บทที่ 152: โผบิน

คนแบบไหนที่ควรค่าแก่การถูกมองว่าสวยงามและสูงส่ง?

มันคงยากที่จะให้คำตอบสำหรับคำถามนี้ เพราะคงจะต้องถามกลับไปก่อนว่าแนวคิดของ “ความงาม” และ “ความสูงส่ง” นั้นหมายถึงอะไร

… แน่นอนว่าโรเอลไม่ใช่คนที่จะมาวิเคราะห์คำถามดังกล่าวในเชิงปรัชญา แต่เด็กชายก็คิดว่าอย่างน้อย ๆ เขาก็ยังมีศีลธรรมของคนธรรมดาอยู่ในใจ

มารดาที่คู่ควรกับความงามก็คือคนที่มองดูลูก ๆ ของเธอด้วยความรัก มารดาที่คู่ควรกับคำว่าสูงส่งก็คือผู้ที่มีคุณธรรมอันยิ่งใหญ่และมักคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของลูก ๆ เสมอ

ใบหน้าอันสวยงามที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างประณีต และความสูงส่งที่ได้จากการเหยียบย่ำผู้อื่น สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ฟองอากาศลวงตา ที่จะหายไปเมื่อสายลมแห่งยุคใหม่มาถึง ความเท็จเหล่านั้นจะถูกคลี่คลาย เผยให้เห็นความตื้นเขินทั้งหมด

เมื่อมองไปยังชาร์ล็อต โรเอลก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเขาถึงรู้สึกขุ่นเคืองแทนเธอ

อ่า เข้าใจแล้ว ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะคล้ายคลึงกันถึงขนาดนี้

เด็กชายเผยรอยยิ้มขึ้นมาพลางเหลือบมองแสงสว่างในมือตน

โรเอล แอสคาร์ด นึกถึงชีวิตในอีกตัวตนของเขา แม้ว่ามันจะเลือนลาง แต่เขาก็นึกถึงอดีตอันปวดร้าวและเปราะบางของทรราชตัวร้ายคนนั้นได้ มันถูกซ่อนอยู่ที่ส่วนลึกในจิตใจของเขา เกือบจะเอื้อมไม่ถึง แต่ก็ไม่สามารถหลบไปได้ทั้งหมด

อีกตัวตนหนึ่งของเขาในอดีตนั้นเป็นเด็กที่ทุกข์ทรมานและสับสนจากการเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก มันเป็นความเจ็บปวดที่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ วัยเด็กของโรเอลมาพร้อมกับความปรารถนาอย่างแรงกล้าในครอบครัวอันอบอุ่นและโหยหาความรัก ทว่าความปรารถนาของเขากลับไม่เคยได้เป็นจริง ซึ่งส่งผลให้เขากลายเป็นตัวร้ายในที่สุด

โรเอล และ ชาร์ล็อต ค่อนข้างคล้ายกันในแง่ที่ว่าพวกเขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อถึงช่วงยามราตรีอันมืดมิด พวกเขาก็มักจะถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังในห้องของตน มีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้าง

นี่ทำให้โรเอลนึกสงสารชาร์ล็อต และตัวตนในวัยเด็กของเขาด้วยพร้อม ๆ กัน

ทว่าสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองก็คือแม่ของชาร์ล็อตยังมีชีวิตอยู่

แม้ว่าการกระทำของอเดลิเซียจะไม่ได้ทำร้ายชาร์ล็อตในแง่ของบาดแผลทางร่างกาย แต่ทัศนคติที่เด็กสาวในตอนนี้มีทำให้โรเอลรู้สึกกังวลใจ และหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขารู้สึกราวกับว่าอเดลิเซียได้โยนบางสิ่งบางอย่างที่เขาต้องการมาตลอดแต่ไม่สามารถหามาได้ลงบนพื้น แล้วเหยียบย่ำมันอย่างรุนแรง

