เพื่อให้ประโยชน์ของยาทํางานได้อย่างสมบูรณ์แบบ นางจึงไม่ได้ใช้ยาสลบกับท่านอาเล็ก  ทว่าในระหว่างขั้นตอนการฉีดยา ท่านอาไม่แม้แต่จะกะพริบตา

มู่เฉียนซีรีบใส่ยาแก้พิษเข้าไปในชุดยาอื่น ฉีดยาเข้าไปในดวงตาซ้ายของมู่อวู่ซวง

มู่อวู่ซวงหลับตา มือกําหมัดแน่น ยาแก้พิษนั่นกําลังจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว เส้นเลือดบนหลังมืออันขาวผ่องเต้นรัว

“ท่านอา!”

มู่เฉียนซีคว้ามือคู่นั้นของมู่อวู่ซวง กระซิบเสียงเบา “ท่านอา… อีกประเดี๋ยวท่านก็จะหายดีแล้ว คนต่ำช้าเหล่านั้นที่ทำให้ท่านต้องประสบความเจ็บปวดเช่นนี้ ข้าจะเอาคืนพวกมันพันเท่าหมื่นเท่าอย่างแน่นอน”

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แม้ว่ามู่อวู่ซวงจะไม่อยากทําให้มู่เฉียนซีหลานรักต้องตกใจกลัว แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาเสียงดังก้อง ความเจ็บปวดรวดร้าวนี้ยากจะต้านทาน

“อ๊ากกกก!” เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากเรือนอวู่โยวของตระกูลมู่

ใบหน้างามตามอายุเหมือนดั่งหยกของมู่อวู่ซวงนั้น มีเส้นเลือดสีดํานูนออกมา มันขยายใหญ่และบวมขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ามันพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ  แต่ไม่นาน… สีของเส้นเลือดดําก็ค่อย ๆ จางหายไปกลายเป็นสีปกติ แล้วทุกอย่างก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติดังเดิม

ความเจ็บปวดนี้ กินเวลาไปถึงหนึ่งก้านธูป

มู่เฉียนซีรู้ว่าความเจ็บปวดเช่นนี้ หากเป็นคนปกติคงทนได้เพียงสามเฟินก็กัดลิ้นตัวเองแล้ว แต่ท่านอาของนางแข็งแกร่งพอที่จะอดทนได้

มู่เฉียนซีปล่อยมือของมู่อวู่ซวงเบา ๆ  กล่าวว่า “ท่านอาเล็ก ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นนะเจ้าคะ”

ขนตาของมู่อวู่ซวงที่เป็นแพหนาราวกับพัดขนนกยูงกะพริบเล็กน้อย ดวงตาที่ปิดสนิทของเขาค่อย ๆ ลืมขึ้น

ดวงตาคู่นั้นก็ได้ลืมขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้น พลังอันน่าหวาดกลัวพลันปรากฏออกมา

ดวงจันทร์บนฟ้าถูกบดบังด้วยเมฆครึ้ม ทั่วทั้งเมืองจื่อตูถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังที่น่ากลัว

มู่เฉียนซีตกตะลึง แม้แต่องครักษ์ของมู่อวู่ซวงเองก็ตกใจ

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

ในตอนนั้นเอง เงาร่างสีดําปรากฏขึ้นมา กล่าวอย่างเย็นชาว่า “พามู่อวู่ซวงออกไปจากจวนสกุลมู่ ตามข้ามา!”

มู่เฉียนซีทำอะไรไม่ถูก  ไม่เข้าใจสถานการณ์นี้ นางรีบกล่าว “ฟังเขา ไปกันเถอะ!”

