท่านั้น
วันต่อมาผู้เข้าร่วมต่างก็มาถึงกันตั้งแต่เช้า พวกที่มาจากกลุ่มคนที่ร่ำรวยก็พาลูกน้องของตัวเองมาด้วย
หวังเย่าไม่เคยจัดการประมูลมาก่อน เขาไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และไม่คิดจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงเชิญหยู๋เหอเหว่ยจากโรงประมูลของเมืองหัวเซี่ยที่โด่งดังมาดูแลเรื่องนี้ให้เขา เขาเป็นชายผมขาววัย 50 ปี
หยู๋เหอเหว่ยเดินไปที่โต๊ะประมูลตามคำสั่งของหวังเย่า ก่อนจะกล่าวเปิดงานว่า “สวัสดีสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน” เขากระแอมไอออกมาเล็กน้อย “ผมเชื่อว่าทุกคนคงรู้จักผมดีแล้ว ดังนั้นคงไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวอะไรมากนัก ตัวผมมีแซ่ว่าหยู๋ ชื่อว่าเหอเหว่ย มาจากเมืองหัวเซี่ยเหมือนกับทุกคน คุณหวังเย่าได้เชิญผมมาดูแลการประมูลในครั้งนี้”
“สำหรับว่าหวังเย่าเป็นใครนั้น ผมเชื่อว่าทุกคนคงได้เจอเขามาแล้ว เขาคือผู้ตรวจสอบระดับ 1 ดาวที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองหัวเซี่ย และยังเป็นผู้ดูแลระดับสูงอีกด้วย สำหรับว่าสูงแค่ไหนนั้น ผมก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อนและไม่อาจจะอธิบายได้ แต่หวังเย่าได้ใช้ทักษะผู้ดูแลนี้วิวัฒนาการกิเลนไฟกลายพันธุ์ในมิติเทือกเขาหินโม่ จนบรรลุข้อตกลงและได้แร่ไฟนี้มา แม้แต่ลูกของกิเลนไฟก็ยังเคารพหวังเย่า พวกคุณคงเดาได้ว่าเขามีความสามารถแค่ไหน”
“ผมจะไม่พูดไร้สาระอีกต่อไป ครั้งนี้ผมมาเพื่อดูแลการประมูลที่ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ ถึงจะมีของเพียงอย่างเดียวในการประมูลซึ่งก็คือแร่ไฟ แต่แร่ไฟนี่ก็โดดเด่นจริง ๆ ”
“แร่ไฟพวกนี้ถูกขนออกมาโดยกิเลนไฟเอง มันอัดแน่นมาจากพลังของกิเลนไฟจนก่อตัวขึ้นเป็นแร่ไฟ ตามคุณภาพของมัน มันมีทั้งขั้นต้นและกลาง ส่วนแร่ไฟขั้นสูงนั้นกิเลนไฟได้เก็บเอาไว้ใช้เอง ดังนั้นการประมูลในครั้งนี้จึงมีแค่แร่ไฟขั้นต้นและกลางเท่านั้น”
หยู๋เหอเหว่ยเป็นผู้ดูแลการประมูลที่โด่งดังที่สุดในเมืองหัวเซีย จังหวะในการพูดไม่ได้เร็วรึช้านัก ราวกับว่ากำลังเล่านิทานให้ทุกคนฟัง แต่ทุกคนก็ไม่ได้ส่งเสียงขัดออกมาแต่อย่างใด
แม้ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่จะเคยเข้าร่วมการประมูลมาหลายครั้งหลายคราแล้ว แต่แร่ไฟนี้ก็ไม่ใช่สิ่งของทั่วไป พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง
หวังเย่านั่งอยู่ในห้องผู้เข้าร่วมประมูล เขามองไปที่หยู๋เหอเหว่ยที่พูดอยู่ โดยมีหลี่ว่านเฟิงและเฉี่ยนเจินเฉียนนั่งอยู่ข้าง ๆ
ที่นี่มีทหารเกือบพันคอยดูแล หากมีใครกล้าปล้นพวกเขา แน่นอนว่าหลี่ว่านเฟิงและเฉี่ยนเจินเฉียนจะต้องออกไปจัดการทันที
หยู๋เหอเหว่ยพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนคงจะมีคำถามว่าแร่ไฟนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง ? มา ผมจะสาธิตให้ทุกคนดูเอง”
เขาหยิบแร่ไฟขึ้นมาจากพื้น จากนั้นแร่ไฟก็ลุกไหม้ขึ้นมา ไฟนั้นลุกไหม้ขึ้นสูงกว่าครึ่งฟุตและร้อนแรงอย่างมาก
“พวกคุณคงเห็นแล้ว แร่ไฟขั้นต้นนี้มีพลังไฟที่สูงมาก มันสามารถเผาไหม้ได้ทั้งคืนก่อนจะดับลง แต่นี่ยังธรรมดา”