“มีคนเคยบอกฉันว่าดอกกุหลาบที่บานในสภาวะอันเลวร้ายมักจะสวยงามยิ่งขึ้น ชาร์ล็อต ความงามของเธอในสายตาของฉันเปรียบได้กับดอกกุหลาบสีทอง”

ท่ามกลางแสงระยิบระยับ โรเอลมองเข้าไปในดวงตาของชาร์ล็อต นัยน์ตาสีทองของเขาเปล่งประกายออกมาในความมืด ทำให้เขาดูสง่างามแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความลึกลับ พลังเวทสีแดงเริ่มแผ่ออกมาทั่วร่างกายของเขา

ชาร์ล็อตจ้องมองกลับไปที่เด็กชาย ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงความเป็นมิตรจากเขา

“!”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ใบหน้าอันซีดขาวของชาร์ล็อตก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

โรเอลยกมือขึ้นด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน พลังเวทสีแดงเข้มเริ่มหมุนวนเข้าไปในกล่องฟักไข่ ทำให้เกิดเสียงดังก้องกังวาน จนกระจกไม่สามารถรับแรงกดดันที่เกิดขึ้นและแตกออกมา

แกร๊ง!

กล่องฟักไข่แตกออกมาด้วยเสียงดังลั่น พร้อมประกายแสงมากมายที่ทะลักออกมาจากมือของโรเอล

ขณะเดียวกันบนแท่นสังเกตการณ์อีกแห่งที่อยู่ห่างไกลออกไป แสงสว่างก็เปล่งออกมาท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่าขุนนางของจักรวรรดิออสทีน มันเป็นผีเสื้อประกายแสงราตรีที่มีปีกสีเขียวสดใสสวยงาม ส่งแสงเรืองรองส่องสว่างไปทั่วร่าง ทำให้ขุนนางเลือดบริสุทธิ์แห่งจักรวรรดิออสทีนเริ่มร้องเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน

เห็นได้ชัดว่านี่ทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอเดลิเซีย

ผีเสื้อที่สวยที่สุดได้ฟักออกมาจากกล่องของเหล่าขุนนางเลือดบริสุทธิ์ นี่ถือเป็นประเพณีที่ตระกูลมิลตันสืบทอดกันมานานหลายปี มันบ่งบอกถึงความสูงส่งเหนือกว่าผู้อื่นของพวกเขา ซึ่งในปีนี้ผีเสื้อประกายแสงราตรีได้ถูกฟักออกมาโดยใช้พลังเวทจากองค์ชายของจักรวรรดิออสทีน ทำให้มันเป็นผีเสื้อประกายแสงราตรีที่สวยงามและเปล่งประกายมากกว่าที่เคย

ทันทีที่ออกมาจากไข่ ปีกของมันก็สยายออกต่อหน้าฝูงชนที่กำลังโห่ร้องยินดี

ไม่มีใครสงสัยในความยิ่งใหญ่ของผีเสื้อตัวนี้ มันเป็นผีเสื้อประกายแสงราตรีที่งดงามที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหล่าขุนนางเลือดบริสุทธิ์เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิออสทีนอันยิ่งใหญ่ในตัวมัน

บรรยากาศถูกยกระดับให้ครื้นเครงขึ้นไปอีก ทว่าในไม่ช้า ฝูงชนก็เริ่มตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไป

“เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมมันถึงไม่บินออกไปสักทีล่ะ?”

“แปลกจริง ๆ ไม่มีผีเสื้อตัวไหนออกบินเลยสักตัว”

เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เหล่าขุนนางของจักรวรรดิออสทีนก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหล่านายน้อยและนายหญิงจากตระกูลผู้สูงศักดิ์ต่างเริ่มกระซิบกัน ในขณะที่แขกคนอื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไป ต่างเฝ้าดูผีเสื้อที่บินวนเวียนอยู่เหนือหัวของพวกเขาโดยที่ยังไม่รู้ถึงความผิดปกติ

ในไม่ช้า ทุกคนก็สังเกตเห็นว่ามีผีเสื้อตัวหนึ่งที่ยังไม่ฟักออกมา

ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เด็กชายผมดำที่ยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของลานสังเกตการณ์

