บทที่ 183 ไม่อาจตัดใจ

ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน

ตอนที่​กู้​ซี​เก็บ​สัมภาระ​ ​เหล่า​คุณหนู​สกุล​เผย​ก็​ร่ำร้อง​ว่า​อยาก​จัดงาน​เลี้ยงส่ง​ให้​นาง​ ​คล้าย​ไม่เข้าใจ​ความนัย​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ที่​ต้องการ​ให้​นาง​กลับบ้าน​ไป​ ​หัวใจ​ของ​กู้​ซี​รู้สึก​ดีขึ้น​ไม่น้อย​ ​สีหน้า​จึง​ไม่​ย่ำแย่​เหมือน​ตอนแรก​ ​แต่​เรื่อง​งานเลี้ยงอำลา​นี้​ ​นาง​ยอมรับ​ว่า​ตน​หน้า​ไม่​หนา​ขนาด​แสร้งทำ​ว่า​ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​ ​แล้วไป​กิน​ดื่ม​กับ​เหล่า​คุณหนู​สกุล​เผย

อวี​้​ถัง​ไม่​อยาก​แสร้ง​วางท่า​ต่อหน้า​กู้​ซี​ ​นาง​ฟังออก​ถึง​ความหมาย​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ ​แต่​วาจา​เกรงใจ​สัก​คำ​ยัง​ไม่​เอ่ย​ด้วยซ้ำ

นี่​ทำให้​กู้​ซีล​อบ​คาดเดา​ใน​ใจ​ ​ว่า​เป็น​เพราะ​อวี​้​ถัง​รู้​อะไร​บางอย่าง​หรือเปล่า​?

ไม่ว่า​อย่างไร​ ​กู้​ซีก​็​ต้อง​จากไป​ ​แต่​เพราะ​ใจ​นาง​ไม่​อาจ​ยอมรับ​ ​คิด​ว่า​ตน​จะ​ไป​บอกลา​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​เป็นการ​ส่วนตัว​สักครั้ง​ ​หาก​ถาม​อะไร​จาก​ปาก​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ได้​ก็​คงดี​ ​อย่างเช่น​ว่า​เหตุใด​ต้อง​เร่ง​ให้​นาง​รีบ​กลับบ้าน​ ​แต่​ถ้า​ไม่มี​โอกาส​ ​ก็​ขอ​ได้​พูดคุย​กับ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​เป็นการ​ส่วนตัว​สัก​สอง​สาม​คำ​ก็​ยังดี​…​ไม่ว่า​ต่อไป​นาง​แต่ง​เข้าไป​เป็น​นาย​หญิง​ของ​สกุล​ใด​ ​ล้วนแต่​ต้อง​มีเรื่อง​ให้​เกี่ยวพัน​กับ​สกุล​เผย​ทั้งสิ้น​ ​อีก​อย่าง​หลาย​วันนี้​ที่นาง​พัก​อยู่​กับ​สกุล​เผย​ ​ก็​เข้ากับ​เหล่า​คุณหนู​สกุล​เผย​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​คุณหนู​สกุล​เผย​มิใช่​พวก​มาก​เล่ห์​คิดร้าย​ ​คุ้มค่า​ที่จะ​คบหา​เอาไว้​อย่างยิ่ง

คิดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​อด​จะ​นึกถึง​งานแต่ง​ของ​คุณหนู​รอง​ไม่ได้

สกุล​หยาง​เอง​ก็​เคย​เข้าตา​สกุล​กู้​ของ​พวก​นาง​เช่นกัน​ ​เพียงแต่​หญิงสาว​สกุล​กู้​ที่​อายุ​ไล่เลี่ย​กับ​คุณชาย​หยาง​มี​เพียง​บุตรสาว​อนุ​สาย​รอง​ไม่​กี่​คน​ ​เรื่อง​เกี่ยวดอง​จึง​ไม่มี​ให้​เอ่ยถึง​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​มารดา​เลี้ยง​ของ​นาง​ยัง​เสียดาย​หนักหนา​ที่​น้องสาว​ต่างมารดา​หลาย​คน​ของ​นางอายุ​ห่าง​จาก​คุณชาย​หยาง​มากเกินไป​ ​คุณชาย​หยาง​เป็น​บุตรชายคนโต​ ​เกรง​ว่า​จะ​ไม่​ยินดี​แต่งงาน​กับ​ภรรยา​ที่​อายุ​น้อย​เกินไป​นัก

