เย่เฉินกล่าว “หยวนหยวน เรารู้จักกันตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุ 17 ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย พ่อแม่ของคุณเข้มงวดจะตาย ไม่ยอมให้คุณมีแฟนด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเราสองคนแสดงละคร เอาแค่หลอกพี่สาวคุณได้ก็พอแล้วได้ไหมล่ะ?”

หวังหยวนหยวนผิดหวังน้อยๆ แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก “พี่เย่เฉินพี่นี่เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ พี่เจียเหยานี่ไม่รู้จักเห็นคุณค่าเลย สมน้ำหน้าจริงๆ ฉันเชื่อพี่ก็ได้พี่จะเอายังไงก็ตามนั้นก็ได้ค่ะ”

“อืม” เย่เฉินยิ้มแล้วลูบใบหน้าเล็กๆ ของหวังหยวนหยวน

จากนั้นเย่เฉินก็เก็บกวาดเศษกระจกที่แตกละเอียดบนพื้น

แล้วพวกเขาก็รอการกลับมาของหวังเจียเหยาเงียบๆ

เย่เฉินต้องการจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง คุณทำกับผมอย่างไรผมก็จะทำกับคุณอย่างนั้น!

ตอนบ่ายสามโมงครึ่ง หวังเจียเหยาประทับนิ้วมือแล้วเปิดประตู

หวังเจียเหยายังถือถุงขนาดใหญ่ ที่ภายในเต็มไปด้วยผักสดเต็มไปหมด

หลังจากออกมาจากโพรงพยาบาลแล้ว หล่อนก็แวะที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

เพิ่งจะถึงบ้านหวังเจียเหยาก็โอดครวญ “จริงๆ เลยนายออกบ้านไม่ได้ ฉันเลยต้องเป็นคนซื้อของเข้าบ้านเอง เย่เฉิน นายรับมารับของไปสิจะได้ทำอาหารเย็นให้ฉัน”

หวังเจียเหยาคิดว่าเย่เฉินอยู่ที่ห้องรับแขก แต่พอตะโกนแล้วไม่มีใครตอบถึงได้เห็นว่าเย่เฉินอยู่ที่ห้องรับแขก

“อย่าบอกนะว่านอนตอนกลางวันแสกๆ อีกแล้ว?”

หวังเจียเหยากำลังจะเดินไปดูที่ห้องนอน แต่ตอนที่เดินไปถึงโซฟาด้านนอกห้องหวังเจียเหยาก็เห็นชุดกระโปรงสีดำวางพาดไว้ด้านบนทันที

“เอ๊ะ? ฉันเอาเสื้อผ้าวางไว้ด้านนอกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หวังเจียเหยายังคิดว่ากระโปรงตัวนี้เป็นของตนเอง อย่างไรเสียหล่อนก็มีเสื้อผ้าเป็นพันตัว เคยซื้อตัวไหนหรือไม่ได้ซื้อตัวไหนหล่อนลืมไปนานแล้ว

หวังเจียเหยาหยิบชุดกระโปรงตัวนั้นขึ้นมาดู แต่ตอนที่หยิบมาก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรผิดปกติ

หล่อนค้อมตัวลงมาดมแล้วทันใดนั้นเองก็รู้สึกแปลกพิกล “น้ำหอมกลิ่นซิตรัสเหรอ? ไม่ใช่ละ นี่ไม่ใช่เสื้อผ้าของฉันนี่!”

หวังเจียเหยามีเสื้อผ้าเยอะเกินไปแล้ว ทันใดนั้นเองก็เริ่มแยกแยะไม่ได้ว่าเสื้อผ้าชุดนี้ใช่ของหล่อนหรือไม่

แต่ว่าน้ำหอมที่ทุกคนใช้นั้นจะมีกลิ่นต่างกัน หล่อนไม่ได้ใช้น้ำหอมกลิ่นซิตรัสมาสองปีแล้ว

“มีผู้หญิงคนอื่นอยู่ในบ้าน!”

ทันใดนั้นเองหวังเจียเหยาก็นึกถึงความเป็นไปได้ข้อนี้

“เย่เฉินคนสารเลว! คิดไม่ถึงว่านายจะกล้าสวมเขาให้ฉัน! ใคร! นังนั่นมันเป็นใคร!”

