ตอนที่ 303 ลืมไม่ลงตลอดชีวิต / ตอนที่ 304 กลัวอะไร

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 303 ลืมไม่ลงตลอดชีวิต

 

 

กู้ซูหลิงกลับขึ้นรถด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ

 

 

เธอเอาโทรศัพท์ออกมากดโทรออก แล้วกำเอาไว้แน่น พยายามทำเสียงสบายๆ “วันนี้หนูเจอพี่หันด้วยค่ะพ่อ”

 

 

เว้นจังหวะเล็กน้อย แล้วพูดอย่างฉลาดเฉียบแหลม “ไม่เหมือนใครจริงๆ ค่ะ เห็นเขาพาผู้หญิงออกมากินข้าวด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นแฟนของเขา ก็ดูรักกันดี…”

 

 

ไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไร แต่หนึ่งนาทีหลังจากคุยจบ สีหน้าของกู้ซูหลิงก็ค่อยๆ ดีขึ้น

 

 

เธอเอาโทรศัพท์มาเคาะที่ปลายคาง พลางยกยิ้มบาง

 

 

เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าห่างออกไปไม่ไกลชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำลังเปิดประตูรถให้หญิงสาวที่อยู่ข้างกาย

 

 

และขณะที่หญิงสาวกำลังเข้าไปนั่งในรถ เขาก็ยังเอามือรองไว้ทางด้านบนอย่างที่กลัวว่าศีรษะของเธอจะไปกระแทกเข้า

 

 

กู้ซูหลิงเบิกตาโตขึ้นมาทันที

 

 

ชั่วขณะหนึ่งที่เธอคิดว่าตัวเองตาฝาด ทว่ากลับเห็นชัดเจนว่าพวกเขาขึ้นรถไปด้วยกัน เห็นรถคันนั้นแล่นราวกับสายน้ำหายไปท่ามกลางยามค่ำคืน

 

 

ฟางจือหันกับผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่

 

 

ทั้งๆ ที่ผู้ชายที่เย็นชาขนาดนั้น ทว่ากลับอ่อนโยนและสนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นมาก

 

 

หรือว่าจะเป็นแฟนสาวของเขาจริงๆ?

 

 

กู้ซูหลิงกำโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น ทั้งบนใบหน้าและแววตาต่างก็ฉายชัดถึงความอิจฉาริษยา ในใจมีแต่ความทุกข์

 

 

เธอไม่ดีตรงไหน ทำไมฟางจือหันถึงไม่เคยมีเธออยู่ในสายตา

 

 

ฟางจือหันไปเยี่ยมพ่อของเธอที่บ้านทุกปีมาตลอดหลายปี แต่ทุกครั้งที่เจอเธอก็จะต้องถามว่าเธอเป็นใคร

 

 

หน้าตาของเธอไม่เป็นที่น่าจดจำขนาดนั้นเลยเหรอ?

 

 

ไม่!!

 

 

เธอจะต้องทำให้ฟางจือหันจำเธอให้ได้ เธอคือกู้ซูหลิง ผู้หญิงที่หลงรักเขามาหลายปี และเป็นผู้หญิงที่สุดท้ายแล้วจะได้แต่งงานกับเขา!!

 

 

 

 

ระหว่างทางกลับบ้านทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ อวี๋กานกานกำลังคิดถึงเรื่องของฟางจือหันกับกู้ซูหลิงคนนั้น รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาต้องมีอะไรซับซ้อนกว่าที่เห็นภายนอกอย่างแน่นอน เธอรู้สึกได้ว่าฟางจือหันจำคุณกู้คนนั้นได้ตั้งแต่มองแวบแรก แต่กลับจงใจถามว่าเป็นใคร

 

 

ระหว่างพวกเขามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่?

 

 

หรือว่าเป็นแฟนเก่า?

 

 

อวี๋กานกานเหลือบมองฟางจือหันที่อยู่ข้างกัน แล้วโพล่งถาม “คุณกู้คนนั้นเป็นใครกันคะ คุณจำเธอไม่ได้จริงๆ เหรอ”

 

 

“จำได้ และไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต” คำพูดของฟางจือหันนั้นสื่อความหมายลึกซึ้ง ในขณะที่เจ้าตัวก็ยกยิ้มเยาะ

 

 

อวี๋กานกานชะงักไปเล็กน้อย

 

 

หมายความว่ายังไงที่ว่าไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต เป็นแฟนเก่าจริงๆ ด้วยสินะ ในเมื่อลืมไม่ลง แล้วทำไมต้องเลิกกันด้วย ควรจะรีบกลับไปคืนดีกันดีกว่า

 

 

อวี๋กานกานคิดด้วยความอิจฉา

 

 

ใบหน้าที่นิ่งเรียบเย็นชาของฟางจือหันเงยขึ้นเล็กน้อย มุมปากก็ยกขึ้นอย่างที่มองดูแล้วกึ่งยิ้มกึ่งนิ่ง “เธอจะไม่ถามฉันเลยว่าทำไม”

 

 

อวี๋กานกานพูดเสียงอ้อมแอ้ม “ฉันไม่ชอบถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ถ้าเขาอยากพูดก็คงพูดเอง”

 

 

ฟางจือหันจับมือของเธอไว้ แล้วรั้งตัวเธอเข้าไปในอ้อมกอด นัยน์ตาเจือรอยยิ้ม “หึงเหรอ?”