โรเอลยังคงส่งพลังเวทของตนลงไปในกล่องฟักไข่ การที่เขาได้เห็นผีเสื้อประกายแสงราตรีที่ฟักออกมาโดยเหล่าขุนนางเลือดบริสุทธิ์แห่งจักรวรรดิออสทีน ทำให้เด็กชายยอมที่จะทุ่มสุดตัว

เขาไม่ได้ทำสิ่งนี้เพียงเพราะต้องการระบายความคับข้องใจของตัวเองที่มีต่ออเดลิเซีย แต่ที่โรเอลต้องการจริง ๆ ก็คือการให้ของขวัญแก่ชาร์ล็อต เขาต้องการให้ผีเสื้อที่ฟักออกมาทั้งแข็งแรงและงดงามเหมือนเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา การเกิดของมันจะต้องถือเป็นการจุติของนางพญาตัวใหม่แห่งเหล่าผีเสื้อประกายแสงราตรี ในป่าลูว์มัน

มันจะต้องยิ่งใหญ่ดั่งราชา!

โรเอลเพ่งความสนใจไปที่กล่องในมือของตนมากเกินไป จนลืมไปแล้วว่าที่อีกฟากหนึ่งของโลกต่างมิติ โครงกระดูกขนาดมหึมานั้นกำลังมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อยู่ด้วย ดวงตาของกรันด้าเปล่งประกายระหว่างที่เขากำลังรอคอยปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นจากในทะเลทรายแห่งกาลเวลา

“สำเร็จแล้ว”

หลายวินาทีต่อมา โรเอลได้พึมพำออกมาเบา ๆ จากนั้น เสียงเบา ๆ ก็ดังขึ้นมาพร้อมกับแสงสว่างที่เปล่งออกมาอย่างเจิดจ้า เติมเต็มลานกว้างทั้งลานด้วยแสงสว่าง กล่องฟักไข่แตกออกพร้อมกับเปลือกไข่ข้างในที่ตกลงบนพื้นกลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย

จากนั้นผีเสื้อประกายแสงราตรีทั้งหมดในบริเวณนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหว

จุดเรืองแสงจำนวนนับไม่ถ้วนหยุดลงชั่วขณะ ก่อนจะพุ่งไปที่ลานสังเกตการณ์ ชวนให้นึกถึงทหารผู้ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการของพวกเขา ผีเสื้อสีเขียวที่ฟักโดยเหล่าขุนนางเลือดบริสุทธิ์เองก็เข้ามาบินโคจรรอบแสงที่เปล่งออกมา ราวกับนายพลที่เข้ามาปกป้องราชาของมัน

ตอนนี้ทั้งชาร์ล็อตและโรเอลต่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่าง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้สนใจ เด็กสาวจ้องไปยังมือที่เหยียดออกมาของโรเอลอย่างงุนงง ทันใดนั้นผีเสื้อสีทองก็คลี่ปีกที่เป็นประกายสีทองของมันออกมา เผยให้เห็นสัญลักษณ์ลวดลายดอกกุหลาบสีทอง

“ทะยานออกไปเลย”

โรเอลกล่าวคำอวยพรแก่ผีเสื้อตัวน้อย

ราวกับตอบสนองต่อถ้อยคำของเด็กชาย ผีเสื้อสีทองโผบินขึ้นไปในอากาศ บินวนรอบเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงหลายครั้ง ก่อนที่จะเกาะบนไหล่ของเธออย่างใกล้ชิดชั่วครู่หนึ่ง แล้วจึงบินพุ่งออกไปในความมืดมิดยามค่ำคืน

แสงอันทรงพลังที่เปล่งออกมาทำให้ฝูงชนต่างตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน มันงดงามราวกับดาวตก ผีเสื้อประกายแสงราตรีจำนวนนับไม่ถ้วนได้บินตามผีเสื้อสีทองออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดแสงล่องลอยไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี ดั่งดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า

“มันคือราชาผีเสื้อ!”