คู่​หมาย​ของ​คุณหนู​สาม​ก็​นับว่า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว

แม้​จะ​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ ​แต่​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​คุณหนู​สาม​ก็​เป็น​ครอบครัว​บัณฑิต​ ​รับราชการ​สืบต่อ​กัน​มา​ ​ผ่าน​ไป​อีก​หนึ่ง​ถึง​สอง​รุ่น​ก็​คง​ผลิต​จิ้น​ซื่อ​ออกมา​ได้​แล้ว​ ​ตอนนี้​ใน​สกุล​มี​คนรับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​สูงสุด​คือ​ผู้ว่าการ​แห่ง​เจียง​ซี​ ​ซึ่ง​ก็​คือ​ท่าน​ลุง​แท้ๆ​ ​ของ​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​คุณหนู​สาม​ ​หากว่า​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​คุณหนู​สาม​เป็น​เมล็ดพันธุ์​ชั้นดี​ใน​การเล่าเรียน​ศึกษา​ ​ทั้ง​ได้การ​สนับสนุน​จาก​สอง​สกุล​ ​เส้นทาง​ขุนนาง​จะ​รุ่งเรือง​เพียงใด​คง​ไม่ต้อง​พูดถึง

นี่​จึง​จะ​นับว่า​เป็น​รากฐาน​ของ​สกุล​ได้

เพียงแต่​บิดา​นาง​ไม่ได้ความ​ ​ถูก​มารดา​เลี้ยง​เป่าหู​ให้​รู้จัก​แต่​กด​ข่ม​น้องชาย​ที่เกิด​จาก​อนุ​เอาไว้​ ​พวก​นาง​บ้าน​รอง​ต่อให้​มีพี​่​ชาย​คอย​เป็นหลัก​อยู่​ ​แต่​ก็​คง​ค้ำจุน​ต่อไป​ได้​ไม่นาน

กู้​ซี​ถอนหายใจ​ยาวเหยียด

เหอ​เซียง​เดิน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​กระวนกระวาย​ ​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​นาง​ว่า​ ​“​คุณหนู​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​เผย​ผู้​นั้น​ส่ง​สาวใช้​มา​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​จะ​กลับ​หังโจว​ ​จึง​ส่ง​กล้วยไม้​สอง​กระถาง​มา​ให้​เป็น​ของขวัญ​อำลา​”

กู้​ซีละ​ล้า​ละ​ลัง​พักใหญ่

นาง​ไม่​อยาก​เข้าไป​ยุ่ง​กับ​น้ำ​ขุ่น​ใน​สกุล​เผย​ ​แล้ว​นาย​หญิง​ใหญ่​ทาง​นั้น​…​นาง​รู้สึก​เสียใจ​นิดหน่อย​ที่​ตอนแรก​พยายาม​เข้าหา​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​เดิม​แค่​ต้องการ​ให้ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​กับ​เผย​เยี​่​ยน​เห็น​ถึง​ฝีมือ​ใน​การ​สร้าง​ปฏิสัมพันธ์​ของ​นาง​ ​บัดนี้​มัน​กลับกลาย​เป็น​ข้ออ้าง​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​ใช้​เข้าใกล้​นาง​แล้ว

ทั้งที่​รู้​ว่า​ไม่สมควร​ ​แต่​การ​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​สั่ง​คน​มาส​่​งก​ระ​ถาง​กล้วยไม้​ให้​นาง​อย่างกะทันหัน​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​สะใจ​อยู่​ลึก​ๆ

พวกเขา​มิใช่​คิด​ว่า​ข้ามา​พัก​เรือน​ผู้อื่น​นาน​เกินไป​รึ​ ​ทั้ง​คิด​ว่า​ข้า​ขาด​จิต​สำนัก​และ​การอบรม​ว่าด้วย​การ​วางตัว​เป็น​แขก​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำตัว​ให้​ดีขึ้น​ ​แค่​เล่น​บท​คนที​่​ไม่เข้าใจ​อะไร​สัก​อย่าง​ก็​พอแล้ว

อีก​อย่าง​ ​สกุล​หยาง​ก็​มิใช่​จะ​ต่อกร​ได้​ง่ายๆ

แม้​เมื่อก่อน​จะ​ค่อนข้าง​อ่อนแอ​ ​แต่​สกุล​หยาง​รุ่น​นี้​กลับ​มี​ขุนนาง​ถึง​สาม​คน​ ​อย่างน้อย​ก็​คง​รุ่งเรือง​ก้าวหน้า​ไป​ได้​อีก​ยี่สิบ​ปี​ ​แล้ว​ทำไม​นาง​ต้อง​ผลักไส​สกุล​หยาง​ให้​ห่าง​ออก​ไป​ด้วย​เล่า​?

