ตอนที่ 241 เศรษฐีที่ตกอับ

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

ตอนที่ 241 เศรษฐีที่ตกอับ

ไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวเศรษฐีที่ตกอับเหรอ? ลูกสาวตกอับแบบนี้ไม่น่ามีใครอยากได้นะ

“คุณอันชอบไหมคะ? แต่ฉันดูแล้วคุณไม่น่าจะมีเงินซื้อมันได้นะ” เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและจ้องมองมาด้วยสายตาเยาะเย้ย “แต่เพื่อมิตรภาพของเราที่ผ่านมาหลายปี ฉันสามารถซื้อให้คุณได้สักอันนะคะ”

“คุณมีเงินซื้อสร้อยคอให้ฉัน? แต่ฉันว่าเก็บไว้ให้ตัวคุณเองน่าจะดีกว่า ฉันได้ยินมาว่าตระกูลเหลียวเพิ่งถูกซื้อไปเมื่อไม่นานมานี้เองไม่ใช่เหรอ เป็นยังไงบ้าง คุณนายโอวหยางรู้สึกยังไงเหรอ?” ใบหน้าที่สวยงามของเธอเผยรอยยิ้มที่มุมปากบาง ๆ ด้วยท่าทางสง่างามและโอบอ้อมอารี

แม้ว่าตระกูลอันจะไม่เหลืออะไรเลย แต่เธอยังคงเป็นอันโหรว อันโหรวที่หยิ่งผยองคนเดิมไม่มีเปลี่ยน

“ตระกูลเหลียวล่มสลายแล้วยังไงกัน? โอวหยางกรุ๊ปที่ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนหน้าแล้วมันยังไง? หรือว่าเธอยังหวังว่าผู้ชายเมื่อห้าปีก่อนคนนั้นจะมาช่วยชีวิตเธออย่างนั้นเหรอ? ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ เขาชอบผู้หญิงคนอื่นไปนานแล้ว และผู้หญิงคนนั้นก็มีลูกแล้วด้วย สำหรับเธอแล้วเขาอาจจะผิดหวังสุด ๆ!” จู่ ๆ เธอก็รู้สึกขอบคุณอันอีหานที่ไม่ใช่อันโหรวที่เหนือกว่าเธอ

ไม่อย่างนั้นวันนี้เธอคงรู้สึกอึดอัดและอับอายที่ได้เจอโดยที่ยังด้อยกว่าเธอแบบนี้

ไหนตอนแรกเธอดูมั่นใจนักหนาบอกว่าอันอีหานก็คืออันโหรวไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วัน เธอถึงได้เปลี่ยนความคิดเสียแล้ว?

ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นสัตว์ที่ไม่แน่นอนนี่เอง

“งั้นฝากไปอวยพรเขาหน่อยละกันนะ” เธอยิ้มก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังห้องจัดแสดงนิทรรศการ

ในสายตาของเธอไม่ได้สนใจเหลียวเว่ยเลยแม้แต่น้อย ณ เวลานี้เธอเป็นแขกที่มาเดินชมงาน เหลียวเว่ยที่โหวกเหวกโวยวายอยู่ด้านหน้าไม่ได้มีความหมายอะไรกับเธอเลยสักนิดเดียว และสักวันหนึ่งเป็นเธอนั่นแหละที่จะหัวเราะไม่ออก

เหลียวเว่ยถูกเธอไม่สนใจไยดีแบบนั้นก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก สายตาที่มองเธอรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ เมื่อก่อนพวกเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน เธอย่อมรู้นิสัยของอันโหรวดี และรู้ว่าเธอนั้นไม่ใช่พวกที่จะปล่อยเธอไปง่าย ๆ แบบนี้

ยังไงซะเมื่อก่อนเธอเองก็เคยชอบโอวหยางลี่มาก ๆ หากตระกูลอันไม่ล่มสลายกระทันหันแบบนั้น เธอคงไม่ได้แต่งงานกับโอวหยางลี่อย่างแน่นอน

ตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเหลียวอีกแล้ว ถ้าหากไม่มีโอวหยางลี่ก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่ ยิ่งตอนนี้ไม่สามารถออกจากตระกูลโอวหยางได้เลย ถึงแม้โอวหยางลี่จะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาก็ตาม เธอก็ไม่สนใจ แต่เรื่องนี้เธอไม่สนใจไม่ได้จริง ๆ

เธอมองแววตาที่มีเปลวไฟแห่งความเกลียดชังที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาของอันโหรว เธอไม่ควรจะกลับมาเลยจริง ๆ