“ปฏิกิริยาพลังเวทนั่น… ผีเสื้อตัวนั้นเป็นสัตว์อสูรงั้นเหรอ? มันเป็นสัตว์กลายพันธุ์!”

“หา? เรื่องแบบนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ไม่ใช่เหรอ?”

คำกล่าวของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในหมู่ฝูงชน เหล่าคู่รักต่างแหงนมองท้องฟ้าพลางพูดคุยถึงภาพอันงดงามที่พวกเขาเพิ่งได้เห็น

ซึ่งผู้จัดงานเองก็ได้ใช้โอกาสนี้ ประกาศออกมาอย่างยิ่งใหญ่

“ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่าน ในคืนนี้ผีเสื้อประกายแสงราตรีกลายพันธุ์ได้ถูกฟักออกมาแล้ว นี่คือปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากความรักและโชคลาภของทุก ๆ คน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจดจำไปอีกหลายร้อยปีต่อจากนี้!”

คำพูดเหล่านั้นได้กระตุ้นอารมณ์ของทุกคนที่อยู่ที่นั่น ทำให้เกิดความครึกครื้นขึ้นในบรรยากาศ เหล่าคู่รักหนุ่มสาวต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เฉลิมฉลองให้กับโอกาสอันสำคัญยิ่งในวันนี้

ขณะเดียวกัน โรเอลก็ตกอยู่ในห้วงความคิด

สัตว์กลายพันธุ์งั้นเหรอ? ไม่มีทางน่า ไข่นั่นมันธรรมดามากไม่ใช่เหรอ? ทำไม… จู่ ๆ ถึงกลายเป็นสัตว์อสูรไปได้กัน?

เป็นไปได้ไหมว่าหากเราใส่พลังเวทเข้าไปในไข่ของผีเสื้อประกายแสงราตรีมากพอ มันก็อาจกลายเป็นสัตว์อสูรกลายพันธุ์ได้?

โรเอลทั้งสับสนและงุนงง ทว่าก่อนที่เด็กชายจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้จริง ๆ พิธีกรก็นำฝูงชนเข้ามาหาเขาพร้อมเครื่องขยายเสียงในมือ

เมื่อผู้จัดงานเห็นท่าทางของโรเอลที่กำลังก้มหน้าครุ่นคิด และชาร์ล็อตที่แทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรอีกเลย ด้วยประสบการณ์หลายปีในการรับมือกับขุนนาง เขาจึงเลือกที่จะไม่ดำเนินกิจกรรมต่อไปในทันที แต่ตัดสินใจถามถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างระมัดระวัง

“ท่านแขกผู้มีเกียรติ ให้กระผมได้ขอบคุณสำหรับการแสดงภาพอันน่าประทับใจนี้แก่พวกเราเถอะ กระผมพอจะถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับสุภาพสตรีผู้นั้นได้รึเปล่า?”

“หืม? เอ่อ พวกเรามาจาก…”

“คู่… พวกเราเป็นคู่หมั้นกัน”

“หืม?”

ชาร์ล็อตพูดขึ้นในทันที ทำให้เด็กชายต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ พวกเขาทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกันมาหลายวันแล้ว โรเอลจึงคิดว่าตนเองรู้จักเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นอย่างดีแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอกลับดูแปลกไปเล็กน้อย

ใบหน้าของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความเขินอาย เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ ด้วยอารมณ์ที่กำลังแปรปรวนในแววตา ใบหน้าอันเย็นชาและเฉยเมยตามปกติของเด็กสาวเปลี่ยนไปเป็นสีแดงระเรื่อโดยสมบูรณ์ ร่างกายเกร็งขึ้นจนแข็งทื่อ มือของเธอจับชายกระโปรงแน่นเสียจนข้อนิ้วเริ่มซีดขึ้นมาเล็กน้อย

