บทที่ 153: มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 153: มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น

ในหัวของโรเอลว่างเปล่าในทันทีที่ริมฝีปากของชาร์ล็อตสัมผัสเข้ากับแก้มของเขา เด็กชายไม่อาจปฏิเสธจุมพิตของชาร์ล็อตได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเสน่ห์อันเหลือล้นของเธอ แต่เป็นเพราะจุมพิตครั้งนี้เปี่ยมไปด้วยความจริงใจและคำขอบคุณของเด็กสาว

มันถือเป็นการจุมพิตเพื่อพรและโชคลาภโดยแท้จริง เป็นการตอบแทนจากสตรีที่มีต่อชายผู้นำผีเสื้อแสนสวยมาให้แก่เธอ ช่างเป็นพิธีอันเหมาะสม สง่างาม และคงจะไม่สมควรเท่าไหร่หากเขาจะปฏิเสธมัน

โรเอลไม่รู้ว่าชาร์ล็อตต้องใช้ความกล้าหาญมากน้อยเพียงใดเพื่อทำพิธีนี้ให้สำเร็จ แต่อย่างน้อย ๆ เขาก็มั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะทำเช่นนี้

ทว่าโดยที่ทั้งคู่ไม่คาดคิด จูบนี้ได้ทำให้เกิดการสั่นพ้องก้องกังวานในพลังทางสายเลือดของพวกเขาอีกครั้ง

ภาพหลายภาพแวบผ่านดวงตาของโรเอล พวกมันมีมากมายเสียจนเขาจำไม่ได้ทั้งหมด เสียงต่าง ๆ หายไปราวกับว่าเขาถูกนำตัวหายย้อนเวลากลับไปหลายศตวรรษ

ชาย หญิงคู่​หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของโรเอล ฝ่ายหญิงมีรูปร่างสูงและผมสีน้ำตาลแดง ในขณะที่ฝ่ายชายมีใบหน้าอันเคร่งขรึม มันเป็นชุดภาพความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาทั้งสอง ภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในช่วงสงคราม ชีวิตประจำวัน การสนทนาเบา ๆ สบาย ๆ การพูดกับใครบางคนที่มีสีหน้าเคร่งขรึม และสุดท้ายก็คือจูบลาระหว่างพวกเขาทั้งสอง

เดี๋ยวนะนี่มันหรือว่า …

เมื่อมองไปทางหญิงสาวที่โบกมือลาชายที่เธอเพิ่งจูบไป โรเอลก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที

เธอดูเหมือนชาร์ล็อตมาก แต่ก็ไม่ใช่เธอ นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่…

ระหว่างที่โรเอลกำลังสับสนเกี่ยวกับความคล้ายคลึงระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับชาร์ล็อต ผู้ชายในนิมิตก็หันกลับมา ดวงตาของเขาจ้องมาราวกับมองผ่านมิติเวลามาเพื่อสบตาของโรเอล ทำให้เด็กชายได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเขาชัด ๆ เป็นครั้งแรก

นั่นคือเขาสินะ!

ความตกตะลึงซัดเข้ามาใส่หัวใจของโรเอล แต่มันก็ทำให้เขาก็รู้สึกราวกับได้รู้แจ้ง ภาพนิมิตสิ้นสุดลงในทันที จากนั้นเสียงโห่ร้องยินดีก็กลับขึ้นมาอย่างช้า ๆ ดึงเขากลับสู่ความเป็นจริงในปัจจุบัน

“ไชโย!!!”

เสียงโห่ร้องยินดีดังไปทั่วทุกที่ แม้แต่ลานสังเกตการณ์ของพื้นที่คนโสดก็ยังเต็มไปด้วยฝูงชนจำนวนมากที่กำลังเฝ้าดูความโกลาหลอย่างตื่นเต้น ตามคำกล่าวที่ว่า ‘ความรักอยู่เหนือขอบเขต’ การเฉลิมฉลองอันน่ายินดีนี้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากที่ไหนก็ตาม

“โรเอล นิมิตก่อนหน้านี้มันคือ…”

“ใช่ มันค่อนข้างสับสนสำหรับฉันเหมือนกัน เพราะงั้นขอเวลาให้ฉันสงบสติอารมณ์ ลองคิดเกี่ยวกับมันก่อน”

คู่หูที่เพิ่งได้จูบกัน รู้สึกงุนงงกับข้อมูลที่ได้รับมามากเกิน อย่างไรก็ตามฝูงชนกลับตีความปฏิกิริยาของพวกเขาแตกต่างออกไป

“ได้โปรดปรบมือให้กับ การแสดงแห่งความรักที่แท้จริงระหว่างคู่รักคู่นี้ โอ้เทพีเซียผู้ยิ่งใหญ่ ขอให้ความรักของพวกเขาได้รับพรจากโชคชะตา!”

