ตอนที่ 154 : สอบจบการศึกษา
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหวังเย่า เฉี่ยนเจินเฉียนก็เงียบไป
“ยึดโลกอื่นและเปลี่ยนมันเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์งั้นหรือ ? ” จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไง
เพราะนี่แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ความแข็งแกร่งของมนุษย์ในตอนนี้ยากที่จะปกป้องตัวเองได้ การที่จะทวงคืนพื้นที่จากสัตว์อสูรนั้นเป็นเรื่องยากอย่างมาก นี่ไม่ต้องนับมิตินอกอื่น ๆ เลย
หากเป็นมิติ 5-6 ดาวก็ยังพอมีความเป็นไปได้อยู่ แต่หวังเย่าพูดถึงมิติที่เป็นโลกอื่น ๆ ชัดแล้วว่ามันหมายถึงมิติ 8-10 ดาว
หวังเย่าเข้าใจว่าเฉี่ยนเจินเฉียนนั้นคิดอะไร แม้ว่าสักวันเขาใฝ่ฝันจะเป็นตัวตนที่เทียบเท่ากับกิเลนไฟได้ แต่มันก็เป็นไปได้ยากที่จะทำแบบนั้นได้
มิตินอกนั้นกว้างใหญ่และซับซ้อนเกินกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการถึง พลังของสัตว์อสูรนั้นน่ากลัวกว่าที่มนุษย์คิดเอาไว้
ไม่นานพวกเขาก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหัวเซี่ย
ชื่อหยวนจื่อกับลูก ๆ ของเธอได้ออกจากมิติเทือกเขาหินโม่เพื่อเดินทางไปยังโลกภายนอก
“มิติไฟเต็มไปด้วยไฟ มันมีแต่ลาวา มันคือที่ที่ดีสำหรับเรา”
เป้าหมายแรกของพวกเขาคือมิติไฟ
…
นี่เพิ่งจะต้นเดือนพฤษภาคม มหาวิทยาลัยหัวเซี่ยจะปิดเทอมช่วงท้ายเดือนมิถุนายน จากนั้นกจะปิดไปนานกว่า 2 เดือน
แต่หวังเย่าไม่สนใจการปิดเทอมนั่นแล้ว เพราะเขาได้ยื่นคำขอเรียนจบไปแล้ว
ในฐานะผู้ตรวจสอบ 1 ดาว ความสำเร็จของเขานั้นเกินกว่าเกณฑ์ที่มหาลัยได้กำหนดไว้แล้ว การเรียนที่นี่ต่อก็มีแต่จะทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ
โชคดีที่มันไม่มีเงื่อนไขอะไรมากนัก เขาแค่ต้องไปคุยกับจี้กวงเฮ่อ ก่อนที่จี้กวงเฮ่อจะเป็นตัวแทนในการเจรจาให้กับเขา
เมื่อหวังเย่าร่ำรวยขึ้นมา มันก็มีคนมากมายที่ยื่นมือเข้ามาอยากจะช่วยเขา แต่หวังเย่าเข้าใจว่าตอนนี้ไม่เหมาะที่จะพูดคุยกับใคร เขาต้องใจเย็นและต้องเรียนวิชาต่าง ๆ ให้หมดเสียก่อน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเกินกว่าเกณฑ์ของมหาลัยแล้ว แต่การยื่นจบนั้นจะมีการทดสอบ ดังนั้นเขาจึงลงเรียนวิชาต่าง ๆ พร้อมกับฝึกฝนทักษะพายุสังหารด้วย
หลังจากที่ปฏิเสธการช่วยเหลือจากทุกคน หวังเย่าก็จมอยู่กับโลกของตัวเอง
นี่ทำให้ผู้คนสับสนมากไปอีก แต่อันที่จริงข่าวที่ว่าเขาขอยื่นจบนั้นมีแค่คนสนิทเท่านั้นที่รู้
แต่หวังเย่าไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ เพราะเขาได้ส่งคนออกไปจัดการกับเรื่องรับพวกทหารรับจ้าง
ในฐานะผู้ตรวจสอบ 1 ดาวแล้ว ก็เป็นธรรมดาที่จะมีกองกำลังทหารรับจ้างอื่น ๆ ติดต่อมาที่เขา แต่หวังเย่านั้นมีทั้งความแข็งแกร่งและทรัพยากรของตัวเองมากมาย ดังนั้นเขาจึงอยากจะตั้งกองทหารของตัวเอง
ตอนนี้เขายังไม่คิดจะชื่อกองทหารของเขา เพราะทุกอย่างต้องรอจนกว่าเขาจะเรียนจบ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงกลางเดือนมิถุนายน
“ หวังเย่า มหาวิทยาลัยอนุมัติการยื่นจบของนายแล้ว แต่นายต้องผ่านการทดสอบทั้งหมดรวมถึงการทดสอบข้อเขียนด้วย มันมี 6 รายวิชา นายต้องได้คะแนน 10 อันดับแรก ถ้านายทำไม่ได้ งั้นมหาวิทยาลัยก็ไม่อาจจะให้นายเรียนจบได้”
จี้กวงเฮ่อบอกผลตอบรับที่ได้มาให้กับหวังเย่า
“ไม่มีปัญหาครับ ผมพร้อมแล้ว บอกมหาวิทยาลัยให้จัดการทดสอบได้เลย” หวังเย่าไม่ลังเล
