ตอนที่ 259 ชายหนุ่มมาแล้ว / ตอนที่ 260 ผู้หญิงแบบนั้น เหมาะกับผู้ชายห่วยๆ มากกว่า

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 259 ชายหนุ่มมาแล้ว

 

 

จู่ๆ สีหน้าของสวี่ชิงจือก็เคร่งขรึมลง

 

 

การแสดงความรักได้ระเบิดลงตรงนั้นไปเรียบร้อยแล้ว!

 

 

แต่เมื่อนึกไปถึงภาพเมื่อครู่ สวี่ชิงจือก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเบิกบาน

 

 

“ว่าแต่ วันนี้สบายใจจริงๆ เลยน้า แค่นึกถึงสภาพที่เฉินเชียนโหรวกับหลินเฟยเฟยที่ถูกเล่นงานไปวันนี้ฉันก็ แฮปปี้สุดๆ!”

 

 

เฉินฝานซิงเพียงแค่กระตุกยิ้มเย็นขึ้นมาเรียบๆ ไม่พูดไม่จา

 

 

เพียงไม่นานสวี่ชิงจือก็ได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ว่าแต่วันนี้ที่ทำเอาเฉินเชียนโหรวอับอายขายหน้าขนาดนั้น ฉันว่าต่อไปเธอคงจ้องหาโอกาสหาเรื่องปวดหัวมาให้เธออีกแน่ๆ…”

 

 

เฉินฝานซิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มีครั้งไหนบ้างที่เธอไม่หาเรื่องปวดหัวมาให้ฉัน เพียงแต่ฉันในตอนนี้ มีกำลังพอที่จะหยุดเธอได้ เรื่องก่อนหน้านี้ ควรจะสะสางได้แล้ว”

 

 

ก่อนหน้านี้เธอมัวเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดไปทุ่มเทให้กับสกุลซู แต่สุดท้ายก็ถูกใครบ้างคนตัดหน้าไปเป็นฮองเฮาเสียก่อน

 

 

ซูเหิง เฉินเชียนโหรว สกุลเฉิน…

 

 

ให้แม่ของเธอทนอยู่กับคำว่าขมขื่นและทุ่มเท แต่ในขณะพวกเขากลับมีแต่คำว่าความสุขและความละโมบ

 

 

ไม่มีทาง

 

 

“ดูเหมือนว่าหลังจากเลิกกับซูเหิงแล้วจะเป็นเรื่องโชคดีสำหรับเธอนะ ฉันจะได้ไม่ต้องเห็นผู้หญิงที่วนเวียนอยู่กับสกุลซูคนนั้นอีกแล้ว ดูสิ ตอนนี้เราได้ทำงานด้วยกัน ช้อปปิ้งด้วยกัน แล้วก็อีกอย่าง…”

 

 

สวี่ชิงจือไม่ทันได้พูดต่อก็เหลือบไปเห็นเข้ากับชายคนหนึ่งในชุดเสื้อสูทรองเท้าหนังที่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้

 

 

“คุณหนูเฉิน คุณหนูสวี่”

 

 

อวี๋ซงเอ่ยทักทายคนทั้งคู่

 

 

เฉินฝานซิงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย “ผู้ช่วยอวี๋ คุณมาได้ยังไง”

 

 

อวี๋ซงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “คุณผู้ชายมารับคุณครับ”

 

 

เฉินฝานซิงเบี่ยงตัวไปเล็กน้อยก็เจอเข้ากับรถเปิดประทุนคันสีดำที่แสนคุ้นเคยจอดอยู่ไม่ไกลนัก ดูเหมือนชายหนุ่มในรถจะมองเห็นเธอ ประตูรถจึงถูกเปิดขึ้นในตอนนั้น ร่างสูงสง่าได้ก้าวลงมาจากรถคันหรูและสุขุมคันนั้น

 

 

ชุดสูทแบรนด์ดังทั้งตัว ถูกรีดจนเรียบไปทุกกระเบียดนิ้ว

 

 

รูปหน้าคมเข้มดูเรียบเฉย เขาเพียงหยุดยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับรัศมีข่มผู้คน

 

 

สูงศักดิ์และสง่างาม ทว่ากลับทำเอาคนที่เห็นต้องถอยห่าง

 

 

ผู้คนที่เข้าๆ ออกๆ ในห้างแห่งนั้นพากันหยุดมองเขา แต่แค่เพียงแวบเดียวคนพวกนั้นก็ไม่กล้าที่จะมองต่อ

 

 

ผู้ชายแบบนั้น ต่อให้มองนานกว่านี้ ยังรู้สึกฟุ่มเฟือย

 

 

สวี่ชิงจือส่ายหน้า ผู้ชายคนนี้นี่สุดยอดจริงๆ

 

 

แต่ก็มาเร็วเกิน

 

 

ห้างแห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมือง แม้จะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้อาศัยอยู่ที่ไหน แต่ว่าแถวนี้ล้วนแล้วแต่เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ไม่ได้รับการพัฒนามาแล้วเป็นสิบกว่าปี แค่คิดว่าเขาคือผู้บริหารสูงสุดของสมาคมสกุลป๋อที่สง่างามและน่าเกรงขาม และเมื่อดูจากค่าตัวของเขาแล้ว เขาก็ไม่น่าจะมาอยู่แถวนี้

 

 

ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที หากมาจากใจกลางเมืองล่ะก็ สงสัยว่าเขาคงจะบินมาล่ะมั้ง

 

 

เฉินฝานซิงเดินไปยังชายหนุ่ม

 

 

“คุณมาได้ไง”

 

 

ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองใบหน้ารูปไข่ที่งดงามอ่อนหวาน ช่างแตกต่างจากหญิงสาวที่เย็นชาและแข็งกระด้างในวีดีโอนั้นอย่างสิ้นเชิง

 

 

เขายกมือขึ้นวางฝ่ามือหน้าและอบอุ่นลงบนผมของเธอ “เจ็บตรงไหนรึเปล่า”

 

 

เฉินฝานซิงชะงักไปเล็กน้อย ความอบอุ่นปรากฏขึ้นใบหน้านั้นอีกครั้ง

 

 

“เปล่าค่ะ ฉันจะได้รับบาดเจ็บได้ยังไง”

 

 

ป๋อจิ่งชวนกระตุกมุมปากขึ้น “ในเวลาแบบนี้คุณควรจะโผมากอดผมพร้อมน้ำตาแล้วฟ้องผมว่าวันนี้คุณถูกรังแกมาอยากหนัก ไม่ก็ต้องคิดว่าจะอ้อนผมยังไง”

 

 

“ทำไมล่ะ” เฉินฝานซิงเอ่ยถามขึ้นอย่าสงสัย

 

 

“แบบนั้นผมจะได้จัดการพวกที่รังแกคุณให้ไง”

 

 

สวี่ชิงจือและอวี๋ซงที่อยู่อีกด้านหนึ่งสบตากันอย่างงุนงง

 

 

 

 

ตอนที่ 260 ผู้หญิงแบบนั้น เหมาะกับผู้ชายห่วยๆ มากกว่า

 

 

สวี่ชิงจือและอวี๋ซงที่อยู่อีกด้านหนึ่งได้สบตากันอย่างงุนงง

 

 

คนหนึ่งทำตัวไม่ถูก อีกคนหนึ่งก็แทบอยากจะจกสายตาใครบางคน

 

 

แต่เฉินฝานซิงกลับเลิกคิ้วขึ้น “คุณชอบแบบนั้นมากกว่าเหรอ ฉันว่าเรื่องพวกนี้เฉินเชียนโหรวน่าจะถนัด…”

 

 

“ผู้หญิงแบบนั้น เหมาะกับผู้ชายห่วยๆ มากกว่า”

 

 

สวี่ชิงจือและอวี๋ซงสบตากันอีกครั้ง พร้อมทั้งพยักหน้าให้กัน

 

 

ท่านประธานป๋อ (คุณผู้ชาย) พูดถูก

 

 

เขาว่าพลางยื่นมือโอบรอบเอวของเฉินฝานซิงเอาไว้แล้วลากเธอเข้ามาในอ้อมกอด

 

 

เสียงแหบทุ้มอันอบอุ่นดังขึ้นอย่างราบเรียบอีกครั้ง “อย่าเอาเธอมาเปรียบเทียบตัวเองบ่อยนัก มันเป็นการดูถูกตัวเอง แล้วก็ดูถูกผมด้วย”

 

 

“…”

 

 

“…”

 

 

พวกเขาต่างก็เข้าใจในสิ่งที่ป๋อจิ่งชวนพยายามจะสื่อ

 

 

ผู้ชายห่วยๆ คนหนึ่งกับผู้หญิงไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง

 

 

ของคนละอย่างกัน นำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้

 

 

ว่าแต่นี่…

 

 

สวี่ชิงจือหันมองซูเหิงวูบหนึ่ง ก่อนจะส่งข้อความผ่านทางสายตาไปให้เขา นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่แต่งตัวดีมีชาติตระกูลอย่างคุณผู้ชายของคุณ จะเป็นผู้ชายที่ปากร้ายได้ขนาดนี้!