“โอ้ออออ!!!”

เสียงเชียร์ดังก้องมาจากฝูงชนขณะที่บรรยากาศครึกครื้นไปสู่จุดสูงสุดใหม่ พื้นที่คนโสดเริ่มส่งเสียงดัง และคู่รักในพื้นที่คู่รักเองก็เริ่มหน้ามืดตามัวกันอีกครั้ง มีเพียงอารมณ์ของโรเอล และชาร์ล็อต เท่านั้นที่ไม่ตรงกับบรรยากาศอันรื่นเริง พวกเขาถูกทิ้งให้อยู่ในห้วงความคิดลึก ๆ รายล้อมไปด้วยความสับสนวุ่นวาย

ทันใดนั้นผู้จัดงานก็พูดประโยคที่ทำให้ทั้งคู่ตกใจจนได้สติกลับมาอีกครั้ง

“ขอเชิญพวกท่านทั้งสองคนไปยังห้องพักคู่ เพื่อพักผ่อนขอรับ”

“อืม… หือ?”

โรเอลหันศีรษะด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นรอยยิ้มอันลึกซึ้งที่แฝงไปด้วยความหมายของผู้จัดงานวัยกลางคน

“ขอให้เป็นค่ำคืนที่พวกท่านลืมไม่ลงขอรับ”

ตระกูลมิลตันพิถีพิถันในการให้บริการมาก อาจจะเป็นเพราะพวกเขาได้เรียนรู้จากสมาคมพ่อค้าโซโรฟยามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาในฐานะหุ้นส่วน แต่ไม่ว่าจะในกรณีใด เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความสามารถพิเศษในการสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

ประการหนึ่ง เทศกาลผีเสื้อประกายแสงราตรีอันโด่งดัง ไม่ได้เป็นประเพณีของจักรวรรดิออสทีนดั้งเดิมไปซะทั้งหมด เนื่องจากตระกูลมิลตันได้เสริมกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ทำให้เทศกาลนี้เติบโตขึ้นในทุก ๆ ปีที่ผ่านไป และสร้างชื่อเสียงไปทั่วทั้งทวีปเซีย

‘ห้องพักคู่’ ที่ผู้จัดงานพูดถึงเองก็เป็นผลผลิตจากแนวคิดทางธุรกิจของตระกูลมิลตัน โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นห้องที่ตั้งอยู่ตรงปลายสุดของภูเขา ซึ่งเป็นห้องพักระดับสูงสุดของตำหนักลูว์มัน ซึ่งมีทัศนียภาพอันสวยงามที่สุด ห้องนี้มีขนาดใกล้เคียงกับห้องพักประธานาธิบดีในอดีตชาติของโรเอล ส่วนในแง่ของความหรูหรายิ่งใหญ่นั้นตำหนักนี้เทียบได้กับพระราชวังเลยทีเดียว

“ห้องพัก” นี้มักจะเป็นห้องเฉพาะสำหรับกลุ่มขุนนางเลือดบริสุทธิ์ของจักรวรรดิออสทีน แต่ในคืนเทศกาลผีเสื้อประกายแสงราตรี ห้องนี้จะถูกเปิดให้คู่รักที่ฟักไข่ผีเสื้อที่สว่างที่สุดออกมาได้เป็นพักผ่อน

คู่รักที่ได้รับพรจากฝูงชนในห้องอันหรูหรา พร้อมทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันตระการตา ไม่ต้องใช้หัวคิดก็สามารถเข้าใจว่า พวกเขาส่วนใหญ่จะทำอะไรกันที่นี่

น่าเสียดายที่ ‘คู่รัก’ ที่ได้รับเลือกในครั้งนี้ ไม่ได้ซาบซึ้งถึงความสำคัญของห้องนี้เลยสักนิด

“เจ้า… เจ้าไม่ได้จงใจจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย?”

“ไม่แน่นอน! เธอก็อยู่ที่นั่นด้วยไม่ใช่เหรอ! เธอควรจะปฏิเสธห้องพักนี่สิ!”

“ข้าจะปฏิเสธมันได้ยังไงเล่า? เจ้าก็เห็นบรรยากาศตอนนั้นแล้วไม่ใช่รึไง!”