กู้​ซี​หัวเราะ​ ​“​เชิญ​สาวใช้​คน​นั้น​เข้ามา​ ​ตก​เงินราง​วัล​ให้​นาง​ไป​จำนวน​หนึ่ง​ ​บอกว่า​ดอกไม้​นี้​ข้า​รับเอา​ไว้​แล้ว​ ​ขอบคุณ​ความ​เอ็นดู​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​หากว่า​นาย​หญิง​ใหญ่​มีโอกาส​ไป​เมือง​หังโจว​ ​ต้อง​ให้​นาง​แวะ​ไป​นั่งเล่น​ที่​เรือน​ข้า​ให้​จง​ได้​ ​นาย​หญิง​สกุล​เรา​ชื่นชอบ​การ​รับแขก​มาก​ ​หาก​นาง​ไป​แล้ว​อย่าง​อื่น​ไม่พูดถึง​ ​เรื่อง​กิน​ดื่ม​ไม่มีทาง​ตกหล่น​แน่​”

มารดา​เลี้ยง​ของ​นาง​มี​โรง​สุรา​เป็น​สินเดิม​ ​ตั้งแต่​แต่ง​เข้า​สกุล​กู้​ ​ก็​ชอบ​นำ​สุรา​ของ​ตน​ออกมา​รับแขก​ใน​งานเลี้ยง​เสมอ​ ​นับเป็น​การ​เรียก​ลูกค้า​เข้า​ร้าน​ตัวเอง​แบบ​หนึ่ง​ ​แต่ก่อน​ตน​รู้สึก​รำคาญ​เป็น​ที่สุด​ ​แต่​มาบั​ดนี​้​กลับ​คิด​ว่า​มีมา​รดา​เลี้ยง​เช่นนี้​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​เลวร้าย​อะไร

เหอ​เซียง​จึง​พาตัว​สาวใช้​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​เข้ามา

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ทาง​นั้น​ ​กำลัง​พูดคุย​ความในใจ​กับ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​อยู่​ว่า​ ​“​นึก​ว่า​เป็นคุณ​หนู​จาก​สกุล​ใหญ่​ ​จะ​ทำ​เรื่อง​ใด​ล้วน​ไม่​เอะอะ​แยกแยะ​หนัก​เบา​ได้​ ​นาง​นั้น​รู้​หนัก​รู้​เบา​อยู่​หรอก​ ​แต่​นิสัย​…​ดังนั้น​ถึง​ได้​บอกว่า​ ​นิสัย​คน​ไม่​อาจม​อง​จาก​ครอบครัว​ได้​ทั้งหมด​ ​สิ่ง​ที่​หายาก​ใน​หญิงสาว​คือ​รู้​ว่า​ ​เมื่อไร​ควร​ฉลาด​ ​เมื่อไร​ควร​เลอะเลือน​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​แต่ก่อน​เป็น​วีรสตรี​ผู้​หนึ่ง​ ​เพียงแต่​ต้อง​ดูแล​ท่าน​ผู้เฒ่า​สกุล​อี้​ที่​ร่างกาย​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​มา​เกือบ​ยี่สิบ​ปี​ ​พอ​อายุ​เริ่ม​มากขึ้น​ ​จึง​มอง​คน​มอง​เรื่องราว​ด้วยใจ​ที่​เปิดกว้าง​ ​อารมณ์​ก็​เย็น​ลง​กว่า​แต่ก่อน​แล้ว​ ​นาง​ได้ยิน​ก็​หัวเราะ​ ​“​แล้ว​เจ้า​ยัง​ไล่​คน​เช่นนี้​อีก​?​ ​ข้า​เห็น​คุณหนู​ผู้​นั้น​อับอาย​มาก​ ​กลัว​จะ​ฝังใจ​ต่อสกุล​เรา​ ​เป็นการ​เพิ่ม​ความขัดแย้ง​ให้​ลูกหลาน​เสียเปล่า​ๆ​”