อวี๋กุยห่าวมองพวกเธออย่างงุนงง แต่เธอก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ เธอจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลยสักคำ

เธอคอยดูอย่างเงียบ ๆ และคอยช่วยเธอในตอนที่เธอต้องการก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

“ฉันเอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ค่ะ ทุก ๆ อย่างที่เธอดู ฉันเอาหมด” เธอมองอันโหรวอย่างภาคภูมิใจ นอกจากโอวหยางลี่ที่ดูยังชอบเธออยู่บ้าง อันโหรวก็ไม่มีคุณสมบัติใดมาเทียบกับเธอได้เลย

คุณนายของตระกูลโอวหยางก็คือเธอ ตระกูลจิ่งก็ไม่มีที่สำหรับเธอแล้ว จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้ชอบเธอเสียหน่อย!

“เธอแน่ใจแล้วเหรอ?” เธอหัวเราะเยาะตอบ ถ้าหากเป็นแบบนั้น ของทั้งหมดในที่นี้ เธอคงต้องดูสักหน่อยแล้ว

“แน่ใจสิ หรือว่าเธอซื้อไหวอย่างนั้นเหรอ?” ทันทีที่เธอพูดออกไป ใบหน้าของเธอที่ซีดเซียวอยู่แล้วก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ในที่สุดก็มีโอกาสได้เหยียบย่ำ เหน็บแนม และมองเธอด้วยความดูหมิ่น ให้เธออยู่ใต้ฝ่าเท้าเสียที

“คุณนายโอวหยางพูดถูกค่ะ ฉันซื้อไม่ไหวหรอก” เธอไม่ได้อยากซื้อของพวกนี้กลับไปจริง ๆ หรอก ถึงแม้บ้านจิ่งเป่ยเฉินจะใหญ่โต สามารถขนย้ายห้องจัดแสดงนี้เข้าไปไว้ที่บ้านได้ก็ตาม

แต่เธอไม่ได้อยากน่าเบื่อแบบเหลียวเว่ยจริง ๆ

สีหน้าของเหลียวเว่ยดูลำพองใจอย่างไม่สามารถปิดบังไว้ได้ แต่เมื่อมองใบหน้าที่งดงามและท่าทางที่ดูกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาของเธอ ภายในใจก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง แอบแฝงความขุ่นเคืองไว้ในแววตา

อย่างไรก็ตาม อันโหรวยังคงคว้ามันไว้ได้ เธอหัวเราะเบา ๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ “ฉันชอบทุกอย่างที่อยู่ที่นี่นะ คุณนายโอวหยางอยากซื้อมันไปด้วยเลยหรือเปล่า?”

กลัวอย่างเดียว เฉาลี่เฟยจะให้ผู้หญิงคนนี้หย่ากับโอวหยางลี่ทันทีแน่ ๆ ผู้หญิงที่ไม่รู้จักวิธีรักษาคนในครอบครัว

ของที่โอวหยางกรุ๊ปขาย เธอยังจะซื้อกลับไปตั้งเยอะแยะทำไมกัน

ยิ่งไปกว่านั้น อัญมณีในงานจัดแสดงวันนี้ก็มีอัญมณีที่ล้ำค่าอยู่อีกหลายชิ้น เธอไม่กล้าซื้อมันไปทั้งหมดหรอก

“ถ้าฉันซื้อไปแล้วมันจะยังไงกัน ยังไงเธอก็ซื้อมันไม่ไหวอยู่ดี” เธอไปมีเงินมากมายมาจากไหน ถึงกล้ามาซื้อของกลับไปเยอะขนาดนี้

“คุณนายโอวหยางคะ ฉันมาในฐานะตัวแทนของคุณผู้หญิงวิเวียน น่าเสียดายที่ต้องบอกคุณไว้ตรงนี้ว่าอัญมณีในที่นี้ พวกเราจะไม่ขายให้คุณแม้แต่ชิ้นเดียว” อวี๋กุยห่าวพูดออกมาในเวลาที่เหมาะสม “อีกอย่าง ของที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด หากชิ้นไหนที่คุณอันดูแล้วชอบ พวกเราจะส่งให้ฟรี”

“เธอมีสิทธิ์อะไร?” เหลียวเว่ยมองพวกเธอด้วยความประหลาดใจ เธอคิดว่าคนที่ตามอันโหรวมาด้านหลังเป็นเพียงพนักงานขาย แต่ตอนนี้กลับมาบอกตัวตนของตัวเองอย่างชัดเจน

