ตอนที่ 153 : 52,600 ล้าน
“2,000 ล้าน” เมื่อเห็นราคาที่เพิ่มขึ้นครั้งละ 100 ล้านเครดิต ซ่งเสี่ยวหลงก็อดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายใจ เขาร้อนใจและอยากจะทดสอบใช้มัน หากสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ขึ้นมาได้ งั้นมนุษย์ก็จะมีแผนการตอบโต้สัตว์อสูร สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไปทันที
เมื่อคิดแบบนั้นซ่งเสี่ยวหลงก็มองไปรอบ ๆ และส่งสายตาให้ผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ไว้หน้าเขาเพราะเห็นแก่มวลมนุษย์
โชคดีที่มีไม่กี่คนที่เข้าร่วมการประมูล สมาคมและตระกูลส่วนมากก็แอบดูท่าทีของกันและกันอยู่ ดังนั้นคนที่มีเงินมากพอในการซื้อโครงสร้างค่ายกลจึงมีไม่มากนัก
ในสายตาของคนอื่น ๆ อย่างฮวงกู่หยวนนั้น ที่เขาไม่คิดจะประมูลต่อก็ไม่ใช่เพื่อไว้หน้าซ่งเสี่ยวหลงแต่อย่างใด แต่เป็นการไว้หน้าสมาคมชาติสงบสุข เพราะตลอดหลายปีมานี้สมาคมชาติสงบสุขนั้นได้สร้างผลงานขึ้นมาไว้มากมาย
สุดท้ายโครงสร้างค่ายกลนี้ก็ตกอยู่ที่ราคา 2,000 ล้าน
“แค่ขอบคุณทุกคนคงไม่พอ การประมูลวันนี้จบลงแล้ว การประมูลครั้งต่อไปจะเริ่มขึ้นในอีก 3 วันข้างหน้า หากพวกคุณต้องการแร่ไฟก็เชิญเข้าร่วมการประมูลครั้งต่อไป” หยู๋เหอเหว่ยหัวเราะออกมา
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็พากันแยกย้ายกลับไป คนที่ประมูลแร่ไฟได้ต่างก็ส่งคนของตัวเองไปหาพนักงาน ภายใต้การนำทางของทหารจากกลุ่มมือเหล็กและกลุ่มธนู พวกเขาก็ได้ไปขนแร่ไฟของตัวเองกลับไป
ซ่งเสี่ยวหลงก็ได้ไปพบหวังเย่าเพื่อรับโครงสร้างค่ายกล
หวังเย่าส่งยูเอสบีให้กับอีกฝ่ายทันที
สำหรับโครงสร้างค่ายกลแล้ว เขาได้บันทึกและเข้ารหัสมันไว้
ซ่งเสี่ยวหลงเห็นแบบนั้นก็ดึงโน๊ตบุ๊คออกมาจากกระเป๋ามิติ ก่อนจะเสียบยูเอสบีเข้าไปและใส่รหัสผ่านตามที่หวังเย่าบอกมา จากนั้นเขาก็เปิดแฟ้มข้อมูลก่อนจะพบกับเอกสารข้อมูลและภาพที่เกี่ยวกับค่ายกลอธิบายเอาไว้
“มันไม่ได้ยาก แต่มันต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมันสร้างขึ้นได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
ซ่งเสี่ยวหลงพยักหน้า แม้ว่ามันจะดูไม่ยากที่จะสร้างค่ายกลขึ้นมาแต่ก็มีส่วนที่ซับซ้อนอยู่ ยังไงซะ มันก็ต้องใช้แร่ไฟเป็นจำนวนมากในการสร้างค่ายกล คนทั่วไปคงยากที่จะจดจำโครงสร้างนี้ได้ ตราบใดที่ห้ามถ่ายรูปในค่ายกลก็น่าจะกันการคัดลอกได้พอสมควร
เมื่อเห็นซ่งเสี่ยวหลงรีบออกไปด้วยสีหน้าพอใจ หวังเย่าก็เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย เขาได้มองไปที่กำไลของเขาและพบว่ามีเงินกว่า 6.5 พันล้านเครดิตถูกโอนเข้ามา เมื่อเห็นจำนวนเงินเขาก็รู้สึกว่าเขารวยขึ้นมาทันที
ตอนนั้นเขาถึงกับสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเงินก้อนโตแบบนี้ เขาไม่รู้เลยว่าจะต้องใช้มันยังไง