ท่าน​ผู้เฒ่า​สกุล​เผย​ร้อง​ ​“​เหอะ​”​ ​ออกมา​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​เด็กสาว​ที่​สกุล​เรา​สั่งสอน​ออกมา​ ​มิใช่​บุปผา​ใน​ห้อง​อุ่น​ที่​มี​ไว้​ชื่นชม​แต่​ไร้ประโยชน์​ ​หาก​เล่ห์เหลี่ยม​แค่นี้​พวก​นาง​ยัง​เอาตัวรอด​ไม่ได้​ ​ต่อไป​จะ​รับมือ​กับ​พวก​พี่สะใภ้​และ​ป้า​สะใภ้​ใน​สกุล​ที่​มีทั​้​งอา​ยุ​และ​ประสบการณ์​มากกว่า​ได้​อย่างไร​?​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​หัวเราะ​หึๆ​ ​“​ข้า​รู้สึก​ว่า​คุณหนู​ผู้​นั้น​ไม่เลว​ ​คง​ไม่มี​ผู้มอง​โลก​อย่าง​ปรุโปร่ง​คอย​สั่งสอน​ ​แต่​คน​นับว่า​เฉลียวฉลาด​อยู่​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ไม่รู้​ว่า​ดูถูก​สกุล​กู้​หรือไม่​ชอบ​กู้​ซีกัน​แน่​ ​“​พวก​ที่​เติบโต​มากั​บมา​รดา​เลี้ยง​ ​มี​ไม่​กี่​คนที​่​จะ​ออกมา​ดี​ได้​หรอก​ ​ไม่มี​ปัญญา​ก็​หลบ​ๆ​ ​ซ่อน​ๆ​ ​เอาไว้​สิ​!​ ​เจ้า​ดู​คุณหนู​สกุล​อวี​้​ ​ซื่อตรง​เปิดเผย​ ​เคารพ​นบนอบ​ไม่​อวด​ฉลาด​ ​ข้า​คิด​ว่า​แบบนี้​ดีกว่า​เยอะ​ ​หาก​ไม่ได้​เก่งกาจ​พอ​จะ​สู้​กับ​ไฟ​ ​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​รู้จัก​สงบเสงี่ยม​เจียมตัว​เอาไว้​บ้าง​!​”

“​เจ้า​นี่​นะ​!​”​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ส่ายหน้า​ยิ้ม​ๆ​ ​“​มี​ใคร​ไป​ขัดใจ​เจ้า​อีก​ล่ะ​?​ ​ถึง​ได้​พาล​โกรธ​ไป​ถึง​คุณหนู​บ้าน​อื่น​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​ชี้นิ้ว​ไป​ทาง​ห้อง​อุ่น​ ​“​หรือว่า​เรื่อง​ทาง​นั้น​?​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​พลัน​คลาย​สีหน้า​ลง​ ​“​เจ้า​ว่า​มัน​เป็น​เวรกรรม​อะไร​ของ​ข้า​เล่า​?​ ​ตอน​มีชีวิต​อยู่​ก็​ไม่เชื่อฟัง​ ​ดึงดัน​จะ​ดอง​กับ​สกุล​หยาง​ให้​ได้​ ​ตอนนี้​คน​ไม่อยู่​แล้ว​ ​ก็​ยัง​จะ​ทิ้ง​เรื่อง​วุ่นวาย​เอาไว้​ให้​ข้า​ ​ตา​เฒ่า​สกุล​ข้า​ก็​เหมือนกัน​ ​ตนเอง​ไม่รู้​จะ​ออก​ทาง​ไหน​ ​ถึง​ได้​โยน​หม้อ​ใบ​ใหญ่​ทิ้ง​ให้​เจ้า​สาม​ ​แล้ว​เจ้า​สาม​ทำ​อะไร​ได้​เล่า​?​ ​ทาง​หนึ่ง​ก็​พี่สะใภ้​ที่​เป็น​ม่าย​ ​ทาง​หนึ่ง​ก็​หลานชาย​กำพร้า​พ่อ​ ​เขา​เลือก​ทาง​ไหน​ก็​ผิด​อยู่ดี​!​ ​ข้า​ดูแล​้ว​ ​จะ​พูดว่า​เจ้า​ใหญ่​อกตัญญู​ ​ก็​เพราะ​ได้​ตา​เฒ่า​มานั​่น​แหละ​ ​ตนเอง​ทำผิด​พลาด​ ​ไม่มีทาง​แก้​ ​ก็​สะบัด​มือ​ทิ้ง​ไม่สน​ใจ​ ​ให้​คนอื่น​มารับ​ช่วง​เก็บกวาด​ต่อ​ ​น่าสงสาร​แต่​เจ้า​สาม​ ​ใคร​ใช้​ให้​เขา​นิสัย​เหมือน​ข้า​เล่า​ ​คิด​แต่​ให้​คนใน​ครอบครัว​อยู่ดี​มีสุข​ ​ตนเอง​ทน​รับ​กรรม​หน่อย​…​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ทนไม่ไหว​หัวเราะ​พรืด​ออกมา​ ​“​เจ้า​กำลัง​สงสาร​เจ้า​สาม​?​ ​หรือว่า​กำลัง​ชม​ตัวเอง​อยู่​น่ะ​?​”

