ตอนที่ 594 ประทับใจกับช่วยสาว

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

แบบนี้ใช้ได้ ไม่พลาดแน่

 

 

เสี่ยวเชี่ยนประทับใจจริงๆ

 

 

ถึงแม้เธอจะไม่พอใจในความโง่ที่เขาพามาลำบาก แต่เขาแบกเธอเดินมาตั้งไกล อีกทั้งยังสารภาพจากใจจริง ความโกรธเคืองที่มีก็หายไปหมด

 

 

แต่พอเธอเห็นสิ่งที่อยู่ๆก็ปรากฏตรงหน้า ความประทับใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจกลัว

 

 

“มีงู” เธอกระซิบข้างหูเขา การกรีดร้องตามสัญชาตญาณได้ถูกเธอเอามือปิดปากไว้ก่อน เธอรู้ว่าตะโกนแหกปากไปตอนนี้มีแต่จะดึงความสนใจงูให้เข้ามา ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด

 

 

อวี๋หมิงหลางมองไปข้างหน้า งูสีเขียวตัวหนึ่งเลื้อยเข้าพงหญ้าบนเนินที่พวกเขากำลังจะปีนขึ้นไปอย่างเอื่อยๆ แต่มันกลับไม่ไปไหนไกล หางครึ่งหนึ่งโผล่ออกมาข้างนอก

 

 

“มีพิษหรือเปล่า?” เสี่ยวเชี่ยนถาม

 

 

“พวกเราโชคดีนะเนี่ย” อวี๋หมิงหลางพูดอย่างสบายๆ

 

 

“อ่อ ไม่มีพิษ” เสี่ยวเชี่ยนโล่งอก เธอจำได้ในหนังสือบอกไว้ว่า งูสีเขียวใช่ว่าจะมีพิษทุกตัว งูเขียวตัวเล็กๆไม่มีพิษ

 

 

“มีพิษสิ พิษร้ายแรงด้วย ลูกเชี่ยนดูมันสิ นิ่งมาก พอเห็นคนแล้วยังไม่ยอมถอย อีกทั้งยังค่อยๆเลื้อยเข้าพงหญ้า สภาพที่ดูครึ่งหลับครึ่งตื่นแบบนี้เหมือนคุณไหม?”

 

 

น้ำเสียงของอวี๋หมิงหลางไม่ทุกข์ไม่ร้อน คล้ายกับว่าเรื่องที่คุยไม่ใช่งูพิษที่อยู่ห่างจากพวกเขาไปไม่กี่เมตร แต่เป็นดอกไม้พันธุ์หายาก

 

 

“” เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหมือนเส้นผมกำลังจะตั้งชัน

 

 

“วิธีสังเกตงูมีพิษกับไม่มีพิษจริงๆมันง่ายมากเลยนะ ถ้ามันเห็นคุณแล้วเลื้อยหนีก็แสดงว่าไม่มีพิษ แต่ถ้าเป็นอย่างงูตัวนี้ที่เห็นพวกเราแล้วยังนิ่งเฉยก็แสดงว่ามีพิษ ผมว่านะลูกเชี่ยน พวกเราถูกรางวัลใหญ่แล้วล่ะ นี่คืองูเขียวไผ่”

 

 

หนึ่งในงูมีพิษอันตรายในบ้านเรา พบเจอได้มากในทางตอนใต้ แล้วทำไมถึงมาอยู่ในภูเขาทางเหนือ นี่คือปริศนา

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอยากจะอัดผู้ชายคนนี้จริงๆ นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะมาให้ความรู้วิชาการ?

 

 

เธอก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ชอบสัตว์ร้ายตัวอ่อนนิ่มแบบนี้ แค่เห็นก็ขนลุกไปทั้งตัว แต่ไม่รู้ทำไม พอถูกเขาแบกอยู่อย่างนี้ ความกลัวที่มาจากสัญชาตญาณกลับน้อยลงไปมาก

 

 

คล้ายกับว่ามีเขาอยู่ข้างกาย ต่อให้ฟ้าถล่มเธอก็ไม่กลัว

 

 

ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีนี้ เสี่ยวเชี่ยนคิดไปต่างๆนานา

 

 

“ปล่อยฉันลง” เธอพูดกับอวี๋หมิงหลาง ด้วยฝีมือระดับอวี๋หมิงหลางจะต้องรู้แน่ว่าต้องทำอย่างไร แต่เขาแบกเธอไว้อย่างนี้ไม่แน่อาจไม่รอดทั้งสองคน