“เหลือการประมูลอยู่อีก ถ้าราคาไม่ผันผวนมากนัก ไม่ใช่ว่าฉันจะได้เงิน 5 หมื่นล้านเครดิตรึไง ? ” หวังเย่ายิ้มออกมา “เอาเวลานี้ไปคิดแผนการในอนาคตดีกว่า” เขาคือคนที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ ถึงเขาจะไม่เข้าไปเรียน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว เขาก็สามารถยื่นจบการศึกษากับทางมหาลัยได้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็เป็นผู้ตรวจสอบ 1 ดาวแล้ว ส่วนพวกรุ่นพี่ที่โดดเด่นพวกนั้นก็เป็นได้แค่เตรียมผู้ตรวจสอบเท่านั้น
“น่าตกใจจริง ๆ แร่ไฟใช้สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายทางเดียวได้ มันสามารถส่งคน 100 คนไปได้ไกลถึง 300 ไมล์”
“การประมูลแร่ไฟครั้งนี้ใช้แร่ไฟขั้นต้นไปแค่ 1,000 ล้านและแร่ไฟขั้นกลาง 1 ล้านกิโลกรัม แต่กลับทำเงินได้ถึง 6,500 ล้านเครดิต”
“มันยังมีโครงสร้างค่ายกลอยู่อีก 6 อัน โครงสร้างอันแรกสมาคมชาติสงบสุขได้มันไปในราคา 2,000 ล้าน”
…
การประมูลในครั้งต่อมานั้นไม่เพียงแต่กลุ่มคนจากเมืองหัวเซี่ยเท่านั้นที่มาเข้าร่วม แต่ยังมีกลุ่มจากเมืองต่าง ๆ มาเข้าร่วมด้วย
ทุกคนต่างหมายตาโครงสร้างค่ายกลกันมากกว่าเดิม การปรากฏขึ้นมาของค่ายกลเคลื่อนย้ายก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ทีมทหารหลายทีมหันมาสนใจการประมูลนี้เป็นจำนวนมาก
แต่ค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้นมีข้อจำกัด มันไม่อาจจะใช้กับคนจำนวนมากได้ แต่ใช้ควบคู่กับแผนการบางอย่างได้เท่านั้น
ตอนที่ผู้คนกำลังเพ้อฝัน หวังเย่าก็ไม่ได้สนใจโลกภายนอก เพราะเขามีเงินจำนวนมากอยู่ในมือ เขาจึงทำการซื้อน้ำยาวิวัฒนาการและน้ำยาพลังเป็นจำนวนมาก เพื่อเอามาใช้กับอสูรทั้งสามตัวของเขา
หงอคงนั้นยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องวิวัฒนาการมันสักที แต่หงอคงเป็นลิงหิน มันกินแต่ผัก ดังนั้นหวังเย่าจึงได้แต่ซื้อน้ำยาวิวัฒนาการให้มันกิน
น้ำยาวิวัฒนาการขั้นสูง 1 ขวดสำหรับหงอคงในตอนนี้จะได้ค่าประสบการณ์มา 10,000 หน่วย การจะเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ถึง 1 ล้านหน่วยนั้นจะต้องใช้เงินมหาศาล
โชคดีที่ตอนนี้หวังเย่ามีเงินมากพอแล้ว เขาไม่ต้องสนใจเรื่องเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้อีกต่อไป
“ลุงเฉี่ยน ผมอยากซื้อทักษะพายุสังหาร” เพราะมีเงิน หวังเย่าจึงสามารถซื้อทักษะพายุสังหาร 6 ส่วนแรกได้
“ฉันเดาแล้วว่านายจะต้องมาหาฉัน” เฉี่ยนเจินเฉียนยิ้มออกมา เด็กนี่ได้แร่ไฟมา ตอนนี้เขามีเงินมากมายแล้ว แต่แน่นอนว่าในฐานะผู้ตรวจสอบ 4 ดาวแล้ว เขาไม่ได้ใส่ใจกับเงินแค่หลักล้านเครดิตนี้
หวังเย่าเพิ่งจะขายแร่ไฟไป แต่เฉี่ยนเจินเฉียนนั้นมีมิติลับของตัวเอง รายได้ของเขาแต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่าล้านล้านเครดิต ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต้องการเงินนี้ของหวังเย่า
“รับมันไว้สิ” เฉี่ยนเจินเฉียนเอาทักษะพายุสังหารออกมาจากกระเป่ามิติแล้วส่งให้กับหวังเย่า “ เงินน่ะฉันไม่ต้องการ นายมันโชคดี หลังจากนี้หากเจอของดี ๆ ก็อย่าลืมฉันก็พอ”
เขาแค่ลงทุนกับหวังเย่าที่มีแววการเติบโตที่ยอดเยี่ยม เขาโดดเด่น อนาคตนั้นต้องสดใสแน่ ๆ แม้แต่เขาก็ยังเชื่อแบบนั้น