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ใคร่ครวญ​ ​แล้วก็​หัวเราะ​ดังลั่น

ความ​อึดอัด​ใน​ห้อง​สลาย​วับ​ไป​ ​เหลือ​เพียง​บรรยากาศ​ผ่อนคลาย​เป็นสุข

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​กับ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ต้องหา​รือ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​คุณหนู​รอง​กับ​สกุล​หยาง​ ​สุดท้าย​กู้​ซีก​็​ไม่มี​โอกาส​ได้​บอกลา​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​เป็นการ​ส่วนตัว

งานแต่ง​ของ​คุณหนู​รอง​กับ​คุณชาย​หยาง​ถูก​กำหนด​ลง​อย่างรวดเร็ว​ ​เพราะ​คุณหนู​รอง​เป็น​หลานสาว​ของ​บ้าน​สาม​ ​แม้​จะ​ไม่ได้​ออกเรือน​ ​แต่​ไว้ทุกข์​เพียง​เก้า​เดือน​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ ​คุณหนู​คนอื่น​ยัง​แต่งตัว​ด้วย​เสื้อผ้า​สี​หม่น​ต่อไป​ ​เพื่อ​เป็นการ​แสดง​ความเคารพ​ต่อ​การ​จากไป​ของ​ท่าน​ผู้เฒ่า​สกุล​เผย​ ​สกุล​หยาง​ก็​คิด​เช่นเดียวกัน​ ​บอกว่า​สอง​สกุล​ตกลง​กัน​เป็นการ​ภายใน​ไว้​ก่อน​ ​เชิญ​เพียง​ญาติสนิท​มา​เป็น​สักขีพยาน​ ​รอ​ให้​บ้านใหญ่​สกุล​เผยอ​อก​ทุกข์​ ​ค่อย​มาสู่​ขอ​อย่างเป็นทางการ​ ​แห่​คุณหนู​รอง​เข้า​ประตู​ไป​อย่างยิ่ง​ใหญ่​อีกที

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​คิด​ว่า​ไม่จำเป็น​ ​บอกว่า​จดจำ​คำของ​ท่าน​ผู้เฒ่า​ได้​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ ​แต่​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​อี้​ก็​ยัง​ดึงดัน​ ​บอกว่า​ความคิด​ของ​สกุล​หยาง​ตรง​ใจ​นาง​นัก​ ​จึง​ส่ง​คน​ไป​บอก​กับ​บิดา​มารดา​ของ​คุณหนู​รอง​ให้​รับทราบ​ ​เรื่อง​นี้​จึง​นับว่า​ตกลง​กัน​เรียบร้อย

เวลานี้​กู้​ซีกำ​ลัง​เดินทาง​กลับ​เมือง​หังโจว​โดย​มี​คน​ของ​สกุล​เผย​ไป​ส่ง​ ​อวี​้​ถัง​ใคร่ครวญ​ดูแล​้ว​คิด​ว่า​ตนเอง​ก็​สมควร​กลับ​เรือน​เช่นกัน

นาง​ไป​พบ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​เพื่อ​บอกลา

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ไม่ได้​รั้ง​นาง​ ​แต่​จัด​ผ้า​ต่วน​แพร​ไหม​ ​หยูกยา​อาหารแห้ง​ ​และ​ของกิน​เล่น​ต่างๆ​ ​ให้​เต็ม​สอง​คัน​รถลาก​ ​เหล่า​คุณหนู​สกุล​เผย​ดึง​มือ​นาง​ไว้​อย่าง​ไม่​อาจ​ตัดใจ​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​ท่าน​จะ​ต้อง​มาส​วัส​ดี​ปีใหม่​ให้ท่าน​แม่เฒ่า​ทั้งสอง​คน​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​!​”