หวังเจียเหยาหงุดหงิดจนเหมือนจะระเบิดอยู่รอมร่อ หล่อนรีบพุ่งไปผลักประตูเข้าไปในห้องนอน

“หวังหยวนหยวนเหรอ?”

และในตอนที่หล่อนเห็นผู้หญิงที่อยู่ในห้องกับสามีของตนเองคือหวังหยวนหยวนก็ตกตะลึงจนตัวค้างแข็งไป

ท่าทางตกใจนั้นรุนแรงมากกว่าตอนที่เย่เฉินเห็นหล่อนกับฟางเชาที่โรงแรมเจียหัวเสียอีก

“อุ้ยทำไมพี่กลับมาเช้าแบบนี้ล่ะคะ!”

หวังเหยาเหยาแสร้งทำเป็นตกใจ รีบร้อนคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบวิ่งหนีไป

ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงคนอื่น หวังเจียเหยาไม่มีทางจะให้ผู้หญิงคนนั้นได้ออกจากประตูบ้านตัวเอง

จะต้องจิกหัวผู้หญิงคนนั้นแล้วทะเลาะกันสักยก

แต่หวังหยวนหยวนเป็นหลานรักของคุณย่า หล่อนทะเลาะกันจอแจกับหวังหยวนหยวนแต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกันมาก่อน

ดังนั้นหวังเจียเหยาทำได้เพียงระบายโทสะนี้กับเย่เฉิน!

หวังเจียเหยาเดินไปหาเย่เฉินด้วยท่าทางโมโห หญิงสาวง้างมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าเย่เฉิน

เพี้ยะ!

หวังเจียเหยาก่นด่า “เย่เฉิน! นายหน้าไม่อายเกินไปแล้ว! นายนี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ! ฉันไปขอโทษหลิ่วอวี่เจ๋อให้นาย ไปซื้อข้าวให้นาย! แต่นายกลับเล่นชู้กับผู้หญิงคนอื่นที่บ้านเรา! แถมคนนั้นยังเป็นน้องสาวของฉันอีก! ทำไมนายมันสารเลวหลายใจแบบนี้!”

หล่อนด่าเขาไปพร้อมๆ กับง้างมือขึ้นมาตั้งใจจะตบเย่เฉินอีกรอบ

ทว่าครั้งนี้เย่เฉินคว้าแขนหวังเจียเหยาเพื่อไม่ให้หล่อนได้สมใจ

แล้วออกแรงผลัก และพุ่งตัวไปหาหวังเจียเหยา

“ผมหน้าไม่อายเหรอ? ผมน่ารังเกียจเหรอ? ผมเจ้าชู้หลายใจ? หวังเจียเหยาคุณล่ะ? คุณนี่มันหน้าไม่อาย ตอนนี้คุณรู้จักโกรธแล้วเหรอ โมโหขึ้นมาแล้วเหรอ? ตอนนั้นที่คุณไปเปิดห้องกับฟางเชาเคยคิดถึงความรู้สึกของผมบ้างไหม!”

เย่เฉินอยากจะทะเลาะกับหวังเจียเหยามานานแล้ว!

หวังเจียเหยากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก็ได้จะขุดเรื่องเก่ามาพูดใหม่ใช่ไหม? หงเย่พูดถูกจริงๆ ด้วย นายมันเป็นผู้ชายใจแคบจะต้องไม่ลืมเรื่องนี้แน่! พอทะเลาะกันก็พูดถึงเรื่องเน่าๆ ในอดีต นายเป็นผู้ชายภาษาอะไร! หย่ากันเถอะ!”

ในที่สุดหวังเจียเหยาก็พูดคำที่เย่เฉินรอคอยมาเนิ่นนาน!

ในที่สุดหล่อนก็ขอหย่ากับเขาสักที!

แต่ในวินาทีนี้เย่เฉินโกรธมาก แล้วเขาก็ปฏิเสธหญิงสาวทันควัน!

“ผมไม่หย่า! มีสิทธิ์อะไรมาขอหย่ากับผม? เรื่องคุณกับฟางเชาในตอนนั้นผมให้อภัยคุณไม่หย่ากับคุณแล้ว ส่วนเรื่องวันนี้พวกเราถือว่าเสมอกันแล้ว ผมให้อภัยคุณมาก่อน คุณมีสิทธิ์อะไรจะไม่ให้อภัยผม? คู่สามีภรรยาในวงการบันเทิงนอกใจกันก็ตั้งมากมาย แถมผู้ชายเป็นฝ่ายนอกใจ ผู้หญิงเป็นคนให้อภัย แถมผู้หญิงเป็นฝ่ายนอกใจถึงได้หย่า! ทำไมพอเป็นพวกเราแล้วกลับกันล่ะ? หรือว่าบรรทัดฐานของพวกเรากับพวกเชาไม่เหมือนกันเหรอ?!”