เดิมทีคิดว่าแค่รักษาดวงของท่านอาให้หายเท่านั้น แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ มันเกิดเรื่องประหลาดอะไรขึ้นกันแน่ ?  เมื่อตรวจพบพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของท่านอา จะต้องเกิดเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน

เวลานี้ไร้ทางเลือก จำเป็นต้องออกจากจวนสกุลมู่ก่อน หลังจากนั้นค่อยหาสาเหตุ

“ขอรับนายน้อย”

พวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดไปยังป่ารกร้างนอกเมืองจื่อตู

ทันใดนั้น พลังหยินอันเย็นยะเยือกก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั่วทั้งเมืองหลวงจื่อเยี่ยตกอยู่ในความเงียบงัน ราวกับติดอยู่ในต่างมิติก็มิปาน  ลมหนาวพัดกระโชกพาให้ต้นไม้สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง ลมหยินกระโชกราวกับภูตผีหมื่นตัวกําลังจะออกจากแดนภูตผีและมุ่งเข้าทําลายดิน

มู่เฉียนซีไม่เคยคิดมาก่อนว่าการรักษาดวงตาของท่านอา จะสามารถเกิดปรากฏการณ์แปลก ๆ เช่นนี้ได้

นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว!

แม้แต่อาถิงที่ช่วงนี้โกรธเคืองอยู่ตลอดเวลาก็มีสติขึ้นมา อาถิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น ? เกิดเรื่องใหญ่แล้ว  ช่างเป็นแรงอาฆาตที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้”

มู่เฉียนซี “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พลังนี้กระจายออกมาจากร่างกายท่านอาเล็กของข้า”

“ท่านอาของเจ้าไม่ใช่มนุษย์แน่นอน” อาถิงกล่าว สีหน้าเขาจริงจัง

มุมปากมู่เฉียนซีกระตุก “เจ้าต่างหากไม่ใช่มนุษย์”

เจ้าหมอนี่ บอกว่าท่านอาของนางไม่ใช่มนุษย์ เช่นนั้นไม่ใช่ว่านางก็ไม่ใช่มนุษย์ด้วยแล้วหรือ ? ท่านอาเป็นอาแท้ ๆ ของนางเชียวนะ

“ข้าไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้ สิ่งเดียวที่ข้าต้องทําในตอนนี้คือใช้ค่ายกลเพื่อปกป้องสถานที่นี้ ไม่ให้ใครเข้ามากรายใกล้ ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาคงไม่อาจจินตนาการได้” อาถิงกล่าวเสียงเข้ม

เขารีบพูดกับมู่เฉียนซีว่า “เร็วเข้า! รีบเอาผลึกวิญญาณที่แมวนั่นกลืนกินเหลือไว้ออกมา”

แม้ว่าโดยปกติ ส่วนใหญ่อาถิงจะไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก แต่ในเวลานี้นางก็ต้องเชื่อใจเขาอยู่ดี

มู่เฉียนซีเริ่มสร้างค่ายกลตามสิ่งที่อาถิงรู้  เมื่อค่ายกลก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ สถานที่ทั้งหมดของพวกเขาล้วนถูกซ่อนอยู่ในหมอกสีขาว  หากไม่ใช่เพราะตอนนี้พลังงานอันน่าหวาดกลัวบนท้องนภากําลังก่อตัวเป็นกระแสน้ำวน เกรงว่าทุกคนคงคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่

ทันใดนั้นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็เกิดขึ้นในเมืองจื่อตู ดึงดูดความสนใจเหล่ายอดฝีมือของทั้งเมือง  แม้แต่ฮ่องเต้ซวนหยวนจือแห่งแคว้นจื่อเยี่ยก็ยังรีบวิ่งไปยังป่ารกนอกเมือง

มู่อวู่ซวงตกอยู่ในอาการสาหัส มู่เฉียนซีลอบมองจิ่วเยี่ยที่เงียบงันมาโดยตลอด  นางกล่าวถามขึ้น “จิ่วเยี่ย เกิดอะไรขึ้นกับท่านอาของข้ากันแน่ ? เจ้ารู้หรือไม่ ?”