ตลอดหลายวันมานี้เขาเพ่งสมาธิไปกับการฝึกฝนและการอ่านเนื้อหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรายวิชาของสาขาตรวจสอบ เขาค่อย ๆ จดจำมัน เพื่อที่จะผ่านการทดสอบนี้ในคราวเดียว
หากไม่ผ่านทั้ง 6 วิชาแล้ว หวังเย่าก็ไม่คิดจะอ่านมันอีก เขาแค่อยากได้วุฒิการศึกษา แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขา
จี้กวงเฮ่อพยักหน้า “ ดี พรุ่งนี้จะมีการทดสอบข้อเขียน 4 วิชา ส่วนการทดสอบภาคสนามทั้ง 6 วิชาจะทดสอบในวันมะรืน ความยากนั้นทั่วไป ฉันเชื่อว่า ด้วยความแข็งแกร่งของนายแล้ว นายจะผ่านมันไปได้ “
จี้กวงเฮ่อตบไหล่ของหวังเย่า สายตาของเขาแสดงความคาดหวังออกมา
การทดสอบข้อเขียนนั้นมีเรื่องสัตว์อสูร, การทำยา, การเอาตัวรอดในป่า, และการรายงานมิติลับ แต่ละอันจะมีคะแนน 100 คะแนนเต็ม จะต้องได้ 80 คะแนนขึ้นไปถึงจะผ่านการทดสอบ
อย่ามองแค่คำว่าการทดสอบ อันที่จริงแล้วแต่ละวิชานั้นมีเนื้อหาที่ค่อนข้างยากและซับซ้อนอีกด้วย
ยกตัวอย่างเรื่องสัตว์อสูร มันมีสัตว์อสูรเป็นหมื่น ๆ ตัว มีทั้งภาพและสกิลของสัตว์อสูรรวมถึงที่อยู่ของมัน มันยังมีเนื้อหาที่ว่าส่วนไหนของสัตว์อสูรที่มีค่าในการศึกษา
วิชาสัตว์อสูรนั้นมีหนังสือทั้งหมด 8 เล่ม แต่ละเล่มก็หนา ๆ ทั้งนั้น เมื่อเอาเนื้อหาทั้งหมดมารวมกันแล้ว มันก็ไม่น้อยกว่าหนังสือคำศัพท์เลย
แต่หวังเย่าได้ฝึกฝนทักษะกระบี่บินมา แม้จะไปถึงแค่ส่วนที่ 2 แต่จิตใจของเขาก็แกร่งกว่าเดิมถึง 6-7 เท่า ความจำของเขาก็ดีขึ้นไปด้วย ดังนั้นความรู้พื้นฐานแบบนี้เขาไม่มีทางลืม
การสอบจะมีสอบในช่วงเช้า 2 วิชา และในช่วงบ่ายอีก 2 วิชา
หลังจากที่สอบเสร็จ หวังเย่าก็แสดงสีหน้าโล่งอกออกมา เขารู้สึกดีกับตัวเอง เขารู้สึกว่าการสอบทั้ง 4 วิชานี้ถึงจะไม่ได้คะแนนเต็ม แต่อย่างน้อยก็ต้องได้ไม่น้อยกว่า 90 คะแนนอย่างแน่นอน
หลังจากที่สอบเสร็จ จ้าวเมิ่งซีก็มารอรับเขา จากนั้นทั้งสองได้ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน
เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จ เขาก็ได้รับสาย ผลการสอบทั้ง 4 วิชาออกมาแล้ว หวังเย่าได้คะแนนไป 94, 92, 96 และ 94 คะแนนในแต่ละวิชา
ด้วยคะแนนที่สูงแบบนี้แน่นอนว่าต้องผ่าน
“หวังเย่า นายได้คะแนนสูงจริง ๆ “ จ้าวเมิ่งซีรู้ว่าหวังเย่าเก่ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะเก่งจนได้คะแนนที่สูงลิบลิ่วแบบนี้
หวังเย่ายิ้มออกมา ชีวิตก็คือความทุ่มเท หากไม่ทำเต็มที่ก็จะรู้สึกผิด
“เพื่อแลกกับการเรียนจบแล้ว ฉันนอนแค่วันละ 6 ชั่วโมงต่อวัน เวลาที่เหลือฉันใช้ไปกับการอ่านหนังสือและฝึกฝน การที่ได้ผลลัพธ์แบบนี้ก็ถือว่าพอรับได้”
หวังเย่ายกแก้วขึ้นมา “ เมิ่งเอ๋อร์ เธอคือแรงบันดาลใจของฉันในการเรียนให้จบ จากนี้เธอกับฉันเราจะเป็นสามีภรรยากัน เราจะช่วยเหลือกัน เราต้องแข็งแกร่งขึ้น ฉันล่ะคาดหวังจริง ๆ ”
จ้าวเมิ่งซีหน้าแดงขึ้นมา เธอรีบพูดขึ้น “ฉันรู้แล้ว ฉันจะพยายาม”
การทดสอบภาคสนามอีก 6 วิชานั้นมีการซ่อนตัวและการสำรวจ, การต่อสู้ระยะประชิดและการลอบสังหาร, กายภาคสัตว์อสูรและการทำยา, การต่อสู้ร่วมกันของผู้ใช้อสูรและอสูร, ทักษะการเอาตัวรอดและสำรวจมิติลับ
ในการทดสอบพวกนี้ การทดสอบการต่อสู้ร่วมกันของผู้ใช้อสูรและอสูรนั้นมีความสำคัญมากที่สุด
ถ้าหวังเย่าและอสูรร่วมมือกันได้ไม่ดี มันก็แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่เป็นที่น่าพอใจ เขาต้องพัฒนาตัวเองอีกมาก ถ้าหากเขาทำมันได้ไม่ดีพอ มหาวิทยาลัยก็ไม่คิดให้เขาผ่านการทดสอบ