บนเตียงขนาดใหญ่ในห้องพักสำหรับคู่รัก เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงกำลังกอดหมอนแน่น ซ่อนศีรษะของเธอไว้ครึ่งหนึ่งพลางจ้องมองไปที่เด็กชายผมดำ ซึ่งพยายามอธิบายตัวเองอย่างกระวนกระวาย มีร่องรอยของความกลัวอยู่ในดวงตาของเธอ ทว่ากลับมีแววตาแห่งความคาดหวังแฝงอยู่เล็กน้อยด้วยเช่นกัน

ชาร์ล็อตสับสนอย่างมากจนเธอไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้อีกต่อไป นับจากช่วงเวลาที่โรเอลมอบผีเสื้อให้กับเธอ เด็กสาวก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และนั่นทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ

โรเอลเองก็เหมือนกัน

บ้าจริง ทำไมยัยนี่ถึงได้น่ารักขนาดนี้กัน

โรเอลมองชาร์ล็อตที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง เด็กสาวแอบส่งสายตาให้เขาเป็นครั้งคราว ขณะที่กำลังซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหมอนที่กอดไว้ในอ้อมแขน ความเขินอายของเธอตัดกับชุดเดรสสีแดงที่ใส่อยู่ ทำให้ชาร์ล็อตดูเย้ายวนอย่างไม่น่าเชื่อ รูปลักษณ์ปัจจุบันของเธอกำลังกัดแทะหัวใจของโรเอลไปเรื่อย ๆ

“จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ ดูเหมือนแม่ของเธอจะจำเธอไม่ได้นะ”

“ไม่แปลกหรอก นี่มันก็ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน ข้ามีอายุเพียงแค่ 7 ขวบ เทียบกับตอนนั้นแล้วรูปร่างหน้าตาของข้าก็เปลี่ยนไปมาก อีกอย่างข้าเองก็ไม่ได้ดูคล้ายกับเธอเลยด้วย”

“ฉันก็ว่าอย่างนั้น…”

“… ระหว่างข้ากับเธอคนนั้น เจ้าคิดว่าใครสวยกว่ากัน?”

“หา?”

คำถามนั้นมาหาโรเอลที่กำลังหาวได้ครึ่งทางโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เด็กชายมองไปที่ชาร์ล็อต ซึ่งกำลังซ่อนใบหน้าของเธอเอาไว้อย่างเขินอาย พลางกะพริบ​ตาด้วยความสับสน

“ที่ถามแบบนั้นหมายความว่ายังไงเนี่ย?”

“ต..ตอบมาเถอะน่า!”

“แน่นอนว่าต้องเป็นเธอสิ อเดลิเซียจะไปเทียบกับเธอได้ยังไง?”

โรเอลมองดูคู่หมั้นของเขา ซึ่งจู่ ๆ ก็แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวด้วยเหตุผลบางอย่าง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูก พูดกันตามตรงแล้ว อเดลิเซียมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ราวกับมีอายุเพียงราว ๆ ยี่สิบปี แต่โรเอลก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอในฐานะหญิงชรา นอกจากนี้เธอก็ยังมีจิตใจอันน่าเกลียดด้วยเช่นกัน

“ฮึ่ม อย่างน้อย ๆ เจ้าก็รู้จักวิธีพูดเอาใจคนเหมือนกันนี่”

ชาร์ล็อตดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของโรเอล ด้านหลังหมอนมุมริมฝีปากของเด็กสาวขดขึ้นขณะที่ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความปิติยินดี ชั่วพริบตานั้นโรเอลรู้สึกราวกับว่าเขาเห็นหางของแมวขดอยู่ข้าง ๆ เธออย่างมีความสุข

เด็กชายผู้คลั่งไคล้แมวกะพริบ​ตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดความคิดนั้นออกจากหัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาร์ล็อตรู้สึกสับสนเล็กน้อยกับปฏิกิริยาที่ผิดปกติของโรเอล

ทั้งสองคนเริ่มสงบลงอย่างช้า ๆ ทำให้พวกเขาเริ่มกลับมาสนใจในเหตุการณ์นิมิตที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

“เอาล่ะ ก่อนหน้านี้ที่ข้าจูบเจ้า เจ้าก็ได้เห็นเหมือนกันใช่ไหม?”

“… แน่นอน”

โรเอลตอบเด็กสาวขี้อายด้วยการพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหวนนึกถึงภาพนิมิตที่ได้เห็น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงพูดต่อ

“ฉันรู้แล้วว่าใครคือ ‘ผู้ปกครองเขตการปกครอง’ ”