ตอนที่ 131 พวกคุณแน่ใจนะว่าจะหย่า

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

หวังเจียเหยานอนกองบนพื้น มือข้างหนึ่งกุมหน้าเอาไว้ ส่วนอีกมือกุมท้องเอาไว้ น้ำตาไหลพรากทันที

“นายตบฉันเหรอ? คิดไม่ถึงเลยว่านายจะตบฉัน? แต่งงานกันมาสามปีนายไม่เคยตบฉันเลยสักครั้งเดียว ต่อให้เป็นเรื่องฟางเชาเมื่อคราวก่อน นายยังไม่โกรธขนาดนี้เลย คิดไม่ถึงว่าตอนนี้นายจะลงไม้ลงมือกับฉันได้ลงคอ? เย่เฉินนายมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย นายมันคนเจ้าชู้! คนสารเลว! เดียรัจฉาน!”

เย่เฉินไม่เคยตบตีหวังเจียเหยามาก่อนจริงๆ

เขารักหญิงสาวมากจริงๆ

ก่อนนี้เย่เฉินเห็นฉินหงเหยียนตบหวังเจียเหยาฉาดใหญ่ยังเจ็บปวดใจ และยังบอกฉินหงเหยียนว่าห้ามตบหล่อนอีก

เห็นท่ากุมท้องของหวังเจียเหยาแล้ว เย่เฉินก็ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ หวังเจียเหยายังไม่ได้ทำแท้ง คำพูดของหล่อนเมื่อครู่เป็นเพียงเพราะโทสะเท่านั้น หล่อนแค่จงใจยั่วโมโหเขาเท่านั้น

เย่เฉินรีบทรุดตัวลงไปประคองหวังเจียเหยาขึ้นมาแล้วถาม “คุณ…ยังไม่ได้ทำแท้งใช่ไหม?”

หวังเจียเหยาผลักเย่เฉิน “ต่อให้ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ทำแท้ง แต่หลังจากที่หย่ากับนายแล้วก็จะเอาออกอยู่ดี!ฉันก็กล้าบอกนายด้วยว่าฉันมีผู้ชายคนอื่น! เขาจะให้ฉันเอาเด็กออกแล้วถึงจะยอมแต่งงานกับฉัน นายคิดว่าฉันอยากทำแท้งหรือไง? นายรู้ไหมว่าการทำแท้งมันส่งผลเสียต่อร่างกายผู้หญิงขนาดไหน? ต่อไปฉันอาจจะมีลูกไม่ได้แล้ว อนาคตถ้าอยากจะมีลูกโอกาสที่จะแท้งก็เป็นไปได้มาก! ที่สำคัญเขายังเป็นชีวิตที่บริสุทธิ์ เป็นตัวแทนความรักของเราสองคน ยังไงเสียพวกเราก็เคยรักกันมาสามปี นายคิดว่าฉันทำได้ลงคอหรือไง?”

หวังเจียเหยาพูดพลางร้องไห้โฮ

เย่เฉินกัดฟันคิดในใจ “ที่แท้ก็เป็นฝีมือเดียรัจฉาน หลิ่วอวี่เจ๋อนั่นที่คิดจะฆ่าลูกที่ยังไม่ได้เกิดของเรา!”

ไม่ว่าหวังเจียเหยาและเย่เฉินจะรู้สึกอย่างไรต่อกัน แต่เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์

คุณปู่ของเย่เฉินเคยกำชับเอาไว้ว่าหากมีสายเลือดตระกูลเย่ จำเป็นต้องเก็บเด็กเอาไว้

เรื่องบางเรื่องอาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น

เย่เฉินหยิบทิชชู่จากหัวเตียงส่งให้หวังเจียเหยาแล้วกล่าว

“หวังเจียเหยาผมขอแนะนำคุณให้เลิกใสซื่อแบบนี้ได้แล้ว! ทรัพย์สมบัติของตระกูลใหญ่ๆ ไม่ได้มาครอบครองง่ายๆ หรอกนะ! อย่าคิดว่าแค่คุณทำแท้งแล้วคุณจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ! ถ้าหากคุณเก่งมากนักก็ไปหาเศรษฐีฝรั่งที่รวยติดอันดับอย่างเจ้าของ Facebook สิ คุณอาจจะได้กลายเป็นเศรษฐีนีแสนล้านก็ได้ ตระกูลใหญ่ๆ ในประเทศเรา จะแต่งสะใภ้ทั้งทีจะต้องเหมาะสมกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องให้กำเนิดลูก!