หวังเย่ารู้จักกับกิเลนไฟ แม้ว่าจะไม่สามารถสั่งการมันได้ แต่ก็มีอิทธิพลต่ออีกฝ่ายอยู่บ้าง
หวังเย่าพยักหน้า เขาเข้าใจความคิดของเฉี่ยนเจินเฉียน เมื่ออีกฝ่ายยื่นข้อเสนอเช่นนี้มาให้ เขาก็ไม่อายที่จะรับมันไว้
“ขอบคุณลุงเฉี่ยน” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
หลังจากกลับมา หวังเย่าก็ได้ทำการศึกษาทักษะพายุสังหาร ครั้งนี้เขาไม่ได้ไปไหน เขายังคงทำการขายแร่ไฟพร้อมกับทำการล่าสัตว์อสูรรอบ ๆ เขาได้เชิญผู้ตรวจสอบ 4 ดาวมา 2 คน นั่นไม่ใช่แค่กองกำลังที่แข็งแกร่งแต่ยังมากไปด้วยประสบการณ์ เขาสามารถถามและขอคำแนะนำต่าง ๆ ได้ เป็นธรรมดาที่การฝึกฝนของเขาจะก้าวหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
พริบตาเดียวการประมูลในครั้งต่อมาก็จบลง การประมูลในครั้งนี้จบลงได้ดี ค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้นน่าสนใจมากจึงทำให้การประมูลครั้งนี้ทำเงินได้มากขึ้น
“ประมูลแร่ไฟได้เงินมา 7,000 ล้าน ค่ายกลได้ 2,600 ล้าน ซึ่งขายให้กับสมาคมเรืองรองของเมืองลั่วหยาง งั้นครั้งนี้ก็ได้เงินมาทั้งหมด 9,600 ล้านเครดิต”
หวังเย่ารู้สึกเหมือนนอนอยู่บนกองเงินกองทอง การที่เงินเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกดีกับมัน มันคือความรู้สึกที่เขาไม่อาจจะสลัดมันออกไปได้
แต่เขาก็เข้าใจว่าหากขายแร่ไฟพวกนี้หมดไปแล้ว งั้นความรู้สึกพวกนี้ก็คงหายไปด้วย
สามวันต่อมาการประมูลครั้งที่สามก็จบลง เงินของหวังเย่าเพิ่มขึ้นมาอีก 9,700 ล้านเครดิต
สามวันต่อมาเมื่อการประมูลครั้งที่สี่จบลง หวังเย่าก็ได้เงินเพิ่มขึ้นอีก 9,300 ล้านเครดิต
การประมูลครั้งที่ห้าและหกจบลงอย่างรวดเร็วโดยได้เงินมา 8,900 และ 8,600 ล้านเครดิต
ตอนนี้เงินที่หวังเย่าได้มาจากการขายแร่และโครงสร้างค่ายกลนั้นเป็นเงินทั้งหมด 52,600 ล้านเครดิต
“จบแล้วสินะ” หวังเย่ายิ้มออกมา เขาอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เขามองไปที่ ที่ที่เคยมีกองแร่ไฟอยู่และรู้สึกได้ถึงความสำเร็จ
“นอกจากจ่ายให้กลุ่มมือเหล็กและกลุ่มธนู 50 ล้านเครดิตแล้วก็ต้องให้ลุงหลี่ 100 ล้านเครดิตและลุงเฉี่ยน 100 ล้านเครดิต กลุ่มธารเชี่ยว 30 ล้าน ลูกน้องอีก 4 คนเล็กน้อย บวกกับค่าจัดการและตัวแทนต่าง ๆ ก็น่าจะเหลือเยอะอยู่”
ทักษะการคำนวณของหวังเย่านั้นถือว่าดี ไม่นานเขาก็ได้สรุปค่าใช้จ่ายต่างๆและมีเงินคงเหลืออยู่ที่ 52,200 ล้านเครดิต
“ด้วยเงินที่เยอะแบบนี้ ฉันเดาว่าฉันคงเป็นเด็กที่ร่ำรวยที่สุดในโลกตอนนี้”
ตอนนั้นเองหวังเย่าก็ครุ่นคิด เขามีความคิดในหัวที่จะทำให้เงินงอกเงยขึ้นมา
“หวังเย่า นายคิดจะทำอะไรต่อ ? ” ระหว่างทางที่กลับเมืองนั้น เฉี่ยนเจินเฉียนก็ได้ถามขึ้นมา
หวังเย่ารู้ว่าสิ่งสำคัญในโลก นอกจากคนรักก็คือคนสนิท หลังจากที่คิดสักพักแล้วหวังเย่าก็บอกความคิดของตัวเองออกมา
“ลุงเฉี่ยน ความคิดของผมอาจจะดูไม่เข้าท่า แต่ผมเชื่อว่าผมจะทำได้สำเร็จ” หวังเย่ายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ผมจะยึดมิติภายนอกอื่น ๆ และจะเปลี่ยนมันให้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์”