อวี​้​ถัง​ไม่รู้​ว่า​ตอนนั้น​การ​ไป​เยือน​ที่​จวนจะ​เหมาะสม​หรือไม่​ ​แต่​ถ้า​มีโอกาส​นาง​ก็​อยาก​จะ​ไป​คารวะ​สอง​แม่เฒ่า​ใน​วัน​ปีใหม่​อยู่​แล้ว

นาง​พยักหน้า​รับ​และ​ร่ำลา​กับ​คุณหนู​สกุล​เผย​ด้วย​ความอาลัย​ ​จากนั้น​ก็​ขึ้น​นั่ง​บน​เกี้ยว​ที่​สกุล​เผย​จัด​ไว้​ให้​ ​เดินทาง​กลับ​เรือน​สกุล​อวี​้

พร้อมกับ​รถลาก​อีก​สอง​คัน

อวี​้​ถัง​เพิ่งจะ​เข้า​ตรอก​ชิง​จู๋​ก็​ถูก​เพื่อนบ้าน​ล้อม​ซ้าย​ล้อม​ขวา​เอาไว้​แล้ว​ ​คน​นี้​ถาม​ว่า​อวี​้​ถัง​ไป​ไหน​มา​ ​คน​นั้น​ถาม​ว่า​สิ่งของ​บน​รถลาก​ได้มา​จาก​ไหน​ ​อวี​้​ถัง​ไม่​อยาก​ประกาศ​ถึง​ความเกี่ยวพัน​กับ​สกุล​เผย​ ​ถึง​ตอบ​อย่าง​คลุมเครือ​ไป​ ​จน​ป้า​เฉิน​ที่​รอฟัง​เสียง​อยู่​ตลอด​ว่า​ ​เมื่อไร​อวี​้​ถัง​จะ​กลับมา​ได้ยิน​เข้า​ ​จึง​วิ่ง​ไป​จำนรรจา​จน​เพื่อนบ้าน​ที่​รายล้อม​สลายตัว​ไป​หมด​ ​อวี​้​ถัง​ถึง​ผ่าน​เข้า​ประตู​เรือน​ได้​อย่างราบรื่น

คน​สกุล​เฉิน​เข้ามา​กอด​อวี​้​ถัง​ ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​อะไร​สัก​คำ​น้ำตา​ก็​ร่วง​พรู​ลงมา​แล้ว​ ​“​ลูกสาว​ข้า​ ​ให้​ข้า​ดู​หน่อย​สิ​ ​เจ้า​ไป​ที​ก็​หาย​ไป​ตั้ง​ครึ่ง​เดือน​ ​แม่นอน​หลับ​ไม่สนิท​เลย​สัก​คืน​ ​เจ้า​อยู่​กับ​สกุล​เผย​สบายดี​หรือไม่​?​ ​เหล่า​คุณหนู​สกุล​เผย​เป็น​อย่างไร​?​ ​พวก​นาง​สร้าง​ความลำบาก​ให้​เจ้า​หรือเปล่า​?​”

เพียงแต่​คำของ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​จบ​ดี​ ​อวี​้​เหวิ​นที​่​รอ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​แทรก​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​พูด​อะไร​น่ะ​?​ ​เจ้า​ไม่เห็น​หรือว่า​สีหน้า​ของ​อา​ถัง​ดีขึ้น​กว่า​ตอน​ออกจาก​เรือน​เสียอีก​ ​ทั้ง​มี​รถลาก​สอง​คัน​ตาม​กลับมา​ด้วย​ ​เห็นชัด​ว่า​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ถูกใจ​นาง​ไม่น้อย​ ​ใช่​หรือไม่​เล่า​?​ ​อา​ถัง​!​”

แม้​จะ​พูด​เช่นนั้น​ ​แต่​น้ำเสียง​ร้อนใจ​และ​สายตา​ที่​มอง​สำรวจ​ขึ้น​ๆ​ ​ลง​ๆ​ ​ของ​อวี​้​เหวิน​ ​ก็​ไม่​อาจ​ปิดความ​เป็นห่วง​และ​กังวล​ของ​เขา​ได้​มิด