 

 

“เสียวเหม่ย ขอโทษนะ แต่ขอคุณอย่าโจมตีผมจากทางข้างหลังอีก”

 

 

“เสียวเหม่ย ถ้าชาติหน้ามีจริงคุณจะยอมแต่งงานกับผมไหม” พอตะโกนเสร็จเสี่ยวเชี่ยนก็ถูกเขาสะบัดจนกระเด็น

 

 

ตอนนี้เธอกับเขายืนอยู่ตรงเนินเล็กๆ ท่าทางของเขาเมื่อครู่ทำให้เสี่ยวเชี่ยนกระเด็นไปด้านหลัง เขาเหวี่ยงเธออย่างมีเทคนิค ทำให้เธอแค่กระเด็นลงไปนั่งบนพงหญ้า ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่พอเธอเห็นเขาพุ่งไปจับงู หัวใจก็เหมือนจะหยุดเต้น ทุกอย่างมืดสนิท

 

 

เธอหลับตาปี๋แทบลืมหายใจ วินาทีนั้นเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง

 

 

เธอไม่กล้าจินตนาการเลยว่าถ้าอวี๋หมิงหลางถูกงูพิษกัดเธอควรทำอย่างไร ความรู้รอบตัวกับความกล้าเตลิดหายไปหมดแล้ว ถึงขนาดรู้สึกว่าการที่เธอเลือกความตายเมื่อชาติก่อนยังไม่น่ากลัวเท่าตอนนี้

 

 

ในเวลานี้เสี่ยวเชี่ยนยอมถูกงูกัดยังดีเสียกว่าให้ลืมตาไปดูว่าเขาถูกงูกัดหรือเปล่า

 

 

ตัวเขาสำคัญต่อเธอมากกว่าตัวเธอเองตั้งแต่เมื่อไรเธอก็ไม่รู้ คำถามนี้ยากที่จะหาคำตอบ ก็เหมือนกับที่คนเราไม่รู้ว่าดอกไม้ดอกแรกจะบานเวลาไหน

 

 

บนใบหน้ามีน้ำใสๆหยดไหลออกมา เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านั่นเป็นน้ำตาของเธอ ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีนี้สมองของเธอว่างเปล่า

 

 

ปฏิกิริยาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นสัญชาตญาณทั้งนั้น

 

 

“Hi~ลูกเชี่ยน มาดูเร็ว~”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนลืมตา อวี๋หมิงหลางยืนอยู่บนเนินพร้อมงูในมือ ลำตัวของงูตัวนั้นพันอยู่ที่แขนเขา เสี่ยวเชี่ยนตกใจหน้าซีด

 

 

“รีบทำให้มันตายสิ”

 

 

เธอกลัวเขาจะจับไม่แน่นแล้วถูกงูกัด งูตัวอ่อนนิ่มนั่นเห็นแล้วน่ากลัวมาก

 

 

“ไม่นะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็จะไม่ฆ่า นี่ก็คือหนึ่งชีวิต ลูกเชี่ยนมานี่ทีสิ เอาถุงผ้าในกระเป๋าผมออกมาให้หน่อย”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอดทนต่อความกลัวเดินเข้าไป รู้สึกว่ายิ่งเข้าใกล้เจ้าตัวนั้นหัวใจเธอก็ยิ่งเต้นแรง

 

 

อวี๋หมิงหลางไม่กลัวเลยสักนิด อีกทั้งยังยกงูในมือชูให้เสี่ยวเชี่ยนดู

 

 

“ลูกเชี่ยน ดูสินี่ร่างเดิมงูเขียวในละครเรื่องนางพญางูขาวไง น่ารักไหม?”