ผมสีน้ำตาลแดงของชาร์ล็อตพลิ้วไหวอย่างสวยงามพร้อมกับสายลมยามค่ำคืน เสื้อคลุมสีแดงของเธอก็ดูเจิดจรัสยิ่งขึ้นด้วยแสงสลัวจากผีเสื้อประกายแสงราตรีที่กระจายอยู่เบื้องหลัง

ขณะนี้ชาร์ล็อตมีเสน่ห์อันน่าสะพรึงกลัว น่าดึงดูดอย่างถึงที่สุด ทำให้เขาไม่สามารถต้านทานเธอได้ เพียงแค่เหลือบมอง มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของโรเอลเต้นระรัว

“เข้าใจแล้ว พวกท่านทั้งสองเป็นคู่หมั้นกันสินะ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถดำเนินพิธีจูบแห่งโชคชะตาตามแผนที่วางไว้ได้โดยไม่มีปัญหา!”

ผู้จัดงานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินคำพูดของชาร์ล็อต และบรรยากาศก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง โรเอลกะพริบตาด้วยความสับสน หลังจากที่เขาได้สอบถามอย่างรวดเร็ว เด็กชายก็พบว่ามีตำนานเสริมบางอย่างเกี่ยวกับผีเสื้อประกายแสงราตรี

ฝ่ายหญิงจะต้องคืนของขวัญจากสุภาพบุรุษด้วยการจุมพิตเบา ๆ เป็นดั่งสัญลักษณ์ของพรและความรักที่มีให้กัน ว่ากันว่าราชินีแห่งอาณาจักรโรนาได้ตอบแทนจักรพรรดิชาลส์ที่ 2 ในลักษณะดังกล่าว ทำให้ชีวิตของเขาเปี่ยมไปด้วยโชคลาภ เป็นผลให้จักรวรรดิออสทีนเติบโตอย่างรวดเร็วภายใต้การปกครองของเขา และเขาก็ได้จากไปอย่างสงบด้วยวัยชรา

แย่แล้วสิ เราไม่ได้ตั้งใจจะให้มันไปถึงขั้นนี้

เมื่อได้ยินเกี่ยวกับประเพณีนี้ ใบหน้าของโรเอลก็แข็งทื่อไปในทันที เด็กชายไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ชาร์ล็อตพาเขามาที่นี่เพียงเพื่อให้เขาเป็นตัวช่วยเสริมเท่านั้น เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องลำบากยุ่งยาก เธอคงไม่คิดว่าเขาจะฟักผีเสื้อประกายแสงราตรีที่สว่างที่สุดออกมา และถูกบังคับให้จูบกันแบบนี้แน่

“ม…ไม่จำเป็นหรอก ฉันซาบซึ้งจริง ๆ ที่คุณช่วยเล่าตำนานให้เราฟัง แต่เราไม่ค่อยเชื่อในเรื่องอะไรแบบนั้น ฮ่าๆๆๆ”

โรเอลโบกมือให้ชายวัยกลางคนโดยหวังว่าจะสามารถปฏิเสธตำนานดังกล่าวได้ ในฐานะที่เป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่อยากบังคับให้ชาร์ล็อตต้องมาจูบตัวเอง ทว่าเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงตรงหน้าเขากลับรู้สึกลำบากใจเมื่อได้ยินคำพูดของโรเอล

ถ…ถ้าแค่จูบล่ะก็…

“อย่าได้ดูถูกโชคชะตาเชียว… น…นี่ถือว่าเป็นการตอบแทนเท่านั้นแหละ”

ชาร์ล็อตสูดหายใจเข้าลึก ๆ เบื้องหน้าโรเอลที่กำลังตื่นตกใจ เธอเริ่มเดินเข้าไปใกล้เขาขึ้นเรื่อย ๆ มองที่ริมฝีปากของเด็กชาย ก่อนจะลังเลเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดเธอก็มอบจุมพิตลงเบา ๆ ที่แก้มขวาของเขา

(แต้มความสนใจ +10,000)

ในที่สุดหลังจากผ่านมาเป็นเวลากว่าสิบวัน จังหวะการไหลเวียนของพลังเวทอันคุ้นเคยก็เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง