บทที่ 138 ฆ่าล้างตระกูลลั่ว

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

“วางใจเถอะ ฆ่าสุนัขแก่ตัวนี้ ฉันจะไม่ทำให้มือตัวเองสกปรก!” กิ่งไม้เล็กๆ ในมือขวาของเย่เทียนเฉินค้ำอยู่ที่หลอดลมของลั่วซงเฉิง ขอเพียงเขาออกแรงที่มือขวา ก็จะแทงทะลุไปอย่างง่ายดาย

ชางหลางสูดหายใจเย็นยะเยือก แผ่นหลังมีเหงื่อเย็นซึมออกมา ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามราชันนักรบแห่งประเทศจีน  ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ชางหลางเห็นโลกมามากมาย มีเหตุการณ์น้อยมากที่จะทำให้เขาสั่นสะท้านแบบนี้ เย่เทียนเฉินคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ ฆ่าคนตระกูลลั่วเหมือนกับฆ่าหมูฆ่าหมา ไม่สนใจอำนาจใดๆ ของตระกูลลั่วเลยแม้แต่น้อย

กูตู๋อ๋างเอ็งก็ถูกภาพตรงหน้าทำให้ตกใจ บริเวณใจกลางกลางของบ้านตระกูลลั่วมีทหารหลายสิบคนนอนร้องโอดโอยอย่างอนาถ บนพื้นยังมีปืนตกกระจายไปทั่ว เพียงแต่น่าเสียดายที่กระสุนปืนในปืนเหล่านี้ถูกยิงออกไปหมดแล้ว ศพของลั่วฉีและลั่วกวงฮุยก็อยู่ทางด้านหนึ่ง ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับ ดูเหมือนจะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า บนโลกใบนี้จะยังมีคนกล้าฆ่าพวกเขา ทั้งยังฆ่าอย่างง่ายดายเหมือนกับเหยียบมดให้ตายตัวหนึ่ง

“เย่เทียนเฉิน หยุดมือ นายต้องรู้ตัวว่านายกำลังทำอะไรอยู่!” ชางหลางมองเย่เทียนเฉิน พูดอย่างเคร่งเครียด

“เห้อ ฉันบอกแล้วว่าอย่าเข้ามา นายก็ไม่ฟัง ตอนนี้ถ้านายมองฉันฆ่า ลั่วซงเฉิงไปต่อหน้า เรื่องนี้นายก็คงจะหนีความผิดไม่พ้น ฉันเย่เทียนเฉิน ตลอดมาก็ทำคนเดียวรับคนเดียว ไม่อยากให้เกี่ยวพันไปถึงคนอื่น!” เย่เทียนเฉินมองชางหลาง ส่ายหัวพลางกล่าว

“ปล่อยลั่วซงเฉิงซะ อย่าทำให้กลายเป็นความผิดใหญ่!” ชางหลางพูดเตือนเย่เทียนเฉิน

“แบบนั้นไม่ได้หรอก ลูกสุนัขสองตัวตัวก็ตายไปแล้ว พ่อสุนัขก็เอาไว้ไม่ได้!”

“นาย นายต้องรู้ว่านี่ไม่เหมือนกัน…” ชางหลางมองเย่เทียนเฉินแล้วพูดอย่างร้อนรน

“ในสายตาของฉันไม่มีอะไรไม่เหมือนกัน ลูกสุนัขพ่อสุนัขฆ่าไปด้วยกันเลย!”

ในตอนนี้ กูตู๋อ๋างที่ยืนอยู่ข้างหนึ่งไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนกระทั่งตอนนี้ สถานการณ์เช่นในปัจจุบันนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี พูดตามเหตุผลแล้ว เขามีฐานะเป็นรองผู้บัญชาการกรมความมั่นคงสาธารณะ เห็นเย่เทียนเฉินลงมือฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม ก็ควรจะลงมือหยุดยั้งถึงจะถูก แต่ตอนนี้ไอสังหารของเย่เทียนเฉินรุนแรงมาก รุนแรงจนกูตู๋อ๋างไม่กล้าลงมือง่ายๆ

“รองผู้บัญชาการกูตู๋ ช่วย ช่วยด้วย…” ลั่วซงเฉิงรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัว รู้สึกได้ถึงไอสังหารบนร่างกายของเย่เทียนเฉิน คนๆ นี้ไม่ได้ล้อเล่น แต่กล้าฆ่าเขาจริงๆ

“ไอ้สุนัขแก่ อย่าเห่าสิ รองผู้บัญชาการกูตู๋ช่วยแกไม่ได้หรอก เขาพังประตูบ้านของฉัน ฉันยังไม่ได้ให้เขาชดใช้เลย ตอนนี้ถ้าเขาออกหน้าช่วยเหลือแก่ แบบนั้นไม่ใช่ว่าล่วงเกินฉันเย่เทียนเฉินรึไง?” เย่เทียนเฉินมองไปยังกูตู๋อ๋างด้วยรอยยิ้มเย็นชาแล้วพูดขึ้น

ท้าทาย เย่เทียนเฉินพูดคำนี้ก็คือกำลังท้าทายกูตู๋อ๋าง ว่ากันตามจริง เย่เทียนเฉินไม่พอใจกูตู๋อ๋างอยู่บ้าง คนคนนี้หยิ่งยโสเกินไป แล้วยังผิดที่ถีบประตูคฤหาสน์ตระกูลเย่ของตนจนพัง จำเป็นต้องให้เขาชดใช้

“แก…เย่เทียนเฉิน ฉันให้โอกาสแกปล่อยนายพลลั่วไป ไม่งั้น…” กูตู๋อ๋าง ถูกประโยคนี้ของเย่เทียนเฉินทำให้โกรธ มองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยสายตาโหดเหี้ยมแล้วพูดขึ้น

“ไม่งั้นจะเป็นยังไง? ฆ่าฉันเหรอ? ฉันว่านายไม่มีความสามารถแบบนั้นหรอก!” เย่เทียนเฉินพูดพลางยิ้มเย็น

“แก ดี แกปล่อยนายพลลั่วไป แล้วแกกับฉันมาสู้กันตัวต่อตัวเป็นไง?”

กูตู๋อ๋างกำหมัดแน่น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนคนอื่นดูถูก ครั้งที่แล้วที่จับเย่เทียนเฉินไม่ได้ ส่วนสำคัญเป็นเพราะการมาถึงของชางหลาง ไม่ใช่เพราะกูตู๋อ๋างกลัวชางหลาง แต่ชางหลางเป็นเหมือนตัวแทนของท่านหยางอี้ เขากูตู๋อ๋างย่อมไม่อาจมีปัญหากับหยางอี้ได้ มิฉะนั้นด้วยความสามารถของตนเอง ก็นับว่ามีมากกว่าเย่เทียนเฉินแล้ว ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาโดยเด็ดขาด

“นี่ไม่เรียกว่าสู้กันตัวต่อตัว ควรจะพูดว่าฉันอัดนาย!” เย่เทียนเฉินพูดยิ้มๆ

“หากแกรนหาที่ตาย ฉันก็จะทำให้แกสมปรารถนา!” กูตู๋อ๋างกัดฟันแน่น ทนไม่ได้ที่จะอัดเย่เทียนเฉินสุดแรงจนลงไปกองกับพื้น

“เอาสิ แต่ว่าก่อนหน้านั้น…”

“อย่า!”

ฉึก!

คำพูดของเย่เทียนเฉินยังไม่ทันจบก็ออกแรงที่มือขวา กิ่งไม้ในมือแทงทะลุไปไหนลำคอของลั่วงซงเฉิง ลั่วซงเฉิงสองตาเบิกกว้าง รู้สึกว่าตนเองหายใจไม่ได้ เลือดสดๆไหลออกมาตามกิ่งไม้ มือทั้งสองของเขากุมอยู่ที่หลอดลมของตน ส่งเสียงออกมาครั้งหนึ่งแล้วล้มลงไปบนพื้น

ชางหลางเห็นเย่เทียนเฉินจะลงมือฆ่าลั่วซงเฉิงจริงๆ ก็คิดจะลงมือห้าม แต่ก็ไม่มีโอกาสเช่นนั้น เย่เทียนเฉินลงมือเร็วเกินไป เขาทำได้เพียงตะโกนคำเดียว น่าเสียดายที่การตะโกนของเขาไม่อาจหยุดยั้งเย่เทียนเฉินไม่ให้ฆ่าสุนัขถ่อยไร้ยางอายเช่นลั่วซงเฉิงได้

“นาย…”

“แก…”

กูตู๋อ๋างและชางหลางเห็นเย่เทียนเฉินลงมือฆ่าลั่วซงเฉิงจริงๆ แม้ในใจจะเตรียมใจไว้แล้วแต่ก็ยังถูกทำให้ตะลึง ลั่วซงเฉิงเป็นนายพล ในกองทัพก็มีตำแหน่งที่สูงมาก เขาถึงกับถูกคนฆ่าไปแล้ว ถูกเย่เทียนเฉินฆ่าไปแล้ว ครั้งนี้ไม่เหมือนกับตอนที่ฉินอี้ตายโดยสิ้นเชิง เรื่องฉินอี้อาจพูดได้ว่าถูกเย่เทียนเฉินทำให้โกรธจนตาย แตกต่างกับการถูกเย่เทียนเฉินฆ่าโดยตรงแน่นอน อย่างน้อยก็นับว่าในทางกฎหมายหากสอบสวนลงมาความผิดของเย่เทียนเฉินก็ไม่รุนแรงขนาดนั้น

ส่วนครั้งนี้ เย่เทียนเฉินฆ่า ลั่วซงเฉิงด้วยมือของตน ตอนนี้ตระกูลลั่วถูกฆ่าล้างไปหมดแล้ว เรื่องตระกูลฉิน เรื่องตระกูลลั่ว เกิดขึ้นติดต่อกัน แล้วยังน่าสั่นสะท้านขึ้นเรื่อยๆ เย่เทียนเฉินทำให้ความหวาดกลัวในจิตใจของทุกคนถูกโจมตีจนพังทลาย สำหรับคนที่ชอบซุบซิบนินทาก็เกรงว่าจะถูกทำให้พังทลายไปแล้ว เป็นสถานการณ์ที่ยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง

“ตอนนี้ก็เงียบแล้ว กูตู๋อ๋าง นายจะชดใช้เรื่องประตูของฉันใช่ไหม? หรือจะให้ฉันอัดนายจนเละเป็นโจ๊ก?” เย่เทียนเฉินมองไปยังกูตู๋อ๋างแล้วพูดอย่างเรียบเฉย

“แก ไอ้หนู…ยังไงแกก็จะต้องตายอย่างแน่นอน งั้นให้ฉันจับแกด้วยมือแล้วกัน!” กูตู๋อ๋างยังคงอยู่ในความตกตะลึง ตั้งแต่ที่เขาได้เป็นรองผู้บัญชาการกรมความมั่นคงสาธารณะแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนบ้าบิ่นอย่างเย่เทียนเฉิน

“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระพวกนั้นกับฉันหรอก ฉันรู้ว่าครั้งที่แล้วนายจับฉันไม่ได้ ก็เลยไม่พอใจ ความจริงนายก็ถีบประตูบ้านของฉันพัง ฉันก็ไม่พอใจเหมือนกัน การต่อสู้ระหว่างพวกเราสองคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มาเถอะ ถ้าฉันแพ้ก็จะไปกระทรวงความมั่นคงสาธารณะกับนาย ถ้านายแพ้ก็ชดใช้ค่าประตูคฤหาสน์ของบ้านฉันมาหนึ่งพันแปดร้อยหยวนก็พอแล้ว!” เย่เทียนเฉินพูดยิ้มๆ มองไปยังกูตู๋อ๋าง

“พวกนายสองคนหยุดนะ!” ชางหลางมองกูตู๋อ๋างและเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น

“หึ ไอ้หนูนี่รนหาที่ตาย ฉันก็จะทำให้มันสมปรารถนา หรือนายกลัวว่าฉันจะฆ่ามัน?” กูตู๋อ๋างแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง มองไปยังชางหลางแล้วพูดขึ้น

ชางหลางไม่สนใจกูตู๋อ๋าง เดินไปเบื้องหน้าเย่เทียนเฉินแล้วพูดว่า “นายบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว ฆ่าล้างตระกูลลั่วจนหมด เมื่อเทียบกับเรื่องตระกูลฉินแล้วยังน่ากลัวกว่า นายยังมีกะจิตกะใจไปประลองกับกูตู๋อ๋างอีกเหรอ? ไปเถอะ ไปหาท่านหยาง”

“สามพ่อลูกตระกูลลั่วนี้ ก็คือสุนัขสามตัว ถ้าปล่อยสุนัข น่ารังเกียจพวกนี้ไว้ คงจะผิดต่อชาวบ้านธรรมดามากยิ่งกว่า ฉันผดุงความยุติธรรมแทนฟ้า ส่วนเรื่องประตูคฤหาสน์ของบ้านฉัน จำเป็นต้องชดใช้มาถึงจะถูก” เย่เทียนเฉินส่ายหัวแล้วพูดยิ้มๆ

“นาย คำพูดนายก็พูดได้ไม่ผิด แต่นายต้องคิดถึงอำนาจของตระกูลลั่วด้วย แล้วยังมีอิทธิพลอีก นายทำให้ฉินอี้โมโหจนตาย บุคคลระดับสูงของประเทศไม่ปล่อยนายไปแน่ ครั้งนี้นายฆ่าลั่วซงเฉิง คนระดับสูงก็จะออกหน้าให้ลั่วซงเฉิง ไอ้หนูอย่างนายอยากตายจริงๆ หรือไง?” ชางหลางโกรธจนทนไม่ไหว พูดออกมาอย่างดุดัน

“เห้อ คุณพี่ชางหลางครับ ดูท่าหลายปีมานี้นายจะเป็นข้าราชการจนไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยสักนิด ฉันเสียใจมาก อย่ามาขวางฉันเลย ฉันจะอัดกูตูอ๋างให้เละเป็นโจ๊ก!”