 

 

ไม่น่ารัก

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรีบหยิบถุงผ้าออกมาด้วยใบหน้าซีดเซียว อวี๋หมิงหลางให้เธอถอยออกไปหน่อยแล้วรีบจับงูลงถุงจากนั้นก็มัดปากถุงให้แน่น

 

 

“ฮ้าฮา~ฮ้าฮา~ซีหูอันสวยสด ท้องฟ้าในเดือนสาม ล้าลาลา~” ยังจะมีอารมณ์ร้องเพลงประกอบละครนางพญางูขาว

 

 

“นายจะฆ่ามันให้ตายไม่ได้หรือไง น่ากลัวจะตาย” หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่ามีอันตราย เหงื่อเธอก็แตกจนชุ่มเสื้อผ้า

 

 

ภายในช่วงเวลาสั้นๆเมื่อครู่ เธอได้ผ่านความทุกข์ที่เกือบสูญเสียเขาไป ในใจเธอกลัวมากจริงๆ

 

 

เธอไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวไม่ได้เจอเขาอีก

 

 

แต่ตาบ้านี่กลับใช้มือเปล่าจับงูโดยไม่กลัว พอเห็นเขายิ้มอย่างสนุกสนาน เสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกว่าเมื่อกี้ตัวเองเป็นบ้าไปเอง

 

 

“พวกเราเป็นคนนอกที่เข้ามารุกรานพื้นที่ของเขาแล้วยังจะไม่ให้คุณเสี่ยวชิงออกมาปกป้องพื้นที่เหรอ? ทุกคนต่างกลัวงู แต่ทุกปีมีคนถูกงูกัดตายมากกว่าหรือคนที่กินงูมีมากกว่า? พวกเราถ้าไม่มีอะไรก็อย่าทำร้ายเขาเลย เดี๋ยวพาเขาไปปล่อยที่อื่น”

 

 

ถึงด้วยอาชีพของอวี๋หมิงหลางจะเคยชินกับการยิงปืนเห็นการนองเลือด แต่เขาไม่เคยทำร้ายสิ่งมีชีวิตอย่างไร้เหตุผล ต่อให้เป็นงูตัวเล็กๆในสายตาของเขามันก็คือชีวิตหนึ่ง

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้จะบรรยายอวี๋หมิงหลางในเวลานี้อย่างไรดี เขามีพละกำลังที่แข็งแกร่งแต่กลับไม่ใช้ไปรังแกคนหรือสัตว์ที่อ่อนแอ ถึงแม้เวลาอยู่ต่อหน้าเธอ90%จะชอบตัวโง่ๆซื่อบื้อๆ แต่อีก10%ที่เหลือมีความแมนมากพอที่จะทำให้เธอฝากชีวิตไว้กับเขา

 

 

เรื่องจะใหญ่แค่ไหนแต่พอมาถึงตัวเขากลับไม่ใช่เรื่อง อยู่กับเขาเสี่ยวเชี่ยนไม่ต้องกลุ้มอะไรทั้งนั้น เพราะตรงไหนที่มีอวี๋หมิงหลางอยู่ ปัญหาก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

 

 

“ลูกเชี่ยน คุณอยากจะเก็บคุณเสี่ยวชิงไว้ไหม? คุณไม่คิดว่ามันน่ารักเหรอ?”

 

 

อวี๋หมิงหลางยกถุงขึ้น เสี่ยวเชี่ยนมองสิ่งที่อยู่ในถุงที่กำลังขยับตัวแล้วก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ “นายรีบเอามันไปทิ้งเถอะ…”

 

 

“ก็ได้ คุณไม่ชอบเขางั้นเดี๋ยวผมจะปล่อยเขากลับไปบำเพ็ญตบะต่อในภูเขา หวังว่าเขาจะกลายเป็นเทพในเร็ววันนะ~”

 

 

“นับตั้งแต่สร้างประเทศ สัตว์ก็ห้ามกลายเป็นเทพ” เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงพูดจาไร้สาระออกมาได้ทั้งๆที่ยังหวาดกลัว เธอคิดว่าอาจติดเชื้อติงต๊องมาจากอวี๋หมิงหลาง

 

 

“ลูกเชี่ยน คุณไม่คิดว่างูตัวนี้ปรากฏตัวได้ถูกเวลาเหรอ? มันออกมาในเวลานี้คุณรู้สึกไหมว่าผมดูเป็นลูกผู้ชายมาก?”

 

 

“ก็แมนจริงๆน่ะแหละ” เสี่ยวเชี่ยนนึกถึงตอนที่เขาเหวี่ยงเธอให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วตัวเองไปจับงู ในใจก็รู้สึกอบอุ่น

 

 

“งั้นคุณจะยอมจับมือผู้ชายที่พึ่งพาได้คนนี้ไปด้วยกันตลอดชีวิตไหม?” อวี๋หมิงหลางรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