เย่เฉินไม่สามารถทนรับความอัปยศนี้ได้ ในฐานะที่เป็นผู้ชายจีน เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

หวังเจียเหยาตะคอก “นายยังมีหน้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับดาราด้วยเหรอ? นายรู้ไหมว่าดาราชายที่นอกใจพวกนั้นหาเงินได้เท่าไหร่? ถ้าตอนนี้นายยังเป็นลูกหลานตระกูลเย่ ฉันก็อาจจะอภัยให้นายก็ได้! แต่ตอนนี้นายไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น! นายไม่มีสิทธิ์นอกใจฉัน!”

เย่เฉินเหนื่อยหน่าย ผิดหวัง เจ็บปวดใจ!

“ฮ่าๆ พูดไปพูดมาที่สุดแล้วก็เพราะเรื่องเงิน! ที่แท้ถ้าเป็นผู้ชายมีเงินเป็นคนนอกใจถึงจะได้รับการให้อภัย”

เย่เฉินมองหวังเจียเหยาด้วยดวงตาดูถูก เขาเหยียดหยามผู้หญิงคนนี้!

เย่เฉินกล่าวว่า “ก็ได้ ผมยอมหย่า ตอนนี้ผมมันเป็นยาจก ตระกูลหวังของพวกคุณตอนนี้เป็นตระกูลร่ำรวยแล้วนี่ ผมไม่อาจเอื้อมหรอก! ผมไม่กล้าเข้าไปขวางคุณหาผู้ชายคนใหม่หรอก แต่ว่าตอนนี้คุณตั้งท้องอยู่ ผมหวังว่าคุณจะคลอดเด็กคนนี้ แล้วยกเด็กให้ผมเลี้ยง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อให้คุณแต่งงานใหม่ก็สะดวกด้วย”

ใครจะรู้หวังเจียเหยาจะตอบกลับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันเอาเด็กออกไปแล้ว”

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เย่เฉินถลึงตามองหวังเจียเหยา

หวังเจียเหยาพูดเสียงดัง “ฉันบอกว่าฉันเอาเด็กออกแล้ว! นายในตอนนี้การงานเป็นชิ้นเป็นอันยังไม่มีเลย ปล่อยให้เด็กคลอดออกมาลำบากกับนายหรือไง”

มือขวาของเย่เฉินสั่นระริก เขาทนไม่ไหวแล้ว เขาง้างมือขวาขึ้นมาแล้วฟาดลงบนหน้าหวังเจียเหยา!

เพี้ยะ!

เย่เฉินย่อมต้องควบคุมแรงของตนเองแต่หวังเจียเหยาที่โดนตบก็ยังล้มลงไปกองบนพื้น

เมื่อครู่ตอนที่หวังเจียเหยาด่าเย่เฉินอย่างรุนแรงเมื่อครู่ เขาก็อยากจะตบหล่อนแล้ว!

เราสองคนใครน่ารังเกียจกันแน่!

คุณไปเป็นชู้กับฟางเชาไม่เท่าไหร่ ยังไปเป็นชู้กับหลิ่วอวี่เจ๋ออีก แต่ผมกับหวังหยวนหยวนไม่ได้ทำอะไรกันด้วยซ้ำ แค่แสดงละครเท่านั้น!

คุณสิผู้หญิงน่ารังเกียจ!

คุณไม่มีสิทธิ์ว่าคนอื่น!

เพียงแต่ว่าเย่เฉินเห็นแก่ที่หวังเจียเหยาตั้งท้องจึงไม่ได้ลงมือทำอะไร

ตอนนี้พอได้รู้ว่าหวังเจียเหยาเอาเด็กในท้องของพวกเขาออกแล้ว เย่เฉินก็ทนไม่ไหว

“เด็กเป็นลูกของเราสองคน คุณมีสิทธิ์อะไรทำแท้งโดยไม่ถามความเห็นของผม!”

เย่เฉินตะโกนถามหวังเจียเหยาเสียงดัง!