อวี​้​ถัง​รับคำ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​น้ำตาไหล​ร่วง​ตามมา​รดา​ ​“​เอ่อ​ ​สกุล​เผย​บน​ๆ​ ​ล่าง​ๆ​ ​ล้วน​ดูแล​ข้า​เป็น​อย่างดี​ ​ข้า​ยัง​ตาม​พวกเขา​ไป​ที่​อาราม​ดับทุกข์​ด้วย​ ​ข้า​สบายดี​เจ้าค่ะ​ ​อีก​นิด​ก็​คง​ไม่​อยาก​กลับบ้าน​แล้ว​”

“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​!​”​ ​ไม่รู้​ว่า​ป้า​สะใภ้​กับ​คน​สกุล​เซียง​ที่​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​มองดู​ครอบครัว​กลับมา​พร้อมหน้า​นั้น​เดิน​เข้ามา​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ป้า​สะใภ้​หัวเราะ​พลาง​ตบ​ไหล่​ของ​อวี​้​ถัง​เบา​ๆ​ ​“​กลับมา​แล้วก็​ดี​ ​วันก่อน​มารดา​เจ้า​รู้​ว่า​เจ้า​จะ​กลับมา​ ​ก็​พร่ำบ่น​ไม่​เว้นแต่​ละ​วัน​ ​บอก​จะ​ซื้อ​เนื้อ​ซื้อ​ปลา​ ​จะ​ทำ​ขนม​หลายอย่าง​ที่​เจ้า​ชอบ​ไว้​ให้​ ​กระทั่ง​พวกเรา​ก็​พลอย​ลาภ​ปาก​ไป​ด้วย​ ​มี​ของ​ให้​กิน​อีก​เป็น​ครึ่ง​ตะกร้า​”

อวี​้​ถัง​หัวเราะ​เหอะ​ๆ​ ​น้ำตายั​งค​ลออ​ยู่​ที่​หาง​ตา

คุณ​สกุล​เซียง​ดึง​ผ้าเช็ดหน้า​ของ​ตนเอง​ส่ง​ให้​นาง​ ​หัวเราะ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​กลับมา​ก็ดี​แล้ว​ ​พวกเรา​กำลัง​เตรียม​อาหาร​คืน​งานเลี้ยง​ปีใหม่​อยู่​พอดี​”

อวี​้​ถัง​พยักหน้า​หงึกหงัก​ ​แล้ว​เห็น​หน้าท้อง​ที่​นูน​ออกมา​เด่นชัด​ของ​คน​สกุล​เซียง

“​ไอ​หยา​!​”​ ​นาง​มอง​คน​สกุล​เซียง​ด้วย​ความอิจฉา​และ​ตื่นเต้น​ ​“​ท้อง​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​ได้​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาตร​วจ​ดูแล​้ว​หรือยัง​เจ้า​คะ​?​ ​แล้ว​ต้อง​นัดแนะ​กับ​แม่​หมอตำแย​ไว้​ล่วงหน้า​หรือไม่​?​”

​“​เจ้า​นี่​นะ​!​”​ ​ป้า​สะใภ้​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​เอ็นดู​ ​แล้ว​เอ่ย​พร้อม​เสียงหัวเราะ​ว่า​ ​“​มิน่า​มารดา​เจ้า​เอาแต่​บ่น​คิดถึง​ไม่ขาดปาก​ ​เพราะ​ใส่ใจ​เก่ง​เช่นนี้​เอง​ ​ตนเอง​ยัง​ไม่ทัน​ยืน​ให้​มั่น​ ​กลับมา​ห่วงใย​พี่สะใภ้​เสีย​แล้ว​ ​ไม่เคย​ทำให้​ป้า​สะใภ้​อย่าง​ข้า​ต้อง​ผิดหวัง​เลย​จริงๆ​”

อวี​้​ถัง​ก้มหน้า​ลง​อย่าง​รู้สึก​ละอายใจ

ป้า​สะใภ้​กับ​มารดา​ของ​นาง​ล้วน​มีประสบการณ์​มาก​่อน​ ​เรื่อง​พวก​นี้​ไม่จำเป็น​ต้อง​ให้​นาง​มากัง​วล​ด้วยซ้ำ

แต่​เพราะ​ทุกคน​มี​รอยยิ้ม​ ​กระทั่ง​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ที่​ชอบ​วางท่า​นิ่ง​ต่อหน้า​อวี​้​ถัง​ก็​ยัง​เก็บ​สีหน้า​ชื่นมื่น​ไม่​มิด​ ​แล้ว​หัวเราะ​พร้อม​ไป​กับ​ทุกคน​ด้วย