เย่เทียนเฉินทำท่าทางเสียใจเป็นอย่างมาก ตบไหล่ชางหลาง จากนั้นจึงเดินไปยังกูตู๋อ๋าง ชางหลางเกือบจะถูกทำให้โมโหจนแทบตายอยู่แล้ว เย่เทียนเฉินคนนี้ช่างทำให้เขาอับจนคำพูดจริงๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไรดี ถึงกับกล้าบอกว่าตัวเองที่เป็นยอดฝีมือหนึ่งในสามราชันนักรบแห่งประเทศจีนไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลยเหรอ? ทุกคนจะต้องคิดเหมือนกับไอ้หนูอย่างนาย ทำให้ผู้มีอำนาจของตระกูลชั้นหนึ่งในเมืองหลวงโมโหจนตายทั้งเป็น แล้วบุกเข้าไปฆ่าล้างตระกูลใหญ่อย่างตระกูลลั่ว แบบนี้ถึงจะเรียกว่ามีความเป็นลูกผู้ชายงั้น หรือ? ชางหลางอดไม่ได้พี่จะคิดอยู่ในใจ

ผัวะ!

ครั้งนี้ เย่เทียนเฉินไม่ได้พูดอะไรมาก คำพูดเมื่อครู่พูดไปเยอะแล้ว ตอนนี้ก็ใช้การกระทำที่แท้จริงมาพิสูจน์ ปล่อยหมัดออกไปยังกูตู๋อ๋าง

เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดอันรุนแรงเช่นนี้ของเย่เทียนเฉิน กูตู๋อ๋างอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เพราะเย่เทียนเฉินดูเหมือนจะปล่อยหมัดออกมาง่ายๆ แต่กลับทำให้เขารู้สึกว่าไม่มีทางหลบได้ ราวกับหมัดนี้ของเขา ได้ปิดทางที่เขาคิดจะหนีไปเรียบร้อยแล้ว ช่างเป็นหมัดที่ร้ายกาจมากจริงๆ

ตู้ม!

ในเมื่อหลบไม่ได้ กูตู๋อ๋างก็ทำได้เพียงเข้าปะทะ ปล่อยหมัดออกไปถูกหมัดของเย่เทียนเฉิน เขาถูกกระแทกจนถอยออกมาสามก้าว เย่เทียนเฉินเองก็ถูกกระแทกถอยออกไปสามก้าวเช่นกัน นี่ไม่ได้ทำให้เย่เทียนเฉินตกใจอะไร กูตูอ๋างเป็นคนมีความสามารถ มีความสามารถพอๆ กับชางหลางที่เป็นหนึ่งในสามราชันนักรบแห่งประเทศจีน หากถูกเขาทำให้แพ้ง่ายๆแบบนี้ ก็ผิดต่อฟ้าดินแล้ว

เย่เทียนเฉินและกูตู๋อ๋างต่างก็จ้องมองอีกฝ่าย ไปก็ไม่กล้าลำพองใจ พวกเขารู้สึกได้ถึงความสามารถอันแข็งแกร่งของอีกฝ่าย หากประเมินต่ำไป คนที่แพ้ก็คือตนเอง การต่อสู้นี้ ไม่ว่าใครก็แพ้ไม่ได้จำเป็นต้องลงมือเต็มที่

“อ๊าก!”

ทันใดนั้นกูตู๋อ๋างตะโกนออกมา ในมือขวามีแสงสีทองปรากฏเล็กน้อย ออกหมัดพุ่งไปยังเย่เทียนเฉิน อีกฝ่ายขมวดคิ้ว ไม่กล้าเข้าปะทะอย่างรุนแรง เดินไปข้างหน้าหลายก้าว  หมุนตัวพลิกกลางอากาศหลบหมัดของกูตู๋อ๋าง เเล้วจึงส่งฝ่ามือออกไปยังกูตู๋อ๋างกลางอากาศ ฝ่ามือนี้แฝงไปด้วยพลังพิเศษขอบเขตจอมราชัน

ตู้ม! หมัดของกูตู๋อ๋างอยู่กลางอากาศตกลงบนหินก้อนหนึ่งกลางบ้านตระกูลลั่วจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เห็นได้ว่าหมัดนี้แฝงไปด้วยพลังภายในอันแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสีทอง

เสียงดังสนั่นฟ้า ชางหลางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เห็นเย่เทียนเฉินตบฝ่สมือไปทางกูตู๋อ๋างกลางอากาศ กูตู๋อ๋างยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ปล่อยฝ่ามือปะทะเข้าไปเช่นเดียวกัน ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ก้อนหินบริเวณรอบตัวกูตู๋อ๋างหนึ่งเมตรล้วนแตกเป็นเสี่ยงๆ ขาทั้งสองของเขาจมลงไปลึกสิบเซนติเมตร…

                ……