เขาหยิบตะกร้าไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยดินก่อนจะเทมันใส่แร่ไฟที่ลุกไหม้อยู่ ไม่นานมันก็ดับไป
“หากแร่ไฟเปียกมันจะสูญเสียพลังไฟไปบางส่วนและส่งผลต่ออายุการใช้งาน ดังนั้นผมไม่แนะนำให้ดับมันด้วยน้ำ”
“ตอนนี้พวกคุณได้เห็นแร่ไฟแล้ว พวกคุณคงคิดวิธีการใช้งานของมันออก ไม่ต้องเดาเลยว่ามันเป็นเชื้อเพลิงที่ดีสำหรับทหารรับจ้างเพื่อใช้ในป่า ตราบใดที่ใช้มันจุดไฟในถ้ำรึใช้ในตอนกลางคืน มันก็เพียงพอที่จะไล่สัตว์อสูรได้”
“นอกจากนี้แล้วแร่ไฟก็ยังให้พลังธาตุไฟด้วย มันสามารถเพิ่มพลังไฟในตัวและใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ แน่นอนว่านี่คือการใช้งานทั่วไป อันที่จริงแล้ววิธีการใช้งานมันเรียบง่าย หากมีความคิดคงคิดกันออก ผมคงไม่จำเป็นต้องสาธิต”
หยู๋เหอเหว่ยเห็นว่าผู้คนตื่นเต้นและมองดูแร่ไฟด้วยความสนใจ แร่ไฟนั้นสามารถใช้งานได้หลากหลาย มันใช้เป็นเชื้อเพลิงและยังเป็นทรัพยากรได้ รวมไปถึงเป็นพลังงานให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ประโยชน์ของมันมีมากมาย
พวกเขาอยากประมูลมันกลับไปให้ได้ เพราะยังไงซะแร่ไฟพวกนี้ก็เกิดขึ้นจากกิเลนไฟที่แผ่พลังออกมาถึง 3,000 ปีกว่าจะอัดแน่นแร่ไฟขึ้นมาได้ ถ้าประมูลกลับไปได้พวกเขาคงใช้งานมันได้นานมาก
แต่หยู๋เหอเหว่ยได้จิบชาและหัวเราะออกมา “ผมเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีความคิดของตัวเอง แต่บทบาทของแร่ไฟนั้นไม่ใช่มีแค่ที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ มันยังมีการใช้งานอีกอย่างเป็นประโยชน์มากอยู่”
“อะไรกัน ? มันใช้งานอะไรได้อีก ? ” ผู้เข้าร่วมประมูลต่างก็พากันแปลกใจยิ่งกว่าเก่า
คนอื่น ๆ พากันคิ้วขมวด ยิ่งมันใช้งานได้หลากหลายเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะมีราคาที่แพงขึ้นเท่านั้น พวกเขาแค่ต้องการแร่ไฟพวกนี้นำไปใช้กับสิ่งที่พวกเขาคิดไว้ อย่างนำไปเป็นเชื้อเพลิง, วัตถุดิบรึพลังงาน
หวังเย่ายิ้มออกมา วิธีการใช้งานสุดท้ายนี้ ชื่อหยวนจื่อเป็นคนบอกเขามา มีแค่ชื่อหยวนจื่อที่รู้วิธีการใช้งานนี้ คนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้
หยู๋เหอเหว่ยยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ใจเย็นกันก่อน ผมจะให้คนมาสาธิตวิธีการใช้งานมัน”
ตอนนั้นเองก็มีชายคนหนึ่งเดินขึ้นมา เขาหยิบแร่ไฟขั้นกลาง 1 ก้อนและแร่ไฟขั้นต้น 10 ก้อนมาวางไว้บนพื้นในรูปแบบที่พิเศษจนกลายเป็นค่ายกล
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น หยู๋เหอเหว่ยก็ได้เอาแร่ไฟจำนวนเท่ากันออกมาและวางเป็นรูปแบบค่ายกลไม่ห่างจากค่ายกลอันแรกนัก
“พวกคุณดูไว้ ปาฏิหาริย์กำลังจะเกิดขึ้น”
หยู๋เหอเหว่ยและชายอีกคนกัดนิ้วตัวเองก่อนจะหยดเลือดลงไปที่ค่ายกล จากนั้นค่ายกลที่หยู๋เหอเหว่ยยืนอยู่นั้นก็มีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมา พร้อมกับไฟที่ร้อนแรง
ตอนนั้นเองหยู๋เหอเหว่ยกลับหายตัวไปจากค่ายกลอันแรกที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้และไปปรากฏตัวขึ้นที่ค่ายกลอันที่สอง
“นี่มัน…” ตอนนั้นเองผู้เข้าร่วมประมูลทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นและหอบหายใจถี่ขึ้นมา