 

 

อวี๋กานกานดูตกใจยามที่ผลักเขาออกและพูดไปด้วย “ชะ ใช่ที่ไหนล่ะคะ…ปล่อยมือเลย”

 

 

นอกจากฟางจือหันจะไม่ปล่อยมือแล้ว เขายังกดเธอลงบนโซฟา ทำเอาเธอหลุดทานออกมาด้วยความตกใจ

 

 

ชายหนุ่มจากจ้องใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่ราวกับเหยี่ยว มุมปากยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว พูดออกมาอย่างมีความสุข “ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือ”

 

 

อวี๋กานกานหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เธอพยายามพูดรอดไรฟันออกมา “แต่ฉันถือ”

 

 

ฟางจือหันที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอก็เข้าใจทันที “อ่อ เธอถือ…หึงจริงๆ ด้วยสินะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 304 กลัวอะไร

 

 

พรู๊ด!!

 

 

ผู้ชายคนนี้นี่จะพูดดีๆ แบบไม่มีกับดักไม่ได้เลยใช่ไหม?

 

 

อวี๋กานกานไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอถลึงตามองฟางจือหันด้วยความโมโห ขณะที่ในตาของชายหนุ่มก็ยังคงดำสนิทปราศจากความวูบไหว “จะเป็นเพื่อนกันแบบมีความสุขหน่อยไม่ได้เลยเหรอ”

 

 

“ฉันไม่เคยอยากเป็นเพื่อนกับเธอ” เป็นเพื่อนอะไรกัน ใครอยากเป็นเพื่อนด้วย

 

 

“งั้นคุณอยากเป็นอะไร?” อวี๋กานกานถาม

 

 

“สามีภรรยา” ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอมีเพียงความสัมพันธ์แบบนี้เท่านั้น ไม่มีตัวเลือกที่สอง

 

 

ฟางจือหันพูดเสียงเข้ม เผลอแป๊บเดียวก็คร่อมอวี๋กานกานเอาไว้ทั้งตัว

 

 

อวี๋กานกานหลุดอุทานออกมาด้วยความตกใจ

 

 

ดวงตาคู่สวยของเธอเบิกโตด้วยความตกใจ ใจเต้นแรงอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ยามที่พูดเสียงดังออกไป “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

 

 

ฟางจือหันขยับห่างออกไปเล็กน้อย มองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

 

 

อวี๋กานกานยังคงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าในตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้อารมณ์ดีสักเท่าไหร่

 

 

ใบหน้าเล็กของเธอแดงระเรื่อราวกับหยดเลือด “ถ้าคุณยังเอาเปรียบฉันอีก ระวังไว้เถอะว่าต่อไปฉันจะไม่เกรงใจแล้ว”

 

 

หญิงสาวงดงามราวกับดอกไม้ ทั้งแก้มและใบหูต่างก็แดงก่ำ ทั้งท่าทางที่ดูมีเสน่ห์และแกล้งทำเป็นดุร้าย นอกจากจะไม่ทำให้คนมองไม่พอใจแล้ว กลับยิ่งทำให้รู้สึกชอบ รู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดูมากยิ่งขึ้น

 

 

จู่ๆ ฟางจือหันก็ขยับเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากที่ใกล้เข้ามาราวกับเป็นแอลกอฮอล์ที่ทำให้มึนเมา

 

 

ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนอวี๋กานกานรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นลม

 

 

ขณะที่กำลังลนลานอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็ยื่นมือออกไปปิดปากฟางจือหันแบบที่ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน!

 

 

ฟางจือหันชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นถึงได้มองเธอด้วยสายตาหยอกล้อ เลิกคิ้วขึ้นราวกับถามว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

 

 

เธอทำอะไร?

 

 

ก็ต้องพยายามปิดปากไม่ให้เขาจูบเธอน่ะสิ

 

 

แต่เธอไม่สามารถพูดออกไปตรงๆ ได้…ขณะที่อวี๋กานกานไม่รู้ว่าควรจะตอบออกไปอย่างไรดี โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

 

 

เสียง “ครืดครืดครืด” ดังขึ้น อวี๋กานกานเหมือนได้เจอฟางเส้นสุดท้ายตอนที่ลอยอยู่ในทะเล มุมปากของเธอยกเป็นรอยยิ้มขึ้นมาทันที เป็นรอยยิ้มที่สว่างไสว ราวกับแหวกออกมาจากเมฆหมอก

 

 

เธอรีบพูด “โทรศัพท์ มีคนโทรมา…คุณรีบลุกขึ้นไปเลย ฉันจะรับสาย”

 

 

ระหว่างที่พูดเธอก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาด้วย

 

 

แต่มือข้างนั้นกลับถูกฟางจือหันจับเอาไว้

 

 

ฟางจือหันไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาของเขาเข้มขึ้น ราวกับก้นมหาสมุทรที่ลึกไร้จุดสิ้นสุด ราวกับคลื่นยักษ์ที่ม้วนเข้าฝั่ง ชัดเจนว่าไม่ชอบให้มีใครมารบกวนพวกเขา

 

 

อวี๋กานกานที่ทำอะไรไม่ถูกกลับรู้สึกว่าโทรศัพท์สายนี้ช่วยชีวิตเธอ รีบผละมารับสายทันที

 

 

มองท่าทางของเธอแล้ว ฟางจือหันก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “กลัวอะไร ฉันไม่กินเธอหรอกน่า”

 

 

อวี๋กานกานมองเขาแบบไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “…คุณแค่จะทำให้ฉันตกใจ?”

 

 

เมื่อครู่เขาไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่จงใจทำให้เธอตกใจเท่านั้น แต่สิ่งที่เธอรู้สึก…เขาทำให้เธอรู้สึกว่าเขาจะกินเธอจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้เธอกลัวแล้วก็วนกระวายแบบนี้

 

 

แต่…แค่จะทำให้เธอตกใจจริงๆ น่ะเหรอ?

 

 

มันไม่เหมือนจะเป็นแบบนั้นเลย!!!