ดูเหมือนว่าจะมีคุณสมบัติเป็นตัวแทนของนักออกแบบจริง ๆ

“เธอมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าจะส่งให้เธอฟรี ฉันบอกไว้เลยนะ อย่าได้ถูกเธอหลอกเชียว ตระกูลเธอล้มละลายไปนานแล้ว ขนาดของที่ถูกที่สุดในนี้เธอยังไม่มีเงินจะซื้อเลย เธอจะส่งให้ฟรี? ไม่ได้ดูมีข้อดีอะไรเลยด้วยซ้ำ!” เธอไม่เชื่อว่าในฐานะคนทำธุรกิจจะไม่เข้าใจในเรื่องแค่นี้

จะเป็นอย่างไรหากนักออกแบบที่เพิ่งกลับมาประเทศจีน พวกเขาต้องพัฒนาเมือง A โอวหยางกรุ๊ปเองก็เป็นผู้นำในด้านนี้ คนที่ฉลาดทุก ๆ คนย่อมรู้ว่าควรจะเลือกอะไร

“ฉันจะบอกให้ว่าฉันเป็นภรรยาของประธานโอวหยางลี่แห่งโอวหยางกรุ๊ป ของทั้งหมดที่อยู่ที่นี่มีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ขายให้ฉัน? ฉันบอกเธอไว้เลยนะว่าตอนนี้ไม่ขายให้ฉัน รอให้พวกเธอเข้าโอวหยางกรุ๊ปเมื่อไหร่ ไม่ต้องส่งให้ฉัน ของพวกนั้นฉันก็หาได้ไม่ยาก!” ด้วยความกังวลและตื่นเต้นเธอจึงพูดติดต่อกันหลายประโยค

แต่อันโหรวที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับมา ทำเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น และท่าทางที่ดูเฉยเมยของเธอยิ่งทำให้เหลียวเว่ยรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก

มือข้างขวากุมกระเป๋าไว้อย่างสั่นเครือ พยายามไม่ให้ความเย่อหยิ่งที่จอมปลอมของตัวเองพ่ายแพ้ออกมา

“คุณนายโอวหยาง น่าเสียดายที่ต้องบอกคุณไว้ว่าพวกเราไม่มีทางส่งให้คุณไปอย่างเปล่าประโยชน์ หากคุณยังอยากได้ละก็ ไม่แน่อาจจะขายให้คุณก็ได้” อวี๋กุยห่าวอึดอัดกับเธอมานานแล้ว อันโหรวเองก็ดูไม่แยแสแบบนั้น เธอจึงทำได้แต่อดกลั้น

ทันทีที่เธอทนไม่ไหวเธอก็ระเบิดลง

“อีกอย่าง เสียงของคุณเองก็ดังเกินไป ส่งผลกระทบต่อแขกรอบข้าง เชิญคุณออกไปด้านนอกด้วยค่ะ” อวี๋กุยห่าวเงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกา “ฉันให้เวลาคุณหนึ่งนาทีในการออกไปจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนะคะ”

“หกสิบ ห้าสิบเก้า ห้าสิบแปด…….” อวี๋กุยห่าวที่ยืนอยู่นับเวลาถอยหลังอย่างชัดเจน

การกระทำที่ดูจริงจังของเธอทำให้อันโหรวอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เหลียวเว่ยก็เริ่มรู้สึกขัดลูกหูลูกตาแล้วเหมือนกัน

เธอจ้องตาเขม็งมาอย่างดุร้าย “อันโหรว ถึงเธอจะกลับมาก็ไม่มีอะไรมาเทียบกับฉันได้ ฉันจะไม่หย่ากับลี่หรอกนะ”

“ฉันเองก็ไม่กลับไปกินหญ้าเก่าหรอก[1] แม้เขาจะคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนยังไงก็ตาม” เธอไม่จำเป็นต้องมานั่งกังวลกับปัญหานี้เลยแม้แต่น้อย แม้โอวหยางลี่จะหย่าก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอแม้แต่นิดเดียว

“นี่เธอ….” เธอเริ่มที่จะกระวนกระวายเมื่อได้ยินอวี๋กุยห่าวนับเลขถอยหลังมาจนถึงสิบห้า เธอไม่รีรอ รีบเดินออกไปต่อหน้าพวกเขาด้วยความโกรธ

ถ้าหากเธอถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับไปจริง ๆ คงได้ขายขี้หน้าตระกูลโอวหยางแน่ ๆ นั่นอาจจะเป็นข้ออ้างที่พวกเขาไม่ต้องการเธอก็ได้

เธอไม่สามารถทนต่อความผิดพลาดแบบนั้นได้อย่างแน่นอน

[1] เดินหน้าไม่คิดถอยหลัง