จิ่วเยี่ยตอบกลับนางเพียงสามคำ น้ำเสียงเขายังคงเยียบเย็น “ไม่เป็นไร”

ร่างมู่อวู่ซวงที่ถูกวางอยู่บนพื้นหญ้า ตอนนี้เส้นผมสามพันเส้นยาวเปลี่ยนเป็นสีเงิน

ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับลึกและค่อย ๆ ลืมตา

มู่เฉียนซีตกตะลึงกับการที่ดวงตาของท่านอาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเงิน ดวงตาสีม่วงเงินคู่นี้ฉายแววเย็นชา ดูไม่สนใจผู้ใด

ทว่าต่อมา ดวงตาสีฟ้าน่าหวาดกลัวของจิ่วเยี่ยเปลี่ยนไปฉายแววลึกซึ้งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เขาเฝ้ามองมู่เฉียนซี

ในเวลาที่มู่อวู่ซวงลืมตาขึ้นมา พลังประหลาดนั่นก็สลายหายไปในที่สุด  ดวงตาข้างหนึ่งของมู่อวู่ซวงกลับคืนเป็นสีดํา แต่อีกข้างยังคงเป็นสีม่วงเงินดูน่ากลัว

จิ่วเยี่ยกระซิบเสียงแผ่ว “ผนึกยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์”

มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผนึก!  ผนึกอะไร ?”

“ซีเอ๋อร์…”

ทันใดนั้นเสียงอ่อนโยนดังขึ้น มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงสายตาอันอบอุ่นคุ้นเคยที่จ้องมองมาที่นาง

“ท่านอา ท่านอาเล็กไม่เป็นไรใช่ไหม ?” มู่เฉียนซีเดินเข้าไปตรวจสอบดวงตาของผู้เป็นอาอย่างห่วงใย

พิษถูกกําจัดออกไปแล้ว ดวงตาของท่านอานอกจากสีที่ถูกต้อง ทุกอย่างดูดีมาก ไม่หม่นมัวเหมือนแต่ก่อน กลับเต็มไปด้วยความสดใสแฝงประกายอ่อนโยน

มู่อวู่ซวงกล่าวเสียงแผ่วเบา “ซีเอ๋อร์ ข้าไม่เป็นไรแล้ว ทําให้ซีเอ๋อร์กังวลเช่นนี้ ข้าแม้จะเป็นอาก็ต้องขออภัย  แต่เจ้ามีสติดีมากไม่ตระหนกเกินไป ซีเอ๋อร์ของพวกเราเติบโตขึ้นแล้ว”

ดวงตาที่อ่อนโยนนั้น แสดงให้เห็นถึงภาพใบหน้าที่อ่อนโยนของนาง “ซีเอ๋อร์ยอดเยี่ยมมาก พี่ใหญ่จะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน”

มู่เฉียนซีขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ท่านอา มันไร้ประโยชน์ที่จะเปลี่ยนเรื่อง  สรุปเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้นรึ ?”

ดวงตาของมู่อวู่ซวงฉายแววจนใจ เขากล่าวอธิบาย “ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง ดวงตาของข้าถูกท่านปู่ของเจ้าผนึกไว้ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าพิษลับนั้นจะทําลายผนึกของข้า จากนั้นซีเอ๋อร์ก็รักษาดวงตาของข้าและผนึกที่ตามมาก็แตกออกแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะ”

มู่เฉียนซี “ท่านอา โปรดอย่าปกปิดข้าเลย”

หากไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จะทําให้ฟ้าดินเกิดเรื่องประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ท่านอาคิดว่านางเป็นเด็กน้อยแล้ว

“ซีเอ๋อร์… ข้าสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง เจ้าพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาดวงตาของข้า เรื่องอื่นข้าสามารถจัดการเองได้” มู่อวู่ซวงกล่าวเบา ๆ เขาไม่ต้องการให้ซีเอ๋อร์หลานรักตกอยู่ในอันตราย

ในตอนนั้นเอง เสียงของอาถิงก็ดังขึ้น

“หญิงโง่! เลิกเซ้าซี๊อาของเจ้าได้แล้ว ตอนนี้เจ้าอ่อนแอเกินไป เรื่องบางเรื่องเจ้าอย่าได้เข้าไปยุ่งวุ่นวาย  ถึงเวลาข้าไม่อยากจะฝังศพเจ้า”

จากนั้นอาถิงก็บ่นต่อไปอีกยืดยาว เจ้าของพันธสัญญาของเขาชอบทำให้ผู้อื่นไม่สบายใจเสียจริง! คนรอบตัวพากันลำบากไปหมด

.