 

 

อวี๋ซงยังคงทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อยพอเป็นมารยาท เขาเองก็ใกล้จะชินแล้ว…

 

 

คำแซวของป๋อจิ่งชวนทำเอาเธอหลุดขำออกมาเบาๆ

 

 

“ไม่พูดคุณก็ช่วยอยู่แล้ว บัตรของคุณ ทนายที่คุณเตรียมไว้ให้ ประธานฉี แล้วก็สามีของผู้จัดการร้านนั่นและ ‘แฟนสาว’ ของเขา ทั้งหมดนี่เป็นคุณูปการจากคุณทั้งนั้น”

 

 

ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองเธออย่างราบเรียบ “ถ้าเป็นแบบนั้น คุณคิดไว้หรือยังว่าจะให้รางวัลอะไรผม”

 

 

“ทำมื้อเย็นให้คุณ”

 

 

“มื้อเย็นเป็นค่าชดเชยที่คุณตกลงไว้กับผมเมื่อเช้า ตอนนี้คือรางวัล อย่าเหมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน…”

 

 

“แบบนี้นี่เอง…”

 

 

ดูเหมือนเฉินฝานซิงจะเข้าใจในสิ่งที่ป๋อจิ่งชวนพูดแล้ว เธอจึงพยายามคิดหาคำตอบ

 

 

“พวกเธอสองคนน่ะพอได้แล้ว! แน่จริงก็ไปยั่วพวกสาวๆ ข้างในที่กำลังพลอดรักกันอยู่นู่นสิ ทำไมต้องมายั่วพวก…เราด้วย!”

 

 

แค่คำว่า ‘พวกเรา’ แค่คำเดียวก็ทำเอาอวี๋ซงไปไม่ถูกจนต้องเม้มปาก

 

 

เฉินฝานซิงเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกันเธออยากจะผละออกจากป๋อจิ่งชวนแต่ก็ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไป เขาเพียงแค่เคลื่อนสายตาไปมองสวี่ชิงจือแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปเปิดประตูรถ แล้วรั้งเฉินฝานซิงให้เคลื่อนไปหยุดอยู่หน้าประตู

 

 

“ขึ้นรถ”

 

 

“แต่ว่าชิงจือ…”

 

 

“ให้เธอกลับเอง”

 

 

สวี่ชิงจือ “…”

 

 

นี่มันไร้หัวใจสุดๆ

 

 

สำนวนที่ว่าข้ามแม่น้ำเสร็จก็รื้อสะพานนี่สร้างมาเพื่อคุณถูกไหม!

 

 

เฉินฝานซิงปล่อยสวี่ชิงจือไว้แบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว เธอหมุนตัวอยู่ในอ้อมกอดของป๋อจิ่งชวนหันไปมองยังสวี่ชิงจือ

 

 

แต่สายตาของเธอกลับชะงักไปกลางคัน ก่อนจะมองไปยังสวี่ชิงจือราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

 

“ชิงจือ ตอนเย็นมาหาฉันนะ ฉันจะลงมือเข้าครัวด้วยตัวเอง…”

 

 

ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขามองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ เขาละความสนใจจากเธอก่อนจะวางสายตาไปยังสวี่ชิงจือ

 

 

ทั้งๆ ที่มันเป็นแค่สายตาเย็นชาคู่หนึ่ง แต่ทว่าสวี่ชิงจือก็เข้าใจถึงคำเตือนในแววตานั้นได้ทันที

 

 

“…ไม่ต้องหรอก เธออย่าเพิ่งยั่วฉันก่อน สองวันนี้ฉันต้องไดเอทลดอาหารเพื่อไปงานเลี้ยงที่วิทยาลัย ขืนกินเข้าไปอีก! เดี๋ยววันนั้นก็มีคนมาหัวเราะเยาะที่ฉันอ้วนฉันคงอายเขาแย่เลย พวกเธอไปเถอะ ถึงยังไงฉันก็ขับรถมา”

 

 

เฉินฝานซิงจนปัญญา

 

 

“โอเค งั้นเธอก็ระวังๆ นะ”

 

 

ในตอนนั้น อวี๋ซงก็เปิดประตูรถอีกฝั่งหนึ่งออก แล้วยืนรอป๋อจิ่งชวนมาขึ้นรถอยู่ข้างๆ

 

 

 

 

ทว่าไมบัคคันหนึ่งมาจอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลกันนัก

 

 

เมื่อได้ข่าวว่าเฉินเชียนโหรวบังเอิญเจอเฉินฝานซิงแล้วถูกเธอรังแกเข้า ซูเหิงก็รีบมาที่นี่ด้วยความร้อนใจ