อย่าเอาแต่คิดว่าจะอาศัยลูกชายให้ร่ำรวย มีลูกแล้วจะได้ตำแหน่งสำคัญๆ ในบริษัทอะไรอย่างนั้น ต่อให้คุณมีลูกให้พวกเขา เด็กเองก็ต้อยกให้ตระกูลดูแล โตแล้วก็ไม่มีทางสนิทสนมกับคุณ อย่าเอาแต่หมกมุ่นว่าตัวเองหน้าดีแล้วจะใช้ความสวยงามน้ันแลกมาด้วยทรัพย์สินและความร่ำรวย!”

หวังเจียเหยารับกระดาษมาแล้วขว้างไปที่เย่เฉิน

“สั่งสอนฉันให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ! นายมันคนหลายใจ! มีชู้ตอนภรรยาตัวเองกำลังท้องนายมันหน้าไม่อายจริงๆ! ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเลยนะ! ฉันจะหย่ากับนายตอนนี้เลย ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีกแล้ว!”

คำพูดเมื่อครู่ของเย่เฉินเป็นคำพูดที่เพราะอารมณ์ และเป็นคำเตือน

ในเมื่อหวังเจียเหยาไม่อยากฟังแถมยังเลอะเลือนโง่งม คิดว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะแต่งงานกับหล่อน แล้วจะยกทรัพย์สมบัติมูลค่ามากมายให้

เมื่อเวลานั้นมาถึงหวังเจียเหยาก็ต้องรับกรรมไป จะโทษคนอื่นไม่ได้

เย่เฉินกล่าวว่า “ก็ได้ ผมเคยรับปากคุณย่าเล็กของคุณ ผมจะไม่หย่ากับคุณนอกเสียจากว่าคุณจะเป็นฝ่ายขอหย่ากับผม วันนี้ผมถือว่าไม่ได้ผิดคำพูดแล้ว!”

การสมรสที่ผิดพลาดครั้งนี้ ในที่สุดก็มีจุดจบเสียที!

ทั้งสองคนหยิบเอกสารพวกทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ออกจากบ้าน เย่เฉินขับรถไปที่สำนักกิจการพลเรือนอย่างรวดเร็ว

หลังจากขับรถเข้าไปแล้ว หวังเจียเหยาก็ยังคงร่ำไห้อย่างเศร้าสร้อย

วันนี้ดูเหมือนจะเป็นฤกษ์ดี มีคนจำนวนมากมาจดทะเบียนกันที่สำนักกิจการพลเรือน

เมื่อเห็นใบหน้างดงามของหวังเจียเหยาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ท่าทางของหญิงสาวน่าสงสาร

หญิงวัยสี่สิบคนหนึ่งเดินมาแล้วถาม “น้องสาว หย่ากันทำไมเหรอ? เพราะสามีนอกใจเธอเหรอ?”

หวังเจียเหยาใช้ทิชชูซับน้ำตาพลางพยักหน้ารับ

หญิงวัยกลางคนที่น่าจะมีน้ำหนักประมาณเจ็ดสิบกิโลกรัมกล่าวดด้วยโทสะ “คนแก่พูดเอาไว้ อีกาก็ดำเหมือนกันหมดในโลกนี้ไม่มีหรอกผู้ชายที่ดีน่ะ! น้องสาว พี่ก็เหมือนเธอ เป็นเพราะผัวสารเลวมันนอกใจแล้วโดนจับได้ เธอทำถูกแล้ว เจอเหตุการณ์แบบนี้ยังไงก็ต้องหย่า!

ผู้ชายมีสิทธิ์อะไรที่พอหย่าแล้วต้องได้รับการให้อภัย? ฉันนะรู้สึกไม่คุ้มแทนเธอเลย เธอรู้ไหมผัวพี่นะนอกใจไปเป็นกิ๊กกับนักศึกษา พี่เองก็พอเข้าใจได้ เพราะไม่ว่ายงไงพี่ก็แก่แล้วคงสู้พวกสาวๆ มหาลัยไม่ได้ แต่เธอหน้าตาก็สวยขนาดนี้ สามีเธอทำไมถึงนอกใจล่ะ? เขาตาบอดหรือไง?”

หวังเจียเหยาถลึงตาใส่เย่เฉินแล้วตอบ “ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ของใหม่ที่ไม่เคยน่ะค่ะขี้ก็ว่าหอม!”

“หวังเจียเหยาพอได้แล้ว! ระหว่างเราสองคนใครกันแน่ที่เป็นคนมีชู้ก่อน!”

เย่เฉินทนไม่ไหวแล้ว เดิมทีเขาอยากจะทำเรื่องหย่าให้จบแบบเงียบๆ ยังไงเสียก็เคยเป็นสามีภรรยากันมาถึงสามปี อีกทั้งยังมีลูกด้วยกัน

เป็นสามีภรรยากันไม่ได้ อย่างน้อยเป็นเพื่อนกันก็ยังดี

แต่หวังเจียเหยาทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด แต่กลับทำท่าทางราวตนเองเป็นเหยื่อเสียอย่างนั้น

อย่าว่าแต่เรื่องของเย่เฉินกับหวังหยวนหยวนเป็นแค่การแสดงเลย ต่อให้เป็นเรื่องจริงหล่อนก็ไม่มีสิทธิ์มาด่าเขาแบบนี้!

หวังเจียเหยากล่าว “หลังจากกลับมาคืนดีกันแล้ว ฉันกล้าสาบานเลยว่าไม่เคยมีชู้มาก่อน! นายทำไปเพราะจะล้างแค้นฉันเรื่องเมื่อคราวก่อนใช่ไหมล่ะ? ในเมื่อนายติดใจขนาดตอนนั้นก็ไม่ต้องคืนดีกับฉันสิ! อีกทั้งนายยังนอนกับน้องสาวฉัน นายมันหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!”

หวังเจียเหยาพูดเสียงดัง เหมือนว่าอยากจะให้ทุกคนได้ยินความผิดของเย่เฉิน

หลังจากที่หญิงวัยกลางคนรีบร้อนสาวเท้าเดินไปด้านหน้า ตะโกนกร้าวใส่เย่เฉิน “เธอตะโกนใส่แม่หนูน้อยคนนี้ทำไม! ก่อนจะแต่งงานหล่อนอยากทำอะไรก็ย่อมทำได้ตามใจตัวเอง แต่พอแต่งงานแล้วแม่หนูไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเธอนะ! แล้วเธอยังไปนอนกับน้องสาวของภรรยาอีก คนเจ้าชู้ประตูดินแบบนี้น่าจะโดนจับตอนเสียให้เข็ด!”

“นั่นสิ ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้เกินไปแล้ว!”

ไม่เพียงแต่หญิงวัยกลางคนผู้นี้ ผู้หญิงที่ทำเรื่องหย่าคนอื่นๆ ก็เดินมายืนข้างๆ หวังเจียเหยา และปลอบโยนหล่อน

เย่เฉินไม่อยากจะเถียงกับผู้หญิงวัยกลางคนกลุ่มนี้ และน่าจะเถียงไม่ชนะพวกหล่อน

คนอื่นอยากจะมองอย่างไรก็มองไป หากว่าตนเองกลายเป็นคนเจ้าชู้หลายใจแล้วจะสามารถอยู่ไกลจากคนอย่างหวังเจียเหยาได้ล่ะก็ เขายอมรับตำแหน่งคนหลายใจก็ได้!

เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาช่ายหมิ่นผอ.สำนักกิจการพลเรือน

ก่อนนี้ช่ายหมิ่นเคยโทรหาเย่เฉินดังนั้นเขาจึงบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายเอาไว้

“ฮัลโหล ผอ.ช่าย คุณอยู่ที่สำนักงานไหมครับ? ผมกับภรรยาอยากจะยื่นเรื่องขอหย่า ตอนนี้อยู่ที่สำนักกิจการพลเรือนแล้วครับ”

ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็มีหญิงวัยกลางคนผมสั้นใส่เสื้อเชิ้ตหลายดอกคนหนึ่งเดินมา

“สวัสดีค่ะ คุณเย่เฉิน คุณหวังเจียเหยา ดิฉันชื่อช่ายหมิ่น”

ช่ายหมิ่นแนะนำตัวเองแล้วกล่าวขอโทษคนทั้งสอง

“เรื่องก่อนนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ดิฉันไล่คนที่ทำใบหย่าปลอมคนนั้นออกไปแล้ว คุณดูสิคะก็เลยรบกวนเรื่องหย่าของพวกคุณสองคน แต่ดิฉันเห็นพวกคุณไม่มาเสียที ยังคิดว่าพวกคุณคืนดีกันไปแล้วเสียอีก ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ดิฉันก็ดีใจแทนพวกคุณมากทีเดียว อย่างไรเสียบางครังการหย่าก็อาจะเป็นเพียงแค่การกระทำจากอารมณ์เพียงชั่ววูบเท่านั้น

ทั้งสองท่านอย่าหาว่าดิฉันปากมากเลยนะคะ พวกคุณแน่ใจแล้วใช่ไหมคะว่าจะหย่ากันจริงๆ?”